======
ไตเติ้ล
-------
หลังจากเกิดเหตุการณ์ประหลาดในคฤหาสน์นอกเมือง (ภาคแรก) หน่วย S.T.A.R. ที่เหลืออยู่ได้รายงานให้ผู้ว่าการของเมืองทราบถึงการกระทำของบริษัทอัมเบรลล่า ที่กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในแรคคูนซิตี้ แต่เรื่องราวก็เงียบหายไป ทางหน่วย S.T.A.R. จึงได้เตรียมตัวที่จะบินไปสอบสวนที่ต้นเหตูของเรื่องราวที่บริษัทแม่ของอัมเบรลล่า แต่ในช่วงที่กำลังเตรียมตัวอยู่นั้นก็ได้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทำให้เหตุการณ์ฝันร้ายที่เคยเกิดขึ้นในคฤหาสน์นอกเมืองกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งภายในเมือง (ภาค 2) การติดต่อถูกตัดขาด ทึกหนทุกแห่งภายในเมืองมีแต่ซอมบี้ จิลซึ่งอยู่ที่อพาร์ตเมนท์ของเธอไม่สามารถจะติดต่อกับคริสและคนอื่นๆได้ เธอจึงตัดสินใจออกจากเมืองนี้ก่อนที่ภายในเมืองจะถูกซอมบี้ยึดครอง
IT'S LAST CHANCE, IT'S LAST ESCAPE...

Random Event
------------------------
นี่คือระบบใหม่ของเกมส์ BIOHAZARD ในภาคนี้ เหตุการณ์บางอย่างที่อยู่ในเกมส์ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่จำเพาะเจาะจง เช่นการใช้รหัสผ่าน, การแก้ปริศนา รวมถึงตำแหน่งสิ่งของที่อยู่ในเกมส์อาจมีการสลับตำแหน่งหรือมีตัวเลขที่เปลี่ยนไปได้ ดึงนั้นเราจึงไม่สามารถระบุได้อย่างแน่นอนว่า รหัสผ่านหรือปริศนาแต่ละแห่งเป็นตัวเลขอะไร ก็ขอให้จดจำรหัสที่แสดงในเกมส์แต่ละครั้งไว้ให้ดี เพราะนั่นคือสิ่งที่จะใช้ในการแก้ปริศนาในครั้งนั้น

Counter Attack
-----------------------
การเล็งยิงถูกปรับมาให้เป็นแบบ AUTO ดังนั้นจึงง่ายที่จะยิงเหล่า โดยการกดปุ่มเล็ง (R1 R2) พร้อมกับปุ่มทิศทางเพื่อเล็งยิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด

SECRET
-------------
การเล็งยิงสามารถเปลี่ยนมาเป็นการบังคับแบบ MANUAL ได้ (หากต้องการความเร้าใจในการเล่นเพิ่มขึ้น) วิธีทำคือกดปุ่ม Select เพื่อเข้าหน้าจอของ Game Config จากนั้นเลือก Key Config เมื่อเข้าหน้าจอแล้วให้กด R1 ค้างแล้วกดปุ่ม 3 ครั้ง การเล็งยิงจะเปลี่ยนเป็นแบบ MANUAL ทันที การบังคับตัวละครในภาคนี้ คล้ายกับการบังคับเกมส์ BIOHAZARD ทุกภาค ที่เพิ่มเข้ามาก็คือการหลบหลีกการโจมตีของเหล่า ทั้งหลาย ทำได้โดยการกดปุ่ม R1 หรือ R2 ในจังหวะที่ศัตรูโจมตี ส่วนการกลับตัวให้กดปุ่มลงแล้วกดวิ่งทันที

2. How To Play Manual
===================
เล่มสีน้ำเงิน จะบอกวิธีควบคุมที่น่าสนใจเช่น การกด R2 เพื่อเล็งยิง หรือหากกดสามเหลี่ยมจะเป็นการดูแผนที่ กด Select เพื่อเข้าเกม

เล่มสีแดง จะบอกถึงเรื่องราวการบรรจุกระสุน บรรจุกระสุนจำเป็นจะต้องใช้ของ 2 สิ่งนั่นคือ Reload Tools กับผงดินปืน (Gun Power) ผงดินปืนจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิดด้วยกัน คือ A, B และ C จะมีการผสมดังนี้ ผงดินปืนชนิด A (สีแดง) เป็นกระสุนสำหรับแฮนด์กัน
ผงดินปืนชนิด B (สีเหลือง) เป็นกระสุนสำหรับช็อตกัน
ผงดินปืนชนิด C (นำ A+B) จะได้กระสุนเกรเนด (ระเบิด)
หากผสมผงดินปืน A และ B จะได้กระสุนเกรเนด (ไฟ)
หากผสมผงดินปืนB และ C จะได้กระสุนเกรเนด (น้ำแข็ง)
หากผสมผงดินปืนC และ C จะได้กระสุนเกรเนด (กรด)
หากผสมผงดินปืนC, C และ C จะได้กระสุนสำหรับปืนแม็คนั่ม

