Skip to main content


(as "Crisis Core: Final Fantasy 7")

Crisis Core: Final Fantasy VII

ไครซิสคอร์: ไฟนอลแฟนตาซี VII

Platform:    

Crisis Core: Final Fantasy 7 [By ffplanet.exteen.com]




สารบัญ

  • บทที่ 1 เปิดฉากตำนานวีรบุรุษ
  • บทที่ 2 บทสิ้นสุดสงครามวูไถ
  • บทที่ 3 แอปเปิ้ลงี่เง่า
  • บทที่ 4 การพบพานของสหายรัก
  • บทที่ 5 ไปเดทกันซักครั้งเป็นไง
  • บทที่ 6 ความฝันและความภาคภูมิ
  • บทที่ 7 ผู้ที่ถูกลืม
  • บทที่ 8 คำล่ำลาในวันวาน
  • บทที่ 9 อุบัติการณ์นีเบิลเฮม
  • บทที่ 10 สิ่งที่ได้รับและสิ่งที่สูญไป
  • บทที่ 11 บทอวสารตำนานวีรบุรุษ

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทที่ 1 เปิดฉากตำนานวีรบุรุษ

ผู้ควบคุมมิสชั่น : กองกำลังของวูไถได้เข้ายึดขบวนรถไฟชินระมุกะที่ 93 แบบที่ 02 ขบวนกำลังมุ่งหน้าไปเขต 8 ของเมืองมิดการ์
ผู้ควบคุมมิสชั่น : โซลเยอร์จะถูกส่งตัวเพื่อเข้าไปควบคุมสถานการณ์ ในขณะที่ศัตรูไม่ยังไม่มีการเคลื่อนทัพ
ผู้ควบคุมมิสชั่น : เริ่มนับถอยหลัง 3..2..1..ไป!
ผู้ควบคุมมิสชั่น : มิสชั่นสตาร์ท!!

แองจีล : รถไฟได้ถูกพวกกองกำลังจากวูไถยึดครอง
แองจีล : ภารกิจของนายคือการปราบพวกมันทั้งหมดและยึดรถไฟคืนมา
แซ็ค : รับทราบบ~ (น้ำเสียงและหน้าตายียวนสุดฤทธิ์)
แองจีล : ตั้งใจด้วย!!

ว่าแล้วแซ็คก็กระโดดจากเฮลิคอปเจอร์ที่มาส่ง ลงไปเกาะอยู่บนหลังคารถไฟเป้าหมายที่กำลังแล่นด้วยความเร็วสูง ในไม่ช้าแองจีลก็กระโดดตามแซ็คลงมา

แองจีล : แซ็ค! ตั้งใจนะ!!

แองจีล : ที่อยู่บนรถไฟนั่นไม่ใช่กองกำลังของชินระนะ เข้าใจมั้ย?

แซ็คพยักหน้ารับก่อนที่จะรีบวิ่งออกตัวไปตามหลังคารถไฟ ขณะที่กำลังไต่หลังคาอย่างสนุกสนานนั้นเอง เหล่ากองกำลังจากวูไถ (ที่ดันใส่ชุดทหารชินระ) ก็ระดมยิงปืนกลใส่แซ็คอย่างต่อเนื่อง แซ็คเองก็สามารถหลบกระสุนมาได้อย่างหวุดหวิด

แซ็ค : โว้ว~ เกือบโดนมือฉันแล้วนะเนี่ย...

แซ็ครีบวิ่งไต่ไปตามหลังคาของขบวนรถไฟ เมื่อเขาเข้าใกล้เหล่ากองกำลังจากวูไถ เขาก็รีบชักดาบขึ้นมา

แซ็ค : ว่างายยย~

แซ็คใช้ดาบของเขาฟันปัดกระสุนที่ถูกยิงออกมาได้ทั้งหมด และเข้าไปจัดการกับเหล่าศัตรูกลุ่มหนึ่งได้อย่างไม่ยากนัก เขาออกตัววิ่งต่อและไล่กำจัดศัตรูที่อยู่บนหลังคารถไฟจนกระทั่งได้พบศัตรูกลุ่มหนึ่งที่เตรียมยิงมิซไซล์มาที่ตัวเขา แซ็คกระโดดขึ้นสูงเพื่อหลบมิซไซล์ที่ถูกยิงออกมา เขากระโดดข้ามหัวเหล่าศัตรูทั้งหมดไป และใช้ดาบของเขาฟันแยกระหว่างโบกี้ของรถไฟออกจากกัน

แซ็คเก็บดาบของเขาเข้าไปในฝัก เขาวิ่งเข้าไปในห้องเครื่องของรถไฟและทำการหยุดมันในขณะที่มันได้วิ่งมาถึงเขต 8 พอดี เมื่อรถไฟหยุดวิ่งแล้วแซ็คก็กระโดดออกมาจากตัวรถไฟ และรับโทรศัพท์ที่โทรมาหาเขาพอดี

แซ็ค : แซ็คครับ
แองจีล : แซ็ค เหตุการณ์เป็นไปอย่างราบรื่นมั้ย?
แซ็ค :แองจีล เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ทำไมศัตรูถึงเป็นทหารชินระล่ะ?

แองจีล :พวกนั้นเป็นกองกำลังของวูไถที่ใส่ชุดปลอม หลังจากนี้แกต้องมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเขตนะ

แซ็ค :เขต 8 ใช่มั้ย?
แองจีล :ใช่ แต่ว่าก่อนหน้านั้นแกต้องจัดการกับพวกผู้บุกรุกที่สถานีเสียก่อน

แซ็ค : ผู้บุกรุก?
แองจีล : เดี๋ยวแกก็เข้าใจเอง ระวังจะหายใจหายคอไม่ทันล่ะ
แซ็ค :ให้ฉันอาละวาดซักหน่อยคงไม่เป็นไรใช่มั้ย?
แองจีล : อย่าให้มากละกัน

แซ็ควางโทรศัพท์และชักดาบของเขาขึ้นมาฟาดฟันกับเหล่ากองกำลังของวูไถที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวสถานีรถไฟ หลังจากที่เขาปราบพวกมันได้หมด เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากแองจีลอีกครั้ง

แองจีล : ไม่เลวนี่
แซ็ค : ของกล้วยๆ! ในไม่ช้าฉันก็คงได้เป็นเฟิร์สคลาสแน่ๆ!!
แองจีล : จากนี้ก็มุ่งหน้าขึ้นบันไดและไปทางสำนักงานใหญ่ซะ
แซ็ค : รับทราบ!

แซ็คมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองเขต 8 และพบกับเหล่าฝูงชนที่กำลังวิ่งกรูกันหนีออกมา แซ็ครีบวิ่งเข้าไปที่ใจกลางเมืองและเขาก็ได้พบกับมอนสเตอร์ตัวยักษ์ซึ่งก็คือเบฮีมอธน่ะเอง ด้วยทักษะในการสู้รบที่ใกล้เคียงกับโซลเยอร์เฟิร์สคลาส จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับแซ็คที่จะจัดการกับเบฮีมอธอย่างรวดเร็ว ทว่าหลังจากที่แซ็คสามารถล้มเบฮีมอธลงได้ ระหว่างที่แซ็คไม่ทันระวังตัว ใครบางคนที่อยู่ด้านหลังก็ชี้ดาบมาทางเขา

เซฟิรอธ : หันหลังให้ศัตรูแบบนี้ จะว่าใจกล้าหรือว่าขลาดเขลาดีนะ

แซ็คค่อยๆ กลับหลังหันหลังมาอย่างช้าและเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาก็คือเซฟิรอธ

แซ็ค : ปะ...เป็นไปได้ไง?

แซ็ค : ชิ!!! ฉันเองก็อยากจะเป็นวีรบุรุษเหมือนกัน!!

เซฟิรอธ : มันจบแล้ว!

แซ็คโดนโจมตีใส่อย่างรุนแรงจนดาบของเขาหักเป็นสองท่อน ขณะเดียวกันทางด้านแองจีลที่สังเกตการณ์อยู่ตลอดจากที่ใดที่หนึ่งของเขต ก็ตกอกตกใจกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เช่นกัน

แองจีล : เป็นไปไม่ได้

ขณะที่แซ็คที่ล้มลงไปกองกับพื้นกำลังจะถูกเซฟิรอธจัดการปิดบัญชี แองจีลที่คว้าดาบหักๆ ของแซ็คมาได้ก็สามารถใช้ดาบเล่มนั้นหยุดการโจมตีของเซฟิรอธไว้ได้ทัน หลังจากนั้นเซฟิรอธก็ถอยหลังและหยุดนิ่งไป ส่วนแซ็คเองก็ลุกขึ้นมา

แซ็ค : ตามที่คาดไว้เลยนะแองจีล

แองจีลหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาและเลือกไปที่คำสั่ง Abort Misssion พร้อมกับกด Yes แล้วในที่สุดการฝึกในห้องจำลองสถานการณ์การสู้รบก็จบลง

แองจีล : การฝึกจบลงแล้ว
แซ็ค : ได้ไงกัน!

แองจีลใช้ดาบที่หักแล้วเล่มนั้นชี้มาทางแซ็ค

แซ็ค : เอาจริงรึ? จากนี้ไปตะหากที่ฉันจะโชว์ฝีมือให้ดู!

แองจีลส่งดาบเล่มที่หักคืนให้กับแซ็ค แซ็คจึงได้แต่ก้มหน้าลงและถอนหายใจด้วยความผิดหวังสำหรับการที่เขาไม่สามารถผ่านการฝึกฝนในสถานการณ์จำลองเมื่อกี้ได้

แองจีล : แซ็ค..จงยึดมั่นในฝันไว้นะ
แซ็ค : หา?
แองจีล : ถ้านายอยากเป็นวีรบุรุษ นายก็ต้องยึดมั่นในความฝัน...และ...ความภาคภูมิ

เสียงฝีเท้าของแองจีลๆ ค่อยๆ เบาลงและลับหายไป เหลือเพียงแต่แซ็คที่ยังข้องใจกับคำพูดของแองจีลไว้เบื้องหลัง


 

 

 

บทที่ 2 บทสิ้นสุดสงครามวูไถ 

หลังจากที่แซ็คได้พ่ายแพ้ในการฝึกซ้อมกับเซฟิรอธที่เป็นเพียงโปรแกรมเสมือนจริง เขาก็รู้สึกอึดอัดใจในความไม่เอาอ่าวของตัวเอง ว่าแล้วก็แซ็คก็เลยเริ่มลุกนั่งเพื่อผ่อนคลายความเครียดของตนลง ระหว่างที่กำลังลุกนั่งเล่นอยู่ที่เขตที่พักของสำนักงานใหญ่ชินระชั้นที่ 49 เพื่อนคนหนึ่งของแซ็คที่เป็นโซลเยอร์เซคันด์คลาสเหมือนกันก็เข้ามาพูดคุยด้วย เขาคนนี้มีชื่อว่าคันเซล

คันเซล : แซ็ค! ยังพยายามอย่างหนักเหมือนเช่นเคยเลยนะ
แซ็ค : มันแปลกงั้นเหรอ? พักนี้มันก็มีแต่ฝึกๆๆ ไม่ได้ออกไปปฏิบัติภารกิจบ้างเลย(เลยต้องมาแกร่วคลายเครียดอยู่ที่นี่) ก่อนหน้านี้นายเองก็ยุ่งๆ อยุ่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? คนอื่นก็ไม่รู้ลาหยุดไปไหนกันหมด พวกนั้นคงจะมีเวลาว่างน่าดูเลยนะ

คันเซล : เอ๋? ลาหยุด? นายไม่ได้ยินเรื่องที่โซลเยอร์ชื่อดังหายตัวไปงั้นเหรอ?
แซ็ค : หา?

คันเซลได้เล่าให้แซ็คฟังว่าโซลเยอร์เกือบทั้งหมดตั้งแต่เฟิร์สคลาสยันเธิร์ดคลาสได้หายสาบสูญไปแล้วไปลับระหว่างเข้าไปปฏิบัติภารกิจที่เมืองวูไถ ระหว่างที่แซ็คกำลังตั้งอกตั้งใจฟังอยู่การสนทนาก็ต้องชะงักลงเมื่อแองจีลเข้ามาทักทายแซ็ค ดูเหมือนคันเซลจะช็อคไปเลยที่โซลเยอร์ชั้นเทพอย่างแองจีลจะเข้ามาทักทายแซ็ค แองจีลเองก็ได้อธิบายสถานการณ์ให้แซ็คฟังและก็บอกแซ็คว่าแกโดนเรียกให้ไปทำภารกิจแล้ว แซ็คเองเมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็มีท่าทีดีใจไชโยอย่างออกนอกหน้า ว่าแล้วแซ็คและแองจีลก็มุ่งตรงไปยังห้องบัญชาการของชั้น 49

ลาซาร์ด : แซ็ค...ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการพบกันครั้งแรกของพวกเราสินะ ฉันคือผู้บัญชาการของกองกำลังโซลเยอร์
แซ็ค : ฝากตัวด้วยครับ!
ลาซาร์ด : อืม..ฉันรู้ว่ามันอาจจะกระทันหันไปหน่อย แต่...โซลเยอร์เฟิร์สคลาส เจเนซิส เมื่อไม่นานมานี้เขาได้หายตัวไประหว่างเข้าไปปฏิบัติภารกิจที่วูไถ เราไม่สามารถระบุที่อยู่ของเขาได้ นายพอรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างมั้ย?
แซ็ค : ไม่เลยครับ!
ลาซาร์ด : อืม..ตอนนี้องค์กรก็กำลังยุ่งๆอยู่ ฉันเลยอยากให้นายเข้าไปตรวจสอบ

แซ็ค : ที่วูไถ?
ลาซาร์ด : ถูกแล้ว เราอยากจะยุติสงครามอันยืดเยื้อนี้ลงเสียที
แองจีล : ฉันได้เสนอชื่อแกให้เข้าเป็นเฟิร์สคลาสแล้วนะแซ็ค
แซ็ค : ห๊ะ?! อะ...แองจีลล!!! ผมรักคุณณณณ!!!

แซ็คกระโจนเข้าไปกอดแองจีลแต่ก็เจอแองจีลผลักกระเด็นออกมาจนแซ็คล้มหัวทิ่ม ลาซาร์ดที่ดูอยู่ก็แอบหัวเราะเบาๆ กับการที่แซ็คทำตัวเหมือนเด็กๆ

แองจีล : อย่ามาตีสนิทกับฉันให้มากเกินไปนะ! (โดยเฉพาะแตะเนื้อต้องตัวนี่ไม่เอา)
แซ็ค : อ่ะ คร้าบบบ!
แองจีล : เมื่อไหร่ที่แกเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว เราก็จะออกเดินทางกันทันที

แซ็ควิ่งไปเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว หลังจากที่เขาแพ็คกระเป๋าพร้อมออกบินแล้วเขาก็มุ่งกลับไปที่ห้องบัญชาการอีกครั้ง

ลาซาร์ด : ฉันเองก็จะออกไปพร้อมกับพวกนายสองคน ฉันคาดหวังในตัวพวกนายไว้มากนะ

แซ็ค : ครับ!
ลาซาร์ด : ว่าแต่..ความฝันของนายคืออะไรล่ะ? การได้เป็นเฟิร์สคลาสรึเปล่า?
แซ็ค : ไม่ใช่หรอก แต่คือการได้เป็นวีรบุรุษต่างหาก
ลาซาร์ด : อย่างงั้นรึ เป็นฝันที่น่าเศร้า แต่ก็เป็นฝันที่ดีนะ

แซ็ค : หา..?

ทั้งแองจีลและแซ็คมุ่งหน้าไปยังวูไถเพื่อออกตามหาเจเนซิส โซลเยอร์ผู้ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อพวกเขามาถึงบริเวณแถบชายแดนของวูไถ ก่อนที่ภารกิจจะเริ่มขึ้นแองจีลก็ได้อธิบายหน้าที่ๆ แซ็คต้องทำ แองจีลบอกว่าพวกเขาต้องรอให้ทีม B เข้าประจำตำแหน่งก่อนที่จะเริ่มลงมือ ระหว่างที่กำลังอธิบายอยู่นั้นเองเหล่าทหารจากวูไถก็บุกเข้าโจมตีพวกเขาทั้งสอง แซ็คได้กระโดดหลบเหล่ากระสุนที่ถูกยิงออกมา และด้วยการฟันกวาดเพียงฉับเดียวของเขา ก็เพียงพอที่จะล้มทหารพวกนั้นทั้งหมดได้แล้ว พอเสร็จเรื่องแล้วแองจีลก็เริ่มชวนคุยพร้อมๆ กับการเดินทางไปยังป้อมปราการแห่งเมืองวูไถ

 

แองจีล : เคยได้ยินเรื่องของแอปเปิ้ลงี่เง่ามั้ย?
แซ็ค : มันหมายถึงอะไรล่ะ?
แองจีล : อืม...ความภาคภูมิใจของเฟิร์สคลาสล่ะมั้ง?

แองจีลค่อยๆ เดินหนีห่างไปจากตัวแซ็ค

แซ็ค : เฮ่ยยย เวลาที่ฉันพูดน่ะฟังกันบ้างเซ่! แล้วไอ้แอปเปิ้ลงี่เง่านั่นมันอะไรกัน?

แซ็ครีบวิ่งไล่ตามแองจีลไป

แซ็ค : แองจีล! ไอ้แอปเปิ้ลงี่เง่าที่ว่าน่ะ มันคืออะไรกันเหรอ? (อย่าจุดประเด็นแล้วก็เงียบสิฟะ)
แองจีล : ชื่อที่คนรู้จักกันก็คือไวท์บาโนล่าน่ะ แต่ก่อนนี่แกสามารถหยิบกินตามต้นไม้ได้เลย ผู้คนในหมู่บ้านของฉันต่างก็ติดอกติดใจมันมาก และพวกเขาก็ตั้งชื่อให้กับมันว่าแอปเปิ้ลงี่เง่า พวกเรามักจะชอบเข้าไปในฟาร์ม (ของคนอื่น) แล้วก็หยิบมันมากินซักลูกสองลูกน่ะนะ
แซ็ค : พูดอย่างกับว่าตัวเองเป็นพวกขี้ขโมยเลยนะ
แองจีล : ก็มันเรื่องจริงนี่
แซ็ค : เอาเหอะ จะพูดยังไงก็แล้วแต่
แองจีล : กระทั่งตอนนี้ ฉันก็ยังภูมิใจนะเวลาที่มีคนมาเก็บแอปเปิ้ลไปกิน ดูเหมือนว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะมีแอปเปิ้ลที่ใหญ่ที่สุดแล้วก็อร่อยที่สุดในหมู่บ้านด้วย แต่ฉันคงไม่ยกโทษให้ตัวเองแน่ถ้าฉันไปขโมยไอ้ที่ว่านั่นมา ก็ลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านน่ะเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเชียวนะ

แซ็ค : ถ้าเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของนาย ทำไมเขาถึงไม่ปล่อยให้นายเอาไปได้ล่ะ?

แองจีล : ปัญหามันอยู่ที่ความภาคภูมิใจน่ะสิ
แซ็ค : เอ่อ (ฟังมาตั้งนานแล้ว) ว่าแต่ไอ้เรื่องที่ว่ามาเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับการเป็นเฟิร์สคลาส?

แองจีล : พูดตรงๆเลยนะ.................มันไม่เกี่ยวกันฟ่ะ

แองจีลหัวเราะดังลั่นด้วยความดีใจที่ได้หลอกเด็ก เขาเดินหนีห่างไปโดยทิ้งแซ็คที่เขางอกแล้วไว้ด้านหลัง

แซ็ค : มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันแล้วใช่มั้ย!? ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะนะเฟ้ย!!

แซ็ครีบวิ่งตามแองจีลไปอย่างเช่นเคย และในไม่ช้าพวกเขาก็ได้มาถึงบริเวณหน้าทางเข้าป้อมปราการทัมบลิน

แองจีล : เราจะรอกันอยู่ที่นี่จนกว่าทีม B จะเข้าไปวางระเบิดที่จุดนัดพบ
แซ็ค : และเมื่อพวกนั้นทำสำเร็จแล้ว เราจึงค่อยเริ่มลงมือกัน?
แองจีล : ถูกแล้ว ฉันจะแยกไปยังอีกทางและไปเจอกับแกที่ด้านในป้อม แกเองควรจะบุกเข้าไปจากทางด้านหน้าโดยตรงและหลังจากนั้น...
แซ็ค : และหลังจากนั้น?.....จากนั้น....จากนั้น....จากนั้น.....
แองจีล : อยากทำอะไรก็ทำไปเลย
แซ็ค : ไว้ใจได้เลย! เรื่องแบบนี้นี่ฉันเชี่ยวชาญ โอ้ววว!!! ทีม B ยังไม่พร้อมอีกรึไงน้า?

แองจีลหยิบบัสเตอร์ซอร์ดของเขาขึ้นมาตั้งตรงหน้า และเริ่มภาวนาต่อหน้าดาบ

แซ็ค : นี่!! ฉันไม่เคยเห็นนายใช่ดาบนั่นมาก่อนเลย เล่นแบกไปแบกมาทุกที่แบบนี้ ไม่คิดว่ามันเสียเปล่ารึไง?
แองจีล : เอาดาบมาใช้ก็สกปรกสึกกร่อน สนิมจับหมดสินั่นต่างหากที่เสียเปล่า
แซ็ค : นี่ซีเรียสรึเปล่าเนี่ย?
แองจีล : อืม...ฉันมันก็แบบนี้แหละ
แซ็ค : เอ่อ...จะขำดีมั้ยเนี่ย?

บึ๊มมม!! ว่าแล้วเสียงระเบิดก็ดังขึ้น

แองจีล : เริ่มได้!

แซ็ครีบบุกตะลุยเข้าไปทางด้านหน้าอย่างไม่รีรอ เขาต่อสู้กับเหล่าทหารของวูไถที่รอรับมือเขาอยู่ที่บริเวณหน้าป้อมทัมบลิน เขากำจัดทหารพวกนั้นอย่างสบายๆ และมุ่งเข้าไปในป้อม แซ็คใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถสยบทหารทั้งหมดพร้อมกับยึดป้อมทัมบลินมาได้ เขาเดินออกจากป้อมทัมบลินและเตรียมที่จะเข้าไปสำรวจในป้อมโดโจ ทว่าระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับสาวน้อยคนหนึ่ง

แซ็ค : อะไรเนี่ย? เด็ก...?
ยุฟฟี่ : ในฐานะนักรบแห่งวูไถ ฉันขอท้าดวลนาย
แซ็ค : จะทำไงดี? เธอเป็นแค่เด็กไม่ใช่เหรอ

ยัฟฟี่เข้าประชิดตัวแซ็คและปล่อยหมัดยึกยือใส่แซ็คตรงนี้ที ตรงนู้นที (ไม่โดนตัวแซ็คซักหมัด) แซ็คเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรมาก ก็ได้แต่เล่นไปตามเกมของเธอ

ยุฟฟี่ : ย๊าก!! ย๊ากก!! ย๊ากก!! เป็นไงบ้างล่ะหืม!!
แซ็ค : .
แซ็ค : โอ๊วววว! เจ็บสุดๆ เลย!!! ม่ายยย ฉันแพ้ซะแล้ว!!
ยุฟฟี่ : เป็นไงล่ะ! นี่แหละพลังของฉัน!

ยุฟฟี่วิ่งจากไปหลังจากที่เธอคิดว่าเธอล้มแซ็คได้แล้ว

แซ็ค : เออ...ดี เธอเป็นเด็กดีเหมือนกันนะเนี่ย เอาละตอนนี้ทำงานของเราต่อดีกว่า


แซ็คเข้าไปในป้อมโดโจและได้พบกับมอนสเตอร์ยักษ์สองตัว เขาชักดาบขึ้นมาและประมือกับพวกมันทั้งสอง หลังจากที่เขากำจัดพวกมันลงได้ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาพอดี

แซ็ค : แซ็ค โซลเยอร์เซคันด์คลาสครับ ทางนี้ไม่มีปัญหาครับ
แองจีล : ทางฉันเองก็เสร็จธุระแล้วเหมือนกัน อีก 5 นาทีเจอกันนะ
แซ็ค : รับทราบ!

แซ็คเริ่มปล่อยตัวตามสบายขณะที่เขากำลังรอการมาของแองจีล

แซ็ค : ลาซาร์ด! กำลังจับตาดูฉันอยู่รึเปล่าน้า? ต้องรีบหน่อยล่ะ!!

ทันใดนั้นก็มีมอนสเตอร์อีกตัวปรากฏขึ้นมาทักทายแซ็ค

แซ็ค : พึ่งบอกหยกๆ ว่าต้องรีบแล้ว!!

แซ็คพยายามสู้กับมอนสเตอร์ แต่แล้วก็มีจังหวะหนึ่งที่เขาเปิดช่องว่าง ทำให้มอนสเตอร์อัดเขากระเด็นไปชนกับกำแพง และล้มลงกับพื้น ระหว่างที่แซ็คกำลังจะเสียท่าให้กับมอนสเตอร์ แองจีลก็เข้ามาช่วยกำจัดมอนสเตอร์ตัวนั้นได้ทันท่วงที ด้วยบัสเตอร์ซอร์ดเล่มโตของเขา

แองจีล : แกแพ้อีกแล้วนะ แต่แววตาของแกก็บอกว่าแกพอจะได้อะไรมาบ้างแล้ว
แซ็ค : ยะ...อย่างงั้นเหรอ? ว่าแต่ การที่นายใช้ดาบนี่มันไม่เป็นอะไรเหรอ
แองจีล : ก็ชีวิตของแกมันสำคัญกว่าดาบเล่มนี้น่ะนะ แต่ก็...นิดเดียวเท่านั้นแหละ

แองจีลยื่นมือออกไปหาแซ็คที่ล้มอยู่ พร้อมกับส่งยิ้มเล็กๆ ให้

แซ็ค : ..แต๊งกิ้ว

แซ็คและแองจีลมุ่งหน้ากลับไปทางป้อมทัมบลิน พวกเขาได้พบกับลาซาร์ดที่กลางทาง

ลาซาร์ด : โทษที..ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้พวกนายต้องรอหรอกนะ แต่ฉันไม่เคยมีประสบการณ์ในภาคสนามน่ะ
แองจีล :ไม่เป็นไรหรอก แค่นายตั้งใจที่จะออกมานั่นก็ดีแล้ว
ลาซาร์ด: ฉันนำกองกำลังทหารของพวกเรามาเพื่อปิดฉากสงครามอันยาวนานนี้แล้ว และเพื่อไม่ให้ผิดพลาด ฉันต้องได้เห็นบทสุดท้ายของสงครามนี้ด้วยตาคู่นี้ของฉันเอง นี่แซ็ค...โซลเยอร์เซคันด์คลาส!

แซ็ค : อ่า ครับ!
ลาซาร์ด: นายได้พยายามอย่างหนักระหว่างทำภารกิจยึดป้อมทัมบลิน ผลงานของนายอยู่ในเกณฑ์ไว้ใจได้ ถ้าให้ประเมินตรงๆ ก็คือ นายได้ช่วยดึงความสนใจจากศัตรู ทำให้แองจีลทำงานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้นายยังไม่มีปัญหากับการจัดการงานในระดับนี้แล้ว ไว้ฉันจะเรียกตัวนายมาช่วยในภารกิจถัดไปนะ

แองจีล : แซ็ค แกรู้จักความแตกต่างระหว่างเฟิร์สคลาสและเซคันด์คลาสมั้ย? ได้รับการตอบแทนความดีความชอบด้วยการการถูกไหว้วานให้ทำงานที่ยากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ นั่นแหละคือการเป็นเฟิร์สคลาส อย่าลืมซะล่ะ...เอาเป็นว่าตอนนี้รีบไปกันดีกว่า เซฟิรอธรอพวกเราอยู่

แซ็ค : เซฟิรอธ? วีรบุรุษคนนั้นน่ะเหรอ? เจ๋งเป้ง!!! ฉันจะได้พบฮีโร่แล้ว!!

