The DioField Chronicle : บทที่ 4-5 อนาคตแห่งความรักชาติ
อันดริอัสเข้ามาคุยกับลอเรนอีกครั้งเพื่อให้เธอตัดสินใจว่าจะเลือกยืนฝั่งใด แม้จะอ้ำอึ้งแต่ลอเรนก็แสดงจุดยืนว่าตนคือบลูฟ็อกส์
สมาชิกทุกคนร่วมกันวางแผนสังหารดยุคเฮนเด โดยจะลอบเข้าไปทางฝั่งตะวันตกของคฤหาสถ์ที่การป้องกันเบาบาง อิสคาเรียกกังวลเล็กน้อยว่าหลังจากสังหารดยุคแล้วจะทำอย่างไรต่อไป แต่สถานะของบลูฟ็อกส์ตอนนี้คืออัศวินแห่งสภาสูง นั่นหมายความว่าบลูฟ็อกส์จะเป็นทัพอิสระไม่ต้องขึ้นตรงกับผู้ใดอีกต่อไป
บลูฟ็อกส์บุกทะลวงทหารองครักษ์ของดยุคเฮนเดจนในที่สุดก็มาถึงตัวคฤหาสถ์ ทุกคนช่วยสกัดกั้นเหล่าองครักษ์เพื่อเปิดโอกาสให้อันดริอัสเข้าถึงตัวดยุคเฮนเดได้โดยตรง เมื่อดยุคเฮนเดเห็นดังนั้นจึงเข้าใจว่าวาระสุดท้ายของตนเองได้มาถึงแล้ว ดยุคเฮนเดตัดสินใจชิงดื่มยาพิษและล้มลง เป็นอันปิดฉากคนทรยศผู้นี้
-- จบบทที่ 4 --
บทที่ 1 เส้นทางของชีวิต
บทที่ 2 ทลายปราการ
บทที่ 3 เถ้าธุลีและเกียรติยศ
บทที่ 4 ความลับที่เก็บไว้อย่างใกล้ชิด
บทที่ 5 ดาราร่วงหล่น เมื่อบลูฟ็อกส์กำจัดดยุคเฮนเด อดีตเจ้านายซึ่งแท้จริงแล้วเป็นกบฏ บลูฟ็อกส์ก็กลายเป็นทัพอิสระที่เข้มแข้งขึ้น แต่ก็ไม่วายต้องเข้าไปพัวพันกับศึกชิงบัลลังค์ระหว่างองค์ชายสองกับองค์ชายสาม เฟเดรทที่ทนไม่ไหวจึงประกาศความจริงที่น่าตกตะลึงให้กับชาวบลูฟ็อกส์ทุกคน ความจริงนี้จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเกาะดิโอฟิลด์ไปตลอดกาล
บทที่ 7 จุดจบและจุดเริ่มต้น (บทสุดท้าย) เฟเดรทโกหกคนทั้งโลกจนได้ขึ้นเป็นราชาสมใจ ทว่าอัลเลเทนที่แตกแยกขัดแย้งรบกันเองมาอย่างยาวนาน ประกอบกับราชาคนใหม่ที่เมื่อขึ้นมามีอำนาจก็ดูจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ด้วยสภาพเช่นนี้จะต้านทานจักรวรรดิอันเกรียงไกรและแม่ทัพใหญ่ผู้ไม่เคยรู้จักความพ่ายแพ้งั้นหรือ? เฟเดรทโกหกคนทั้งโลก แต่ไม่ใช่มีแค่เขาที่โกหก คนที่อยู่กับเรามาตลอดตั้งแต่เริ่ม แต่เรากลับไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย... และเมื่อความจริงทั้งหมดถูกเผยออก ชะตากรรมของโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พบกับปัจฉิมบทพงศาวดารแห่งเกาะดิโอฟิลด์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน (จริงๆนานเพราะแปลๆ หยุดๆ) เป็นหนึ่งในฉากจบที่คนรับชมถึงกับต้องสบถออกมา ถ้าไม่ชอบก็เกลียดไปเลย (แต่ผมชอบมากๆ ยกขึ้นหิ้งเลยครับ) ปล. ถ้าใครงงกับฉากจบก็ทักมาครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง ตอนผมเล่นครั้งแรกก็ถึงกับเหวอ จนต้องไปอ่าน lore เพิ่มถึงได้เข้าใจแบบกระจ่าง |