**กระสุนพิเศษจะมีอยู่ 2 ชนิด**
1.กระสุนแฮนด์กัน 9 mm. High-Power
เป็นกระสุนที่มีพลังการทำลายสูงกว่ากระสุนพื้นฐาน หายากต้องใช้วิธีผสมผงดินปืน A 8 ขวด รวมกับที่อัดกระสุนจึงจะได้มา
2.กระสุนช็อตกัน Shotgun High-Power เป็นกระสุนที่มีพลังการทำลายสูงกว่ากระสุนช็อตกันพื้นฐานหายากต้องใช้วิธีผสมผงดินปืน 8 ขวด รวมกับที่อัดกระสุนจึงจะได้มา
วิธีการผสมคือ ให้นำผงดินปืนชนิด A หรือ B มาผสมลงที่อัดกระสุนทีละอัน พอถึงอันที่ 8 จะกลายเป็นกระสุนพิเศษ (ซึ่งก่อนที่กลายเป็นกระสุนพิเศษนี้ จะมีคำถามขึ้นมาถามว่า ต้องการที่จะได้กระสุนพิเศษหรือเปล่า ถ้าต้องการก็กด YES แต่ถ้าไม่ต้องการก็กด NO ซึ่งผงดินปืนอันที่ 9 ขึ้นไปก็จะถามตลอดว่าต้องการกระสุนพิเศษหรือเปล่า…

3. บทสรุป
=======
3.1 นำเรื่อง
----------------
พฤษภาคม 1998
S.T.A.R. (Special Tactics and Squad) กลุ่มทหารพิทักษ์โลก แจ้งมาว่า ตัวอย่างการทดลองของศูนย์ค้นคว้าวิจัยทางชีวภาพบริเวณภูเขา Arklay ใกล้กับเมืองแรคคูนซิตี้ได้หายไปอย่างลึกลับ ซึ่งตัวอย่างของสารเคมีที่ว่าอาจนำไปพัฒนาเป็น "อาวุธชีวภาพ" ได้ ซึ่งถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจริง นั่นหมายถึงความหายนะของโลกกำลังใกล้อุบัติขึ้น

20 พฤษภาคม 1998
มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของสิ่งมีชีวิตในเขตภูเขา Arklay

16 มิถุนายน 1998
สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ,์ลักษณะคล้ายสุนัขถูกพบอยู่บริเวณภูเขา Arklay

22 มิถุนายน 1998
ทราบว่า บริษัท อัมเบรลล่า คอร์ปอเรชั่น ได้ว่าจ้างให้จารชนซึ่งสงสัยว่าอาจจะเป็นหนึ่งในหน่วย S.T.A.R. (Special Tactics and Squad) ให้ทำการขโมยตัวอย่างการทดลองที่ศูนย์ค้นคว้าวิจัยทางชีวภาพ

กรกฎาคม 1998
ฉัน ประกอบด้วย Chris , Barry และ Wesker สมาชิกของ S.T.A.R. ได้ถูกส่งเข้าไปในป่า เพื่อตรวจสอบอาวุธชีวภาพ และยืนยันในการพัฒนาของอาวุธชนิดนี้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่

8 สิงหาคม 1998
พวกเราพบว่าอัมเบรลล่าได้กำลังพัฒนา T-Virus อาวุธชนิดใหม่ที่ร้ายแรง มันสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ทันทีหากมีการสัมผัสขึ้น และตำรวจประจำเมือง แรคคูนซิตี้ ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับ Alpha Team ทำให้การแพร่กระจายของ T-Virus เป็นไปได้รวดเร็วและรุนแรงยิ่งขึ้น

24 สิงหาคม 1998
Chris พบว่า อัมเบรลล่ากำลังคิดค้นและพัฒนาสายพันธุ์ Virus ชนิดใหม่ที่เรียกว่า "G-Virus" ที่มีความรุนแรงมากกว่า T-Virus ถึง 10 เท่า เขาจึงถูกส่งไปยุโรป ซึ่งเป็นสถานที่ที่อัมเบรลล่าใช้ในการทดลอง G-Virus ในครั้งนี้

26 กันยายน 1998
การแพร่กระจายของ T-Virus เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง มีการแพร่ระบาดจากศูนย์วิจัยไปยังเมืองแรคคูนซิตี้ สถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงมากที่สุด ผู้คนในแถบนั้นกลายร่างเป็นซอมบี้เกือบทั้งหมด

27 กันยายน 1998
ตำรวจในเมืองแรคคูนซิตี้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ การสื่อสารทุกประเภทไม่สามารถใช้การได้ ทุกอย่างเริ่มเลวร้ายจนฝันร้ายของผู้คนในเมืองแรคคูนซิตี้ หรือนี่คือจุดจบของโลก.....

28 กันยายน 1998 ณ แมนชั่นในแรคคูนซิตี้ .....