ระหว่างที่เดินทางกลับไปยังค่าย แองจีล แซ็ค และลาซาร์ดก็ถูกโจมตีโดยกลุ่มทหารลึกลับ แองจีลอาสาที่จะจัดการกับพวกมันโดยปล่อยให้แซ็คและลาซาร์ดรีบกลับค่ายไปหาเซฟิรอธก่อน ซึ่งหลังจากที่แซ็คได้พาลาซาร์ดไปส่งที่ค่ายแล้ว แซ็คก็รีบย้อนกลับมาเพื่อที่จะช่วยแองจีล

แซ็ค : แองจีล!! แองจีล!! เฮ่ยนี่มัน...ไม่ใช่ทหารวูไถนี่นา สัตว์อัญเชิญหรือเนี่ย!? ใครเรียกมันออกมากันนะ!?

แซ็คเข้าไปสู้กับอิฟรีทและจัดการมันได้อย่างง่ายดาย ทว่าในช่วงที่แซ็คกำลังประมาทเพราะคิดว่าตนสามารถกำจัดอิฟรีทลงได้แล้ว อิฟรีทก็พยายามที่จะลุกขึ้นมาโจมตีแซ็ค แต่เขาก็ถูกเซฟิรอธที่ปรากฏตัวขึ้นจัดการทิ้งเสียก่อน และด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอิฟรีทก็ถึงกับแหลกเป็นเสี่ยงๆ ทีเดียว พอจัดการได้แล้วเซฟิรอธก็เดินเข้าไปสำรวจศพของพวกทหารลึกลับที่ถูกแองจีลจัดการไป

แซ็ค : เจ๋งโคตร...


เซฟิรอธก้มลงและถอดหน้ากากของพวกทหารลึกลับออกมา เขาและแซ็คพบว่าพวกมันต่างก็มีหน้าตาที่เหมือนกับเจเนซิส

เซฟิรอธ : เจเนซิส...
แซ็ค : โซลเยอร์เฟิร์สคลาสที่หายตัว!! เฮ่ย หน้าเหมือนกันเลย!!
เซฟิรอธ : ร่างก๊อปปี้ของเจเนซิส
แซ็ค : ก๊อปปี้? หมายถึงการโคลนมนุษย์เหรอ?
เซฟิรอธ : แองจีลอยู่ที่ไหน?
แซ็ค : เขาน่าจะกำลังสู้อยู่ที่นี่ๆ นา แต่ว่า...
เซฟิรอธ : อืม...สงสัยเขาจะไปกับหมอนั่นแล้ว
แซ็ค : หา? นี่หมายความว่าไงเนี่ย?
เซฟิรอธ : แองจีลทรยศพวกเราแล้ว หมายความว่าอย่างงั้นแหละ

แซ็ค : เป็นไปไม่ได้น่า!! ฉันรู้จักแองจีลดี! เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะทำอะไรแบบนั้นได้!!! แองจีลไม่มีวันทรยศพวกเราเด็ดขาด!!


 

 

บทที่ 3 แอปเปิ้ลงี่เง่า

 

แซ็ค : แองจีลคิดถึงเรื่องบ้าบออะไรอยู่นะ? นี่ก็ผ่านไปร่วมเดือนแล้ว กระทั่งเซฟิรอธ...เซฟิรอธเลยนะ ยังคิดว่าเจเนซิสกับแองจีลได้ร่วมมือกันแล้วเลย พวกโซลเยอร์เซคันด์และเธิร์ดคลาสที่ออกภารกิจไปกับเจเนซิส พวกเขาหายไปไหนกัน? แล้วที่เขาใช้ร่างก๊อปปี้จู่โจมพวกเรา แองจีลต้องไม่มีวันให้อภัยกับสิ่งเหล่านี้แน่! เขาเป็นคนที่ยึดมั่นในความภาคภูมิใจในฐานะโซลเยอร์มากกว่าใครๆ อ่า...เกิดอะไรขึ้นกันนะ? แองจีล! ไม่เป็นไรหรอก..ขอเพียงแค่นายรีบกลับมาเถอะ!

หลังจากที่ภารกิจจบลง แซ็คและกองทัพทั้งหมดก็ได้เดินทางกลับมายังสำนักงานใหญ่ของชินระ ในตอนนี้แซ็ครู้สึกกังวลและสับสนเป็นอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแองจีล...ระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั่นเอง ก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรมาหาเขา

เส็ง : โซลเยอร์เซคันด์คลาส แซ็ค
แซ็ค : ผมเองครับ ว่าแต่นั่นใครน่ะ?
เส็ง : ลาซาร์ดเรียกหานายน่ะ ให้ไปยังห้องบัญชาการตอนนี้เลย

แซ็ค : เฮ่ยเดี๋ยวก่อน! แล้วนั่นใครน่ะ?

แซ็คเก็บความสงสัยของเขาเอาไว้ในใจและรีบมุ่งหน้าไปยังห้องบัญชาการ เขาหวังว่าบางทีลาซาร์ดคงจะได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับแองจีลบ้างแล้ว

แซ็ค : ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับแองจีลบ้างมั้ย?
ลาซาร์ด : ดูเหมือนว่าแม้แต่ทางโทรศัพท์เราก็ไม่สามารถติดต่อเขาได้เลยน่ะนะ
แซ็ค : ถ้างั้นแล้ว...เรียกผมมาทำไมเหรอครับ?
ลาซาร์ด : ภารกิจใหม่น่ะ ฉันอยากให้นายเข้าไปสำรวจที่เมืองบ้านเกิดของเจเนซิส โซลเยอร์เฟิร์สคลาสคนนั้น จากข้อมูลที่ได้มา ทางพ่อแม่ของเจเนซิสบอกว่าเขาไม่ได้อยู่ในที่แห่งนั้น แต่ฉันไม่อาจปักใจเชื่อได้
แซ็ค : ทำไมล่ะครับ?
ลาซาร์ด : ก็เพราะพวกเขาเป็นพ่อแม่ลูกไง
แซ็ค : โอ้~
ลาซาร์ด : ฉันได้ส่งทีมงานบางส่วนให้เข้าไปตรวจสอบแล้ว แต่หลังจากนั้นฉันก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากพวกเขาเลย ฉันจึงอยากให้นายเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ โดยเขาก็จะไปกับนายด้วย

เส็ง : เส็งจากหน่วยเทิร์คครับ
แซ็ค : สงสัยว่าภารกิจนี้คงไม่มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นหรอกนะ
เส็ง : เมื่อเตรียมตัวพร้อมแล้วก็บอกให้ฉันทราบละกัน

 

หลังจบการแนะนำตัวของเส็ง แซ็คก็ได้รับโทรศัพท์จากคันเซล แซ็คบอกคันเซลไปว่าเขาอยู่ในห้องบัญชาการและอีกไม่นานก็ต้องออกไปทำภารกิจแล้วด้วย หลังจากวางสายไปแล้วแซ็คและเส็งก็ได้คุยถึงเรื่องรายละเอียดของงานกันอีกนิด

เส็ง : ยินดีที่ได้ร่วมงานด้วยนะ
แซ็ค : เราแค่จะไปสำรวจกันใช่มั้ย? ง่ายยิ่งกว่ากินกล้วยทั้งเปลือกเสียอีก!

เส็ง : ถ้าเป็นแค่นั้นจริงก็คงดี เดิมทีแล้วงานนี้เซฟิรอธเป็นคนที่ต้องไปทำ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมงานนี้ถึงได้สำคัญนักสำคัญหนา ห้ามพลาดเด็ดขาด
แซ็ค : อ่าว แล้วทำไมเซฟิรอธไม่ไปล่ะ?
เส็ง : ดูเหมือนว่าเขาจะปฏิเสธคำสั่ง
แซ็ค : เป็นไปได้ไง? ตอนไปขอให้เขาทำงานให้ พวกคุณพูดจานิ่มนวลกับเขาเกินไปรึเปล่า?

เส็ง : หึ...นายไม่ลองไปขอให้เขาออกไปทำงานเองล่ะ?
แซ็ค :ไม่ดีกว่า

แซ็คตอบกลับมาด้วยสีหน้าแหยงๆ แถมยังยกมือขึ้นไหว้เส็งอีกต่างหาก

ด้วยเฮลิคอปเตอร์ของทางชินระ เส็งและแซ็คก็ได้เดินทางไปยังเมืองเป้าหมาย หมู่บ้านบาโนล่า ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจเนซิสได้อย่างปลอดภัย เฮลิคอปเตอร์ได้ลงจอดในบริเวณที่ห่างออกมาจากตัวเมืองระยะหนึ่ง เมื่อทั้งสองเดินลงมาจากคอปเตอร์พวกเขาก็พบกับต้นแอปเปิ้ลไวท์บาโนล่า หรือที่เรียกกันว่าแอปเปิ้ลงี่เง่าน่ะเอง แซ็คเข้าใจได้ทันทีว่าที่นี่ก็คือบ้านเกิดของแองจีลเช่นกัน ระหว่างทางไปยังหมู่บ้านแซ็คต้องต่อสู้กับร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสจำนวนมากมาย เส็งได้เล่าให้แซ็คฟังว่าประธานชินระได้มีคำสั่งให้ทำลายที่ซ่อนของเจเนซิสทิ้งทันทีที่พบแหล่งซ่องสุมของพวกมัน บางทีมันอาจจะเป็นที่แห่งนี้ก็ได้ เมื่อพูดจบแล้วพวกเขาก็เข้าไปถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน แซ็คต้องประมือกับหุ่นแมงมุมยักษ์ ซึ่งเขาก็สามารถสยบมันลงได้อย่างไม่ยากนัก

หลังจากที่แซ็คฟาดเจ้าหุ่นแมงมุมจนมันพังได้แล้ว เขาก็มองไปที่ศพของเหล่าร่างก๊อปปี้

แซ็ค : โคลนของเจเนซิส
เส็ง : นายไปได้ยินเรื่องนั้นมาจากไหน?
แซ็ค : จากเซฟิรอธน่ะ
เส็ง : ทุกสิ่งทุกอย่างที่นายได้เห็นในที่แห่งนี้ล้วนเป็นเทคโนโลยีของชินระทั้งนั้น รวมทั้งเหล่าร่างก๊อปปี้ด้วย

แซ็ค : อะไรนะ?
เส็ง : โซลเยอร์หรือมอนสเตอร์...ก็เช่นกัน
แซ็ค : (เมื่อกี้นายบอกว่าโซลเยอร์กับมอนสเตอร์คือสิ่งเดียวกันงั้นเหรอ)

แซ็คพยายามจะเข้าไปสำรวจหุ่นสนต์ที่พึ่งจะถูกเขากำจัดไป แต่เขาก็ไม่มีเวลามากนักเพราะเส็งก็ได้เรียกให้เขารีบเข้าไปในตัวหมู่บ้าน แซ็ครีบวิ่งตามเส็งเข้าไปและเห็นเส็งชี้ไปยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่แยกจากตัวหมู่บ้านมา

เส็ง : ทางนี้คือบ้านของพ่อแม่เจเนซิส ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วแหละ


ทันใดนั้นแซ็คก็นึกถึงสิ่งที่แองจีลเคยพูดเอาไว้...

แองจีล : แต่ฉันคงไม่ยกโทษให้ตัวเองแน่ถ้าฉันไปขโมยไอ้ที่ว่านั่นมา ก็ลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านน่ะเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเชียวนะ

เส็ง : พวกเขารู้จักกันมานาน และยังเป็นเพื่อนที่สุดสำหรับกันและกันในหมู่บ้านนี้อีกด้วย
แซ็ค : โซลเยอร์ที่หายตัวไป เจเนซิสและแองจีล ได้กลายเป็นพวกเดียวกันไปแล้ว...อยากจะบอกอย่างนั้นใช่มั้ย?
เส็ง : เซฟิรอธเองก็คิดแบบเดียว

เส็งมองไปยังเนินดินและเหล่าก้อนหินที่อยู่ใต้ต้นไม้ ดูเหมือนมันพึ่งจะถูกทำขึ้นมาไม่นาน เส็งคิดว่ามันอาจจะเป็นหลุมศพของใครบางคน ว่าแล้วเขาจึงบอกให้แซ็ครีบไปตามหาบ้านของแองจีล ส่วนเขาจะสำรวจหลุมศพนี้เอง

แซ็ค : เทิร์คต้องทำงานแบบนี้ด้วยหรือเนี่ย?
เส็ง : มันก็ต้องมีใครซักคนทำล่ะนะ
แซ็ค : ฟังดูแย่จัง
เส็ง : ไม่ต้องห่วงน่า เพราะอย่างงี้เงินเดือนฉันถึงได้เยอะกว่านายไง

แซ็ค : พูดจริงเปล่าเนี่ย!!!

แซ็ควิ่งเข้าหมู่บ้านเพื่อไปตามล่าหาแองจีลโดยปล่อยเส็งที่กำลังเช็คหลุมศพไว้เบื้องหลัง เมื่อแซ็คเดินเข้าไปถึงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เขาก็ต้องแปลกใจเพราะมันไม่มีผู้คนอยู่เลย เขาไล่เปิดประตูและสำรวจบ้านทีละหลัง แต่ก็พบแต่เหล่ามอนสเตอร์และพวกร่างก๊อปปี้ เขากำจัดพวกมันและไล่สำรวจบ้านทีละหลัง จนกระทั่งมาถึงบ้านที่อยู่ลึกที่สุดของหมู่บ้าน

หญิงชรา : มีอะไรให้ช่วยเหรอ?
แซ็ค : ขอโทษที่มารบกวนนะครับ คุณคือแม่ของแองจีลใช่มั้ย? ผมคือแซ็ค

หญิงชรา : หรือว่าเธอคือเจ้าหมาน้อยแซ็ค
แซ็ค : หมายความว่าไงละนั่น?
หญิงชรา : ฮึๆๆ ลูกชายได้เล่าเรื่องของเธอไว้ในจดหมายแล้วน่ะ เขาว่าเธอเหมือนพวกขาดสมาธิและยังชอบทำตัวอยู่ไม่สุขเหมือนกับลูกหมาน่ะ เหะๆ
แซ็ค : (ฮึ่มมม) แองจีลลล....
หญิงชรา : เธอไม่ใช่พวกของเจเนซิสใช่มั้ย?
แซ็ค : ไม่...เปล่าเลยครับ ไม่ต้องห่วง
หญิงชรา : มีอะไรเกิดขึ้นกับลูกชายของฉันรึเปล่า?
แซ็ค : ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน
หญิงชรา : เมื่อไม่นานมานี้เจเนซิสได้กลับมาที่นี่พร้อมกับพรรคพวกของเขา เขาทำการสังหารผู้คนในหมู่บ้านจนหมด เจเนซิส...ทั้งๆ ที่เมื่อนานมาแล้วเขาก็เคยเป็นเด็กที่ดีคนหนึ่งแท้ๆ

แซ็ค : แล้วแองจีลล่ะครับ
หญิงชรา : เขาก็กลับมาด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าเขาจะออกไปไหนซักแห่ง แต่ก็ได้ฝากดาบของเขาเอาไว้ ดาบที่อยู่ทางด้านนั้นน่ะคือความภาคภูมิใจของครอบครัวเราเชียวนะ
แซ็ค : อย่างงี้นี่เอง เขาไม่เคยใช้ดาบเล่มนั้นมาก่อนเลย เรื่องแองจีลนี่ปล่อยให้ผมจัดการเถอะครับ สำหรับตอนนี้ผมว่าคุณน่าจะหาที่ซ่อนดีกว่านะ
หญิงชรา : ไม่ต้องห่วงฉันหรอก เจเนซิสจะไม่ฆ่าฉันแน่
แซ็ค : โอ้~

หลังจากที่แซ็คได้จ้องไปที่บัสเตอร์ซอร์ดอยู่นาน เขาก็ออกจากบ้านหลังนี้เพื่อไปตามหาแองจีลต่อ

แซ็ค : แองจีล...นายอยู่ไหนกันนะ?

แซ็คได้เดินเข้าไปในเส้นทางหลังหมู่บ้าน ระหว่างทางเขาต้องต่อสู้กับพวกร่างก๊อปปี้มากมาย ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่งเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเส็ง เส็งบอกกับแซ็คว่าเขาได้พบสถานที่ๆ น่าจะเป็นฐานทัพของพวกร่างก๊อปปี้แล้ว เมื่อแซ็คได้ยินก็รีบวางสายและตามไปสมทบกับเส็งในทันที

เส็ง : หลุมศพนั่นเป็นของพ่อแม่เจเนซิสจริงๆ ด้วย
แซ็ค : จริงเหรอ!? นายคงไม่ได้คิดว่า...(เจเนซิสเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของเขา)
เส็ง : มันก็แค่ความเป็นไปได้แหละน่า ว่าแต่ทางนายล่ะพบแองจีลรึยัง?

แซ็ค : เขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่ว่าๆ ขอร้องเถอะนะ! ให้เวลาฉันอีกซักนิดเถอะ! ถ้าเจอแองจีลแล้วฉันจะชวนเขากลับมาเอง ถ้าแองจีลตกลง เขากับเจเนซิสก็อาจจะยอมกลับมาอยู่ข้างชินระก็ได้!

เส็ง : ฉันพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเซฟิรอธถึงอยากให้นายเป็นคนมาทำภารกิจนี้

แซ็ค : ฉันเหรอ?
เส็ง : เจเนซิสและแองจีล เดิมทีแล้วทั้งสองได้เคยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเซฟิรอธเชียวนะ ตัวเซฟิรอธเองคงไม่อยากจะสู้กับพวกเขาทั้งสอง นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงปฏิเสธงานนี้

แซ็ค : กระนั้นก็เถอะ ฉันเองก็เป็นเพื่อนของแองจีลเหมือนกันนะ
เส็ง : ฉันก็หวังจะเห็นนายพาทั้งสองคนกลับมาได้ เราไม่มีเวลามากแล้ว รีบไปกันเถอะ

ทั้งสองได้กระโดดพังหลังคาของโกดังแห่งหนึ่งเข้าไป พวกเขาได้พบกับศัตรูมากมายในโกดังแห่งนั้น แซ็คมักจะบอกให้เส็งเดินนำไปก่อนได้เลยส่วนเขาจะคอยกำจัดพวกศัตรูให้เอง ทั้งสองได้ช่วยกันกรุยทางจนบุกเข้ามาถึงห้องๆ หนึ่งที่เหมือนกับห้องทำงาน เส็งได้เดินเข้าไปสำรวจเครื่องคอมพิวเตอร์และพยายามที่จะหาดูว่ามีข้อมูลของพวกร่างก๊อปปี้ทิ้งไว้รึเปล่า ระหว่างนั้นแซ็คก็ได้เดินเข้าไปในห้องที่อยู่ถัดไป และเขาก็ได้พบกับชายคนนั้น เจเนซิส

เจเนซิส :「ของขวัญจากเทพธิดาอันเป็นปริศนาสุดลึกล้ำ พวกเราได้ออกเดินทางเพื่อตามล่าของขวัญสิ่งนั้น ทว่าคลื่นที่ซัดกระหน่ำและปกคลุมอยู่เหนือหัวใจทำให้พวกเราต้องรู้สึกถึงความสิ้นหวัง」แกทำตัวหนวกหูน่ารำคาญมากเลยนะ เจ้าลูกหมาแซ็ค

ช่วงนี้เองเส็งก็ตามมาสมทบในห้องเช่นกัน

เส็ง : ฉันได้สำรวจดูที่หลมศพข้างบ้านของนายและพบร่างของพ่อแม่นาย ทางบริษัทได้ส่งทีมงานบางส่วนมาสำรวจยังสถานที่แห่งนี้เช่นกัน แต่ดูเหมือนพวกเขาจะถูกฆ่าทิ้งหมดแล้ว

เจเนซิส : คิดจะขู่ฉันงั้นรึ? ข้อมูลของนายน่ะดูเหมือนจะผิดพลาดและเชื่อถือไม่ได้หรอกนะ
แซ็ค : ยังไม่ชัดเจนอีกรึไง? อย่างน้อยที่สุดนายก็ควรจะไว้ชีวิตพ่อแม่ของนายนะ

เจเนซิส : พวกเขาได้ทรยศฉันครั้งแล้วครั้งเล่า...ตั้งแต่ที่ฉันได้กลับมาจากคฤหาสน์นั้น เจ้าพวกสุนัขของชินระ พวกแกจะไปรู้อะไร!!!

เจเนซิสใช้เวทไฟอัดปะทะกับเส็งจนร่างของเส็งกระเด็นไปอัดกับกำแพง แซ็คเตรียมที่จะชักดาบของเขาขึ้นมาสู้ ทว่าก่อนที่เขาจะได้ทำสิ่งนั้น แองจีลที่ปรากฏตัวขึ้นมาก็หยิบดาบไปจากหลังของแซ็ค และใช้ดาบเล่มนั้นชี้ไปทางเจเนซิส

เจเนซิส : เฮ้คู่หู ! ดูเหมือนว่านายได้ตัดสินใจแล้วสินะ ในฐานะเพื่อนตั้งแต่วัยเด็ก...มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม..นายสามารถอยู่ในโลกแบบนั้นได้เหรอ?
แซ็ค : แองจีล !!

เจเนซิสเดินผ่านแองจีลและแซ็คออกไปจากห้อง แซ็คพยายามจะรีบตามไปแต่ก็เจอแองจีลใช้ดาบของแซ็คปักขวางทางไว้ไม่ให้ผ่าน หลังจากที่แองจีลออกไปจากห้องแล้วแซ็คก็รีบดึงดาบของเขาขึ้นจากพื้นและตามพวกเขาไป ระหว่างที่แซ็คกำลังเปิดประตูทางออกของโกดังเขาก็ต้องพบกับเหล่ามอนสเตอร์ที่โผล่ขึ้นมาขวางทางเขา แต่เส็งที่ลุกขึ้นมาแล้วก็อาสาที่จะกำจัดมอนสเตอร์เหล่านั้นให้ เส็งบอกว่าเราต้องรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เพราะในไม่ช้าเมืองแห่งนี้จะถูกระเบิดทิ้งเพื่อเป็นการหยุดยั้งการสร้างร่างก๊อปปี้ แล้วเส็งก็ถามแซ็คว่าแน่ใจนะว่าบ้านของแองจีลไม่มีใครอยู่? เมื่อแซ็คได้ยินดังนั้นเขาจึงรีบออกจากโกดังและมุ่งตรงไปยังบ้านของแองจีลเพื่อบอกเรื่องนี้ให้กับคุณแม่ของเขา ทว่าสิ่งที่เขาได้พบในบ้านก็คือแม่ของแองจีลที่สิ้นลมแล้ว และแองจีลที่กำลังยืนจ้องดูร่างของแม่อย่างสับสน เมื่อเห็นดังนั้นแซ็คจึงรีบด่วนสรุปลงไปทันทีว่าแองจีลเป็นคนฆ่าแม่ของตนเอง เขาต่อยแองจีลไปเต็มแรงจนแองจีลกระเด็นออกนอกตัวบ้าน

แซ็ค : นายทำบ้าอะไรลงไป!!!! เฮ้ย !!! นี่เหรอ...นี่เหรอคือความภาคภูมิใจบ้าๆ ของนาย!!!!
แองจีล : แม่ของฉันไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว และฉันเองก็รู้สึกผิดเหมือนกันแหละ
แซ็ค : หุบปากได้แล้ว!! ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น!! เชิญนายพูดกับตัวนายเองไปเถอะ !!
เจเนซิส : ฉันบอกนายไปแล้วรึเปล่าว่า...เขาไม่สามารถจะมีชีวิตอยู่แบบเดิมๆ ได้อีกต่อไปแล้ว
แซ็ค : แองจีล!! แองจีล!!
เจเนซิส : 「นายจะออกเดินทางไปด้วยมั้ย? ไปสู่ดวงดาวที่เกลียดชังพวกเรา」
แซ็ค : หุบปาก!!!
เจเนซิส :「รอจนกว่าเวลาอันมาถึง วันพรุ่งนี้ที่เต็มไปขวากนามและลมพายุที่ปฏิเสธพวกเรา」 ดูเหมือนว่าวันนี้เซฟิรอธจะไม่ได้มาด้วย สงสัยจริงนะว่าทำไม

แซ็คพยายามจะวิ่งตามแองจีลที่กำลังจะหนีไป แต่เขาก็เจอเจเนซิสขัดขาจนล้ม เจเนซิสได้เรียกบาฮามุทออกมาต่อกรกับแซ็ค แซ็คไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยายามจัดการกับมัน

เมื่อการต่อสู้จบลงแซ็คก็เก็บเอามาเทเรียบาฮามุทไป

แซ็ค : นายจะใช้สัตว์อัญเชิญทำไม! ความภาคภูมิใจในฐานะโซลเยอร์ไปไหนกันหมด!!

เจเนซิส : พวกเราก็แค่...มอนสเตอร์
แซ็ค : หา!?
เจเนซิส : เราได้สูญเสียความฝันและความภาคภูมิไปหมดแล้ว
แซ็ค : โซลเยอร์ไม่ใช่...มอนสเตอร์

เจเนซิสกางปีกสีดำของเขาออกและบินหนีไป ในไม่ช้าหมู่บ้านบาโนล่าก็ได้ถูกฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิดถล่มทิ้ง ตัวแซ็คเองก็รีบวิ่งมาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของชินระ ซึ่งเส็งเองก็ได้ล่วงหน้าขึ้นไปรออยู่ก่อนแล้ว

แซ็ค : แองจีล...


 

 

บทที่ 4 การพบพานของสหายรัก

 

แซ็ค : แองจีล...สงครามได้จบลงแล้ว ทุกคนก็คงจะดีใจ แต่ว่าฉัน...

แม่ของแองจีล: ดาบที่อยู่ทางด้านนั้นน่ะคือความภาคภูมิใจของครอบครัวเราเชียวนะ
แองจีล :ก็ชีวิตของแกมันสำคัญกว่าดาบเล่มนี้น่ะนะ แต่ก็...นิดเดียวเท่านั้นแหละ

แซ็ค : นายไปไหนของนายกัน?

ขณะที่แซ็คกำลังเฝ้าวิตกถึงแองจีลอยู่นั้น เขาก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งจากสหายที่ไม่คาดคิด

แซ็ค : แซ็คครับ
เซฟิรอธ : ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ แซ็ค
แซ็ค : เซฟิรอธ
เซฟิรอธ : มาที่ห้องของลาซาร์ดตอนนี้เลย
แซ็ค : ขะ...เข้าใจแล้ว

แซ็คมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของลาซาร์ด ที่นั่นเซฟิรอธและลาซาร์ดได้รอต้อนรับเขาอยู่

ลาซาร์ด : ยินดีด้วยนะ จากวันนี้ไปนายได้เลื่อนขั้นเป็นโซลเยอน์เฟิร์สคลาสแล้ว

แซ็ค : น่าแปลกนะ...ผมไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อยเลย
ลาซาร์ด : เรื่องราวต่างๆ มากมายได้เกิดขึ้น ฉันเองก็ไม่แปลกใจที่นายจะรู้สึกแบบนั้น แซ็ค ฉันรู้ว่ามันกระทันหันไปหน่อยแต่ฉันมีเรื่องจะไหว้วานนาย
แซ็ค : แผนการสำหรับภารกิจชิ้นใหม่ของผมงั้นเหรอ?
เซฟิรอธ : พวกเราขออภัย
แซ็ค : ไม่เป็นไร... 

