The DioField Chronicle : บทที่ 5-2 ในกำมือ
สี่เศียรบลูฟ็อกส์ เมื่อวัลตาควินถอนตัวไปจึงเหลือเพียงสาม อิสคาเรียนเข้ามาถามอันดริอัสเป็นการส่วนตัวว่าเฟเดรทเป็นองค์ชายลาเวนเธียจริงหรือ แล้วนายจะช่วยสนับสนุนเขาขึ้นเป็นกษัตริย์หรือ? อันดริอัสตอบรับพร้อมบอกว่าประเทศนี้ต้องการราชาที่เข้มแข็ง อิสคาเรียนแย้งว่าแล้วจะให้เป็นอย่างนี้ไปตลอดหรือ ต่อให้กษัตริย์เข้มแข็ง เมื่อตายลงบ้านเมืองก็วุ่นวายไม่รู้จบ เราไม่ควรฝากความหวังไว้ที่ผู้นำเพียงคนเดียว เราควรสร้างรัฐที่สามารถปกป้องตัวเองได้ อิสคาเรียนนั้นไม่เห็นด้วยกับระบอบกษัตริย์และเชื่อว่าควรเปลี่ยนแปลงได้แล้ว แต่อันดริอัสมองว่าไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใจเรื่องนี้ ยังมีคนชั่วช้าอีกมากที่ปล้นชิงแล้วหลบอยู่หลังธงที่เรียกว่าประชาธิปไตย การตัดสินใจที่สำคัญเช่นการเลือกผู้ปกครองประเทศนั้น ให้ผู้มีปัญญาคนเดียวดีกว่าให้คนโง่พันคนตัดสิน เขายังคงยืนยันว่านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้
บลูฟ็อกส์เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น เข้มแข็งขึ้น แต่ดูเหมือนความขัดแย้งภายในจะทวีรอยร้าวมากขึ้นตามไปด้วย แม้แต่ไอเซแลร์ที่นิ่งเฉยไม่มีปัญหากับใครยังสัมผัสได้ แต่ก็ใชว่าจะมีแต่ปัญหาเสียทีเดียว ในบรรดาสมาชิกบลูฟ็อกส์ก็มีบางคนที่ชอบพอกัน เช่นอินคาเรียนที่เริ่มคบหากับเทรมิน่า ส่วนหนุ่มน้อยเอสทาลท์ก็ดูจะหลงรักอัศวินศักดิ์สิทธิ์แคทเธอรีนอย่างโงหัวไม่ขึ้น (เสียดายที่แคทเธอรีนมองเอสทาลท์เป็นเหมือนน้องชาย และคอยป้องดูแลอยู่เสมอ ทำเหมือนเอสทาลท์ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลา...โถถถถ พ่อหนุ่มป๊อบปี้เลิฟ)
กลับมาสู่สถานการณ์ภายนอก ฝ่ายอาร์คบิชอปและฝ่ายลอร์ดคิมเบิลต่างทุ่มกำลังหลักเตรียมเข้าปะทะกันขั้นเด็ดขาด ลอร์ดคิมเบิลทุ่มกำลัง 6,000 นายจากฝั่งตะวันตก ยาตราขึ้นเหนือไปยังฐานบัญชาการของฝั่งอาร์คบิชอปที่มีทหารประจำการ 4,500 นาย ทัพลอร์ดคิมเบิลจะเป็นตัวล่อเพื่อเปิดโอกาสให้บลูฟ็อกส์ลอบเข้าไปสังหารอาร์คบิชอปโจชัวร์โดยตรง บลูฟ็อกส์บุกสังหารองครักษ์อัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องอาร์คบิชอปซึ่งนอกจากจะเป็นผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณแล้ว ยังเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจ แต่ไหนเลยจะต้านทานนักฆ่ามืออาชีพได้...
อาร์คบิชอปโจชัวร์ถูกสังหาร บลูฟ็อกส์ออกตามองค์ชายสามสตาริสแต่ไม่พบจึงคาดว่าน่าจะหลบอยู่ในเมืองพร้อมทหารกองใหญ่ แผนต่อไปของเฟเดรทคือสังหารองค์ชายสตาริสให้ได้ จากนั้นจึงประกาศความจริงต่อสาธารณชน
แต่แล้ว ไอเซแลร์ได้นำข่าวด่วนมาว่า ทัพลอร์ดคิมเบิลถูกลอบโจมตี ลอร์ดคิมเบิลบาดเจ็บสาหัส องค์ชายสองวิคเตอร์ที่ออกนำทัพเสียชีวิต แต่ที่ประหลาดใจที่สุดคือ ผู้นำทัพสังหารองค์ชายวิคเตอร์กลับเป็นผู้ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี นั่นคือวัลตาควินซึ่งร่วมมือกับอาร์คบิชอปโจชัวร์ เท่ากับว่าต่างฝ่ายต่างใช้แผนลอบสังหารและสำเร็จเสียด้วย...
บทที่ 1 เส้นทางของชีวิต
บทที่ 2 ทลายปราการ
บทที่ 3 เถ้าธุลีและเกียรติยศ
บทที่ 4 ความลับที่เก็บไว้อย่างใกล้ชิด
บทที่ 5 ดาราร่วงหล่น เมื่อบลูฟ็อกส์กำจัดดยุคเฮนเด อดีตเจ้านายซึ่งแท้จริงแล้วเป็นกบฏ บลูฟ็อกส์ก็กลายเป็นทัพอิสระที่เข้มแข้งขึ้น แต่ก็ไม่วายต้องเข้าไปพัวพันกับศึกชิงบัลลังค์ระหว่างองค์ชายสองกับองค์ชายสาม เฟเดรทที่ทนไม่ไหวจึงประกาศความจริงที่น่าตกตะลึงให้กับชาวบลูฟ็อกส์ทุกคน ความจริงนี้จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเกาะดิโอฟิลด์ไปตลอดกาล
บทที่ 7 จุดจบและจุดเริ่มต้น (บทสุดท้าย) เฟเดรทโกหกคนทั้งโลกจนได้ขึ้นเป็นราชาสมใจ ทว่าอัลเลเทนที่แตกแยกขัดแย้งรบกันเองมาอย่างยาวนาน ประกอบกับราชาคนใหม่ที่เมื่อขึ้นมามีอำนาจก็ดูจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ด้วยสภาพเช่นนี้จะต้านทานจักรวรรดิอันเกรียงไกรและแม่ทัพใหญ่ผู้ไม่เคยรู้จักความพ่ายแพ้งั้นหรือ? เฟเดรทโกหกคนทั้งโลก แต่ไม่ใช่มีแค่เขาที่โกหก คนที่อยู่กับเรามาตลอดตั้งแต่เริ่ม แต่เรากลับไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย... และเมื่อความจริงทั้งหมดถูกเผยออก ชะตากรรมของโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พบกับปัจฉิมบทพงศาวดารแห่งเกาะดิโอฟิลด์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน (จริงๆนานเพราะแปลๆ หยุดๆ) เป็นหนึ่งในฉากจบที่คนรับชมถึงกับต้องสบถออกมา ถ้าไม่ชอบก็เกลียดไปเลย (แต่ผมชอบมากๆ ยกขึ้นหิ้งเลยครับ) ปล. ถ้าใครงงกับฉากจบก็ทักมาครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง ตอนผมเล่นครั้งแรกก็ถึงกับเหวอ จนต้องไปอ่าน lore เพิ่มถึงได้เข้าใจแบบกระจ่าง |