3.2 บนเมือง
------------------
หลังจากที่หนีจากซอมบี้ที่รุมล้อมเข้ามาแล้ว จิลจะมาอยู่ที่โกดังเก็บของทางด้านตะวันตกของเขตนอกเมือง พร้อมกับคนเฝ้าโกดังที่เกิดความหวาดกลัวจนไม่กล้าที่จะออกไปข้างนอก ในตอนแรกนี้ให้ขึ้นไปเก็บ กุญแจไขโกดัง ที่อยู่ข้างผนังของห้องบนชั้น 2 ก่อนเพื่อที่จะออกจากโกดังนี้ เมื่อออกมาจะเป็นทางเดินรอบวนเขตเมือง เพื่อความรวดเร็วขอให้เข้าประตูทางซ้ายมือก่อน จะพบกับเงาคนที่วิ่งหนีพวกซอมบี้ออกไป (ถ้าวิ่งเร็วกว่าที่เขาจะหนี ประตูจะยังไม่เปิด ให้สำรวจเอง) ให้ลงไปทางที่เขาวิ่งหนีออกมาด้านในจะมี ช็อตกัน และ น้ำมันไฟแช็ก อยู่ หลังจากเก็บแล้วให้วิ่งตามชายคนนั้นไป จะออกอีกด้านหนึ่งของอัพทาว์น ช่วงหัวมุมของถนนที่มีบันไดอยู่บนลังไม้ สังเกตุให้ดีจะมีแผนที่ของอัพทาว์นอยู่ เมื่อเข้าประตูตรงสุดถนนแล้วจะเป็นทางเดินสามแพร่ง ให้วิ่งตามชายคนนั้นลงไปด้านใต้ก่อน เมื่อเข้าไปในบาร์จะพบกับ แบรด หนึ่งในสมาชิกของหน่วย S.T.A.R (หากไม่ช่วยเขายิงซอมบี้ เขาจะเริ่มมีอาการหน่อยๆแล้ว) ซึ่งเขาก็ต้องการที่จะเอาชีวิตรอดออกจากเมืองนี้เช่นกัน แต่เขาจะไม่ไปกับเราแล้ววิ่งออกจากร้านไป ให้เก็บ ไฟแช็ก ที่อยู่บนตู้เกมหลังร้านแล้วกลับออกไปทางที่เราเข้ามา เพื่อเข้าไปเส้นทางด้านเหนือของทางสามแพร่ง จะเป็นเส้นทางไปสู่ดาวน์ทาวน์ซึ่งยังไปไม่ได้และสถานีตำรวจ

3.3 RPD. Police Station
----------------------------------------
ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาจะพบกับ แบรด ที่ดูเหมือนจะหนีอะไรสักอย่างมาแต่ก็หนีไม่รอด ถูกผู้ตามล่าฆ่าตาย แล้วเป้าหมายต่อไปก็คือจิล ในตอนนี้จะมี Live Selection ขึ้นมาให้เลือก (การเลือกตรงนี้จะมีผลต่อปืนที่จะได้ในห้องของหน่วย )
- สู้กับผู้ที่ฆ่าแบรด
ถ้าเลือกสู้กับผู้ตามล่าแล้วต้องระวัง เพราะว่าเมื่อยิงจนมันล้มลงไปแล้ว มันจะยังไม่ตายให้ยิงซ้ำจนมันลุกขึ้นมาอีกครั้ง ทีนี้มันถึงจะล้มจริงๆ แล้วก็จะได้ ชิ้นส่วนปืนดีเซิร์ทอีเกิ้ล A จากมัน และที่ศพของแบรดจะมี การ์ดเคส ซึ่งเมื่อกดตรวจสอบที่การ์ดเคสอีกครั้งจะได้ บัตรหน่วย S.T.A.R. ของแบรด
- หนีเข้าไปในสถานี
สำหรับคนที่เลือกไม่สู้กับผู้ตามล่าจะเป็นการหนีเข้าไปในสถานีเลย (ซึ่งต้องเสียเวลาไปเก็บบัตรอีก) ยังไงก็ขอแนะนำให้สู้ไว้ก่อนแล้ววิ่งไปเก็บบัตรจากศพของแบรดจากนั้นวิ่งเข้าสถานีไปเลย

หลังจากเข้ามาในสถานีแล้ว ตรงโต๊ะข้างๆ คอมพิวเตอร์ของหน่วยประชาสัมพันธ์จะมี แผนที่ของสถานีตำรวจ วางอยู่ ถ้าคนที่มีบัตรของหน่วย S.T.A.R. แล้วให้สำรวจที่คอมพิวเตอร์จะบอกรหัสของตู้ในห้องพัสดุ เมื่อเข้าไปถึงห้องเก็บพัสดุแล้วในห้องจะมี อัญมณีสีฟ้า และในตู้ที่ต้องใช้รหัสที่ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ข้างหน้าจะมี กุญแจ S.T.A.R. คนที่ยังไม่ได้เก็บบัตรมา ให้เดินต่อมาจากห้องเก็บพัสดุจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ตรงนั้นจะมีทางไปห้องประชุมซึ่งที่ห้องประชุมนี้จะมี บัตรหน่วย S.T.A.R. ของจิล เมื่อได้มาแล้วเอาไปดูรหัสที่เครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนเพื่อมาใช้เก็บกุญแจ (ห้องใกล้กับบันไดเป็นห้องเซฟ เอาอัญมณีสีฟ้าเก็บไว้ก่อนก็ได้ เมื่อขึ้นไปชั้น 2 แล้วจะมีห้องของหน่วย S.T.A.R. อยู่ตรงสุดทาง ภายในห้องนี้จะมี กุญแจผีวางอยู่บนโต๊ะของจิลและ ปืนเกรเนดลันเชอร์หรือโคลท์ไพธ่อน วางอยู่ในตู้ (หากเลือกสู้กับผู้ตามล่าจะได้เกรเนตลันเชอร์ แต่ถ้าเลือกหนีจะได้ โคลท์ไพธ่อน) ในตอนที่กำลังจะออกจากห้องจะได้รับการติดต่อจากคนชื่อ คาร์ลอส ถามหาคนที่ยังรอดชีวิตอยู่ แต่การติดต่อได้ถูกตัดไปเสียก่อน เมื่อลงมาจะพบกับผู้ตามล่าอีกครั้ง (หากกำจัดจะได้ ดีเซิร์ทอีเกิลพาร์ท B เอาไปรวมกับพาร์ท A จะได้ปืนดีเซิร์ทอีเกิ้ลซึ่งยิงต่อเนื่องได้ดี แถมมีโอกาสออกคริติคอลด้วย แต่ไม่สามารถใช้กับกระสุนแบบรุนแรงได้) จากนั้นให้ออกมาจากสถานีตำรวจเพื่อเปิดประตูเข้าสู่ย่านดาวน์ทาวน์