แซ็คได้รับคำสั่งให้กลับไปยังห้องบัญชาการเพื่อพูดคุยกับพนักงานบริษัทชินระคนหนึ่งที่ต้องการพบเขา หลังจากที่แซ็คได้เปลี่ยนเอาชุดของเฟิร์สคลาสมาใส่ และได้พูดคุยกับพนักงานที่มาอธิบายเรื่องของมาเทเรียให้เขาฟังแล้ว แซ็คก็มุ่งกลับไปยังห้องของลาซาร์ด

ลาซาร์ด : ทางบริษัทได้ขอให้ทำการลอบสังหารเจเนซิสและแองจีล

แซ็ค : คุณกำลังจะขอให้ผมเป็นคนทำงั้นเหรอ!!?
ลาซาร์ด : ไม่ กองกำลังของชินระจะจัดการเอง
แซ็ค : แล้วผมล่ะ?
ลาซาร์ด : ดูเหมือนว่าทางบริษัทจะไม่ไว้วางใจนายนะ
เซฟิรอธ : เพราะเป็นเพื่อนกับศัตรูสินะ
แซ็ค : งั้นผมก็ไม่ต้องทำอะไรสิ
เซฟิรอธ : นั่นเป็นเหตุที่ทำให้ฉันต้องลงมือเอง
แซ็ค : เพื่อฆ่าพวกเขางั้นเหรอ!!?

ยังไม่ทันที่เซฟิรอธจะได้ตอบ จังหวะนี้เองเสียงสัญญาณเตือนภัยรอบตึกชินระก็ดังขึ้นขัดจังหวะอย่างสนั่นหวั่นไหว

ลาซาร์ด : มีผู้บุกรุก!!
แซ็ค : ที่ไหน?
ลาซาร์ด : เซฟิรอธไปที่ห้องของท่านประธาน แซ็คนายไปดูแลทางเข้า

แซ็ค : ไว้ใจได้เลย

หลังจากที่แซ็คกำจัดศัตรูที่อยู่หน้าทางเข้าอาคารชินระได้หมดเซฟิรอธก็รากฎตัวขึ้น ทั้งสองได้มุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองเพื่อเข้าไปจัดการกับเหล่าศัตรูที่อยู่ในเมือง

แซ็ค : เฮ้! พี่สาวคนนั้นกำลังอยู่ในอันตราย

ขณะที่แซ็คกำลังจะกระโจนเข้าไปช่วยสาวสวยคนหนึ่ง เรโน่ผู้เป็นหนึ่งในกลุ่มเทิร์คก็ปรากฏตัวขึ้นมา

เรโน่ : เขต 8 นี้ปล่อยให้เทิร์คดูแลเองซตโตะ
แซ็ค : นี่ไม่ใช่เวลามาเสียเวลาเถียงกันแบบนี้นะ เส็ง! ช่วยพูดอะไรบ้างสิ
รู๊ด : ไม่ต้องห่วงเธอหรอกน่า
แซ็ค : หา!? โอ้~

ช่วงนี้เองพี่สาวคนที่แซ็คพูดถึงก็สามารถกำจัดศัตรูได้จนหมด

เส็ง : พื้นที่อื่นๆ เรียบร้อยดีมั้ย?
เรโน่ : ดูเหมือนว่าเจ้าพวกนี้จะออกคืบคลานไปทั่วทุกหนทุกแห่งของมิดการ์แล้วล่ะซตโตะ
รู๊ด : กระทั่งโซลเยอร์ก็ยังมีการเคลื่อนไหวแล้วเหมือนกัน
เส็ง : เรโน่ รู๊ด
เรโน่ : เข้าใจแล้วซตโตะ
เส็ง : จัดการให้เรียบร้อยละกัน
รู๊ด : เข้าใจแล้ว

รู๊ดและเรโน่ออกไปดูแลความเรียบร้อยของเขตอื่นๆ ขณะเดียวกันพี่สาวคนนั้นก็เดินเข้ามาหาแซ็คและเส็ง

แซ็ค : เทิร์คต้องทำงานแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย?
ซิสเนย์ : ในฐานะโซลเยอร์ ดูท่าทางเธอจะผ่อนคลายมากไปหน่อยรึเปล่า
แซ็ค : แหม่ ก่อนหน้านี้นะฉันก็มีงานล้นมือเหมือนกันนะ เดี๋ยวสิ...เธอเองก็เป็นเทิร์คเหมือนกันเหรอ?
ซิสเนย์ : ซิสเนย์
แซ็ค : ฉันเป็นโซลเยอร์นะ ชื่อแซ็ค

แซ็คยื่นมืออกไปจะขอจับมือกับซิสเนย์ แต่เส็งดันโผล่มากลางวงเสียก่อน

เส็ง : แซ็ค นายไม่มีภารกิจต้องทำเหรอ? (ถึงมามัวเอ้อระเหยจีบสาวอยู่เนี่ย)
แซ็ค : เป้าหมายของภารกิจของพวกเรามันเหมือนกันน่า ฉันช่วยกำจัดศัตรูอยู่แถวๆ นี้ไม่ได้เหรอ?

เส็ง : ขอบใจแต่...
ซิสเนย์ : ระวังตัวด้วยนะ แล้วไว้เจอกัน เส็ง แซ็ค

ซิสเนย์ขยิบตาให้กับแซ็คเป็นการบอกลา ก่อนที่จะวิ่งไปยังพื้นที่อื่น แซ็ครู้สึกว่าเขามีภารกิจใหม่ที่ต้องทำแล้วสิ ว่าแล้วก็หนึ่ง สอง สาม วิ่งตามเธอไปดีกว่า~

แซ็ควิ่งตามซิสเนย์ไปยังอีกพื้นที่หนึ่งและเขาก็เจอซิสเนย์ตกอยู่ในวิกฤต เธอกำลังจะเสียท่าให้กับพวกร่างก๊อปปี้ แซ็คจึงรีบเข้าไปช่วยกำจัดมัน

พอชนะแล้วซิสเนย์จะเข้าไปดูศพของพวกร่างก๊อปปี้ เธอจ้องมองไปยังปีกสีดำของพวกมัน

ซิสเนย์ : เมื่อครั้งยังเด็กฉันมักคิดอยากมีปีกเหมือนกับเทวดา
แซ็ค : มนุษย์ที่มีปีกก็เป็นแค่มอนสเตอร์เท่านั้นแหละ
ซิสเนย์ : คนที่มีปีกน่ะคือผู้ที่เป็นอิสระนะ พวกเขาไม่ใช่มอนสเตอร์

ซิสเนย์กล่าวขอบคุณและล่ำลากับแซ็ค โดยหวังว่าจะได้พบกันใหม่เร็วๆ นี้ ส่วนแซ็คเองก็ได้รับสายจากเซฟิรอธ

เซฟิรอธ : ฉันจัดการกวาดล้างเขต 8 เรียบร้อยแล้ว มาหาฉันที่เตาปฏิกรณ์เขต 5 ซะ
แซ็ค : นายค้นพบอะไรที่นั่นเหรอ?
เซฟิรอธ : ก็เรื่องของแองจีลน่ะ
แซ็ค : นายพบอะไรจริงๆ แล้วงั้นเหรอ?
เซฟิรอธ : กองทัพก็กำลังเคลื่อนไหวอยู่เช่นกัน ดูเหมือนนี่เป็นโอกาสที่พวกเราจะได้ไปสำรวจ (พอเค้าถามว่าไปไหนมา ก็จะได้แหลตอบได้ว่าไปกวาดล้างศัตรูในเมืองน่ะแหละ)
แซ็ค : นายคิดจะทำอะไรกันแน่!!

แซ็คตะโกนใส่ใส่โทรศัพท์อย่างรุนแรง จนเซฟิรอธต้องดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหู ก่อนที่เขาจะหลับตาและดึงโทรศัพท์ของเขากลับไปแนบข้างหูอีกครั้ง

เซฟิรอธ : ก็หาทางที่ไม่ต้องฆ่าพวกเขาน่ะแหละ
แซ็ค : จริงๆ เหรอ?
เซฟิรอธ : เออจริงสิฟะ
แซ็ค : เจ๋งเป้ง!! ยอดไปเลย!!

แซ็คเดินทางมาจนถึงเตาปฏิกรณ์เขต 5 และต้องพบเจอกับสิ่งที่แปลกประหลาด มอนสเตอร์ที่มีหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับแองจีลบินเข้ามาจู่โจมีเขา แซ็คไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้กับมัน หลังจากที่เขากำจัดมันลงได้ เขาก็ก้มลงไปสำรวจที่ตัวมัน

แซ็ค : ทำไมหน้าของแองจีลถึงปรากฏบนตัวเจ้าพวกนี้ได้?
เซฟิรอธ : พวกมันก็เหมือนกับตัวโคลนของเจเนซิสน่ะแหละ...เมื่อนานมาแล้ว ในห้องฝึกซ้อมของสำนักงานใหญ่
แซ็ค : เอ๋...
เซฟิรอธ : ตอนที่พวกเซคันด์คลาสไม่อยู่ เราเข้าไปทำอะไรบ้าๆ ด้วยกันที่นั่น เจเนซิส แองจีล และฉัน
แซ็ค : ทุกคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ สินะ?
เซฟิรอธ : อื้ม ก็อย่างนั้นแหละ

เซฟิรอธเล่าให้ฟังถึงเรื่องการฝึกซ้อมในวันนั้น เจเนซิส แองจีล และเซฟิรอธกำลังยืนอยู่บนปากกระบอกปืนใหญ่ของเมืองจูน่อน เจเนซิสค่อยๆ อ่านบทละครที่เขาชื่นชอบให้กับเพื่อนๆ ฟัง

เจเนซิส :「ของขวัญจากเทพธิดาอันเป็นปริศนาทสุดลึกล้ำ พวกเราได้ออกเดินทางเพื่อตามล่าของขวัญสิ่งนั้น ทว่าคลื่นที่ซัดกระหน่ำและปกคลุมอยู่เหนือหัวใจทำให้พวกเราต้องรู้สึกถึงความสิ้นหวัง」
เซฟิรอธ :「Loveless」 บทที่ 1
เจเนซิส : จำแม่นจริงนะ
เซฟิรอธ : ลองได้ยินคนอ่านให้ฟังทุกวัน ถึงไม่อยากจำแต่มันก็ฝังหัวไปเองแหละ

เมื่อสิ้นเสียงลงทุกคนก็ขับดาบขึ้นมาและเตรียมที่จะเข้าห้ำหั่น เอ้ย! ฝึกซ้อมกันเบาๆ

แองจีล : อย่ากลัวจนเผลอทำดาบตกล่ะ
เจเนซิส : ใครกันแน่?

 

ทั้งสองวิ่งเข้ามาและฟาดฟันดาบใส่เซฟิรอธอย่างไม่หยุดยั้ง แต่เซฟิรอธก็รับการโจมตีไว้ได้ทั้งหมด แถมยังรุกกลับใส่ทั้งคู่ได้อย่างง่ายดาย ทั้งคู่ไม่สามารถต่อกรกับเซฟิรอธได้เลย จนกระทั่งเซฟิรอธยังดูถูกว่าดาบที่พวกเขาใช้เป็นแค่ของเด็กเล่น

แองจีล : สมกับที่เป็นเซฟิรอธเลย
เจเนซิส : แองจีล นายถอยไป ฉันอยากที่จะดวลกับเซฟิรอธตัวต่อตัว
แองจีล : เจเนซิส
เจเนซิส : ฉันเองก็อยากจะเป็นวีรบุรุษเหมือนกัน

เจเนซิสค่อยๆ ร่ายอาคมใส่ดาบจนกระทั่งดาบของเขากลายเป็นไลท์เซเบอร์

เซฟิรอธ : ดีมาก
เจเนซิส : เมื่อไหร่นายจะหยุดทำท่าทางเหมือนไม่หยี่หระนั่นซะที!

เจเนซิสบุกเข้าไปสู้กับเซฟิรอธคนเดียวแต่ก็ยังไม่สามารถต่อกรกับเซฟิรอธได้อยู่ดี เขาพยายามหนีห่างและซัดเวทมนต์จำนวนมากใส่เซฟิรอธ ช่วงที่เซฟิรอธกำลังฟาดปัดห่ากระสุนเวทมนต์ที่พุ่งมาทางเขาอยู่นั้นเอง เจเนซิสก็ได้เตรียมชาร์จพลังเพื่อยิงแบบเน้นๆ ใส่เซฟิรอธ ทว่าแองจีลก็ดันปรากฏตัวขึ้นขวางเจเนซิสซะก่อน

แองจีล : หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ คิดจะทำลายอาคารนี้รึไงกัน?
เจเนซิส : ฉันแค่อยากเป็นวีรบุรุษเท่านั้น!!!

เจเนซิสยื่นฝ่ามือของเขาเข้าไปประชิดหน้าของแองจีลและยิงเวทมนต์ใส่ในระยะประชิดจนแองจีลต้องกระเด็นไป จังหวะนี้เองเซฟิรอธก็หลุดรอดจากดงกระสุนเวทมนต์ของเจเนซิสมาได้ ในตอนนี้เซฟิรอธเริ่มที่จะเอาจริงขึ้นมานิดๆ แล้ว เขาพุ่งเข้าไปฟาดฟันดาบของเขาใส่เจเนซิสด้วยความเร็วและความต่อเนื่องที่มากกว่าที่เคย การต่อสู้ของทั้งสองคนค่อยๆ ทำให้ฐานทัพอันยิ่งใหญ่ของเมืองจูน่อนค่อยๆ พังทลายลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแองจีลกระโจนเข้ามาขวางกลางระหว่างทั้งสองคน

แองจีล : พอได้แล้ว!!
เซฟิรอธ : แองจีล...
เจเนซิส : อย่ามาขวาง!!

เจเนซิสใช้มือซ้ายของเขาปล่อยพลังเวทใส่ดาบของแองจีลจนหักเป็นสองท่อน ทว่าดาบของแองจีลที่ขาดเป็นสองท่อนนั้นก็กระเด็นมาเฉือนใส่ไหล่ของเจเนซิส เจเนซิสจึงล้มลงด้วยความเจ็บปวด และแล้วทิวทัศน์รอบๆ ข้างก็กลับเป็นภาพปกติ การฝึกซ้อมเป็นอันยุติลง

เจเนซิส : ก็แค่แผลแมวข่วนเท่านั้นแหละ ปล่อยไว้เฉยๆ เดี๋ยวมันก็หาย「แม้ว่าจะไม่มีสัญญาสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่ฉันขอสาบานว่าฉันจะกลับมา ณ ที่ๆ คุณยืนอยู่」

และแล้วเรื่องเล่าภาษาคนแก่ของเซฟิรอธก็จบลง

แซ็ค : แล้วตัวเขาเป็นยังไงบ้างล่ะ?
เซฟิรอธ : ก็ไม่มีปัญหาอะไร เจเนซิสแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น แต่ว่าแองจีล...

แซ็ค : แองจีล? เกิดอะไรขึ้นกับเขางั้นเหรอ?
เซฟิรอธ : หลังจากนั้นมา ฉันกับแองจีลก็ไม่ค่อยได้เจอกันซักเท่าไหร่

แซ็ค : ทำไมล่ะ?
เซฟิรอธ : ก็เรื่องเดิมๆ หัวใจที่สูญเสียความฝันและความหวัง
แซ็ค : อ่า..ฉันพอจะเข้าใจแล้วว่าหมายถึงอะไร

เซฟิรอธเดินไปสำรวจที่ร่างก๊อปปี้ของแองจีลที่เป็นศพไปแล้ว

เซฟิรอธ : เป็นความจริงสินะ ที่ว่าทั้งสองได้ไปพบกับฮอลันเดอร์
แซ็ค : ทำไมถึงเป็นงั้นล่ะ

เซฟิรอธและแซ็คได้ออกสำรวจเตาปฏิกรณ์ด้วยกัน เมื่อเข้าไปถึงด้านในแซ็คก็ต้องตกใจเมื่อเขาได้พบกับตู้ทดลองที่ใช้สร้างร่างก๊อปปี้ของแองจีล เซฟิรอธพยายามที่จะหาเงื่อนงำเกี่ยวกับเรื่องนี้ เคาเริ่มค้นเอกสารภายในห้องและบอกให้แซ็คทำแบบเดียวกัน ทว่าแซ็คเริ่มหยิบเอกสารมาอ่านได้ไม่ทันไรเขาก็เบื่อซะแล้ว

แซ็ค : เห้อ...
เซฟิรอธ : สิ่งเหล่านี้เป็นเอกสารในการค้นคว้าวิจัยของฮอลันเดอร์ มันบอกว่าการวิจัยนี้ได้ให้กำเนิดเด็กธรรมดาๆ ขึ้นมาคนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นผลงานที่ล้มเหลว

เซฟิรอธสั่งให้แซ็คค้นหาข้อมูลต่อไป แต่ด้วยความเป็นเด็กแซ็คเลยพยายามจะเผ่นออกจากห้อง แต่ก็โดนเซฟิรอธใช้ให้หาข้อมูลต่อ

เซฟิรอธ : หาให้ทั่วๆ

ขณะที่แซ็คกำลังอ่านเอกสารบางอย่าง เซฟิรอธก็เดินเข้ามาและเริ่มเล่าถึงเรื่องในอดีตอีกครั้งหนึ่ง

เซฟิรอธ : (เขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทำไมมันถึงไม่หายซักที?คนที่คอยดูแลเจเนซิสอยู่ในตอนนั้นก็คือฮอลันเดอร์)

เซฟิรอธเล่าถึงตอนที่เขาและแองจีลไปเฝ้าเจเนซิสที่หน้าห้องผ่าตัด

แองจีล : ดร.ฮอลันเดอร์ เจเนซิสเป็นยังไงบ้าง?
ฮอลันเดอร์ : อาการไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ฉันได้พยายามจะฉีดมาโคเข้าไป แต่ดูเหมือนมันจะช่วยอะไรไม่ได้
แองจีล : ไม่มีทางอื่นที่จะรักษาเข้าได้เลยเหรอ?
ฮอลันเดอร์ : ก่อนอื่นเลยคือเขาต้องการเลือด

เซฟิรอธพยายามจะขอให้เอาเลือดของเขาไปใช้ได้เลย แต่แองจีลกลับห้ามเอาไว้ รวมทั้งฮอลันเดอร์ด้วย

ฮอลันเดอร์ : นายไม่ต้องหรอก

เซฟิรอธ : (ทำไมถึงไม่ยอมให้ฉันช่วยพวก G โซลเยอร์)

เมื่อเซฟิรอธเล่าเรื่องนี้ให้แก่แซ็คฟังจนจบ เขาก็เริ่มค้นเอกสารภายในห้องต่อ ซึ่งหลังจากที่แซ็คได้ค้นในส่วนของตัวเขาเองเสร๋จแล้ว เขาก็เดินเข้าไปถามอะไรจากเซฟิรอธ

เซฟิรอธ : คนที่เกิดขึ้นจากโปรเจคท์ G ก็คือเจเนซิส
แซ็ค : โปรเจคท์ G
เซฟิรอธ : โปรเจคท์เจเนซิส ข้อมูลในเอกสารของที่นี่กล่าวว่าเจเนซิสนั้นกำลังเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ
แซ็ค : เสื่อมสภาพ?
เซฟิรอธ : ไม่ใช่แค่นั้นนะ
แซ็ค : พวกโคลนด้วยเหรอ?
เซฟิรอธ : พวกมันก็คือ

ทันใดนั้นฮอลันเดอร์ก็เดินเข้ามาในห้องเช่นกัน ดูเหมือนเขาจะตกใจมากกับการปรากฏตัวของเซฟิรอธ

ฮอลันเดอร์ : เซ...เซฟิรอธ!
เซฟิรอธ : ฮอลันเดอร์ นายอยู่ที่นี่ๆ จริงๆ ด้วย
ฮอลันเดอร์ : การเสื่อมสภาพของแองจีล คิดว่าใครกันที่จะหยุดยั้งสิ่งเหล่านี้ได้? (ก็มีฉันคนเดียวน่ะแหละ)

เจเนซิสบินโฉบลงมาจากด้านบน

เซฟิรอธ : เจเนซิส...
เจเนซิส : ฉันไม่ปล่อยฮอลันเดอร์ให้นายหรอก

ฮอลันเดอร์พยายามที่จะหนีไป

เซฟิรอธ : แซ็ค! ตามฮอลันเดอร์ไป
เจเนซิส :「คุณผู้เป็นที่รักของเทพธิดาและกลับมิได้รับการอวยพรใดๆ จากเธอ แม้จะเป็นวีรบุรุษที่โลกชิงชัง」
เซฟิรอธ :「Loveless」 แกนี่ไม่เปลี่ยนเลยนะ
เจเนซิส :「บัดนี้เพื่อนทั้งสามได้กลับมารวมตัวกัน หนึ่งผู้ถูกไล่ลา หนึ่งผู้ออกเดินทาง และหนึ่งผู้ที่ได้กลายเป็นวีรบุรุษ」 ระหว่างพวกเราและแองจีล ใครกันที่เป็นวีรบุรุษ ฉัน? หรืออาจจะนาย?

เซฟิรอธ : ถ้านายอยากเป็นวีรบุรุษนักก็เชิญ
เจเนซิส : อืม...เกียรติคุณทั้งหมดของนาย มันควรที่จะเป็นของฉันนะ
เซฟิรอธ : ไร้สาระ
เจเนซิส : จนกระทั่งถึงตอนนี้ จริงๆ แล้วสิ่งที่ฉันต้องการก็คือ 「ของขวัญจากเทพธิดา」

อีกด้านหนึ่งแซ็คกำลังวิ่งไล่จับกับฮอลันเดอร์อย่างเอาเป็นเอาตาย แซ็ควิ่งไล่ฮอลันเดอร์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดทาง

แซ็ค : นายรู้มั้ยว่าสิ่งที่นายทำมันผิด? พูดอะไรบ้างสิ ฮอลันเดอร์!

ก่อนที่แซ็คจะจับตัวฮอลันเดอร์ได้ บัสเตอร์ซอร์ดเล่มโตของแองจีลก็ปรากฏขึ้นมาขวางทางเข้าไว้

แซ็ค : นายคิดจะทำอะไรกัน?
แองจีล : ครองโลก
แซ็ค : เลิกพูดเล่นซะทีจะได้มั้ย?
แองจีล : งั้นก็ล้างแค้น
แซ็ค : กับใครกัน?

แองจีลไม่ยอมตอบอะไร

แซ็ค : แองจีล!!!

แองจีลกางปีกสีขาวของเขาออกมา

แองจีล : ฉัน....ฉันได้กลายเป็นมอนสเตอร์ไปแล้ว ในฐานะของมอนสเตอร์ สิ่งที่ฉันคิดก็มีแค่การครองโลกและการล้างแค้นเท่านั้น

แซ็ค : ไม่ใช่นะ ปีกไม่ใช่สัญลักษณ์ของมอนสเตอร์ซะหน่อย
แองจีล : ถ้างั้นแล้ว มันคืออะไรกันล่ะ?
แซ็ค : ปีกของเทวดาไง
แองจีล : งั้นถ้าฉันเป็นเทวดา แล้วฉันควรจะมีเป้าหมายอย่างไร? ฉันควรจะมีความฝันแบบไหน?
แซ็ค : แองจีล...

แองจีลเอาดาบของเขาปักลงกับพื้น

แองจีล : เทวดาต่างก็มีความฝันเพียงหนึ่งเดียว
แซ็ค : บอกฉันมาสิ
แองจีล : คือการได้เป็นมนุษย์!!

แองจีลพุ่งเข้าไปต่อยที่ท้องของแซ็คอย่างรุนแรงจนแซ็คกระเด็นออกไป แซ็คลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่คิดจะสู้แม้แต่น้อย เขายิ้มให้กับแองจีล

แองจีล : สู้สิ!!!

 

แซ็คยังคงยิ้มเช่นเดิม เขาส่ายหัวปฏิเสธที่จะสู้กับแองจีลด้วยเหตุลที่ว่าเขาไม่ได้มาเพื่อสู้กับเพื่อน แต่มาเพื่อพาเพื่อนของเขากลับไป แองจีลจึงซัดเวทมนต์ไล่ตามพื้นไปที่ตัวแซ็ค ซึ่งแซ็คก็ไม่มีเวลาพอที่จะหลบได้พ้น ท้ายที่สุดแล้วพื้นบริเวณที่แซ็คยืนอยู่จึงถล่มลงไป และแซ็คก็ได้ตกลงไปยังเขตสลัมด้านล่าง


 

 

 

บทที่ 5 ไปเดทกันซักครั้งเป็นไง

 

หลังจากที่แซ็คได้ตกลงไปในเขตสลัมด้านล่าง เขาก็หมดสติไป..ในความฝันนั้นแซ็คได้ยินเสียงของแม่ของเขา แต่แล้วเขาก็ถูกเสียงของผู้หญิงที่เขาไม่คุ้นเคยเรียกให้ตื่นขึ้นมาอย่างมึนๆ

หญิงสาว : เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
แซ็ค : แม่..ผมเพียงอยากจะช่วยเพื่อนของผม แต่ว่าตอนนี้...ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไง

หญิงสาว : ฮัลโหล~
แซ็ค : แม่...?
แอริธ : ฮัลโหล~
แซ็ค : สวรคค์งั้นเหรอ?
แอริธ : ไม่โชคดีขนาดนั้นหรอก ที่นี่คือโบสถ์ในสลัม

แซ็ค : นางฟ้า?
แอริธ : ฉันชื่อแอริธ เธอตกลงมาจากด้านบนน่ะ ทำให้ฉันตกใจมากเลย
แซ็ค : เธอคือคนที่ช่วยฉันไว้เหรอ
แอริธ : เปล่านะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ที่ทำก็มีแต่ ฮัลโหล~
แซ็ค : ฮ่ะ ฮ่ะ ขอบใจมากนะแอริธ ฉันชื่อแซ็คนะ ฉันคงต้องหาทางตอบแทนเธอซะแล้ว
แอริธ : ไม่ล่ะ ไม่ต้องหรอก
แซ็ค : ไม่ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด! เอางี้ไปเดทกันซักครั้งเป็นไง?
แอริธ : บ้า...หยุดนะ! ห้ามเข้าไปเหยียบดอกไม้นะ

แซ็ค : ทำไมละ?
แอริธ : คนปกติเค้าควรจะให้ความสำคัญกับดอกไม้นะ
แซ็ค : ขอโทษด้วยละกัน ฉันมันไม่ใช่คนปกติซักเท่าไหร่ ดอกไม้เป็นสิ่งงดงามที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นกันซักเท่าไหร่นะ ก็มันปลูกไม่ขึ้นในมิดการ์นี้นา
แอริธ : แต่ภายในโบสถ์แห่งนี้มันกลับเติบโตได้ดีมากนะ
แซ็ค : ฉันคงขายดอกไม้เพื่อแลกเป็นเงินมาแล้ว แผนการดอกไม้เต็มมิดการ์ เงินเต็มกระเป๋าไง!
แอริธ : แผนการดอกไม้เต็มมิดการ์ เงินเต็มกระเป๋า? ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อนเลย

แซ็คเริ่มรู้สึกตัวว่าถึงเวลาที่เขาควรกลับได้แล้ว ทว่าแซ็คไม่ค่อยรู้เรื่องทางในสลัมนัก เขาจึงขอร้องให้แอริธช่วยพาเขาไปส่งให้หน่อยซึ่งแอริธก็ตกลงยินยอม แอริธถามแซ็คว่าเขาต้องการจะไปไหนแต่แซ็คเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แอริธบอกกับแซ็คว่าพวกเรากำลังอยู่ในสลัมเขต 5 จากนั้นทั้งสองก็เดินทางไปยังตลาดของเขต 5 ด้วยกัน แอริธได้ชี้ให้แซ็คเห็นทางออกไปยังเขตอื่นๆ แต่ก่อนที่แซ็คจะไปเขาก็ขอโอ้เอ้ซักนิดด้วยการซื้อริบบิ้นติดผมอันใหม่เป็นของขวัญให้กับเธอ แอริธของคุณแซ็คและสัญญาว่าจะรักษามันอย่างดี แต่ก่อนที่จะจากกันเธอบอกกับแซ็คว่าถ้ายังพอมีเวลาช่วยไปที่สวนสาธารณะด้วยกันหน่อยได้มั้ย ซึ่งแซ็คก็ไม่ลังเลที่จะตอบไปว่า ได้เลย

แอริธ : เธอเคยพบกับโซลเยอร์มาก่อนมั้ย?
แซ็ค : อาจจะนะ
แอริธ : ฉันสงสัยว่านั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีรึเปล่า
แซ็ค : หมายความว่ายังไงเหรอ?
แอริธ : เด็กทุกๆ คนล้วนมีความฝันว่าอยากจะเป็นวีรบุรุษที่ช่วยปกป้องโลก แต่ไม่เพียงแค่นั้น ฉันไม่แน่ใจว่าโซลเยอร์ต้องได้รับการผ่าตัดพิเศษมาก่อนมั้ย?
แซ็ค : ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น
แอริธ : ฉันว่าเป็นคนปกตินี่แหละน่ายินดีที่สุดแล้ว ไม่เหมือนพวกโซลเยอร์ที่ดูแปลก
แซ็ค : อืม แปลกงั้นเหรอ?
แอริธ : นอกจากนั้นยังน่ากลัวด้วย พวกเขาชอบการต่อสู้มากๆ เลยนี่นะ
แซ็ค : ตัวฉันเองก็เป็นโซลเยอร์เหมือนกันนะ
แอริธ : ขอโทษ..