3.4 Down Town
-------------------------
ระหว่างเดินทางมาจากอัพทาวน์จะผ่านลานจอดรถที่มีรถกำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่ให้เก็บ สายแบตเตอรี่ มาด้วย (เอาใส่กล่องเก็บของไว้ก่อนก็ได้) ระหว่างที่เดินผ่านสถานที่ก่อสร้างจะมี แผนที่ของดาวน์ทาวน์ แปะอยู่ข้างๆผนังให้เก็บ เมื่อผ่านจากตรงนี้ไปจะพบชายคนหนึ่งวิ่งหนีซอมบี้ไป จากตรงนี้มีอยู่ 2 เส้นทางให้เลือก ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหนก็ต้องผ่านห้องเซฟที่อยู่ในย่านร้านค้าอย่าลืมแวะเข้าไปแล้วเก็บ ประแจหกเหลี่ยม มาด้วย เก็บใส่กล่องไว้ก่อน

ทางที่ 1
----------
วิ่งตามชายคนนั้นเข้าไปในร้านอาหาร (ทางขวามือจากจุดที่ยืน) ตรงนี้ให้เตรียมกุญแจผีไปด้วย เมื่อเข้าไปในร้านอาหารแล้วเข้าไปสำรวจตู้เก็บของที่อยู่หลังร้านจะใช้กุญแจผีเปิดและได้ ชะแลงเปิดฝาท่อ สำหรับใช้เปิดฝาท่อที่อยู่ในห้องครัวนั้น แล้วชายคนนั้นจะเข้ามา เขาชื่อคาร์ลอส เป็นหน่วยต่อต้านไวรัสของอัมเบรลล่า แต่ยังไม่ทันที่จะพูดคุยกัน ผู้ตามล่าก็ได้บุกเข้ามาแล้วจะมี Live Selection ขึ้นมาอีกครั้ง
- หนีลงห้องใต้ดิน
ถึงจะหนีลงห้องใต้ดินแล้วแต่ท่อน้ำก็ยังเกิดรั่วจนน้ำท่วม ถ้ายังอยู่ต่อไปจะถูกคาร์ลอสเรียกให้หนีกลับขึ้นไปข้างบน ให้พยายาม สำรวจทางข้างๆผนังจะพบกับช่องระบายอากาศใช้หนีออกข้างนอกได้
- เข้าไปหลบในห้องอาหาร
เมื่อผู้ตามล่าเข้ามาแล้ว จิลจะจุดไฟแล้วโยนเข้าไปให้แก๊สระเบิดซึ่งก็ได้ผลเพียงชั่วคราว ให้รีบหนีออกไปข้างนอกร้านไม่อย่างนั้นมันก็จะฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง (ถ้าคาร์ลอสตายก็เกมโอเวอร์เช่นกัน) แต่ถ้าสามารถล้มมันได้ก็จะได้ ชุดสเปรย์แพ็ค ซึ่งมีสเปรย์ใส่อยู่ถึง 3 กระป๋อง ถ้าใช้หมดแล้วสามารถบรรจุสเปรย์ลงไปเติมได้อีกด้วย เมื่อออกไปนอกร้านแล้ว จิลจะคาดคั้นถึงเรื่องของอัมเบรลล่ากับคาร์ลอส แต่เขาบอกแค่ไม่รู้เรื่อง เขาเป็นทหารรับจ้างที่ถูกส่งมาช่วยชาวเมืองเท่านั้นแล้วก็จากไป ตอนนี้ให้จิลไปทางร้านค้าด้านหลังร้านอาหาร (ระหว่างที่ผ่านห้องเซฟให้อัญมณีสีฟ้าติดมาด้วย) จะมาออกที่ประตูทางเข้าซิตี้ฮอล ให้เอาอัญมณีสีฟ้าไปใส่ที่แท่นด้านหน้าประตู แต่ยังขาดอีกหนึ่งเม็ดถึงจะเปิดประตูได้ ทางขวามือจะเป็นสำนักงานหนังสือพิมพ์ซึ่งบนชั้น 2 ของที่นี่ จะมี อัญมณีสีเขียว วางอยู่บนโต๊ะ เมื่อเอาไปใส่ที่แท่นจะสามารถเปิดประตูซิตี้ฮอลได้

ทางที่ 2
----------
จะเข้าหรือไม่เข้าร้านอาหารก็ได้แต่ต้องไม่เปิดฝาท่อในร้านอาหารแล้วไปที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ (อย่าลืมเอาอัญมณีสีฟ้าใส่ที่หน้าประตูด้วยจะได้ไม่เสียเวลา) เมื่อขึ้นไปที่ชั้น 2 ของสำนักพิมพ์จะพบกับคาร์ลอส ยังไม่ทันที่จะคุยกันผู้ตามล่าก็ตามเข้ามาในสำนักงาน จะพบ Live Selection ขึ้นมา
-โดดลงมาจากทางหน้าต่าง
จะตกลงมาทางประตูด้านข้างของสำนักพิมพ์ เมื่อออกมาแล้วจิลจะถามคาร์ลอสถึงจุดประสงค์ของอัมเบรลล่า แต่คาร์ลอสบอกว่าไม่รู้เรื่องเพราะเขาเป็นแค่ทหารรับจ้าง แถมยังโดนตอกกลับด้วยว่าไม่มีเจ้าของที่ไหนเล่าเรื่องให้สัตว์เลี้ยงฟังหรอก แล้วเขาก็จากไป
-เข้าไปหลบในสำนักงาน
ถ้าเลือกวิธีนี้จะคล้ายๆกับเลือกหลบในร้านอาหาร คือถ้าไม่รีบออกมามันจะฟื้นขึ้นมาอีก ส่วนของที่ได้คือสเปรย์แพ็ค เหมือนกันหลังจากที่แยกทางกับคาร์ลอสแล้วให้ไปที่ร้านอาหาร แล้วใช้ชะแลงเปิดฝาท่อลงไปในห้องใต้ดินของร้าน ตรงทางเดินจะมีศพอยู่ ที่ศพนี้จะมีอัญมณีสีเขียวเก็บมาแล้ว เอาไปใช้กับประตูซิตี้ฮอลก็จะเปิดทางไปต่อได้แล้ว

ก่อนที่จะเข้าประตูซิตี้ฮอลให้เตรียมเอาสายแบตเตอรี่กับประแจหกเหลี่ยมติดตัวมาด้วย เส้นทางต่อไปนั้นเป็นทางสามแยก ทางขวามือนั้นจะเป็นทางไปยังแก็สสเตชั่น ทางซ้ายจะเป็นทางไปสถานีรถไฟ ให้เลือกไปทางนี้ก่อน บนรถไฟจิลจะพบกับคาร์ลอส,นิโคไลและมิคาเอลที่บาดเจ็บอยู่ คาร์ลอสจะพูดเกลี้ยกล่อมให้นิโคไลที่แสดงความไม่พอใจร่วมมือกับจิลเพื่อหาทางออกไปจากเมืองนี้ ในที่สุดนิโคไลก็ยอมบอกแผนที่จะออกจากเมืองคือจะมีเฮลิคอปเตอร์มารับตัวที่หอนาฬิกาของเมือง แต่ในตอนนี้ต้องไปที่หอนาฬิกาให้ได้เสียก่อน มีทางเดียวคือต้องใช้รถไฟขบวนนี้ฝ่าไป ซึ่งตอนนี้รถไฟยังขาด สายแบตเตอรี่ , ฟิวส์และน้ำมันอยู่ แล้วคาร์ลอสจะให้สายรัดทีทำให้ไอเทมเพิ่มขึ้นได้เป็น 10 ช่อง จากนั้นให้เก็บ คีมล็อค ที่วางอยู่บนที่นั่งมาด้วย ส่วนสายแบตเตอรี่เอาไปใส่ที่ช่องใส่เลยก็ได้ จากนั้นจุดแรกที่ต้องผ่านคือปั๊มแก็ส ประตูของปั๊มปิดอยู่ให้ใช้ประแจหกเหลี่ยมหมุนที่รูข้างๆ แต่ประแจจะหักเสียก่อน ต่อไปให้ใช้คีมล็อคก็จะเข้าไปในปั๊มได้ในตอนนี้จะมีเพื่อนเดินตามเข้ามา (ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนที่เล่นผ่านมาเลือกไปที่ร้านอาหารหรือสำนักพิมพ์ หากเป็นร้านอาหารจะเป็นคาร์ลอสเข้ามา แต่ถ้าเป็นสำนักพิมพ์ตรงนี้จะเป็นนิโคไล)
-ถ้าเป็นคาร์ลอส ในระหว่างที่จิลกำลังสำรวจภายในร้านอยู่ พวกซอมบี้จะบุกเข้ามา คาร์ลอสจะออกไปต้านเพียงคนเดียว
-ถ้าเป็นนิโคไล เขาจะไม่สนใจจิลและเข้าไปตรวจสอบอยู่ในที่ซ่อมรถ

ในตู้ที่อยู่มุมซ้ายนั้นจะมี น้ำมันเครื่องจักรขนาดเล็ก อยู่ การที่จะเอาออกมาต้องปลดล็อคไฟฟ้า 3 ครั้ง วิธีแก้นั้นคือ ให้ดูว่าไฟบนแผงหน้าปัดสว่างที่ตัวอักษรใด แล้วจึงกดปุ่มให้เหลือไฟที่อักษรตัวนั้นเพียงตัวเดียว เมื่อได้มาแล้วประกายไฟจากที่ซ่อมรถจะเกิดติดขึ้น และทำให้แก๊สระเบิด (ถ้าเป็นนิโคไลจะหายสาบสูญไป แต่คาร์ลอสจะรอดออกมาได้พร้อมจิลและแยกจากไป) หลังจากที่ได้น้ำมันเครื่องจักรมาแล้ว แต่น้ำมันนี้ใช้สำหรับเครื่องจักรขนาดเล็กจึงไม่สามารถใช้ได้ ให้กลับไปตั้งต้นที่ห้องเซฟที่ทางเดิน (ก่อนที่จะมาถึงห้องเซฟนี้จะผ่านรูปปั้นผู้ว่าการเมือง ให้เก็บ หนังสือหิน ที่อยู่บนรูปปั้นมาด้วย) หลังจากนี้จะไปเก็บของที่จุดใดก่อนก็ได้ เหตุการณ์จะต่างกันแค่การเจอผู้ตามล่า ในสถานที่แรกที่ไปเอาเท่านั้น