บรรยากาศมาคุเริ่มปกคลุมทั้งสองคน ทว่าแอริธก็สามารถทลายมันทิ้งอย่างง่ายดายด้วยการหยอดคำพูดหวานๆ ของเธอ

แอริธ : งดงามจังนะ
แซ็ค : หน้าของฉันเหรอ?
แอริธ : ฮิฮิ ตาต่างหาก
แซ็ค : เธอชอบมันงั้นเหรอ? งั้นก็มองมันให้ชัดสิ ตาของปิศาจ สัญลักษณ์ของโซลเยอร์ไง
แอริธ : ใกล้เกินไปแล้ว!!

 

แซ็ค : ฮะ ฮะ พอเธอมองเข้าไปแล้ว เธอรู้สึกได้ว่ามันเหมือนเธอได้มองท้องฟ้าใช่มั้ยล่ะ?
แอริธ : ถ้าเป็นท้องฟ้านี้ล่ะก้อ...ฉันคงไม่ต้องรู้สึกกลัวล่ะ
แซ็ค : ถึงแม้ว่าในตัวฉันจะมีสิ่งที่ผิดปกติอยู่ แอริธ..แต่ว่ามันไม่เป็นปัญหากับเธอใช่มั้ย?
แอริธ : วันนี้ฉันพึ่งคิดอยู่หยกๆ ว่าวันนี้อาจจะมีโซลเยอร์ตกลงมาจากฟ้า และมันก็เกิดขึ้นจริงๆ
แซ็ค : มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายใช่มั้ยล่ะ
แอริธ : อื้อ

ระหว่างกำลังสวีทหวานจี๊ดกันอยู่เสียงโทรศัพท์ของมารผจญก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ

เส็ง : แซ็ค..กลับมาที่ตึกชินระตอนนี้เลย เจเนซิสเริ่มเปิดฉากโจมตีครั้งใหม่แล้ว
แซ็ค : เข้าใจแล้ว

แซ็ครีบวางสายอย่างรวดเร็ว

แซ็ค : ดูเหมือนว่าฉันต้องไปแล้วล่ะ
แอริธ : ฉันเองก็จะไปแล้วเหมือนกัน แล้วเราจะได้เจอกันอีกใช่มั้ย?
แซ็ค : แน่นอน!
แอริธ : ไปช่วยเพื่อนใช่มั้ย?
แซ็ค : หา?
แอริธ : เธอฝันแบบนั้นนี่
แซ็ค : ใช่...ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่เป็นไรแน่

แซ็ครีบใช้เส้นทางที่แอริธเคยชี้นำเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังสำนักงานใหญ่ ระหว่างที่เขากำลังอยู่บนทางหลวงแซ็คต้องต่อสู้กับเหล่าร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสที่ปรากฏตัวขึ้นมาขวางทางเขา เขาผ่านพวกมันมาได้เรื่อยๆ จนกระทั่งเขาได้พบกับใครบางคนที่ไม่คาดคิด

แองจีล : ขอยืมพลังของแกหน่อยสิ!
แซ็ค : ทำไมต้องเป็นฉัน? ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่านายกำลังคิดจะทำอะไรอยู่
แองจีล : ความจริงก็คือ...ตัวฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ช่วงเวลาที่ผ่านมาฉันรู้สึกสับสน แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ฉันไม่อาจทอดทิ้งความภาคภูมิใจที่อยู่คู่กับบัสเตอร์ซอร์ดได้ แซ็ค ร่วมกันสู้กับฉันนะ ศัตรูของพวกเราคือเหล่าผู้ที่ทำความเจ็บปวดให้กับโลกใบนี้
แซ็ค : พลังของฉัน....ฉันให้นายยืมก็ได้

 

ว่าแล้วแองจีลก็จับแซ็คหิ้วปีกแล้วก็บินขึ้นฟ้า

แองจีล : เราจะมัวอืดอาดอยู่ที่นี่ไม่ได้
แซ็ค : เฮ้ยย!! (ปล่อยช้านนนน~)
แองจีล : การบินนี่มันก็ให้ความรู้สึกไม่เลวนะ

แองจีลพาแซ็คบินไปถึงสำนักงานใหญ่อย่างรวดเร็ว พวกเขาเข้าไปทางหน้าต่างที่แตกอยู่ ด้านในนั้นพวกเขาได้พบกับเซฟิรอธที่กำลังสู้อยู่กับพวกร่างก๊อปปี้ เซฟิรอธอาสาที่จะรับผิดชอบชั้นนี้ แองจีลจะลงไปดูด้านล่าง ส่วนแซ็คต้องขึ้นไปดูชั้นบนเพื่อดูว่าดร.โฮโจยังปลอดภัยอยู่รึเปล่า

แซ็ค : โชคดีที่คุณยังปลอดภัย
โฮโจ : ท่าทางการรวมตัวจะไม่สมบูรณ์แบบ..
แซ็ค : ตอนนี้อาคารอุดมไปด้วยพวกร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสแล้วนะครับ ผมต้องพาคุณไปยังที่ปลอดภัยแล้ว
โฮโจ : นายเป็นคนที่จะมาคุ้มครองฉันงั้นเหรอ?
แซ็ค : ยังไงก็ตาม รีบหนีไปด้วยกันเถอะครับ
โฮโจ : คุกๆๆ มอนสเตอร์ที่เสื่อมสภาพแบบนั้นไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก
แซ็ค : คุณหมายถึง...เจเนซิสงั้นเหรอ?
โฮโจ : ใช่แล้ว มันก็คือร่างชีวิตของปัญญาที่ตกมาจากฟากฟ้า ผลผลิตโง่ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งนานมาแล้ว
แซ็ค : ร่างชีวิตของปัญญา?
โฮโจ : หายนะที่มาจากฟากฟ้า เจโนว่าไง
แซ็ค : เหอ...
โฮโจ : ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร งานของแกไม่ใช่การคิด งานของแกคือการปกป้องฉันผู้เป็นมันสมอง

แซ็คที่ยังมึนๆ ก็ได้แต่ยืนเฝ้าอยู่ในห้องทดลอง ระหว่างที่แซ็คกำลังจะช่วยโฮโจทำการทดลองบางอย่าง บุคคลที่พวกเขาพูดถึงก็ปรากฏตัวขึ้น เจเนซิสรีบใช้ดาบของเขาจ่อไปที่คอของโฮโจ

โฮโจ : พูดออกมาซะเจ้าปิศาจ! นี่คือคำสั่งของฮอลันเดอร์ใช่มั้ย? แกเชื่อจริงๆ เหรอว่าถ้าทำตามคำสั่งของฮอลันเดอร์แล้วการเสื่อมสภาพของแกจะหยุดลง? น่าเศร้า...ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก!
แซ็ค : เจเนซิส!
โฮโจ : คุกๆๆๆ นักวิทยาศาสตร์ชั้นสองแบบนั้นไม่มีทางช่วยหยุดยั้งการเสื่อมสภาพของแกได้หรอก

ช่วงนี้แองจีลก็บุกเข้ามาในห้องเช่นกัน

แองจีล : หยุดได้แล้วเจเนซิส!
เจเนซิส : 「สำหรับคุณแล้วคงเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะสูญเสียความฝันและความภาคภูมิ เทพธิดาน่ะ ได้แผลงศรออกจากคันธนูของเธอแล้ว」
โฮโจ : พวกมอนสเตอร์ของฮอลันเดอร์มารวมตัวกันงั้นรึ
แซ็ค : หุบปากนะ!
เจเนซิส : 「Loveless」 บทที่ 4
โฮโจ : เพื่อนสนิทได้ท้าดวลกันและฉากก็ตัดไป เป็นบทกวีที่เก่าแก่ทีเดียว
แองจีล : แล้วตอนจบเป็นยังไงล่ะ?
โฮโจ : ไม่รู้สิ กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ฉากจบที่แน่ชัด
เจเนซิส : ฉากจบนั้นมีอยู่ นายคิดว่าของขวัญจากเทพธิดา มันมีความหมายอะไรสำหรับพวกเรา?

เจเนซิสปล่อยพลังเวทใส่กำแพงและหนีออกไป แองจีลจึงรีบหิ้วแซ็คและบินตาม

 

แซ็ค : เฮ้ย! หยุดนะเจเนซิส!!
เจเนซิส : 「การแก้แค้นกู่ร้องขึ้นในวิญญาณของฉัน มันทนทุกข์กับการรอคอยความปรารถนาที่จะได้รับการบรรเทา และหลับใหลลงในที่ๆ คุณคุ้นเคย」
แซ็ค : เขากำลังจะใช้สัตว์อัญเชิญอีกแล้ว
แองจีล : แซ็ค ฉันไว้ใจแกนะ
แซ็ค : หา?
แองจีล : ฉันรู้ว่าแกสามารถล้มมันได้
แซ็ค : เฮ้ อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่นะ! เฮ้ยเดี๋ยว~!

แองจีลปล่อยแซ็คลงไปกับพื้นเพื่อให้จะให้แซ็ครับมือกับสัตว์อัญเชิญตัวใหม่ ส่วนตัวเขาเองก็จะรีบตามเจเนซิสไป ทว่าทันทีที่แซ็คตกลงถึงพื้น เขาก็ได้รับโทรศัพท์

แซ็ค : แอริธเหรอ? มีอะไรรึเปล่า? แล้วไว้ฉันจะโทรกลับนะ ฉันต้องรับแขกที่พึ่งมาถึงก่อน

แซ็ควางสายโทรศัพท์ไป

แซ็ค : จะเล่นรุนแรงกับลูกค้าคนนี้ดีมั้ยเนี่ย?

แซ็ควิ่งเข้าไปสู้กับบาฮามุทเรทซึ เมื่อเขาชนะมันได้เขาก็มองไปรอบๆ และพบว่าเขาได้คลาดกับพวกแองจีลไปเสียแล้ว

แซ็ค : ทุกคนไปไหนกันหมดแล้ว?


 

 

 

บทที่ 6 ความฝันและความภาคภูมิ

 

หลังจากที่แซ็คสามารถเอาชนะบาฮามุทตเรทซึมาได้ เขาก็พบว่าทุกคนได้หายตัวไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าทุกคนหายไปไหนกันหมด ทั้งเซฟิรอธ เจเนซิส และแองจีล ก่อนหน้านี้ไม่นานแซ็คพึ่งจะได้รับโทรศัพท์จากแอริธ เขาคิดว่าเขาควรที่จะไปหาเธอตอนนี้เลย ว่าแล้วแซ็คก็มุ่งหน้าไปยังสลัมเขต 5 ทว่าระหว่างทางเขาก็ได้พบกับแองจีลอีกครั้ง

แซ็ค : นายหายไปไหนมา!?
แองจีล : โทษทีที่ก่อนหน้านี้ทิ้งแกไว้
แซ็ค : คงไม่คิดจะหายตัวไปอีกใช่มั้ย?
แองจีล : เจเนซิสและฮอลันเดอร์ได้มุ่งหน้าไปที่โมเดโอ้เฮม
แซ็ค : ตอบฉันมาหน่อยสิว่านายยังคิดจะกลับไปเป็นโซลเยอร์มั้ย?
แองจีล : กระทั่งตอนนี้ความรู้สึกของฉันในฐานะของโซลเยอร์ก็ยังคงไม่แปรเปลี่ยน ฉันได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลาซาร์ดฟังแล้ว ตอนนี้ฉันต้องรีบไปพบเขา

แองจีลบินจากไปอีกครั้ง นั่นจึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้แซ็คมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ ว่าแล้วแซ็คก็มุ่งหน้าไปยังโบสถ์เพื่อพบกับแอริธ ทว่าขณะที่แซ็คกำลังจะก้าวเข้าไปในโบสถ์ เสียงของเส็งก็ดังขึ้นเพื่อหยุดแซ็คไว้

เส็ง : แซ็ค เรามีงานต้องไปทำที่โมเดโอ้เฮม
แซ็ค : รู้แล้ว...แต่ว่ารอฉันซักแป็ปนึงก่อนนะ
เส็ง : แอริธไม่ได้อยู่ที่นี่นะ มีอะไรงั้นเหรอ?
แซ็ค : นายเป็นอะไรกับแอริธงั้นเหรอ?
เส็ง : เรื่องมันออกจะซับซ้อนอยู่นิดหน่อย
แซ็ค : หืมม...
เส็ง : เธอได้บอกอะไรกับนายไว้รึเปล่า?
แซ็ค : ปะ...เปล่าเลย...
เส็ง : ฉันเองก็ไม่ต่างกัน
แซ็ค : อืม...งั้นคงไม่เป็นไรมั้ง...ไม่เป็นไร

แซ็คและเส็งพร้อมด้วยทหารอีกสองนายออกเดินทางไปยังโมเดโอ้เฮมด้วยเฮลิคอปเตอร์ของชินระ ระหว่างการเดินทาง เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาได้ถูกมอนสเตอร์เข้าโจมตีจนตกลงโหม่งพื้นโลกในที่สุด ภายหลังการระเบิดทุกคนก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในดินแดนอันหนาวเหน็บที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ

แซ็ค : พวกมอนสเตอร์ออกมาจากไหนกัน เส็ง~? คุณทหาร~?
เส็ง : ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีคลื่นวิทยุเลยนะ
แซ็ค : ถ้าเราออกจากที่นี่ได้ มันก็คงใช้งานได้ดังเดิมล่ะมั้ง
เส็ง : คิดว่าอย่างงั้นแหละ ในการที่จะออกไปจากดินแดนแห่งนี้ได้...ดูเหมือนว่าพวกเราต้องพึ่งนายแล้วล่ะ
แซ็ค : เพราะว่าฉันเป็นพวกคนบ้านนอกสินะ
เส็ง : สำหรับตอนนี้...โมเดโอ้เฮมอยู่ใกล้ๆ พวกเรานี่เอง ถ้าพวกเราเดินตามเส้นทางไปเรื่อยๆ พวกเราก็จะไปถึงหมู่บ้านนั้นได้

แซ็ค : ดีล่ะ!! ทุกคนตามฉันมาเลย!!!

แซ็คเลยผองเพื่อนได้เดินทางมุ่งหน้าไปยังโมเดโอ้เฮม หลังจากที่เดินฝ่าดงหิมะกันมาได้ซักพัก ทหารนายหนึ่งก็เริ่มที่จะอ่อนแรง กระทั่งเส็งเองก็เหนื่อยและเดินตามแซ็คไม่ทัน ทว่ากลับมีทหารนายหนึ่งที่สามารถเดินทนถึกตามแซ็คมาได้อย่างสบาย
แซ็ค : เฮ้! อย่ามัวแต่อืดอาดแบบนั้นสิ

แซ็คหันไปพูดกับทหานที่เดินตามเขามาทัน

แซ็ค : นายนี่ไม่เลวนี่
คลาวด์ : ฉันเองก็มาจากบ้านนอกเหมือนกัน
แซ็ค : ที่ไหนเหรอ?
คลาวด์ : นีเบิลเฮม
แซ็ค : (พรู่ดดด~) ฮ่าๆๆ (บ้านนอกจังฟ่ะ)
คลาวด์ : แซ็ค แล้วนายล่ะ
แซ็ค : ฉันเหรอ? ก็องกาก้า!!
คลาวด์ : (พรืดดด~) ฮ่าๆๆๆ (ไม่ได้ดีไปกว่าตรูเลย~)
แซ็ค : ขำเหรอ? ขำอยู่ใช่มั้ย? นายรู้จักก็องกาก้าด้วยเหรอ?
คลาวด์ : เปล่า แต่ชื่อมันโคตรบ้านนอกเลย
แซ็ค : นีเบิลเฮมก็เหมือนกันแหละ (เฟ้ย!)
คลาวด์ : ไม่เคยได้ยินชื่อเหรอ?
แซ็ค : ฉันไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนหรอก แต่ก็รู้ว่าที่นั่นมีเตาปฏิกรณ์อยู่ใช่มั้ย? ที่อื่นนอกจากมิดการ์น่ะ นอกจากเตาปฏิกรณ์แล้ว…
แซ็ค/คลาวด์ : ก็แทบไม่มีอะไรอื่นเลย!

ทั้งสองต่างก็พูดและหัวเราออกมาพร้อมๆ กัน ไม่นานนักทั้งคู่ก็สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
แซ็ค : วางใจได้เลยเส็ง! มีฉันกับ...
คลาวด์ : คลาวด์
แซ็ค : มีฉันกับคลาวด์อยู่ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว!

 

เส็ง : เออ...พวกแกจัดการกันเองละกัน

แซ็คและคลาวด์ขึ้นไปยังยอดเขาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงแล้วพวกเขาก็ยืนพักเพื่อรอให้เส็งและทหารชินระอีกนายเดินตามมาถึง

แซ็ค : อืม...รออยู่นี่ก่อนนะ
คลาวด์ : แซ็ค
แซ็ค : หืมม?
คลาวด์ : นายมีความประทับใจกับการเป็นโซลเยอร์ยังไงบ้าง?
แซ็ค : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเมื่อใดที่นายได้เป็นโซลเยอร์...นายจะเข้าใจเอง
คลาวด์ : ถ้ามันเป็นไปได้น่ะนะ...
แซ็ค : ไม่ต้องห่วงหรอก ขนาดฉันยังผ่านมาได้ง่ายๆ เลย เฮ้! คลาวด์ ทางโน้นน่ะ

แซ็คชี้ไปยังอาคารหลังหนึ่งที่มีตราชินระติดอยู่

เส็ง : นั่นเป็นโรงงานสำหรับทดสอบการสูบมาโค

เส็ง : ภารกิจของพวกเรามีแค่การสำรวจดูสถานการณ์ในโมเดโอ้เฮมเท่านั้น จากนี้เราไม่ควรสู้โดยไม่จำเป็นยกเว้นตอนเจอกับเจเนซิสเท่านั้น พูดอีกอย่างคือ...

แซ็ค : พูดอีกอย่างคือ พยายามหลีกเลี่ยงการต่อสู้เท่าที่จะทำได้สินะ ต้องการจะพูดแบบนั้นใช่มั้ย?
เส็ง : ใช่แล้ว พวกคนที่อยู่ทางด้านโน้นคือยามเฝ้าทางเข้า พยายามหาทางลอบเข้าไปและดูว่าพบอะไรบ้าง
แซ็ค : ไว้ใจได้เลย! โซลเยอร์นะไม่ธรรมดานะ...เดี๋ยวฉันจะโชว์ให้ดูเอง คลาวด์ ดูให้ดีล่ะ!
คลาวด์ : อื้อ

แซ็คหลบสายตาของพวกยามและลอบเข้าไปในอาคารได้สำเร็จ เขาใช้ลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบน และก็ต้องพบกับเรื่องน่าแปลกใจ เจเนซิสกำลังใช้ดาบจ่อไปที่คอของฮอลันเดอร์!

ฮอลันเดอร์ : แกรู้ตัวมั้ยว่าแกกำลังทำอะไร? แกต้องการฉันนะ! ถ้าไม่มีฉันแล้วใครจะช่วยแกจากการเสื่อมสภาพ

เจเนซิส : เซลล์เจโนว่าไง...

แซ็คกระโจนเข้ามาขวางและใช้ดาบของเขาปัดป้องดาบของเจเนซิสออกไปได้ ฮอลันเดอร์พยายามที่จะหนีออกไป แต่เขาก็ถูกคลาวด์ที่ตามเข้ามาจับไว้

 

คลาวด์ : หยุดนะ!
แซ็ค : เยี่ยมเลยคลาวด์!

ฮอลันเดอร์พยายามขัดขืน เขากระแทกใส่คลาวด์และก็สามารถดิ้นหลุดออกมาได้

ฮอลันเดอร์ : แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจโนว่าเซลล์ถูกเก็บไว้ที่ไหน ต่อให้แกไปหาโฮโจ แกก็ไม่มีทางรู้ ไม่มีทางหามันเจอหรอก!!
เจเนซิส : ถ้างั้นแล้ว..ปล่อยไว้แบบนี้ฉันก็ต้องเน่าสลายไปอยู่ดี โลกน่ะได้สูญเสียเส้นทางที่มันควรเป็นแล้ว!

แซ็ค : คลาวด์! ตามเข้าไป!

ฮอลันเดอร์กับคลาวด์เริ่มเล่นวิ่งไล่จับกัน ในที่สุดเวลาที่แซ็คกับเจเนซิสจะต้องเข้าห้ำหั่นกันก็มาถึงแล้ว คราวนี้เจเนซิสไม่ได้ใช้สัตว์อัญเชิญอย่างที่เคย แต่กลับใช้ฝีมือที่แท้จริงของตัวเขาเอง

เจเนซิส : 「ฉันไม่สามารถโบยบินได้อีกต่อไปแล้ว ปีกของฉันได้พังไป ความภาคภูมิได้สูญสิ้นไป หวังว่าวันพรุ่งนี้ดวงวิญญาณของฉันจะแหลกสลาย」 นี่แหละคือจุดจบของมอนสเตอร์

แซ็ค : พวกเราไม่ใช่มอนสเตอร์ พวกเราคือโซลเยอร์...ความภาคภูมิใจของนายหายไปไหนกันหมด?

เจเนซิส : 「แม้ว่าจะไม่มีสัญญาสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่ฉันขอสาบานว่าฉันจะกลับมา ณ ที่ๆ คุณยืนอยู่」 ถ้าโลกใบนี้พยายามจะคุกคามชีวิตของฉัน...นั่นแหละคือการที่มันได้สูญเสียเส้นทางของมันไป

หลังจากที่เจเนซิสได้พ่ายแพ้ให้กับแซ็คแล้ว เจเนซิสก็เลือกที่จะจบชีวิตของเขาด้วยการฆ่าตัวตาย เขากระโดดลงไปในบ่อที่ลึกมากจนไม่อาจมองเห็นก้นบ่อได้ แซ็คเดินเข้าไปชิดริมรั้วและจ้องมองร่างของเจเนซิสที่ลับหายไป

แซ็ค : เจเนซิส...

เมื่อการต่อสู้จบลง แซ็คก็เดินออกมาจากอาคาร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจเนซิสถึงต้องฆ่าตัวตาย เมื่อเขาออกมาถึงด้านนอกแล้ว เขาก็ไม่พบทั้งเส็งและคลาวด์ เขาคิดว่าบางทีทั้งคู่อาจเข้าไปที่ตัวหมู่บ้านโมเดโอ้เฮมก็ได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นแซ็คจึงรีบบึ่งเข้าไปยังหมู่บ้านทันที พอแซ็คเข้าไปถึงตัวหมู่บ้านแล้วเขาก็พบว่าหมู่บ้านนี้กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว แซ็คเริ่มออกสำรวจภายในเมืองจนกระทั่งเขาได้เข้าไปในโรงอาบน้ำสาธารณะ เมื่อเขาขึ้นมาถึงชั้น 2 เขาก็พบกับมอนสเตอร์ที่เป็นร่างก๊อปปี้ของแองจีลอีกครั้ง เขารีบกำจัดมันและมุ่งหน้าไปยังชั้น 3 ที่นั่นเขาได้พบกับคลาวด์และเส็งที่นอนหมดสภาพอยู่ เส็งบอกแซ็คว่าแองจีลเป็นคนจัดการพวกเขา เมื่อได้ยินแล้วแซ็คจึงรีบมุ่งหน้าเข้าไปในห้องถัดๆ ไป และในที่สุดเขาก็ได้พบกับแองจีลที่รอคอยเขาอยู่ในห้องๆ หนึ่ง

แองจีล : จริงๆ แล้วเราควรจะได้ร่วมกันสู้กับเจเนซิส
แซ็ค : ถามจริงๆ เหอะ นายคิดว่านายกำลังพูดอยู่กับใครกันแน่?
แองจีล : ต่อไปก็ถึงตาของแกแล้ว

แองจีลบุกเข้าไปโจมตีใส่แซ็ค แต่แซ็คก็สามารถหลบได้อย่างฉิวเฉียด

แซ็ค : คิดจะทำอะไรน่ะ!! หยุดนะ!!
แองจีล : มีคนที่รอคอยแกอยู่ไม่ใช่เหรอ?
แซ็ค : แองจีล...ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย?

 

ทันใดนั้น ฮอลันเดอร์ก็เดินเข้ามาในห้อง

ฮอลันเดอร์ : ดีมากแองจีล!! ถึงเวลาที่เด็กของฉันจะได้ล้างแค้นให้แก่กันแล้ว!

แซ็ค : เด็กของนาย?
แองจีล : หุบปาก!! พ่อของฉันตายไปตั้งนานแล้ว!!
ฮอลันเดอร์ : งั้นก็ล้างแค้นแทนแม่ของแกก็แล้วกัน
แองจีล : เธอรู้สึกอับอายกับความผิดพลาดในอดีต และเลือกที่จะจบชีวิตของเธอเองแล้ว

Note*
- เด็กของฮอลันเดอร์ในที่นี้หมายถึงการที่แองจีลกับเจเนซิสเป็นเด็กที่เกิดจากการทดลองของฮอลันเดอร์น่ะเอง
- ส่วนที่แองจีลตอบไปว่าเธอรู้สึกอับอายกับความผิดพลาดในอดีต คือเขาต้องการบอกว่าถึงล้างแค้นให้กับแม่ แม่ก็คงไม่ดีใจ เพราะแม่เองก็รู้สึกผิดที่ให้กำเนิดพวกเขาขึ้นมา

ฮอลันเดอร์ : อับอาย? ท่าทางแกจะเข้าใจผิดแล้วมั้ง ฉันคิดว่าเธอคงจะภาคภูมิใจด้วยซ้ำ เธอน่ะถึงขนาดใช้ชื่อของเธอเองเป็นโค้ดเนมของโปรเจคท์เชียวนะ โปรเจคท์ G หรืออีกชื่อหนึ่งที่ว่า โปรเจคท์ กิลเลี่ยน!
แองจีล : แกกล้าดียังไงมาเรียกชื่อแม่ของฉัน!