ถ้าเลือกไปที่ห้องจ่ายไฟก่อน
ในเส้นทางก่อนที่จะเข้าร้านอาหาร (ทางหน้าร้าน) จะมีรูปปั้นเทพีปล่อยน้ำอยู่ ข้างๆจะมี เข็มทิศเหล็ก อยู่ซึ่งจะเอาออกมาไม่ได้ ถ้าไม่ได้ใส่หนังสือหินลงในช่องข้างๆแล้วเอาเข็มทิศเหล็กนี้กลับไปใส่ที่รูปปั้นผู้ว่าการเมืองจะได้ แบตเตอรี่ เพื่อเอาไปใส่ที่ลิฟท์ตรงสถานที่ก่อสร้าง จะสามารถไปที่ห้องจ่ายไฟได้ ซึ่งที่ห้องจ่ายไฟนี้จะมีประตูที่ปิดอยู่ 2 บาน การที่จะเปิดประตูได้ต้องเพิ่มหรือลดกระแสไฟฟ้าให้ได้ตามที่กำหนด ประตูบานซ้าย 15-25 V บานขวาคือ 115-125 V แต่ก่อนอื่นต้องไปเปิดสวิตซ์บังคับด้วยมือที่ด้านในก่อน หลังจากที่เปิดประตูบานใดบานหนึ่งได้เ มื่อออกมาพวกซอมบี้จะเข้ามาล้อมประตูเอาไว้และกำลังพังเข้ามา ในตอนนี้จะมี Live Selection เกิดขึ้น
-พังประตูด้านข้างหนีออกมา
ถ้าเลือกมาที่ห้องจ่ายไฟก่อน เมื่อพังประตูออกมาจะพบกับผู้ตามล่าที่ดักรออยู่ ถ้าหนีกลับเข้าไปยังมีซอมบี้ดักรออยู่ที่ประตู ถ้าเลือกแบบนี้จะลำบากหน่อย
-เพิ่มกระแสไฟฟ้า
จิลจะเพิ่มกระแสไฟฟ้าจนช็อตไปถึงพวกซอมบี้ที่ประตู (เลือกแบบนี้จะปลอดภัยกว่า) ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็แล้วแต่ ยังไงก็ควรเปิดประตูทั้งสองบานแล้วจะได้ ฟิวส์ขนาดใหญ่ กับ ปืน อีกหนึ่งกระบอก (ขึ้นอยู่กับว่าตอนที่สำรวจตู้ในห้องของหน่วย S.T.A.R. ได้ปืนแบบไหนมา ปืนที่จะได้ตรงนี้จะเป็นอีกแบบหนึ่ง) หลังจากนั้นให้ไปก็ไปที่ห้องเก็บเคมีภัณฑ์ต่อ (ถ้าเลือกมาที่ห้องจ่ายกระแสไฟฟ้าต่อจากห้องเคมีภัณฑ์ ออกมายังไงก็เจอกับผู้ตามล่าแน่นอน)

ถ้าเลือกไปที่ห้องเก็บเคมีภัณฑ์ก่อน
ให้เตรียมเอาคีมล็อคไปด้วย แล้วกลับไปที่อัพทาวน์ หลังจากที่ผ่านลานจอดรถไปประมาณหนึ่งฉากแล้ว ก่อนที่จะเข้าประตูให้สังเกตุดูให้ดีจะเห็น สายดับเพลิง ติดอยู่ที่ข้างผนังก่อนเข้าประตู (ไม่ใช่ตรงที่มีไฟไหม้) ให้ใช้คีมล็อคขันออกมาแล้วเอาไปใช้กับจุดจ่ายน้ำบริเวณทางโค้งที่มีไฟไหม้อยู่ จะเป็นเส้นทางไปห้องเก็บเคมีภัณฑ์ ระหว่างทางจะมี ประแจ 2 แฉก ให้เก็บด้วย เมื่อเข้าไปในห้องเก็บแล้วตรงนี้เหตุการณ์จะมีอยู่ 2 แบบ (ตรงนี้จะเจอเฉพาะกรณีที่เลือกมาที่ห้องเก็บเคมีภัณฑ์ก่อน)
-ถ้าเป็นคาร์ลอส จะถูกเพื่อนที่กำลังจะกลายเป็นซอมบี้ขอร้องให้ฆ่าเขาก่อนที่จะหมดสติไป คาร์ลอสจะเสียใจมากจนวิ่งหนีไป
-ถ้าเป็นนิโคไลตอนที่จิลเข้าไปเขาจะฆ่าเพื่อนไปแล้ว เมื่อจิลถามเขาก็บอกว่าก็แค่ฆ่าทิ้งซะก่อนที่จะกลายเป็นซอมบี้เท่านั้นเอง