ฮอลันเดอร์ : เราได้ฉีดเซลล์เจโนว่าเข้าไปในตัวของสตรีผู้มีนามว่ากิลเลี่ยน หลังจากนั้นเราก็ได้เอาเซลล์ของเธอฉีดเข้าไปในตัวอ่อน (ที่อยู่ในครรภ์คนอื่น) ซึ่งนั่นก็คือเจเนซิส ทว่าเจเนซิสนั้นเป็นเป็นผลงานที่ล้มเหลว ฉันไม่มีทางยอมรับคนแบบนั้นได้ ส่วนแก แองจีล...เราได้ขัดเกลากระบวนการใหม่อีกครั้ง และก็ได้แกที่สมบูรณ์แบบออกมา

แองจีล : แซ็ค...ฉันมันก็แค่ร่างอันสมบูรณ์แบบของ....มอนสเตอร์ นอกจากนี้ถ้าฉีดเซลล์ของฉันเข้าไปในร่างของคนอื่นแล้ว

ฮอลันเดอร์ : การโคลนซ้ำ ด้วยความช่วยเหลือของเซลล์เจโนว่า เราจึงสามารถสร้างร่างก๊อปปี้เหล่านี้ขึ้นมาได้
แองจีล : แซ็ค แกยังจำสัญญาที่ว่าพวกเราจะช่วยกันต่อสู้กับผู้ที่สร้างความเจ็บปวดให้กับโลกได้มั้ย?
แซ็ค : ฉันจำได้...แต่คงไม่ใช่นายนะ
แองจีล : ฉันกำลังจะกลายเป็นผู้ที่สร้างความเจ็บปวดนั้นแล้ว แซ็ค แสดงพลังที่แท้จริงของแกออกมา!
ฮอลันเดอร์ : หยุดนะ! ถ้าทำแบบนั้นนายจะไม่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้อีกแล้ว!!

แองจีลชูมือของเขาขึ้น ทันใดนั้นเหล่าร่างก๊อปปี้ของเขาก็ปรากฏตัวขึ้นกลางฟ้า ฮอลันเดอร์พยายามที่จะเข้าไปหยุดแองจีลไว้ แต่ก็ถูกแองจีลผลักกระเด็นออกมา

ฮอลันเดอร์ : ชิ! ก็แค่เซลล์!

เหล่าร่างก๊อปปี้ต่างพุ่งไปรวมร่างกันที่ตัวของแองจีล

แซ็ค : แองจีลลล~!!

แองจีลที่รวมร่างกับพวกร่างก๊อปปี้ได้กลายเป็นมอนสเตอร์ที่น่าสะพรึงกลัว แซ็คได้แต่ตกตะลึงและสับสน ขณะที่แซ็คกำลังเผลออยู่นั้นมอนสเตอร์ตัวนั้นก็ได้ใช้สามง่ามแทงมายังแก้มของแซ็คจนเกิดเป็นแผล บัดนี้แซ็ครู้ดีแล้วว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลุยเท่านั้น

แซ็ค : แองจีล...ความภาคภูมิใจของนายมันหายไปไหนกันหมด!!!

นี่เป็นหนึ่งในการต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของแซ็ค แต่เขาก็สามารถผ่านมันไปได้ด้วยดี หลังจากที่เขาสามารถล้มแองจีลได้แล้ว แองจีลก็กลับคนสู่สภาพเดิม ตอนนี้แองจีลใกล้จะตายแล้ว เขาจึงเตรียมที่จะบอกลากับแซ็ค

 

แองจีล : แซ็ค...ทำได้ดีมาก ฉันเชื่อใจแกจนถึงวาระสุดท้ายนะ ....จงอย่าลืมความภาคภูมิใจซะล่ะ

แองจีลส่งมอบบัสเตอร์ซอร์ดให้กับแซ็ค และทันทีที่แซ็ครับดาบไป แองจีลก็จากไป...

แองจีล : (จงยึดมั่นในฝันไว้นะ ถ้านายอยากเป็นวีรบุรุษ นายก็ต้องยึดมั่นในความฝัน...และ...ความภาคภูมิ)

หลังจากที่แซ็คได้สูญเสียบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตการเป็นโซลเยอร์เขาไป แซ็คก็มุ่งหน้ากลับไปยังโบสถ์ในสลัม เพื่อไปหาแอริธ

แอริธ : นี่...แซ็ค ถ้าพวกเราอยู่ที่เมืองด้านบน ท้องฟ้าก็จะอยู่ใกล้มากขึ้นใช่มั้ย? มันอาจจะน่ากลัวแต่พวกดอกไม้คงจะดีใจแน่ๆ เลย...ว่ามั้ย?

แอริธหันไปมองแซ็คที่นั่งหันหลังและเริ่มร้องไห้ออกมา แอริธจึงเดินเข้าไปและโอบกอดแซ็คจากด้านหลังด้วยความอ่อนโยน

 

 

ในเวลาต่อมาแซ็คก็ได้กลายเป็นผู้นำของกองทัพโซลเยอร์ วันหนึ่งเขาได้เดินผ่านเหล่าทหารที่กำลังเข้าแถวกันอยู่ แซ็คจึงเข้าไปพูดอะไรกับทหารนายหนึ่ง

แซ็ค : นายอยากจะเป็นโซลเยอร์ใช่มั้ย? งั้นก็ขอให้โชคดีนะ

แซ็คเดินต่อไปยังที่รวมพลของเหล่าโซลเยอร์

แซ็ค : โซลเยอร์มากันครบแล้วใช่มั้ย?
เหล่าโซลเยอร์ : เฮ!!!
แซ็ค : พวกนายเป็นพวกมาใหม่ใช่มั้ย?
เหล่าโซลเยอร์ : เฮ!!! เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานด้วยครับ!
แซ็ค : ฉันมีคำพูดหนึ่งที่อยากจะแนะนำ ไม่สิ...นี่เป็นคำสั่ง... จงอย่าทอดทิ้งความฝัน...และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จงอย่าทอดทิ้งความภาคภูมิใจในฐานะของโซลเยอร์ เข้าใจมั้ย?

เหล่าโซลเยอร์ : เฮ!


 

 

 

บทที่ 7 ผู้ที่ถูกลืม

 

แซ็ค : โปรเจคท์ G ก็คือการทดลองของแม่แองจีล ฉันได้ไปที่โมเดโอ้และจับตัวฮอลันเดอร์ส่งให้กับทางบริษัท หลังจากนั้นบริษัทก็บอกให้ฉันคอยรอรับคำสั่ง จากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาก็ผ่านไปนานมากแล้ว ดูเหมือนที่บริษัทจะมีเรื่องซุบซิบกันมากมาย ฉันมักจะถูกรายล้อมไปด้วยพวกเทิร์คอยู่เสมอ พวกเขาบอกฉันว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ลาพักร้อน ทว่า...กลับไม่มีใครพูดถึงเรื่องของแองจีลและเจเนซิสเลย ราวกับว่าเรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ทุกๆ คน อะไรคือสิ่งที่โซลเยอร์ควรตระหนักถึง? ในอนาคต ฉันควรจะสู้กับอะไร? ความภาคภูมิใจของโซลเยอร์ มันคืออะไรกัน?

แซ็คที่กำลังอยู่ในสภาพว่างงานกำลังใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดของเขากับการมาเที่ยวที่คอสต้าเดลโซ แน่นอนว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว แต่กลับพกซิสเนย์มาคลายเหงาด้วยอีกคน ทว่าแซ็คก็ยังคงเป็นแซ็คอยู่วันยังค่ำ เขาไม่สามารถรอการมาของภารกิจถัดไปอยู่เฉยๆ ได้ ขนาดทะเลและสาวๆ อยู่ต่อหน้าแล้วแท้ๆ แซ็คก็ยังเอาแต่ลุกนั่งอย่างที่เคย

ซิสเนย์ : โลชั่นซักหน่อยมั้ย?
แซ็ค : ฉันไม่ต้องการของแบบนั้นหรอก ว่าแต่นี่มันอะไรกัน! ฉันถูกลืมไปแล้วรึเปล่าเนี่ย!
ซิสเนย์ : ไม่ดีเหรอที่ (นานๆ ที) จะได้พักแบบนี้บ้าง?
แซ็ค : เกินพอแล้วล่ะ! คิดว่าฉันคงต้องโทรถามพวกเขาแล้ว!
ซิสเนย์ : ผู้บัญชาการไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้วนะ ตอนนี้เราไม่สามารถระบุที่อยุ่ของลาซาร์ดได้ ว่ากันว่าเขาเป็นคนเอาเงินของบริษัทไปให้การช่วยเหลือฮอลันเดอร์อย่างลับๆ น่ะ
แซ็ค : ลาซาร์ด เขาทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ?
ซิสเนย์ : เขาได้ทำการทดลองมามากมาย เขาก็น่าจะรู้จักกับฮอลันเดอร์ดี

แซ็ค : นี่มันอะไรกัน…

ซิสเนย์ : หืม?
แซ็ค : ฉันสงสัยว่าทุกๆ คนกำลังคิดอะไรอยู่
ซิสเนย์ : มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นแหละที่จะรู้ความจริง และถึงเขาจะเล่าอะไรให้ฟัง เราก็คงสงสัยอยู่ดีว่าเขาพูดจริงรึเปล่า

แซ็ค : ซิสเนย์ ช่วยไปที่อื่นก่อนซักพักได้มั้ย?
ซิสเนย์ : จะโทรหาแอริธเหรอ?
แซ็ค : เธอรู้ได้ไง? นี่ฉันถูกจับตาดูอยู่ตลอดใช่มั้ยเนี่ย!!
ซิสเนย์ : คนที่ถูกจับตาอยู่คือแอริธต่างหาก เธอน่ะเป็นถึงชนเผ่าโบราณคนสุดท้ายบนโลกเลยนะ นายไม่รู้เหรอ?
แซ็ค : เธอ...ไม่เคยพูดเรื่องเหล่านี้ให้ฟังเลย ชนเผ่าโบราณคนสุดท้ายของโลกงั้นเหรอ? จริงเหรอเนี่ย?

เส็งวิ่งเข้ามาที่ชายหาดด้วยท่าทีที่ร้อนรน

เส็ง : ระวัง!! ตรงนั้นมีพวกร่างก๊อปปี้!
แซ็ค : โคลนของเจเนซิส!

แซ็คหยิบร่มชายหาดขึ้นมาไล่ฟาดใส่พวกร่างก๊อปปี้จนพวกมันสลบเหมือดกันไปหมด

แซ็ค : ยังมีพวกนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย? แต่ว่าเจเนซิส…
เส็ง : เจเนซิสก็อาจจะยังอยู่เหมือนกัน
แซ็ค : อะไรนะ!

ทันใดนั้นพวกร่างก๊อปปี้ก็ได้แตกสลายกลายเป็นไลฟ์สตรีม

เส็ง : เมื่อร่างกายสูญเสียจิต มันก็จะกลับคืนสู่ไลฟ์สตรีม

แซ็ค : มันคืออะไร?
เส็ง : มันคือพลังงานชีวิตที่ขับเคลื่อนอยู่รอบดวงดาว ส่วนจิตของเจเนซิสตอนนี้...
แซ็ค : พวกโคลนเองก็ต้องกลับคืนสู่ไลฟ์สตรีมงั้นเหรอ?
เส็ง : ก็คงจะอย่างนั้น ตอนนี้...แซ็ค วันหยุดของนายหมดลงแล้ว ดูเหมือนจะมีคนจู่โจมเมืองจูน่อนอยู่ นายต้องรีบไปที่นั่น

เส็ง ซิสเนย์ และแซ็คตามก็รีบเดินทางไปยังเมืองจูน่อนด้วยกัน พวกเขาได้พบเหล่าร่างก๊อปปี้ที่ออกอาละวาดอยู่ที่นั่น หลังจากที่แซ็คกำจัดพวกมันบางส่วนไปได้ เส็งก็บอกแซ็คว่าถ้าเป็นแบบนี้แล้วฮอลันเดอร์ก็น่าจะอยู่ที่นี่ด้วย ยังไงก็คงต้องช่วยกันตามหาเขาให้เจอ แซ็คก็เลยได้ออกวิ่งวุ่นไปทั่วฐานทัพชินระที่ตั้งอยู่ที่จูน่อนจนกระทั่งเขาได้พบกับฮอลันเดอร์ในที่สุด แซ็คเล่นวิ่งไล่จับกับฮอลันเดอร์จนกระทั่งฮอลันเดอร์ถูกต้อนมาจนมุมที่ลานจอดเครื่องบิน

แซ็ค : มาได้แค่นี้แหละแก!
ฮอลันเดอร์ : แกจะทำอะไรได้?
แซ็ค : เฮ้ยย!!

ฮอลันเดอร์ทำเป็นตกหน้าผาไป แต่พวกร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสที่ซุ่มอยู่ด้านล่างก็ช่วยกันรับเขาไว้และพาเขาบินหนี

แซ็ค : แย่แล้ว! เขาหนีไปได้อีกแล้ว!!

เส็งและซิสเนย์ตามมาถึงพอดี แต่ดูเหมือนพวกเขาจะมาสายไป พวกเขาจึงได้แต่มองฮอลันเดอร์ที่บินหนีไปด้วยตาปริบๆ ทว่าหลังจากนั้นเซฟิรอธก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน

เซฟิรอธ : ภารกิจล้มเหลว…นายคงโดนหักคะแนนในการประเมินแน่
แซ็ค : เซฟิรอธ!! ไม่ได้เจอกันมาตั้ง 100 ปีแน่ะ
เซฟิรอธ : ปล่อยเรื่องนี้ให้เทิร์คจัดการเถอะ ระหว่างที่ไปสำรวจที่โมเดโอ้เฮม...ฉันได้ยินข่าวว่านายได้มาที่นี่
แซ็ค : (นายก็เลยมาหาฉันเหรอ) ดีใจนะเนี่ย
เซฟิรอธ : ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง พวกโคลนของเจเนซิสได้ปรากฏตัวขึ้นทั่วโลกเลยล่ะ แซ็ค : เป็นไปได้ไง...พวกโคลนน่าจะถูกกวาดล้างไปหมดแล้วนี้

เซฟิรอธ : เจเนซิสตายลงแล้วจริงๆ เหรอ? ขนาดที่มิดการ์ยังมีพวกโคลนปรากฏตัวขึ้นเลย

แซ็ค : อย่างงั้นเหรอ...
เซฟิรอธ : ที่สลัมก็เหมือนกัน นายจะกลับไปก็ได้นะ...ฉันอนุญาต
แซ็ค : โอวววว...
เซฟิรอธ : แล้วไว้เจอกัน

แซ็ค : หลังจากนั้น มีอะไรเกิดขึ้นที่โมเดโอ้เฮมเหรอ?
เซฟิรอธ : พวกเครื่องไม้เครื่องมือที่ฮอลันเดอร์เคยใช้ (เช่นตู้ทดลอง) ถูกริบไปก่อนแล้ว (ดังนั้นพอเซฟิรอธไปสำรวจที่นั่นก็เลยไม่เจออะไร)

แซ็ค : (ฝีมือของ) เจเนซิสงั้นเหรอ?
เซฟิรอธ : ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แล้วไว้คงได้เจอกันใหม่เร็วๆ นี้
แซ็ค : แน่นอน แล้วไว้เจอกัน

อีกฝากหนึ่งของเมืองจูน่อน เจเนซิสที่ยังมีชีวิตอยู่กำลังยืนอยู่ริมปากกระบอกปืนใหญ่ เขาเริ่มร่ายบทละครใน Loveless ขึ้นอีกครั้ง

เจเนซิส : 「ความหวังของคุณผู้ที่ถูกเลี้ยงดู ของขวัญจากเทพธิดาได้ถูกส่งต่อ การเสียสละของคุณและจุดจบของโลก ดุจดั่งลมพายุที่พัดผ่านผิวน้ำอย่างนุ่มนวลและนิรันดร์」

เจเนซิสจ้องมองอาทิตย์ตกดินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะบินจากไป


 

 

 

 

  บทที่ 8 คำล่ำลาในวันวาน

 

แซ็คได้มุ่งหน้ากลับไปยังโบสถ์ในสลัมของมิดการ์

แซ็ค : อืมมม? รู้สึกเหมือนมีใครไล่ตามหลังมาแฮะ...ฉันคงจะคิดเองละมั้ง..

แซ็ควิ่งเข้าไปในโบสถ์โดยไม่รู้ว่ามีพวกหุ่นยนต์ของชินระวิ่งตามหลังเขามา ทว่ายังไม่ต้องสนใจมันหรอก ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวคือมอนสเตอร์ที่เป็นร่างก๊อปปี้ของแองจีลที่อยู่ในโบสถ์ต่างหาก

แอริธ : แซ็ค!
แซ็ค : ร่างก๊อปปี้ของแองจีล!

ขณะที่แซ็คกำลังจ้องตากับร่างก๊อบปี้นั้นอยู่ พวกหุ่นยนต์ของชินระก็เข้ามาในโบสถ์ ขณะที่พวกมันกำลังเล็งหาเหยื่อ พวกมันทั้งหมดก็ถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของร่างก๊อปปี้ตัวนั้น

แซ็ค : ขอบใจนะ
แอริธ : มันช่วยปกป้องเรางั้นเหรอ?
แซ็ค : เหมือนจะอย่างงั้น

 

เจ้าร่างก๊อปปี้ล้มลงหลังจากที่พึ่งโชว์ฝีมือไปหมาดๆ แซ็คและแอริธจึงรีบเข้าไปดู

แซ็ค : การเสื่อมสภาพ?
แอริธ : น่าสงสารจัง...
แซ็ค : แองจีลจะยังคงมีชีวิตอยู่ที่ไหนซักแห่งมั้ยนะ...?

เจ้าร่างก๊อปปี้พยายามลุกขึ้นมาและบินหนีจากพวกแซ็คไป มันขึ้นไปเกาะที่บนหลังคาโบสถ์

แอริธ : เด็กคนนั้น น่าสงสารจัง
แซ็ค : ว่าแต่มันมาที่นี่ทำไมกัน?
แอริธ : นี่ มาทำรถเข็นสำหรับใช้ขายดอกไม้กันเถอะ
แซ็ค : อืม...แต่ (เดี๋ยวมันก็บินลงมางับหรอก)
แอริธ : ไม่เป็นไรหรอกน่า

แซ็คหันไปพูดกับเจ้ามอนสเตอร์

แซ็ค : เข้าใจแล้วนะ! แกอยู่ตรงนั้นเฉยๆ นะ!

แอริธเดินไปที่กลางโบสถ์ ส่วนแซ็คก็พูดกับตัวเองว่าดูเหมือนมีเรื่องที่ต้องคิดเพิ่มขึ้นอีกแล้ว

แอริธ : นี่ รีบทำรถขายดอกไม้เถอะ

แซ็คมีท่าทางสับสนเล็กน้อย ตอนนี้ในใจเขากำลังคิดถึงเรื่องของร่างก๊อปปี้อยู่ ทำไมร่างก๊อปปี้ของแองจีลจึงมาที่นี่? แองจีลยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า? ว่าแล้วแอริธก็เลยเรียกให้แซ็คช่วยทำรถขายดอกไม้อีกครั้ง

แอริธ : มานี่เร็วแซ็ค! ทางนี้ ทางนี้!!
แซ็ค : อ่ะ...เอ่อ นี่ แอริธถ้าเราทำรถเข็นเสร็จแล้ว เธอจะเอาดอกไม้ไปขายที่เมืองด้านบนมั้ย?
แอริธ : อืม...ฉันยังรู้สึกกลัวๆ (ท้องฟ้า) อยู่เลย คงต้องเริ่มจากการขายในสลัมก่อนนะ
แซ็ค : จำที่ฉันบอกเธอไม่ได้เหรอ? ถ้าเธอขึ้นไปขายที่เมืองด้านบนเมื่อไหร่ ฉันก็จะไปกับเธอด้วย ไม่ต้องห่วงหรอก!
แอริธ : แซ็ค ขอบใจมากนะ
แซ็ค : ดีล่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว รีบมาช่วยกันสร้างรถเข็นกันเถอะ ฉันจะไปหาไม้เอง แอริธรอฉันอยู่ที่นี่นะ
แอริธ : อื้อ

แซ็คเริ่มออกไปตามหาอุปกรณ์สำหรับทำรถเข็น เขาเจอเครื่องไม้เครื่องมือบนถนนด้านหน้าโบสถ์ เมื่อเข้าไปที่ตลาดเขาก็เจอพวกเศษไม้ แต่ไม้ชิ้นนั้นมีเจ้าของแล้ว เจ้าของไม้บอกว่าเขาจะยกไม้นั้นให้แซ็คก็ได้ถ้าแซ็คช่วยตั้งชื่อร้านขายของที่พึ่งเปิดใหม่ให้กับเขา แซ็คใช้เวลาคิดอยู่นานกว่าจะได้ชื่อเซเว่นเฮฟเว่นออกมา ซึ่งเจ้าของร้านก็ชอบชื่อนี้ เขาจึงยินยอมมอบไม้ให้กับแซ็ค ส่วนล้อรถนั้นแซ็คไปเจอที่แถบ Loveless ซึ่งคนที่รู้จักแอริธก็ได้มอบให้กับแซ็คแต่โดยดี เมื่อได้ของมาครบแล้วแซ็คจึงกลับไปหาแอริธ ทว่าระหว่างทางที่เขาจะกลับเข้าไปที่โบสถ์เขาก็ได้เจอหนังสือสอนทำรถเข็นบนถนนหน้าโบสถ์ หลังจากเก็บหนังสือขึ้นมาแล้วแซ็คก็เข้าไปในโบสถ์ ทั้งสองได้ช่วยกันสร้างรถขายดอกไม้ด้วยกันจนเสร็จ ทว่าแอริธกลับดูไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก

แอริธ : อืม...มันดูไม่ค่อยสวยเลย
แซ็ค : จริงเหรอ? แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง ยังไงซะสิ่งสำคัญก็คือตัวดอกไม้
แอริธ : แต่ชั้นไม่เห็นด้วยนี่นา
แซ็ค : อย่าคิดถึงเรื่องของหรูๆ สิ
แอริธ : ฉันก็อยากให้มันดูหรูซักนิดนะ
แซ็ค : อยากได้หรูน้อยๆ แต่มากๆ ชิ้นใช่มั้ยล่ะ?
แอริธ : ใช่! เข้าใจแล้วใช่มั้ย?
แซ็ค : ซักกี่ชิ้นดีล่ะ?
แอริธ : อืม...23?
แซ็ค : จดลงในกระดาษแผ่นนี้ละกันนะ ไม่งั้นฉันอาจจะลืมก็ได้
แอริธ : อื้อ!

แอริธรับกระดาษมาและเริ่มจดคำสัญญาของแซ็คลงไป ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ของแซ็คก็ดังขึ้น

เซฟิรอธ : เกิดเรื่องขึ้นแล้ว รีบกลับมาที่สำนักงานใหญ่ตอนนี้เลย
แซ็ค : อื้อ
แอริธ : ต้องไปทำงานเหรอ?
แซ็ค : โชคไม่ดีเลย
แอริธ : เอานี่ (ยื่นกระดาษให้)

แซ็คและแอริธจ้องตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่แซ็คจะเดินทางกลับไปยังตึกชินระ

เซฟิรอธ : มีมอนสเตอร์ปรากฏตัวขึ้นที่เตาปฏิกรณ์แห่งหนึ่ง พวกพนักงานที่ทำงานอยู่ในนั้นล้วนถูกฆ่าตายหมด เราไม่สามารถติดต่อกับใครได้แม้แต่พวกโซลเยอร์ที่ถูกส่งไปยังสถานที่แถวนั้น ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจึงตัดสินใจที่จะส่งโซลเยอร์คนอื่นๆ ไป ซึ่งคนที่ต้องไปก็คือฉันกับนาย

แซ็ค : รับทราบ...
เซฟิรอธ : มีอะไรรึเปล่า?
แซ็ค : นายก็น่าจะรู้นี่….ในเมื่อรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาก็น่าจะระวังตัวกันมากนี่นา
เซฟิรอธ : โซลเยอร์ที่เราขาดการติดต่อก็คือพวกที่ไล่ตามลาซาร์ดอยู่ ก่อนหน้านั้นพวกเขาได้รายงานมาว่าพบตู้ทดลองแปลกๆ ด้วย
แซ็ค : น่าจะเป็นของฮอลันเดอร์?
เซฟิรอธ : คงจะเป็นแบบนั้น...อาจป็นของที่ถูกยกไปจากโมเดโอ้เฮมก็ได้
แซ็ค : ก็หมายความว่า...
เซฟิรอธ : ลาซาร์ด ฮอลันเดอร์...
แซ็ค : อาจจะเจเนซิสด้วย
เซฟิรอธ : เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินทางไปดูเอง
แซ็ค : ใช่ งั้นรีบไปกันดีกว่า
เซฟิรอธ : ดี ก่อนอื่นไปที่ชั้นของโซลเยอร์ซะ นายและทหารที่จะออกเดินทางไปด้วยควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อน
แซ็ค : รับทราบ!
เซฟิรอธ : หน้าที่ของเราคือการไปสำรวจเตาปฏิกรณ์ เพื่อนเก่าไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรฉันซักคำ ไม่ช้าก็เร็ว กระทั่งฉันเองก็คงถูกชินระเขี่ยทิ้งเข้าซักวัน แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นฉันจะยังคงเป็นโซลเยอร์ที่เชื่อฟังของชินระ

 

แซ็คเดินทางไปยังชั้นสำหรับโซลเยอร์ หลังจากที่แพ็คกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะไปหาแอริธ เพื่ออธิบายถึงสถานการณ์ให้เธอฟัง

แอริธ : แซ็ค ทำงานเสร็จแล้วเหรอ?
แซ็ค : เปล่าหรอก...ดูเหมือนจะมีภารกิจที่สำคัญมากเข้ามาน่ะ ฉันคงต้องออกจากมิดการ์
แอริธ : แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ?
แซ็ค : อืมม...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
แอริธ : งั้น...จะเป็นไรมั้ยถ้าฉันจะโทรหาเธอ?
แซ็ค : แน่นอน ฉันจะรับโทรศัพท์แน่แม้จะอยู่ระหว่างงานก็ตาม
แอริธ : เธอรู้ใช่มั้ย! งั้นเรา...
แซ็ค : เอ๋? งั้นเรา..?
แอริธ : ไปที่สลัมและขายดอกไม้กันเถอะ

แซ็คและแอริธมุ่งหน้าเข้าไปที่สวนสาธารณะด้วยความหวังที่ว่าจะขายดอกไม้ให้ได้บ้าง แอริธคิดว่าถึงจะขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแต่แซ็คไม่เห็นด้วย แซ็คพยายามเข้าไปประชิดตัวลูกค้าและเริ่มโฆษณาเต็มที่ เขาบอกลูกค้าว่าดอกไม้นี่ถูกแสนถูกขายแค่ 10 กิลเท่านั้น ระหว่างที่แซ็คกำลังคุยกับลูกค้าแอระก็ยืนหัวเราะกับท่าทางของแซ็คอยุ่ห่างๆ ซักพักนึงแซ็คก็วิ่งกลับมาหาแอริธและบอกว่าลูกค้าต่อเหลือ 5 กิลจะขายมั้ย? ซึ่งแอริธก็ตกลง แซ็คอาจจะเสียใจที่ขายดอกไม้ได้ในราคาไม่งามนัก แต่แอริธก็ไม่ได้ใส่ใจแถมเธอยังมีความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับแซ็ค หลังจากนั้นระหว่างที่แอริธกำลังคุยอยู่กับลูกค้าตัวน้อย แซ็คก็แว็บมาคุยกับเส็งที่ซุ่มดูทั้งสองอยุ่ห่างๆ

เส็ง : ไม่ต้องห่วงเรื่องเธอหรอก ถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายพวกเราจะคอยคุ้มครองเธอเอง
แซ็ค : นายคือที่พึ่งเพียงคนเดียวของฉันแล้วนะ
เส็ง : หึๆ
แซ็ค : เฮ่ย! หัวเราะอะไรกัน? ฉันเชื่อใจนายนะ!!

หลังจากนั้นแซ็คก็กลับไปสำนักงานใหญ่และเริ่มมองหาทหารที่จะไปร่วมเดินทางไปด้วย

แซ็ค : มีอะไรเหรอ?
คลาวด์ : ทหารที่ได้รับมอบหมายงานยังไม่มากันเลย…
แซ็ค : เราต้องรีบไปกันแล้วนะ
คลาวด์ : ครับ!
แซ็ค : คลาวด์? เราได้ร่วมงานกันอีกแล้วใช่มั้ย? ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ

คลาวด์ : ฝากตัวด้วยเช่นกัน รออยู่นี่นะ เดี๋ยวฉันไปเรียกคนอื่นมาให้

 

คลาวด์วิ่งไปเรียกทหารคนอื่นๆ ให้มารวมกัน สุดท้ายทุกคนก็มาเข้าแถวรวมกันจนได้

แซ็ค : คราวนี้เราจะไปที่ไหนกันล่ะ?
เซฟิรอธ : นีเบิลเฮม

คลาวด์มีทีท่าตกใจเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา


 

 

 

บทที่ 9 อุบัติการณ์นีเบิลเฮม

 

หลังผ่านการเดินทางอันยาวนาน ทุกคนก็ได้มาถึงหมู่บ้านนีเบิลเฮม

เซฟิรอธ : นานแล้วที่นายไม่ได้กลับมาที่บ้านเกิดใช่มั้ย? รู้สึกยังไงบ้างล่ะ? ตัวฉันเองไม่ได้มีบ้านเกิดเหมือนใครเขา ก็เลยไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกยังไงน่ะนะ...
แซ็ค : เอ....แล้วพ่อแม่ของนายล่ะ?
เซฟิรอธ : แม่ของฉันชื่อเจโนว่า เธอตายหลังจากที่คลอดฉันออกมา ส่วนพ่อฉัน....ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆ นี่ฉันพูดอะไรอยู่เนี่ย? ไปกันเถอะ
แซ็ค : แม่ของเซฟิรอธชื่อเจโนว่างั้นเหรอ? อืม..

แซ็คและเซฟิรอธมุ่งหน้าไปยังโรงแรม แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าไป เด็กสาวคนหนี่งก็ได้เดินมาหาพวกเขา

ทิฟา : พวกคุณคือโซลเยอร์ที่ถูกส่งมาเพื่อทำการสำรวจใช่มั้ย?
แซ็ค : ใช่ ฉันคือแซ็ค เป็นโซลเยอร์เฟิร์สคลาส
ทิฟา : หืมม
แซ็ค : หืมมมม?
ทิฟา : โซลเยอร์เฟิร์สคลาสนี่มีกันอยู่เยอะมั้ย?
แซ็ค : มีกันแค่นิดเดียวเท่านั้นแหละ
ทิฟา : เฉพาะคุณสองคนใช่มั้ย?
แซ็ค : ใช่ ฉันกับเซฟิรอธ
ทิฟา : เข้าใจแล้ว

หลังจากที่ทิฟาคุยกับแซ็คเสร็จแล้วเธอก็วิ่งหนีไป

แซ็ค : เป็นเด็กที่แปลกจัง
เซฟิรอธ : เราจะเริ่มทำการสำรวจเตาปฏิกรณ์กันในรุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ สำหรับวันนี้เราจะเข้านอนกันเร็วหน่อย พวกนายควรจะหลับกันให้สนิทไม่งั้นพรุ่งนี้อาจต้องลำบากกันก็ได้ อ่าใช่...ถ้าอยากจะไปเยี่ยมครอบครัวและเพื่อนๆ ก็ไม่มีปัญหานะ

แซ็คตามหลังเซฟิรอธเข้าไปในโรงแรม หลังจากเช็คอินแล้วแซ็คก็เดินขึ้นไปบนชั้นสอง เขาสังเกตได้ถึงเซฟิรอธที่เอาแต่จ้องออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา

แซ็ค : นายมองอะไรอยู่เหรอ?
เซฟิรอธ : วิวข้างนอก ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันเคยเห็นมันมาก่อน

Note* ในจุดนี้เป็นตัวที่บอกใบ้เรากลายๆ ว่าเซฟิรอธเองก็เป็นคนที่เกิดที่นีเบิลเฮม เช่นกัน

ในวันนั้นแซ็คและเซฟิรอธต่างรีบเข้านอนกันแต่หัวค่ำ เมื่อรุ่งเช้ามาถึงพวกเขาก็ได้เดินทางไปยังคฤหาสน์ชินระ ซึ่งเป็นสถานที่ๆ พวกเขาได้นัดพบกับไกด์ที่จะพาไปยังเตาปฏิกรณ์

แซ็ค : ทิฟา! เธอเป็นไกด์เหรอเนี่ย?
ทิฟา : ใช่แล้ว
คนถ่ายรูป : เอ้าทุกคน ยิ้มมม~

ทิฟา : เธอรู้มั้ยว่าฉันเป็นไกด์ที่ดีที่สุดของหมู่บ้านนี้เลยนะ
แซ็ค : แต่มันอันตรายนะ! เธอไม่น่าจะเข้ามาข้องเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลย!

เซฟิรอธ : ไม่เป็นไรหรอก นายก็คอยคุ้มครองเธอซะสิ
แซ็ค : กลับไปเถอะไม่งั้นเธออาจโดนกินก็ได้ หรืออย่างเบาที่สุดก็คือสลบไป ถ้าขืนฉันใช้ดาบเล่มนี้เดี๋ยวมันก็สกปรก พัง หรือสนิมเกาะกันหมดสิ แต่เอาเหอะ...ถ้าใช้สันดาบก็ไม่เป็นไรนี่หว่า

ทิฟาพาทุกคนออกเดินทาง จนกระทั่งได้เดินทางมาถึงเตาปฏิกรณ์

ทิฟา : ฉันก็อยากจะเข้าไปด้วย! ฉันอยากเห็นข้างใน!
เซฟิรอธ : ที่นี่ห้ามไม่ให้คนนอกเข้า…มันเต็มไปด้วยความลับทางด้านอุตสาหกรรมของชินระนะ
ทิฟา : แต่...!!
เซฟิรอธ : ฝากดูแลเธอด้วยนะ

คลาวด์ที่สวมหมวกปิดหน้าไว้เข้ามาขวางไม่ให้ทิฟาเข้าไปในเตาได้ แซ็คและเซฟิรอธจึงก้าวเข้าไปในตัวเตาปฏิกรณ์กันสองคน เมื่อเข้าไปถึงด้านในแซ็คก็ต้องตกใจเมื่อเขาพบประตูบ้านหนึ่งที่มีคำว่าเจโนว่าแปะหราอยู่

แซ็ค : เจโนว่า....มันล็อคอยู่ด้วยสิเลยเปิดไม่ได้ เจโนว่า?

เซฟิรอธจ้องไปยังตู้ทดลองตู้หนึ่ง

เซฟิรอธ : นี่อาจเป็นสาเหตุของความผิดปกติก็ได้ ดูเหมือนบางส่วนมันจะเสีย แซ็คช่วยเปิดวาล์วให้หน่อยสิ ทำไมมันถึงพังได้นะ?

ว่าแล้วเซฟิรอธก็เรียกให้แซ็คมองเข้าไปในตู้ทดลอง ซึ่งสิ่งที่แซ็คเห็นอยุ่ในตู้ทดลองก็คือมอนสเตอร์

แซ็ค : อะไรกันเนี่ย!
เซฟิรอธ : โซลเยอร์ทั่วๆ ไปก็คือมนุษย์ที่ได้ผ่านการอาบมาโค อาจจะต่างจากคนทั่วไปแต่ก็ยังเป็นมนุษย์ แต่ว่านี่มันอะไรกัน? ถ้าเทียบกับโซลเยอร์ทั่วไปอย่างนายแล้ว พวกนี้ถูกจับอาบมาโคที่เข้มข้นกว่ามากทีเดียว

แซ็ค : มันเป็นมอนสเตอร์รึเปล่า
เซฟิรอธ : แน่นอน โฮโจของชินระคือคนที่สร้างเจ้ามอนสเตอร์พวกนี้ขึ้นมา พลังงานมาโคก็คือสิ่งที่ใช้สร้างสิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์...อีกนัยหนึ่งก็คือมอนสเตอร์
แซ็ค : โซลเยอร์ทั่วๆ ไป? จะบอกว่าตัวนายเองไม่ใช่พวกทั่วไปงั้นเหรอ? นี่เซฟิรอธ!!

เซฟิรอธ : ไม่จริงน่า...ตัวฉันเองก็ด้วยเหรอ...? ฉันเองก็ถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิธีเดียวกันรึเปล่า? นายกำลังจะบอกว่าฉันเองก็เหมือนกับพวกมอนสเตอร์นั่นรึเปล่า?

เซฟิรอธเริ่มมีท่าทีที่สับสน เขาเริ่มถามคำถามกับตัวเขาเองและยังผลักแซ็คออกไป แซ็คพยายามที่จะปลอบเซฟิรอธ แต่ในอารมณ์แบบนี้คงไม่มีใครช่วยอะไรเซฟิรอธได้

เซฟิรอธ : ฉันรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งยังเด็ก ฉันแตกต่างจากคนอื่นๆ เขา ฉันมีความพิเศษบางอย่าง แต่มันต้อง...แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้!!! นี่ฉันเป็นมนุษย์รึเปล่า!!!

เจเนซิส : โชคร้ายหน่อยนะ....ผิดแล้วล่ะ นายเองก็เป็นมอนสเตอร์

เจเนซิสปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับซัดเวทมนต์ไปยังแซ็คและเซฟิรอธ แซ็คถึงกลับกระเด็นไปแต่เซฟิรอธสามารถใช้มือเปล่ารับการโจมตีของเจเนซิสไว้ได้

เจเนซิส : เซฟิรอธ แกเป็นผลผลิตของเจโนว่าโปรเจคท์ มอนสเตอร์ที่เยี่ยมยอดที่สุด

แซ็ค : เจเนซิส! แกยังมีชีวิตอยู่จริงๆ ด้วย
เจเนซิส : ในสภาพแบบนี้ยังจะพูดกับฉันไหวอีกเหรอ?
เซฟิรอธ : เจโนว่าโปรเจคท์เกี่ยวข้องกับฉันยังไง?
เจเนซิส : เจโนว่าโปรเจคท์คือการทดลองใช้เซลล์เจโนว่า

เซฟิรอธ : เซลล์ของแม่งั้นเหรอ...?
เจเนซิส : น่าเวทนาจริงๆ เลยนะเซฟิรอธ นายไม่เคยได้พบกับแม่ของนาย สิ่งที่นายได้ยินมาก็มีแต่ชื่อของแม่ใช่มั้ย? ลองพยายามนึกสิว่าเธอมีหน้าตายังไง เจ็บปวดใช่มั้ยล่ะ? ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

แซ็ค : เจเนซิส! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!
เจเนซิส : เจโนว่าก็คือมอนสเตอร์ที่ถูกค้นพบขึ้นและมีชีวิตอยู่ในช่วง 2000 ปีก่อน เซฟิรอธ...ให้ฉันยืมพลังของนายเถอะ ไม่งั้นการเสื่อมสภาพของฉันก็จะไม่หยุดลง โซลเยอร์เฟิร์สคลาสเซฟิรอธ! แองจีลเองก็เป็นมอนสเตอร์ทีเกิดขึ้นจากเจโนว่าโปรเจคท์ G เช่นเดียวกับฉัน ส่วนเจโนว่าโปรเจคท์ S ก็คือ…

แซ็ค : S…?
เจเนซิส : คือโปรเจคท์ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างมอนสเตอร์ที่สมบูรณ์แบบ
เซฟิรอธ : ตอนนี้ฉันจะทำอะไรได้มั่ง?
เจเนซิส : นายไม่สามารถมีร่างโคลนได้เพราะยีนส์ของนายมันไม่สามารถแพร่กระจาย (ในร่างคนอื่น) ได้ ฉะนั้นการเสื่อมสภาพจึงไม่เกิดขึ้น ให้ฉันยืมเซลล์ของแกเถอะนะ 「ความหวังของคุณผู้ที่ถูกเลี้ยงดู ของขวัญจากเทพธิดาได้ถูกส่งต่อ」
เซฟิรอธ : แกพยายามจะทำให้ฉันสับสนกับสิ่งที่แกพูดใช่มั้ย...? ความจริงเป็นยังไงกันแน่...? เป็นยังไงกัน….? เชิญแกพุพังไปซะเถอะ

เจเนซิส : เข้าใจละ คิดแล้วว่ามอนสเตอร์ที่สมบูรณ์แบบจะเป็นแบบนี้

เซฟิรอธเริ่มเดินออกจากห้อง ซึ่งเจเนซิสก็เดินตามไป เขาเริ่มพูดประโยคใน Loveless ขึ้นอีกครั้ง

เจเนซิส : 「เมื่อไหร่ที่การต่อสู้ของอสูรร้ายแห่งโลกนี้จะจบสิ้นลง? เทพธิดาได้บินลงมาจากท้องฟ้าอันมืดมิด ประตูแห่งแสงสว่างได้เปิดรับความสุขที่มากับของขวัญจากเทพธิดา」
แซ็ค : รอเดี๋ยว!!!

แซ็คไล่ตามทั้งสองที่ออกไปยังด้านนอก ทว่าเมื่ออกมานอกเตาปฏิกรณ์แล้วทั้งสองกลับหายตัวไป เหลือแต่มอนสเตอร์ที่ถูกทิ้งไว้ มอนสเตอร์ตัวนั้นได้ทำให้คลาวด์บาดเจ็บสาหัส แซ็คจึงต้องกำจัดมันและรีบกลับไปยังหมู่บ้าน ระหว่างทางเขาก็ช่วยคุ้มครองทิฟา ซึ่งทิฟาเองก็ต้องคอยแบกคลาวด์ที่บาดเจ็บอยู่

แซ็ค : เซฟิรอธหายไปไหน?
ทิฟา : เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?
แซ็ค : ขอโทษนะ ฉันบอกไม่ได้
ทิฟา : ไม่เป็นไร ฉันจะไปถามชาวเมืองให้เองว่าเซฟิรอธอยู่ไหน
แซ็ค : ขอบใจนะทิฟา

แซ็คและคลาวด์กลับเข้าไปพักในโรงแรม แซ็คคอยนั่งอยู่ข้างๆ ดูแลคลาวด์จนกระทั่งคลาวด์ตื่นขึ้น

แซ็ค : ทิฟาปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วงนะ
คลาวด์ : ถ้าเพียงฉันได้เป็นโซลเยอร์ด้วยก็คง.....นี่แซ็ค?
แซ็ค : โซลเยอร์ก็เหมือนกับมอนสเตอร์น่ะแหละ นายลืมเรื่องนี้ซะเถอะ
คลาวด์ : เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
แซ็ค : ไม่เจอเงื่อนงำอะไรเลย ก็อยากจะให้เจออยู่เหมือนกัน อ่า..นี่ ทิฟานี่เป็นเพื่อนเก่าของนายใช่มั้ย?

Note* แซ็คไม่ได้บอกเรื่องของเจเนซิสให้คลาวด์ฟังเลย ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คลาวด์จะไม่ได้พูดถึงเรื่องเจเนซิสให้ฟังใน FFVII

คลาวด์ : ก็ประมาณนั้น
แซ็ค : นายได้บอกเธอรึเปล่า (ว่านายกลับมาแล้ว) ?
คลาวด์ : เปล่า
แซ็ค : ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะแต่ถ้านายปล่อยไว้แบบนี้แล้วมันจะดีเหรอ? ตัวฉันเอง...ฉันเป็นโซลเยอร์ดังนั้นแค่สู้อย่างเดียวก็พอแล้ว ฉันสามารถทิ้งปัญหาต่างๆ ไว้ให้คนอื่นคิดแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่าโกรธแค่ไหน ไม่ว่าศัตรูจะเป็นใคร นั่นก็ไม่สำคัญอะไร
คลาวด์ : นี่แซ็ค ฉันไม่เคยเห็นนายใช้ดาบเล่มนั้นมาก่อนเลย

เมื่อแซ็คได้ยินคลาวด์พูดประโยคเดียวกับที่เขาเคยพูดเมื่อนานมาแล้ว ก็ทำให้แซ็คนึกถึงความหลังในวันวาน สมัยที่เขายังมีแองจีลอยู่เคียงข้าง

แองจีล : (เอาดาบมาใช้ก็สกปรกสึกกร่อน สนิมจับหมดสินั่นต่างหากที่เสียเปล่า ชีวิตของแกมันสำคัญกว่าดาบเล่มนี้น่ะนะ แต่ก็...นิดเดียวเท่านั้นแหละ)

แซ็ค : อย่าทอดทิ้งความฝัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจงอย่าทอดทิ้งความภาคภูมิใจในฐานะโซลเยอร์

แซ็ค : มันเป็นสัญลักษณ์ของความฝันและความภาคภูมิ ใช่..เป็นแบบนั้นแหละ ฉันเกือบจะลืมมันไปเสียแล้ว ขอบใจนะ คลาวด์

คลาวด์ : เอ๋?
แซ็ค : เอาล่ะ! ตอนนี้ได้เวลา.....นอน!

เมื่อแซ็คตื่นขึ้นมาตอนเช้า เขาก็ลงไปที่ล็อบบี้ด้านล่าง ทิฟาวิ่งเข้ามาในโรงแรมเพื่อแจ้งข่าวสำคัญให้กับเขา

ทิฟา : ดูเหมือนเซฟิรอธจะไปที่คฤหาสน์ชินระนะ
แซ็ค : หมายถึงคฤหาสน์หลังใหญ่นั่นน่ะเหรอ?
ทิฟา : ใช่ มันเป็นของชินระน่ะ

แซ็คเดินออกไปนอกโรงแรมเพื่อเตรียมจะมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลังนั้น ทว่าโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นกลางคัน

แอริธ : ฮัลโหล~
แซ็ค : แอริธ!
แอริธ : ในที่สุดก็ติดต่อเธอได้ซะที!
แซ็ค : อ่า...นี่ขอโทษนะ...ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ แล้วไว้ฉันจะโทรกลับทีหลังนะ
แอริธ : ไม่ล่ะ ไม่เป็นไรหรอกเธอไม่ต้องก็ได้...
แซ็ค : เข้าใจละ...งั้นไว้ฉันจะไปหานะ
แอริธ : แล้วจะคอย
แซ็ค : อืม!...ฉันสัญญา

แซ็ควิ่งไปที่คฤหาสน์ของชินระ และก็ได้เจอกับคลาวด์ที่มารออยูก่อนแล้ว

แซ็ค : แอริธ...รออีกเดี๋ยวนะ

แซ็คที่มาถึงคฤหาสน์ชินระได้วิ่งตามคลาวด์จนไปถึงทางลงชั้นใต้ดิน ที่ด้านล่างนั้นแซ็คได้พบกับเซฟิรอธอีกครั้ง เซฟิรอธเอาแต่อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องกับการทดลองและวิจัยเจโนว่า เขาเอาแต่ตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา

เซฟิรอธ : ….สิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว และน่าจะมีชีวิตอยู่ในช่วง 2000 ปีก่อน ศจ.กัสต์เป็นผู้ตั้งชื่อให้กับมันว่าเจโนว่า ปีที่ X เดือน X วันที่ X เจโนว่าได้รับการยืนยันว่าเป็นชนเผ่าโบราณ ปีที่ X เดือน X วันที่ X เจโนว่าโปรเจคท์ได้ถูกตั้งขึ้น และเริ่มมีการใช้เตาปฏิกรณ์ แม่ของฉันก็ชื่อเจโนว่า....เจโนว่าโปรเจคท์ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญรึเปล่า? ศจ.กัสต์ ทำไมคุณถึงไม่บอกอะไรกับผมเลย? ทำไมคุณถึงตาย?

แซ็ค : เซฟิรอธไม่ยอมออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้นเลย เขาเอาแต่อ่านหนังสือในนั้นราวกับว่าเขาถูกอะไรบางอย่างครอบงำ จนกระทั่งแสงสว่างในชั้นใต้ดินนั้นมอดลง

เมื่อเห็นว่าตนไม่สามารถช่วยอะไรได้ แซ็คจึงปล่อยเซฟิรอธเอาไว้คนเดียวและก็กลับเข้าไปในเมือง

7 วันผ่านไป เมื่อแซ็คออกมาจากโรงแรมเขาก็ต้องตกใจเมื่อเมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยเฟลวไฟ แซ็คพบคลาวด์ที่บาดเจ็บกองอยู่กับพื้น และอีกทางด้านหนึ่งเขาก็ได้พบกับเซฟิรอธที่ยืนอยู่กลางกองเพลิง

เซฟิรอธ : ถึงเวลาที่ต้องไปทักทายแล้ว

เซฟิรอธเดินลับหายไปทางเตาปฏิกรณ์

แซ็ค : โหดร้ายมากเกินไปแล้ว เซฟิรอธ ทำเกินไปแล้วนะ!!!!

แซ็ควิ่งไล่ตามเซฟิรอธที่มุ่งหน้าไปยังเตาปฏิกรณ์ เมื่อเข้าไปด้านในแล้วเขาก็ได้พบกับทิฟาที่นอนล้มอยู่กับพื้น

แซ็ค : เซฟิรอธทำร้ายเธอเหรอ?

ทิฟาที่บาดเจ็บอยู่ไม่ยอมตอบอะไร แถมยังเบือนหน้าหนีจากแซ็ค

ทิฟา : ฉันเกลียดชินระ โซลเยอร์ แก ฉันเกลียดพวกแกทั้งหมด!!!!!!

แซ็คไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินไปที่ห้องของเจโนว่า เขาชักดาบขึ้นมาและฟันประตูห้องทิ้ง ที่ด้านในห้องนั้น เขาพบเซฟิรอธที่กำลังพูดกับใครบางคน

เซฟิรอธ : แม่...มาช่วยกันนำดวงดาวนี้กลับคืนมาด้วยกันเถอะ ผมได้วางแผนที่เยี่ยมยอดไว้แล้ว ไปยังดินแดนแห่งพันธสัญญาด้วยกันเถอะ...แม่
แซ็ค : เซฟิรอธ!! นายฆ่าชาวบ้านทำไม? นายทำร้ายทิฟาทำไม? ตอบฉันมาสิเซฟิรอธ!!!

เซฟิรอธ : ฮ่ะๆๆ แม่..คนพวกนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกแล้ว ด้วยพลังและปัญญาของแม่ แม่ควรจะเป็นผู้ปกครองโลกใบนี้ไม่ใช่เหรอ ทว่าคนพวกนี้...พวกที่ช่วงชิงทุกสิ่งไป พวกมันได้ช่วงชิงโลกนี้ไปจากแม่ใช่มั้ย? แต่ไม่ต้องเสียใจนะแม่ ไปด้วยกันเถอะ...ในที่สุดก็ได้เจอแม่ซะที

แซ็ค : เซฟิรอธ! เกิดอะไรขึ้นกับนาย!!! เซฟิรอธ ฉันเคยเชื่อใจนายนะ!!!

แซ็คยกดาบขึ้นรับการโจมตีที่รวดเร็วของเซฟิรอธ แต่เขาก็กระเด็นตกไปยังชั้นล่าง เซฟิรอธกระโดดตามลงมา

แซ็ค : ไม่ใช่ นายไม่ใช่เซฟิรอธคนเดิมที่ฉันเคยรู้จัก
เซฟิรอธ : ฉันคือผู้ถูกเลือก ผู้ถูกเลือกให้มาปกครองดาวดวงนี้

ในที่สุดการต่อสู้ระหว่างแซ็คกับโซลเยอร์ในตำนานที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจที่สุดก็ได้อุบัติขึ้น ก่อนที่แซ็คจะพ่ายแพ้ให้กับเซฟิรอธ เขาได้ทำดาบหลุดมือและถูกฟันจะกระเด็นออกไปไกล และแล้วแซ็คก็ไม่อาจยืนขึ้นมาได้อีกครั้งเมื่อเซฟิรอธเห็นดังนั้นแล้วเขาจึงกลับเข้าไปในห้องเก็บเจโนว่าอีกครั้ง ทว่าระหว่างนั้นคลาวด์ที่เดินตามเข้ามาก็หยิบดาบของแซ็คขึ้น เขาย่องเข้าไปในห้องและลอบแทงเซฟิรอธจากด้านหลัง เซฟิรอธได้รับบาดเจ็บหนักและล้มลงไป คลาวด์ที่คิดว่าตนจัดการเซฟิรอธลงได้แล้วจึงเดินออกมาจากห้องและรีบเข้าไปดูทิฟา ทว่าหลังจากนั้นเซฟิรอธก็เดินออกมาจากห้องเช่นกัน

เซฟิรอธ : ด้วยน้ำมือคนอย่างแกเนี่ยนะ....

แซ็ค : คลาวด์ จัดการเซฟิรอธซะ!!

คลาวด์รีบวิ่งกระโจนเข้าไปและใช้ดาบฟาดไปที่เซฟิรอธอย่างรุนแรง

คลาวด์ : เซฟิรอธธธธธธธธ!!!!!!!!

ทว่าเซฟิรอธกลับฟาดคลาวด์กระเด็นเข้าไปในห้องของเจโนว่าอย่างไม่ใยดี

เซฟิรอธ : อย่ามั่นใจเกินไปนัก!!!

คลาวด์ที่ล้มฟุบอยู่ถูกเซฟิรอธแทงเข้าไป เซฟิรอธใช้ดาบของเขายกคลาวด์ลอยขึ้น แต่ด้วยเลือดแห่งความโกรธค้นที่คลุ้มคลั่งอยู่ในตัวคลาวด์ ทำให้คลาวด์สามารถทิ้งน้ำหนักตัวลงมาได้ และก็กลายเป็นเขาเองที่สามารถยกใช้ดาบยกเซฟิรอธขึ้น ก่อนที่จะเหวี่ยงเซฟิรอธตกบ่อมาโคไป เมื่อเห็นว่าเซฟิรอธได้เสียท่าให้กับตนจริงๆ แล้ว คลาวด์จึงเดินโซซัดโซเซออกมาจากห้อง

แซ็ค : เจ๋งมาก คลาวด์...

คลาวด์ที่หมดสติได้ล้มกลิ้งตกบันได ทั้งแซ็คและคลาวด์ที่เหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้ได้สลบไปในทันที

ในเวลาต่อมา ขณะที่อยู่ในสภาพครึ่งกลับครึ่งตื่น แซ็คก็พบตัวเองที่อยู่บนเปล เขาถูกรายล้อมไปด้วยพวกชินระ และโฮโจ เขาเห็นโฮโจพูดกับร่างของคลาวด์ที่ยังคงสลบอยู่เช่นกัน

โฮโจ : เด็กคนนี้เหรอที่จัดการเซฟิรอธได้? น่าสนใจนี่ น่าสนใจจริงๆ!! ในฐานะร่างทดลองตัวใหม่เจ้าหมอนี่ต้องมีประโยชน์แน่!