ทางที่จะไปยังห้องเก็บเคมีภัณฑ์มีประตูไฟฟ้าล็อคอยู่ การที่จะเปิดต้องใส่รหัสที่เครื่องคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ ส่วนรหัสนั้นให้ใช้รีโมทที่อยู่ข้างๆ เปิดดูจากโทรทัศน์ (ชื่อสินค้าที่ตัวใหญ่ๆ) เมื่อเข้าไปแล้วในนั้นจะมี น้ำมันเครื่องจักรขนาดใหญ่ ซึ่งมีอยู่น้อย จึงต้องใช้น้ำมันสำหรับเครื่องจักรเล็กมาผสม จะได้ น้ำมันเครื่องจักรขนาดใหญ่ผสม เมื่อกลับมาถึงบริเวณไฟไหม้ก็จะพบผู้ตามล่าอีกครั้ง ถ้าเราเลือกที่จะสู้กับมันเมื่อชนะจะได้ M37 PART A (ตรงนี้จะเจอเฉพาะกรณีที่เลือกมาที่ห้องเก็บเคมีภัณฑ์ก่อน)
สำหรับประแจ 2 แฉก ถ้าจะใช้ให้กลับไปบริเวณทางสามแพร่งของอัพทาวน์ (ตรงที่แบรดหนีไป) จะมีชัตเตอร์อยู่ ข้างในจะมีกระสุนเกรเนดให้ 3 ชุด เมื่อกลับไปถึงลานจอดรถจะเกิดพื้นถล่ม จิลจะตกลงไปข้างล่างแล้วลังไม้ก็กำลังจะตกลงมาทับ ในตอนนี้จะมี Live Selection ให้เลือก
-กระโดดขึ้นข้างบน
-กระโดดลงข้างล่าง
ต้องไปเดินกลับจากข้างนอกอีกครั้ง ถ้าไม่อยากเสียเวลาให้เลือกกระโดดขึ้นข้างบนจะดีกว่า

ให้เตรียมตัวที่จะไปสถานีรถไฟ นอกจากจะเอาฟิวส์และน้ำมันผสมไปแล้ว อย่าลืมไปเก็บของในที่ต่างๆให้เรียบร้อย เพราะต่อไปจะกลับมาที่เมืองนี้อีกไม่ได้แล้ว ช่วงทางสามแพร่งก่อนถึงสถานีรถไฟ จะเจอกับผู้ตามล่าอีกครั้งซึ่งจะสู้หรือไม่สู้ก็ได้ เพราะถ้าหนีไปทางสถานีรถไฟมันจะไม่ตามมา (หากชนะมันตรงนี้จะได้ M37 PART B) แต่ก่อนที่จะไปถึงสถานีรถไฟจะเกิดพื้นถล่มอีกครั้ง จิลจะตกลงไปตามรูนั้นและจะพบบอส เกรบดิกเกอร์ ซึ่งจะโผล่ออกมาตามรูรอบหลุม (ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องสู้กับมันก็ได้ ให้หาจังหวะไปยืนรอตรงมุมสวิตซ์แล้ววิ่งเข้าไปกดทั้งสองด้าน จากนั้นก็กดสวิตซ์เอาบันไดลงมาก็สามารถขึ้นไปจากหลุมได้เลย ที่บนรถไฟเมื่อเอาอุปกรณ์ที่เหลือทั้งสองอย่างใส่แล้ว คาร์ลอสจะเข้ามาหา จิลจะบอกว่านิโคไลไม่สามารถกลับมาได้แล้ว ทั้งสองคนจึงเตรียมตัวที่จะเดินทางไปหอนาฬิกา ขณะที่รถไฟกำลังเริ่มเคลื่อนที่ผู้ตามล่าก็ได้ ขึ้นมาทางด้านหลังของขบวนซึ่งมีมิคาเอลที่บาดเจ็บอยู่ จึงเป็นหน้าที่ของจิลอีกครั้งที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์อันน่าเศร้าไปแล้วก็มีเรื่องใหม่เข้าแทน เมื่อเบรกของรถไฟไม่สามารถใช้การได้ จะมี Live Selection ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
-กระโดดลงจากรถไฟ
-พยายามใช้เบรกฉุกเฉิน

3.5 Clock Tower
--------------------------
จากตรงนี้ไปจะมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ที่จุดเริ่มต้นของนาฬิกาและไอเทมบางอย่าง ซึ่งเกิดจากการเลือก Live Selection ที่บนรถไฟ จะขอแนะนำเป็นส่วนๆไปจนกว่าจะถึงทางที่รวมกัน

-ถ้าเลือกกระโดดลงจากรถไฟ
จุดเริ่มต้นของแบบนี้จะอยู่ใกล้ห้องเซฟทางขวามือของแผนที่ ซึ่งในห้องแรกที่เริ่มมานั้นจะมีไอเทมวางอยู่และ กุญแจรูส ซ่อนอยู่ข้างหลังของรูปภาพทางด้านขวามือ เมื่อเดินออกมาจากห้องเซฟแล้วจะพบกับคาร์ลอสอีกครั้ง เขาเองก็พยายามที่จะหาทางออกจากเมืองเช่นกันแล้วเขาจะขอแยกตัวไปหาสำรวจทางด้านอื่น ให้ออกมาทางฮอลกลางของหอนาฬิกา จะมี แผนที่ของหอนาฬิกา ให้กดดูแผนที่แล้วไปที่ห้องเซฟทางซ้ายมือ ภายในห้องจะมี กุญแจเบเซล วางเอาไว้
-ถ้าเลือกกดเบรกฉุกเฉิน
จุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้จะอยู่บริเวณลานกว้างข้างหน้าของหอนาฬิกา ให้วิ่งเข้าประตูทางด้านข้างซ้ายมือ จะเข้ามาที่ห้องเซฟซึ่งมี กุญแจรูส วางเอาไว้ เมื่อเก็บแล้วให้ลองมาสำรวจชั้นหนึ่งของนาฬิกาดู บริเวณฮอลกลางจะมี แผนที่ของหอนาฬิกา และ ปืนไมน์โทล์ว ส่วนห้องทางขวาของแผนที่จะมี กุญแจเบเซล ซ่อนอยู่หลังรูปภาพ (ห้องที่เป็นจุดเริ่มต้นของอีกเส้นทางหนึ่ง)