 

 

 

บทที่ 10 สิ่งที่ได้รับและสิ่งที่สูญไป

 

 

แซ็คและคลาวด์ได้ถูกจับมาเป็นร่างทดลองในโปรเจคท์บางอย่างที่โฮโจคิดขึ้น เวลาผ่านพ้นไปนานนับปี จนกระทั่งวันหนึ่งแซ็คที่ยังคงหลับใหลอยู่ในตู้ก็ได้ฝันเห็นแองจีล

แองจีล : ยังกล้าเรียกตัวเองว่าโซลเยอร์อีกเหรอ? ฉันไม่ต้องการโซลเยอร์ที่น่าสมเพชแบบนี้หรอก!!

แซ็ค : แองจีล!! เดี๋ยวก่อน...!!!!

แซ็คเริ่มได้สติกลับมา เขาค่อยๆ ตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ หลังจากที่ได้หลับใหลมานานหลายปี

แซ็ค : ปีกของคุณ...ให้ฉันได้ยืมมันเถอะนะ

แซ็คเรียกพลังของตนกลับคืนมา เขาออกแรกจนสามารถพังตู้ทดลองออกมาได้ ผู้ช่วยของโฮโจที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงจึงตกใจและรีบเดินมาดู เขาพบแซ็คที่นอนกองอยู่กับพื้น ทันใดนั้นแซ็คก็ลุกขึ้นมาและต่อยเขาจนหมดสติ จากนั้นแซ็คก็เดินไปหน้าตู้ทดลองของคลาวด์ และกดปุ่มเปิดตู้ออกมา

แซ็ค : คลาวด์.....

แซ็คพาคลาวด์ออกไปนอกคฤหาสน์ และหาทางที่จะออกจากที่นี่ ทว่าเขาก็ต้องตกใจกับทุกสิ่งที่เขาได้เห็น…

แซ็ค : อะไรกันเนี่ย!! ทำไมหมู่บ้านนี้ถึงยังอยู่? มันน่าจะถูกเผาวอดไปแล้วไม่ใช่เหรอ

ทหารชินระ : พบผู้หลบหนีแล้ว!! เจ้าร่างทดลองนั่นไง!!
แซ็ค : อย่าหวังเลยว่าทหารธรรมดาจะเอาชนะฉันได้ คลาวด์...แย่หน่อยนะ ฉันจะรีบจัดการพวกมันให้เสร็จเร็วๆ เสียใจด้วยนะ แต่พวกนายไม่มีทางจับฉันได้หรอก

แซ็คสามารถกำจัดทหารพวกนั้นลงได้ แต่เขารู้สึกว่าเขาต้องเปลืองแรงมากกว่าทีเคย

แซ็ค : แย่ซะแล้ว สภาพตัวฉันก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ขนาดทหารธรรมดาฉันยังสู้ได้ลำบากเลย ฉันว่าตอนนี้เรากลับไปที่คฤหาสน์แล้วพักซักหน่อยเพื่อเรียกพลังกลับคืนมาดีกว่านะ

แซ็คพยุงคลาวด์กลับไปยังคฤหาสน์ เขาพยายามพูดกับคลาวด์อยู่ตลอดเวลา

แซ็ค : ยังสว่างอยู่เลย นายคิดว่าเราควรพักจนถึงเย็นดีมั้ย?

แซ็คปล่อยคลาวด์ลงบนเตียงก่อนที่จะเอาแต่จ้องไปยังคลาวด์อยู่พักใหญ่ เขาสงสัยว่าทำไมคลาวด์ถึงไม่ตอบอะไรเลย

คลาวด์: อา............
แซ็ค : คลาวด์...อาการมาโคเป็นพิษงั้นเหรอ? นี่แองจีล....ฉันเนี่ยจะไม่สามารถช่วยใครไว้ได้เลยเหรอ? ดีล่ะ! ก่อนอื่นฉันจะออกไปหาชุดมาเปลี่ยนให้นายละกัน! คงไม่ดีเท่าไหร่ที่จะปล่อยให้นายใส่เสื้อที่มีมาโคอาบอยู่แบบนี้น่ะนะ รออยุ่นี่ละกัน เดี๋ยวฉันก็กลับมา

แซ็ควิ่งไปรื้อค้นตามห้องต่างๆ แล้วเขาก็ได้เจอชุดของเฟิร์สคลาส

แซ็ค : เจ๋ง! ดูดีมากเลย หวังว่าเขาคงใส่ได้นะ

แซ็ควิ่งกลับไปห้องที่คลาวด์อยุ่และบอกข่าวดีให้เขาฟัง

แซ็ค : นี่ฉันเจออะไรดีๆ เข้าแล้ว มันอาจจะใหญ่ไปนิด แต่อย่าร้องขอพวกชุดหรูๆ เลย ชุดนี้เหมาะกับนายแล้วล่ะ

หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้คลาวด์เสร็จแล้ว แซ็คก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเขาและเขาก็พบกระดาษใบหนึ่ง ว่าแล้วเขาก็นึกถึงสัญยาที่เขาให้ไว้กับแอริธได้

แซ็ค : อยากได้หรูน้อยๆ แต่มากๆ ชิ้นใช่มั้ยล่ะ?
แอริธ : ใช่! เข้าใจแล้วใช่มั้ย?
แซ็ค : ซักกี่ชิ้นดีล่ะ?
แอริธ : อืม...23?
แซ็ค : จดลงในกระดาษละกันนะ ไม่งั้นฉันอาจจะลืมก็ได้

แซ็คก้มลงอ่านสิ่งที่แอริธเขียนลงในกระดาษ

แอริธ : มีของหรูๆ ที่ต้องการอยู่ 23 ชิ้น แต่เธออาจจะลืมมันไปก็ได้ ทว่าเรื่องที่ฉันต้องการมากที่สุดก็คือ...ฉันอยากจะอยู่กับเธอให้มากว่านี้

แซ็คเริ่มรู้สึกตัวว่ายังมีเรื่องที่เขาต้องทำค้างคาอยู่

แซ็ค : นี่คลาวด์...ฉันต้องกลับไปที่มิดการ์ นายเองก็จะไปด้วยกันใช่มั้ย?

แซ็คกลับไปยังทางเข้าเมืองนีเบิลเฮม ทหารชินระมากมายปรากฏตัวขึ้นและพยายามจะจับทั้งสองคนไปให้ได้ แซ็ครีบจัดการพวกเขาและหนีออกจากเมืองไป ระหว่างเส้นทางเขาก็พาคลาวด์ไปซ่อนในที่ๆ ปลอดภัยและค่อยออกไปสุ้กับเหล่าหุ่นยนต์ที่ปรากฏขึ้นขวางทาง แซ็คหนีๆๆ และหนีไป เรื่อยๆ จนกระทั่งเขามาถึงริมหาดแห่งหนึ่ง มันเป็นเวลามืดแล้ว เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่ล่องลอยอยู่บนฟากฟ้า

แซ็ค : อ่า....หลังจากนี้เราจะทำยังไงกันต่อดี? มีคลาวด์อยู่ด้วยแบบนี้ฉันคงจะทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ได้ แองจีล...ฉันควรจะทำยังไงดี?

ระหว่างที่กำลังจ้องมองดวงจันทร์ แซ็คก็ได้พบกับคนคุ้นเคยที่แอบตามเขามา

แซ็ค : โย่ ซิสเนย์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ?
ซิสเนย์ : แซ็ค....นายคือร่างทดลองที่พยายามหลบหนีงั้นเหรอ?
แซ็ค : ถูกต้องแล้ว
ซิสเนย์ : พวกเขาทำอะไรกับนายในห้องทดลอง?
แซ็ค : เยอะแยะเลยแหละ นี่ซิสเนย์..เธอมาเพื่อพาพวกฉันกลับไปใช่มั้ย? ขอร้องล่ะ! ปล่อยพวกฉันไปเถอะ! ฉันคงหนีจากกพวกกองทัพได้แต่ถ้าเทิร์คเข้ามาร่วมวงด้วย ฉันก็คงไม่ไหว

ซิสเนย์ : แซ็ค...ขอโทษด้วยนะ มันเป็นงานของฉัน ถ้าเธอคิดจะหนี ฉันคง...

ด้วยใจที่ยังคงสับสน ซิสเนย์ได้ปาชูริเคนของเธอออกไปแต่แซ็คก็ป้องกันเอาไว้ ซิสเนย์พยายามจะเข้าประชิดตัวแซ็ค แต่...

แซ็ค : อย่าเข้ามาใกล้กว่านี้ ถ้าเธอคิดจะตามพวกฉันมาก คราวหน้าฉันจะเอาจริงแล้ว….

แซ็ควิ่งกลับไปดูแลคลาวด์โดยปล่อยให้ซิสเนย์ที่ยังสับสนกับสิ่งที่ตัวเองควรจะทำยืนเหม่อลอยอยู่ตามลำพัง

แซ็ค : ตอนนี้พวกกองทัพกับเทิร์คล้อมแถวนี้ไว้แล้ว ถ้าเราเคลื่อนที่กันตอนนี้คงจะอันตรายเกินไป วันนี้เรานอนกันตรงนี้ละกัน ไว้พอเช้าแล้วเราค่อยไปจากที่นี่ โอเค?

ซิสเนย์ที่ค่อยๆ เดินตามมาจนพบกับแซ็ค แซ็ครีบชักดาบของเขาขึ้นมา

แซ็ค : ซิสเนย์...
ซิสเนย์ : เขาคือ...คนที่หนีออกมาพร้อมกับนายใช่มั้ย
แซ็ค : เธอตามมาทำไมซิสเนย์? ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าตามมา!!
ซิสเนย์ : เขาดูอาการไม่ดีเลย เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
แซ็ค : อาการมาโคเป็นพิษอย่างรุนแรงเลยล่ะ
ซิสเนย์ : เพราะการทดลองใช่มั้ย?
แซ็ค : เออ

ซิสเนย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปยังเส็ง เธอยกนิ้วขึ้นบอกแซ็คว่าไม่ต้องตกใจ

แซ็ค : เฮ่ย!
ซิสเนย์ : เส็ง เป้าหมายได้หลบหนีไปแล้วค่ะ

Note* ถ้าเป็นภาค BC ซิสเนย์จะรายงานต่อว่าผู้หลบหนีก็คือแซ็ค ซึ่งเส็งจะตกใจมาก และจะบอกซิสเนย์ว่าภารกิจล้มเหลวแล้ว ให้ซิสเนย์รีบกลับมา จากนั้นซิสเนย์ก็จะขอไปยังห้องทดลองในคฤหาสน์เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ซิสเนย์วางสายไปและหันกลับมาคุยกับแซ็คต่อ

ซิสเนย์ : เรียบร้อยแล้วนะ ทีนี้ก็หนีไปได้แล้ว
แซ็ค : ซิสเนย์...ขอบใจนะ
ซิสเนย์ : ฉันมีของขวัญจะให้นายด้วย ฉันเชื่อใจนายนะ ฉะนั้นช่วยรับมันไว้ด้วย

ซิสเนย์มอบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของชินระให้กับแซ็ค แซ็คใช้มันขับมุ่งหน้ากลับไปยังมิดการ์ โดยมีคลาวด์นั่งซ้อนอยู่

แซ็ค : รถรุ่นใหม่ของชินระนี่มันสุดยอดเลย~!!!

 

ระหว่างที่ขับรถอยู่แซ็คก็ได้พบกับพวกร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสที่ปรากฏขึ้นมาขวางทาง เขาเตรียมที่จะสู้กับพวกมันแต่กลับเจอเจเนซิสถีบเข้าให้จากด้านหลัง เขาจึงเสียท่าถูกพวกมันจับตัวไว้ได้

เจเนซิส: 「เมื่อไหร่ที่การต่อสู้ของอสูรร้ายแห่งโลกนี้จะจบสิ้นลง? เทพธิดาได้บินลงมาจากท้องฟ้าอันมืดมิด ประตูแห่งแสงสว่างได้เปิดรับความสุขที่มากับของขวัญจากเทพธิดา」

เจเนซิสปล่อยให้ร่างก๊อปปี้ทดลองกินผมของแซ็ค

แซ็ค : ผมของฉันนนน!!!
เจเนซิส : ฉันได้ยินว่านายถูกใช้ในการทดลองหนี่งของโฮโจ เขาใช้นายสำหรับการทดลองในโปรเจคท์ S และนายก็น่าจะได้รับสืบทอดพลังของเจโนว่า

Note* จริงๆ แล้วโปรเจคท์ที่คลาวด์และแซ็คโดนจับไปทดลองคือ C Project (น่าจะหมายถึง Copy Project) ซึ่งเป็นโปรเจคท์ที่โฮโจพยายามจะสร้างโคลนของเซฟิรอธขึ้นมา มันเป็นโปรเจคท์ใหม่ที่พึ่งคิดค้นขึ้นหลังจากที่เซฟิรอธตกลงไปในบ่อมาโค ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเจเนซิสจะไม่รู้จักชื่อโปรเจคท์นี้ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรตราบใดที่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าการทดลองที่เกิดขึ้นกับแซ็คมีการใช้เซลล์ของเซฟิรอธซึ่งเป็นเซลล์ที่มีความเข้มข้นของเจโนว่าสูงมาก ตรงนี้เป็นจุดสำคัญซึ่งเขาไม่ได้เข้าใจผิดไปด้วย

แซ็ค : แล้วมันอะไรกันเล่า!! ล้อเล่นใช่มั้ย!! มันกินผมฉันแล้ววว~
เจเนซิส : สำหรับฉันแล้วเจ้าเซลล์เหล่านี้ก็คือ「ของขวัญจากเทพธิดา」ที่จะทำให้การเสื่อมสภาพของฉันหยุดลง
แซ็ค : นายมีบางอย่างผิดปกติงั้นเหรอ?
เจเนซิส : หลังจากได้รับเซลล์ของมอนสเตอร์ไป ก็จะหายดีเอง
แซ็ค : แกต่างหากที่เป็นมอนสเตอร์!
เจเนซิส : 「ของขวัญจากเทพธิดาได้ถูกส่งต่อ การเสียสละของคุณและจุดจบของโลก ดุจดั่งลมพายุที่พัดผ่านผิวน้ำอย่างนุ่มนวลและนิรันดร์」

เจเนซิสบินจากไปพร้อมกับร่างก๊อปปี้ตัวหนึ่ง แต่กลับทิ้งร่างก๊อปปี้อีกตัวไว้เป็นเพื่อนแซ็ค หลังจากที่มันกินผมของแซ็คไปมันก็ดูมีท่าทีทรมาน ซักพักเจ้าร่างก๊อปปี้ก็แปรสภาพกลายเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวยิ่งขึ้น แซ็คจึงรีบกำจัดมันและกลับขึ้นมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง

แซ็ค : แองจีล...ฉันควรทำยังไงดี?

แซ็คเริ่มออกเดินทางต่ออีกครั้ง ระหว่างทางเขาก็ขับผ่านดินแดนที่อุดมไปด้วยดินทราย ซึ่งเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่านั่นเป็นสถานที่ๆ เขารู้จักดีที่สุด บ้านเกิดของเขาเอง

แซ็ค : นี่มัน….นี่มัน! คลาวด์ ฉันกลับมาถึงบ้านเกิดแล้ว! นี่ไงก็องกาก้า!!

แซ็คบึ่งรถเข้าไปใกล้เมือง และตัดสินใจที่จะจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้แถวเตาปฏิกรณ์ที่เลิกใช้แล้ว

แซ็ค : คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ถ้าจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ พวกกองทัพอาจซุ่มเตรียมโจมตีฉันอยู่ก็ได้ รออยู่นี่ซักพักนะคลาวด์ พ่อกับแม่คงเป็นห่วงฉันน่าดู อยากรู้จังว่าแม่กำลังทำอะไรอยู่นะ....ถึงจะอันตราย แต่คนในหมู่บ้านต้องรอคอยการกลับมาของฉันอยู่แน่

แซ็คเดินไปยังหมู่บ้านก็องกาก้าอย่างช้าๆ โดยปล่อยคลาวด์ให้นอนเฝ้ารถไว้ ระหว่างที่แซ็คเดินไปเรื่อยๆ เขาก็ยังคงตัดสินใจไม่ได้อยู่ดีว่าจะกลับเข้าบ้านไปหาพ่อและแม่ดีมั้ย ทว่าใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อช่วยแซ็คตัดสินใจ

 

ซิสเนย์ : ดูท่ากังวลจังนะ กำลังกลุ้มใจกลัวว่ามีคนจะคอยซุ่มทำร้ายนายอยู่ที่บ้านใช่มั้ยล่ะ?

แซ็ค : ห๊ะ!
ซิสเนย์ : คิดจะไปพบหน้าพ่อแม่ใช่มั้ยล่ะ?
แซ็ค : ผิดด้วยเหรอ? ก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่รึไง?
ซิสเนย์ : อื้อ
แซ็ค : แต่ว่า...ฉันเองก็ยังคิดไม่ตกจริงๆ คงจะเป็นอย่างที่เธอพูดละมั้ง งั้นฉันไปดีกว่า

ซิสเนย์ : ระวังตัวเข้าใจมั้ย? นายต้องเพิ่มความระวังให้มากกว่าปกตินะ นอกจากนายแล้ว ดูเหมือนจะยังมีคนอื่นอีกที่มาที่หมู่บ้านนี้อีกด้วย

แซ็ค : ใครเหรอ?
ซิสเนย์ : แองจีล.
แซ็ค : เข้าใจละ
ซิสเนย์ : เข้าใจแล้ว? นายเป็นคนกำจัดเขาไม่ใช่เหรอ? ไม่แปลกใจรึไง?
แซ็ค : ต้องขอบคุณเขา เพราะเขาฉันจึงหนีออกมาจากคฤหาสน์ชินระได้
ซิสเนย์ : อย่างงั้นเหรอ แสดงว่าข้อมูลจากพยานผู้พบเห็นเป็นจริงสินะ
แซ็ค : ว่าแต่เขามาที่ก็องกาก้าทำไมกัน?
ซิสเนย์ : เขาอาจจะอยากพบนายมั้ง นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีเหตุผลอื่นอีกเหรอ?

แซ็คพยายามตะโกนเรียกแองจีลอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา

แซ็ค : ถ้าอยู่แถวๆ นี้ก็รีบหนีไปนะแองจีล!!! พวกเทิร์คกำลังตามหาอยู่!!
ซิสเนย์ : ฉันให้เวลานาย 10 นาที หลังจากนั้นฉันจะกลับไปทำหน้าที่เทิร์คอีกครั้ง

แซ็ค : กลับไปทำอีกครั้ง?
ซิสเนย์ : ตอนนี้...ฉันยังไม่อาจทำได้ ฉันยังไม่อยากเดินไปบอกข่าวร้ายกับพ่อแม่ของนาย

แซ็ค : แม่ของฉันกำลังทำอะไรอยู่?
ซิสเนย์ : เธอกำลังกังวลกับเรื่องของนาย ยิ่งนายเข้าไปพัวพันกับเรื่องวุ่นๆ แบบนี้ เธอยิ่งกังวลว่านายจะหาภรรยาไม่ได้
แซ็ค : บ้าบอสิ้นดี
ซิสเนย์ : เป็นพ่อแม่ที่ดีไม่ใช่เหรอ พวกเขาสบายดีด้วยนะ
แซ็ค : เข้าใจแล้ว พวกเขา สบายดีก็ดีแล้ว ว่าแต่ครอบครัวของเธอล่ะ?
ซิสเนย์ : ชินระเลี้ยงฉันขึ้นมาน่ะ

แซ็ครู้ตัวว่าเขากำลังสร้างบรรยากาศมาคุขึ้นมา เขาจึงพยายามหาทางทำลายบรรยากาศนี้ลง

แซ็ค : นี่ซิสเนย์....เธอช่วยไปพูดกับแม่แทนฉันได้มั้ย?
ซิสเนย์ : แน่นอน ด้วยความยินดีเลยล่ะ
แซ็ค : อย่าไปพูดอะไรให้พวกเขาเข้าใจผิดว่าเธอเป็นว่าที่เจ้าสาวของฉันล่ะ
ซิสเนย์ : ฉันบอกพวกเขาไปแล้วล่ะ
แซ็ค : พูดแบบนั้นไปได้ไง! ซิสเนย์!
ซิสเนย์ : นั่นไม่ใช่ชื่อจริงของฉันหรอกนะ
แซ็ค : เอ๋?
ซิสเนย์ : จะทำอะไรก็รีบ! เหลือแค่5 นาทีแล้วนะ!

ซิสเนย์เดินจากไป อีก 5 นาทีเธอจะกลับมาอีกครั้งในฐานะของเทิร์คนหนึ่ง ระหว่างนั้นเองแซ็คก็เห็นอะไร บางอย่างที่มีปีกสีขาวบินอยู่บนฟ้าไกล

แซ็ค : แองจีล? นั่นแองจีลใช่มั้ย!?

แองจีลที่แซ็คมองเห็นบินห่างไปไกล และร่อนลงบนยอดเขา

แซ็ค : รอด้วย!!

แซ็ควิ่งตามแองจีลจนไปถึงยอดเขา เมื่อมาถึงแล้วเขาพยายามตะโกนเรียกแองจีลให้ออกมา ทว่าสิ่งที่เขาพบกลับไม่ใช่แองจีลแต่เป็นพวกร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสแทน!

แซ็ค : เดี๋ยวสิ! นี่มันอะไรกัน!!
ร่างก๊อปปี้ : เซลล์ S…

Note* หมายถึงเซลล์จากร่างกายของเซฟิรอธ

หลังจากที่กำจัดพวกมันไปได้บางส่วน ใครบางคนก็สั่งพวกโคลนให้หยุดการโจมตี

ฮอลันเดอร์ : เซลล์ของเจ้านั่นจะมีประโยชน์อย่างมากกับพวกเรา! แกเคยเป็นโซลเยอร์ใช่มั้ย? โครงสร้างเซลล์ของแกคงเริ่มจะเสื่อมสภาพแล้วแน่

Note* ฮอลันเดอร์พยายามจะบอกว่าแซ็คเคยผ่านการฉีดเซลล์เจโนว่าเข้าไปในร่างกายมาแล้ว ฉะนั้นเมื่อแซ็คได้ถูกเอาตัวไปทดลอง เซลล์ที่ฉีดเข้าไปใหม่มันจะไปตีกับเซลล์ที่อยู่ในร่างกายเดิม และอาจทำให้แซ็คเกิดอาการเสื่อมสภาพได้

แซ็คมองไปยังร่างของฮอลันเดอร์ ที่ตกอยู่ในอาการเสื่อมสภาพเช่นกัน

แซ็ค : ฮอลันเดอร์!? แกเองก็ใช้มันด้วยงั้นเหรอ?

ฮอลันเดอร์ : ใช่ เจเนซิสพยายามจะฆ่าฉัน ดังนั้นเพื่อที่จะมีชีวิตอยุ่ต่อฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่น เซลล์ของเจเนซิสมันช่าง...

แซ็ค : นายกำลังเสื่อมสภาพนี่
ฮอลันเดอร์ : ใช่แล้ว แต่ฉันก็ไม่คิดเสียใจแม้แต่น้อย

เจเนซิสเดินเข้ามาหาฮอลันเดอร์ พร้อมกับแอปเปิ้ลไวท์บาโนล่าที่ถืออยู่ในมือ

เจเนซิส : ของขวัญจากเทพธิดา...เมื่อใดที่พวกเราได้รับเซลล์ S ที่แท้จริงเข้าไป เราจะไม่ต้องกังวลกับการเสื่อมสภาพอีกต่อไป
แซ็ค : ที่แท้จริง?
เจเนซิส : นายไม่ได้หนีออกมาคนเดียวใช่มั้ย?
แซ็ค : เปล่าซะหน่อย
เจเนซิส : ผู้หลบหนีมีด้วยกันสองคน คนหนึ่งคืออดีตโซลเยอร์ และอีกคนคือทหารธรรมดา
ฮอลันเดอร์ : และทหารธรรมดาคนนั้นก็มีเซลล์ S ที่แท้จริงกลุ่มสุดท้ายอยู่ในตัว!!
แซ็ค : เฮ่ย!!!

ฮอลันเดอร์บินหนีไปพร้อมกับพวกโคลน แซ็ครู้ได้ทันทีว่าเขาต้องไปหาคลาวด์แน่ๆ ทว่าเจเนซิสกลับยกมือขึ้นขวางไม่ให้แซ็คโจมตีพวกที่บินหนีไปได้

เจเนซิส : นายรู้จักวลี 4 ท่อนสุดท้ายในเนื้อเรื่องมั้ย?
แซ็ค : ฉันไม่สนหรอก (เฟ้ย) !!!
เจเนซิส : 「ของขวัญจากเทพธิดาได้ถูกส่งต่อ การเสียสละของคุณและจุดจบของโลก ดุจดั่งลมพายุที่พัดผ่านผิวน้ำอย่างนุ่มนวลและนิรันดร์」
แซ็ค : เสียสละ? จุดจบ? จะบ้ารึไง!!
เจเนซิส : โชคร้ายนะที่นายไม่สามารถเข้าใจความงดงามของท่อนนี้ได้ ไม่เป็นไร ฉันคงไม่บังคับให้นายเข้าใจ กระทั่งฉันบางครั้งก็ยังไม่ค่อยเข้าใจมันเหมือนกัน การได้รับ「ของขวัญจากเทพธิดา」คือความหวังสูงสุดของทุกคน ส่วน「ผิวน้ำ」ก็คือการกลับคืนสู่ 「ไลฟ์สตรีม」.
แซ็ค : อะไรนะ?
เจเนซิส : บทสุดท้ายของเรื่องได้สูญหายไป อย่างไรก็ตามฉันก็มีบทสรุปในความคิดของฉัน และมันก็เป็นบทสรุปที่ถูกต้อง ฉันจะพิสูจน์ให้นายดู
แซ็ค : ถึงคิดเรื่องเหลวไหลไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก!

แซ็คทะยานเข้าไปหาเจเนซิสแต่เจเนซิสกลับบินหนีไป โดยทิ้งไว้แอปเปิ้ลใบหนึ่งไว้ให้ดูต่างหน้า

เจเนซิส : ในไม่ช้านายจะเข้าใจเอง
แซ็ค : คลาวด์ตกอยู่ในอันตราย!! ฉันต้องกลับไปยังเตาปฏิกรณ์ ต้องรีบแล้ว!!

แซ็ครีบย้อนกลับไปหาคลาวด์ เมื่อเขาไปถึงเขาก็พบคลาวด์ที่กำลังจะโดนฮอลันเดอร์ตะครุบตัวอยู่พอดี

แซ็ค : คลาวด์ หนีไป!!!

แซ็คต้องตกใจเมื่อแองจีลบินโฉบลงมาช่วยคลาวด์ แองจีลรีบโจมตีใส่พวกร่างก๊อปปี้และฮอลันเดอร์ในทันที แต่แองจีลในตอนนี้ก็ดูเอื่อยเฉื่อยกว่าที่เคย เขาดูงุ่มง่ามและถูกฮอลันเดอร์ซัดล้มได้ แซ็คพยายามจะเข้ามาช่วยแต่พอฮอลันเดอร์เห็นท่าไม่ดีเขาจึงรีบวิ่งหนีไป ทว่าเขาก็ถูกแซ็ควิ่งไล่ตามอยู่ดี เมื่อเล่นไล่จับกันจนเหนื่อยแล้วฮอลันเดอร์ก็ตัดสินใจที่จะสู้กับแซ็ค ซึ่งลุงแกก็พ่ายไปอย่างง่ายดาย แซ็คมองดูร่างของฮอลันเดอร์ที่ค่อยๆ กลับกลายเป็นพลังงานชีวิตและหวนคืนสู่ไลฟ์สตรีม เมื่อเสร็จเรื่องแล้วเขาจึงรีบกลับไปหาคลาวด์และแองจีล

แองจีล : ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ...
แซ็ค : ฮ่ะๆ ทำไมนายถึงล้มง่ายแบบนั้นล่ะ?
แองจีล : ฉันคงเทียบกับเฟิร์สคลาสไม่ได้ เพราะฉันเป็นแค่โคลนของแองจีล

แซ็ค : โคลน?
ลาซาร์ด : (ฉันคือ) ลาซาร์ดไง

 

ลาซาร์ดเริ่มอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้แซ็คฟัง แท้จริงแล้วแองจีลที่เราเห็นในตอนนี้ก็คือลาซาร์ดที่ถูกฉีดเซลล์ของแองจีลเข้าไป จนกลายเป็นโคลนของแองจีลด้วยน่ะเอง

แซ็ค : ตั้งแต่เกิดเรื่องที่จูน่อนขึ้น นายก็คอยติดตามฮอลันเดอร์มาตลอดงั้นเหรอ? ทำไมทำแบบนั้นล่ะ?
ลาซาร์ด : ฉันคิดว่าฉันจำเป็นต้องให้ฮอลันเดอร์ช่วยเหลือในแผนการแก้แค้นของฉัน
แซ็ค : นายรู้แน่นะว่านายควรเข้าข้างฝ่ายไหน
ลาซาร์ด : จริงๆ แล้ว ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันจะถูกเซลล์ของแองจีลจะทำให้กลายเป็นร่างโคลนได้
แซ็ค : เข้มแข็งหน่อยสิ นายน่ะได้รับสืบทอดพลังของโปรเจคท์ G เลยนะ
ลาซาร์ด : มันทำให้รู้สึกแปลกๆ นะ
แซ็ค : หืม?
ลาซาร์ด : หลังจากที่ชีวิตของฉันได้กลายเป็นแบบนี้แล้ว ฉันก็ลืมเรื่องการแก้แค้นไปจนหมด ทว่าในทางตรงข้าม ฉันกลับอยากช่วยนาย อยากจะช่วยเจเนซิส แล้วความรู้สึกมันก็ยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก ใช่แล้ว ฉันอยากจะช่วยโลกใบนี้
แซ็ค : ไม่แปลกอะไรหรอก ฮิๆ แองจีลก็แบบนี้แหละ
ลาซาร์ด : ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าตอนนี้เจเนซิสจะกำลังตามหาสิ่งที่เรียกว่า「ของขวัญจากเทพธิดา」 มันคืออะไรกัน? ไม่ว่าจะยังไง เราก็ต้องหาคำตอบให้ได้
แซ็ค : ฉันไม่เคยเข้าใจกับสิ่งที่เขาพูดเลย ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?
ลาซาร์ด : แองจีลจะช่วยนำทางให้พวกเราเอง งั้นมั้ง?
แซ็ค : เข้าใจแล้ว ตกลงตามนั้นแหละ คุณผู้บัญชาการ
ลาซาร์ด : ผู้บัญชาการ? นี่แซ็ค ความฝันของนายคืออะไรนะ?
แซ็ค : อ่อ? ใช่แล้ว....การได้เป็นวีรบุรุษไง
ลาซาร์ด : เป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ก็เป็นฝันที่ดี
แซ็ค : อยากจะพูดอะไร? จะขอยืมพลังจากแองจีลให้ช่วยพวกเราใช่มั้ย ถ้าพวกเราช่วยกันพวกเราจะได้เป็นวีรบุรุษแน่! อย่างน้อยที่สุดก็มีฉันคนนึงแหละที่รู้ว่าพวกเราได้เป็นวีรบุรุษแล้ว
ลาซาร์ด : ดีล่ะแซ็ค ตอนนี้นายรู้มั้ยว่าเจเนซิสอยู่ไหน?

แซ็คจ้องมองไปยังแอปเปิ้ลไวท์บาโนล่าที่เจเนซิสทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า และแล้วเขาก็พบคำตอบว่าเจเนซิสต้องพึ่งกลับมาจากหมู่บ้านบาโนล่าแน่ๆ

ลาซาร์ด : เข้าใจละ

ลาซาร์ดค่อยๆ บินขึ้นไปบนฟ้า ส่วนแซ็คก็แบกคลาวด์ขึ้นรถและเริ่มบิดมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง ทั้งสามได้พร้อมแล้วสำหรับการมุ่งหน้าไปยังบ้านเกิดของเจเนซิส


 

 

บทที่ 11 บทอวสารตำนานวีรบุรุษ

 

แซ็คได้กลับมาที่หมู่บ้านบาโนล่าอีกครั้ง ลาซาร์ดเองก็ได้บินลงมาจอดที่ข้างๆ ตัวแซ็คเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าเขายังคงบาดเจ็บจากการสู้กับพวกร่างก๊อปปี้ของเจเนซิสในบทที่แล้ว

ลาซาร์ด : แอปเปิ้ลงี่เง่าจะโตได้เฉพาะที่บาโนล่าเท่านั้น
แซ็ค : ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?
ลาซาร์ด : คงเป็นเพราะดินของที่นี่มีความพิเศษบางอย่างล่ะมั้ง
แซ็ค : เจเนซิสมักจะถือแอปเปิ้ลงี่เง่านี้อยู่ตลอดเวลา ฉันน่าจะรู้สึกตัวเร็วกว่านี้นะเนี่ย ดูเหมือนที่นี่จะเปลี่ยนไปมากทีเดียว นายช่วยดูแลคลาวด์ให้หน่อยได้มั้ย
ลาซาร์ด : ตกลง
แซ็ค : หืม? นั่นอะไรน่ะ?

แซ็คเห็นแสงไลฟ์สตรีมที่ล่องลอยขึ้นมาบนฟ้า เขาตัดสินใจที่จะเดินทางเข้าไปดูที่จุดเกิดเหตุ

 

แซ็ค : จะโดดลงไปล่ะนะ...ไม่มีการถอยอีกแล้ว

แซ็คโดดลงไปหลุมและพบว่าตัวเองอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่

แซ็ค : มีที่แบบนี้อยู่ด้วยเหรอ? ปลายทางจะเป็นที่ไหนกันนะ?

แซ็คเดินทางเข้าไปถ้ำและพบโต๊ะทำงาน หนังสือ และพวกเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เขาหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน

แซ็ค : น้ำผลไม้ไวท์บาโนล่า การประกวดผลผลิตทางการเกษตรแห่งชาติ สาขาสิ่งประดิษฐ์ รางวัลชนะเลิศ เป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจมากเมื่อคนที่คิดน้ำผลไม้นี้ขึ้นมาคือหนุ่มน้อยจากหมู่บ้านไวท์บาโนล่าที่มีชื่อว่าเจเนซิส น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ ! เด็กหนุ่มได้ให้ความเห็นไว้ว่า “ผมดีใจมากจริงๆ มันไม่เพียงดื่มง่ายเหมือนน้ำผลไม้ แต่ยังทานแล้วอร่อยด้วย ความฝันของผมคือวันเวลาที่จะได้ทานแอปเปิ้ลนี้พร้อมกับพ่อแม่ และวีรบุรุษในดวงใจของผม เซฟิรอธ ผมอยากจะเอาผลไม้ที่เป็นความสำเร็จของผมนี้ไปให้เซฟิรอธที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมดู” เจเนซิส...

แซ็ค : ฉันพอทำอะไรได้บ้างเนี่ย?

แซ็คเดินทางไปเรื่อยๆ จนเขาออกมาจากถ้ำ เขาพบประตูบานใหญ่ที่มีภาพของเทพธิดาสลักอยู่ เมื่อเปิดประตูได้แล้วแซ็คก็ต้องสู้กับมอนสเตอร์ที่คอยต้อนรับเขา เมื่อเขากำจัดมันได้เขาก็มุ่งหน้าเข้าไปด้านในต่อ จนได้พบกับเจเนซิสในท้ายที่สุด

เจเนซิส : 「การแก้แค้นกู่ร้องขึ้นในวิญญาณของฉัน มันทนทุกข์กับการรอคอยความปรารถนาที่จะได้รับการบรรเทา และหลับใหลลงในที่ๆ คุณคุ้นเคย」 มาช้าจังนะ
แซ็ค : 「Loveless」 อีกแล้วเหรอ?
เจเนซิส : นายสืบทอดเจตจำนงค์ของแองจีล และรับส่วนหนึ่งของเซฟิรอธมา (เซลล์) นั่นคือเวลาที่เพื่อนได้กลับมารวมตัวกัน ซึ่งก็เหมือนกับว่าละคร「Loveless」ได้เกิดขึ้นอีกครั้งเลย
แซ็ค : ไม่ใช่นะ!! ลืมตาตื่นขึ้นสิ เจเนซิส!!
เจเนซิส : 「เมื่อไหร่ที่การต่อสู้ของอสูรร้ายแห่งโลกนี้จะจบสิ้นลง?」
แซ็ค : ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยนายนะ!!
เจเนซิส : 「เทพธิดาได้บินลงมาจากท้องฟ้าอันมืดมิด ประตูแห่งแสงสว่างได้เปิดรับความสุขที่มากับของขวัญจากเทพธิดา」
แซ็ค : นั่นมันอะไรน่ะ?
เจเนซิส :「ของขวัญจากเทพธิดา」ของขวัญที่เกิดจากธรรมชาติรอบหมู่บ้านบาโนล่า
แซ็ค : ของขวัญนั่นไม่ได้หมายถึงเซลล์เหรอ?
เจเนซิส : มันก็ตีความได้หลายแบบ
แซ็ค : ฉันไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย...
เจเนซิส : ความรู้สึกที่ปกคลุมนายอยู่ตอนนี้ก็เป็นของขวัญเหมือนกัน ทุกๆ คน กลับคืนสู่ดวงดาวด้วยกันเถอะ แน่นอน...รวมทั้งนายด้วย ตอนนี้ฉันจะดูดซับพลังของดวงดาวเข้ามา

เจเนซิสเริ่มดูดพลังจากไลฟ์สตรีมทีล้อมอยู่รอบตัวเขา ร่างกายของเขากำลังจะแปรสภาพไป

แซ็ค : ฟังฉันสิ! อย่าเพิกเฉยกับสิ่งที่ฉันพูดเซ่!!! อย่าเปลี่ยนตัวเองให้เป็นมอนสเตอร์นะ!! อย่า!!!!

เจเนซิสกลายร่างเป็นมอนสเตอร์ขนาดยักษ์และสร้างร่างก๊อบปี้ขึ้นมาเรื่อยๆ แซ็คพยายามต่อสู้กับเจเนซิสในร่างยักษ์พร้อมๆ กับดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากพวกร่างก๊อปปี้ หลังจากการต่อสู้ที่ยาวนานและแล้วในที่สุดเขาก็สามารถล้มพวกมันทั้งหมดลงได้ ว่าแล้วเจเนซิสที่สูญเสียพลังไปก็กลับกลายเป็นเจเนซิสในร่างปกติอีกครั้ง ทว่าคราวนี้เขากลับกลายเป็นเจเนซิสในร่างปกติ สมัยที่ยังไม่มีการเสื่อมสภาพใดๆ เกิดขึ้น

เจเนซิส : 「การแก้แค้นกู่ร้องขึ้นในวิญญาณของฉัน มันทนทุกข์กับการรอคอยความปรารถนาที่จะได้รับการบรรเทา และหลับใหลลงในที่ๆ คุณคุ้นเคย」

แซ็ค : อย่าบอกนะว่าจริงๆ แล้ว ตั้งแต่ต้นแล้ว....นายก็…

เจเนซิสพุ่งเข้าไปโจมตีแซ็คด้วยแรงอันน้อยนิดที่เขาพอมีเหลือ แต่แซ็คก็หลบได้

เจเนซิส : เข้ามาเลย! โซลเยอร์เฟิร์สคลาส แซ็ค!!!
แซ็ค : ไม่ว่าหน้าไหน สุดท้ายแล้วทุกๆ ต่างคิดจะใช้ฉันหมดเลย (หมายถึงใช้ให้สู้)

แซ็คตอบรับคำท้าดวลของเจเนซิสอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนเข้าดวลกันจนในที่สุดแซ็คก็สามารถเอาชนะเจเนซิสได้อย่างสมบูรณ์ แซ็คฟาดเจเนซิสจนกระเด็นออกไปไกล ทันใดนั้นไลฟ์สตรีมก็แผ่พุ่งออกมาจากผืนดิน เจเนซิสพยายามลุกขึ้นมาและค่อยๆ เดินไปที่แกนกลางของไลฟ์สตรีม นั่นเป็นเวลาเพียงครู่เดียวที่เจเนซิสได้เห็นเทพธิดาของดาวดวงนี้ปรากฏตัวขึ้น เขายื่นมือออกไปหาเธอโดยหวังว่าจะได้รับการยอมรับจากเธอ ทว่าเทพธิดากลับหลับตาลงราวกับว่าเธอต้องปฏิเสธเขา เทพธิดาหายตัวไปพร้อมๆ กับไลฟ์สตรีมที่กลับคืนสู่ผืนดิน ด้วยความอ่อนแรงและผิดหวังเจเนซิสจึงล้มลงกับพื้นและหมดสติไป แซ็คเดินไปหาเจเนซิสและช่วยแบกเขาขึ้นมา (แน่นอนว่าไม่ได้เอาดาบของเจเนซิสมาด้วย) และพาเจเนซิสออกไปจากถ้ำเพื่อกลับไปพบกับลาซาร์ด และคลาวด์ที่รอเขาอยู่

 

ลาซาร์ด : พวกชินระพึ่งมาน่ะ
แซ็ค : นายไม่ต้องพูดก็ได้ (หมดสภาพแบบนี้แล้วยังจะฝืนสังขารอีก)
ลาซาร์ด : ฉันสู้เคียงข้างกับเจ้านั่นที่ตามมาน่ะ
แซ็ค : นาย....

แซ็คหันไปมองสิ่งที่ลาซาร์ดใช้ให้ดู ปรากฏว่าที่แถวนั้นยังมีมอนสเตอร์ที่เป็นร่างก๊อปปี้ของแองจีลตัวที่เคยช่วยเขากับแอริธไว้เมื่อนานมาแล้วนอนกองหมดแรงอยู่ด้วย แซ็ครู้ได้ทันทีว่ามันเองก็มาที่นี่เพื่อช่วยปกป้องคลาวด์ ระหว่างที่แซ็คกำลังซาบซึ้งใจน้ำตาแทบไหลอยู่ พอหันกลับไปดูลาซาร์ด เขาก็สิ้นลมไปเสียแล้ว

 

แซ็ค : ผู้บัญชาการ!

หลังจากนั้นไม่นานเจ้าร่างก๊อปปี้ของแองจีลก็สิ้นลมตามไป

แซ็ค : ขอบใจนะ

เวลาต่อมาแซ็คได้คิดจะทำอะไรบางอย่างให้กับเจเนซิสเพื่อเป็นการสั่งลา เขาวิ่งไปหาแอปเปิ้ลงี่เง่ามา 4 ลูกเพื่อแบ่งให้กับคลาวด์ เจเนซิส ลาซาร์ด และตัวเขาเอง

แซ็ค : เอาล่ะ!!! มาทานด้วยกันเถอะ! ขอโทษนะที่ไม่สามารถกินกันจริงๆ ได้ (ก็แต่ละคนเล่นนอนกองกันแบบนี้)
เจเนซิส : อร่อยใช่มั้ยล่ะ?
แซ็ค : อื้อ
เจเนซิส : 「ของขวัญจากเทพธิดา」
แซ็ค : แอปเปิ้ลนี่น่ะเหรอ?

เจเนซิสที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นพยายามส่ายหัว

แซ็ค : หา?
เจเนซิส : แองจีล...ความฝันได้เป็นจริงแล้วนะ

Note* คำว่าของขวัญจากเทพธิดานั้นเป็นสิ่งที่ตีความได้หลายความหมาย โดยรวมแล้วเขาชอบยกสิ่งนี้เปรียบกับอะไรก็ตามที่ทำให้เขาหายจากอาการเสื่อมสภาพได้ อาทิ เซลล์เจโนว่า เซลล์จากร่างกายเซฟิรอธ หรือมาเทเรียยักษ์ที่สามารถดูดพลังจากดวงดาวมาใช้ได้ ทว่าในท้ายที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของขวัญจากเทพธิดาสำหรับเขา เจเนซิสเข้าใจได้ในที่สุดว่าของขวัญที่เทพธิดามอบให้เขาจริงๆ ก็คือความฝันที่ถูกเติมเต็ม ตัวเขาเองเขาฝันที่จะมีชีวิตที่สุขสงบ ได้นั่งกินแอปเปิ้ลชั้นยอดร่วมกับครอบครัวและพวกพ้องที่เขารัก และบัดนี้ความฝันของเขาก็เป็นจริงเรียบร้อยแล้ว ถึงจะไม่มีครอบครัวอยู่ แต่อย่างน้อยๆ ที่ ณ ตรงนี้ก็ยังมีคลาวด์ ลาซาร์ด แซ็ค ร่างก๊อปปี้ของแองจีล ดาบบัสเตอร์ซอร์ดที่เป็นตัวแทนของแองจีล รวมทั้งเซลล์ของเซฟิรอธที่อยู่ในร่างกายของแซ็คและถือเป็นตัวแทนของเซฟิรอธด้วย

เมื่อสิ้นเสียงเจเนซิสก็หลับไปอีกรอบหนึ่ง ขณะที่ลาซาร์ดและมอนสเตอร์ที่เป็นตัวก๊อปปี้นั่นได้กลายเป็นพลังงานชีวิตและกลับคืนสู่ไลฟ์สตรีม ทว่าเมื่อเจ้ามอนสเตอร์ได้ตายไปแล้ว แซ็คก็ได้พบว่ามันได้พกจดหมายที่จ่าหน้าซองถึงแซ็คมาด้วย

 

แอริธ : เธอสบายดีรึเปล่า? เธออยู่ที่ไหนกัน? ผ่านมา 4 ปีแล้วนะ นี่เป็นจดหมายฉบับที่ 89 ที่ฉันเขียนถึงเธอและมันคงเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายแล้ว ฉันหวังว่าเธอจะได้รับจดหมายฉบับสุดท้ายนี้ แซ็ค! ดอกไม้ขายดีมากเลยล่ะ มันช่วยสร้างรอยยิ้มให้แก่ทุกคน ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณเธอมากเลยนะ...แอริธ

แซ็ค : 4 ปีแล้วเหรอ? นี่มันอะไรกันเนี่ย!!!!!

แซ็คร้องออกมาดังลั่นราวกับหวังว่าแอริธจะได้ยินเสียงของเขา

แซ็ค : แอริธ คอยฉันก่อนนะ

แซ็ครีบแบกคลาวด์ขึ้นมา เขาพยักหน้าให้กับเจเนซิสที่หลับอยู่เพื่อเป็นการบอกลา ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง

แซ็ค : นายเองก็เช่นกัน มีชีวิตอยู่ต่อไปนะ

 

ในเวลาต่อมาหลังจากที่แซ็คได้ออกเดินทางไปแล้ว เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งของชินระก็บินมาลงจอดแถวๆ บริเวณที่เจเนซิสหลับอยู่

เนโร่ : ส่งพวกเรามาแบบนี้แสดงว่าภารกิจนี้จะต้องสำคัญมากเลยใช่มั้ย?
ไวส์ : ดูเหมือนว่ายังมีอะไรบางอย่างที่ต้องทำกับพี่ชายของพวกเรานะ
เนโร่ : งั้นเหรอ? นั่นก็เพราะว่าเขา...
ไวส์ : เราต้องพาเขากลับไปสินะ?

 

โซลเยอร์ลึกลับคนหนึ่งอุ้มเจเนซิสขึ้นมาและพาเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ ในไม่ช้าเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็ออกบินอีกครั้ง

เจเนซิส : 「แม้ว่าจะไม่มีสัญญาสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่ฉันขอสาบานว่าฉันจะกลับมา ณ ที่ๆ คุณยืนอยู่ ความหวังของดวงดาวได้ร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน ฟากฟ้าอันกว้างใหญ่และและผิวน้ำที่ไม่สิ้นสุดคือของลับที่มอบให้」

ทางด้านคนที่อยู่ที่มิดการ์ ซิสเนย์ได้เตรียมจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อออกไปจับกุมแซ็คและคลาวด์ในฐานะของเทิร์คคนหนึ่ง

เส็ง : ซิสเนย์! กองทัพเองก็เคลื่อนไหวแล้วเหมือนกัน คุ้มครองพวกเขาให้ได้ก่อนที่ทหารจะการพวกเขา

ซิสเนย์ : ฉันรู้แล้ว กองทัพเองก็ไม่รู้มีเบาะแสและไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้ของพวกเขาสินะ
เส็ง : เขาต้องมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน ฉันมั่นใจ เธอต้องช่วยชีวิตแซ็คให้ได้นะ

 

ซิสเนย์ : แน่นอน ฉันยังไม่ได้บอกชื่อจริงของฉันให้เขาฟังเลย
เส็ง : ฉันฝากความหวังไว้กับเธอนะ มีจดหมายมากมายที่ฉันอยากจะมอบให้กับเขา ตั้ง 88 ฉบับแน่ะ

แซ็คสามารถโบกรถบรรทุกคันหนึ่งและขอติดรถไปยังมิดการ์ได้ เขาจ้องมองไปบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ก่อนที่จะเริ่มชวนคลาวด์พูดคุยเรื่องต่างๆ

แซ็ค : ฉันล้อเล่นน่า ฉันไม่มีวันทิ้งนายหรอก ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่ จริงมั้ย?

บนท้องฟ้าห่างออกไป เรโน่และรู๊ดที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ก็พยายามตาหาแซ็คและคลาวด์

เรโน : ในดินแดนแห้งแล้งแบบนี้ คงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับพวกเรา (ที่จะหาสองคนนั้นให้เจอ) ซตโตะ
รู๊ด : ไม่ว่าภารกิจแบบไหนพวกเราก็ต้องทำให้ได้เพราะว่า..
เรโน : เราคือเทิร์คซตโตะ
รู๊ด : อืม..นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าเส็งมีอะไรบางอย่างจะมอบให้เขาด้วยนี่
เรโน : ให้เป้าหมายอ่ะนะ?
รู๊ด : อื้อ
เรโน : นี่เราหลงเป็นบุรุษไปรษณีย์มาตั้งหลายปีเหรอเนี่ยซตโตะ
ซิสเนย์ : เรโน่ รู๊ด ทางด้านโน้นเป็นไงบ้าง?
เรโน : ไม่พบอะไรเลยซตโตะ
รู๊ด : แล้วเธอล่ะ?
ซิสเนย์ : เหมือนกันเลย จากนี้ฉันจะไปที่จุด 235 เรโน่กับรู๊ดไปที่จุด 120 นะ
รู๊ด : รับทราบ
เรโน : รีบหน่อยละกันซตโตะ

แซ็คพาคลาวด์ลงมาจากรถบรรทุกหลังจากที่พบว่าพวกเขาถูกกองทัพไล่ติดตามมาจนกระชั้นชิดมากแล้ว แซ็คพาคลาวด์ไปซ่อนหลังก้อนกินก้อนใหญ่ ก่อนที่จะเดินจากไปคนเดียว คลาวด์พยายามจะเอื้อมมือขึ้นเพื่อหยุดยั้งแซ็ค แต่เขาก็ไม่สามารถพุดอะไรออกมาได้ และแล้วแซ็คก็เดินออกไปประจันหน้ากับทหารนับพันด้วยรอยยิ้ม

 

แซ็ค : ราคาของอิสรภาพนี่แพงเอาเรื่องจังนะ

แซ็คชักดาบขึ้นมาและเริ่มอธิษฐานต่อดาบเหมือนกับที่แองจีลเคยทำให้เขาดู

แซ็ค : จงอย่าทอดทิ้งความฝัน...และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จงอย่าทอดทิ้งความภาคภูมิใจในฐานะของโซลเยอร์

แซ็ค : ลุยล่ะเฟ้ยย!!!

แซ็คต้องต่อสู้อย่างยาวนานกับทหารนับพัน เวลาผ่านไปหลายช่วงโมง จากเช้าจรดเย็น ท้องฟ้าที่เคยแจ่มใสก็มีเม็ดฝนโปรยปรายลงมา เขากำจัดทหารได้เกือบทั้งหมดแต่กลับมาเสียท่าให้กับทหาร 3 คนสุดท้าย เมื่อทหารเห็นว่าเดี๋ยวแซ็คก็จะตายแล้วพวกมันก็เดินจากไป

คลาวด์ : แซ็ค
แซ็ค : ตัวแทนของฉัน...
คลาวด์ : ตัวแทนของนาย?
แซ็ค : ใช่แล้ว นาย..
คลาวด์ : นาย

 

แซ็ค : จงมีชีวิตอยู่ต่อไป นายคือหลักฐานแห่งการมีตัวตนอยู่ของฉัน

แซ็ค : ความฝันและความภาคภูมิของฉัน ฉันขอมอบทั้งหมดนี้ให้กับนาย

คลาวด์ : ฉันคือหลักฐานแห่งการมีอยู่ของนาย?

แซ็คส่งมอบบัสเตอร์ซอร์ดให้กับคลาวด์ก่อนที่เขาจะสิ้นลงไป คลาวด์มองตาของแซ็คที่ค่อยๆ ปิดลง และเขาก็เข้าใจว่าแซ็คนั้นมีความสำคัญกับเขามากแค่ไหน แซ็คต้องสูญเสียอะไรไปเพื่อช่วยชีวิตเขา

คลาวด์ : ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!

ในไม่ช้าฝนก็หยุดตกลงมาอย่างกระทันหัน ท้องฟ้าค่อยๆ กลับมาแจ่มใส่ แสงแดดอันอบอุ่นพยายามปลอบโยนพวกเขา

แซ็ค : (จงยึดมั่นในฝันไว้นะ ถ้านายอยากเป็นวีรบุรุษ นายก็ต้องยึดมั่นในความฝัน...และ...ความภาคภูมิ)

คลาวด์ : ขอบใจนะ ฉันจะไม่มีวันลืม หลับให้สบายนะ แซ็ค...

คลาวด์ค่อยๆ ลากบัสเตอร์ซอร์ดเดินจากไปอย่างโซซัดโซเซ การเดินทางครั้งใหม่ของเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้าหลังจากที่เขารักษาตัวจนพร้อม ขณะเดียวกันจิตวิญญาณของแซ็คก็ได้กลับคืนสู่ดวงดาวอีกครั้ง

แซ็ค : เธอคนนั้นบอกว่าตัวเองกลัวท้องฟ้า แต่มันก็ทำให้รู้สึกดีไม่ใช่เหรอ? ปีกของคุณ ให้ฉันยืมมันบ้างสิ นี่มันอะไรกัน? ก็รู้สึกดีนี่นา

แซ็ค : ถ้าเจอแอริธล่ะก้อ...ฝากเธอด้วยนะ

แซ็ค : นี่... ฉัน... ได้กลายเป็นวีรบุรุษแล้วสินะ

 

 

 


 







CREDIT:

แนวทางการเล่น
WALKTHROUGH/GUIDES

ตัวละคร
Character

ข้อมูลเบื้องต้น
Basic information

ข้อมูลที่น่าสนใจ
ARRTICLE INTERESTING

ความลับ, โกงเกม
Secrets, Cheat Game

เว็บไซต์:ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
RELATED WEBSITES

ดาวน์โหลดเกม
GAME DOWNLOAD