หลังจากที่เก็บกุญแจเบเซลแล้วจุดต่อไปที่จะต้องสำรวจคือ ชั้น 2 ของหอนาฬิกา จากชั้น 2 นี้ให้ออกมาด้านนอกของหอจะมีรูให้ใส่กุญแจเบเซล เพื่อขึ้นไปชั้น 3 ของหอ ตรงนี้จะมีห้องให้เซฟและ ฟันเฟืองสีเงิน วางอยู่ที่ชั้นวางของ ทางซ้ายมือจะมีหีบเพลงอยู่ ซึ่งเมื่อจิลกดสำรวจจะได้ยินเพลงที่เป็นตัวอย่าง 1 ครั้ง แล้วให้เรียงสวิตซ์ให้เสียงเพลงถูกต้องตามที่ได้ยิน โดยคำสั่งที่หนึ่งและสองเป็นการเลื่อนสวิตซ์ขึ้นและลง ส่วนคำสั่งที่ 3 จะเป็นการเลื่อนไปยังสวิตซ์อันต่อไป ถ้าเป็นสวิตซ์อันสุดท้ายและเป็นการเล่นเพลง (ตรงนี้ไม่ยากอยู่แล้วแค่เลือกเพลงที่เสียงสูงกว่าเท่านั้น) เมื่อเล่นแล้วก็จะได้ กุญแจโครนอส ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่สามารถใช้ไขประตูได้ ให้กดใช้กุญแจโครนอสผสมกับกุญแจรูสก็จะได้กุญแจโครนอสที่สมบูรณ์ แล้วให้ลงมาจากชั้น 3 จะพบกับผู้ตามล่าอีกครั้งหนึ่ง (Live Selection)
-ใช้แสงไฟ
ถ้าเลือกวิธีนี้มันยังไม่ตายทันที จะต้องลงไปเจอกับมันข้างล่างอีกที่ด้านล่าง
-ใช้ไฟฟ้า
แต่ถ้าเลือกวิธีนี้ยังแล้วแต่ความโชคดีอีกด้วย บางครั้งจะสามารถช็อตมันให้ตายได้ทันที (ได้ไอเทมมาเลย) แต่บางครั้งก็เบาและมันไม่ตาย(ถ้ายืนรอหรือออกไปข้างนอกก็จะฟื้นขึ้นมา)
แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนถ้ากำจัดมันได้ก็จะได้ สเปรย์แพ็ค อีกหนึ่งชุดจากนั้นให้กลับมาที่ชั้น 1 F ทางด้านขวามือจะมีประตูสีเขียวที่ต้องใช้กุญแจโครนอสไขเข้าไป จะเป็นทางไปสู่ห้องศิลป์ ที่นี่จะมีรูปปั้นเทพธิดาแห่งโครนอสทั้ง 3 อยู่ บนมือจะมีอัญมณีอยู่ 3 เม็ด ที่นี้เราต้องใช้อัญมณีแต่ละเม็ดไปใส่ในรูปภาพทั้ง 3 รูปเพื่อให้นาฬิกาของเรือนตรงกลางหมุนเข็มมาที่ 12.00 น. ความแตกต่างของน้ำหนักอัญมณี จะทำให้เข็มหมุนเดินหน้าหรือถอยหลังต่างกัน เมื่อทำได้แล้วจะได้ ฟันเฟืองสีทอง ให้เอาผสมกับฟันเฟืองสีเงิน จะได้ โครนอสเกียร์ ด้านหลังของห้องนี้จะมีระฆังวางขวางเอาไว้ ซึ่งแรงผู้หญิงไม่สามารถผลักได้ ให้เอาฟันเฟืองที่ทำเสร็จแล้ว กลับไปใส่ในลานของนาฬิกาที่ชั้น 3F (ด้านข้างของกล่องเก็บของ) แล้วกลับลงมาก็จะเป็นการส่งสัญญานไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่จะมารับ แต่….

OCTOBER 1st
ในตอนนี้เราจะได้เปลี่ยนมาบังคับคาร์ลอสแทน เพื่อจะได้ไปหาวิธีมารักษาจิล (ไอเทมของคาร์ลอสจะไม่เกี่ยวกับจิลใช้ให้เต็มที่เลย) ให้ไปที่ห้องศิลป์เพื่อผลักระฆังที่ขวางทางอยู่ จะเปิดทางไปยังโรงพยาบาลและสวนสาธารณะ (ซึ่งยังเข้าไม่ได้) ให้ไปทางซ้ายซึ่งเป็นโรงพยาบาลก่อน

3.6 Hospital
--------------------
เมื่อเข้ามาในโรงพยาบาลแล้วจะพบกับศัตรูใหม่ซึ่งมีความร้ายกาจมากกว่าเหล่าซอมบี้ หลังจากที่ออกมาจากห้องเซฟแล้วจะเป็นห้องพักของแพทย์ด้านหลังของห้องตรงบอร์ดจะมี แผนที่ของโรงพยาบาล และบนโต๊ะก็จะมี เทปเรคคอร์ดเดอร์ วางอยู่ให้เอาไปใช้กับลิฟต์ในห้องจะทำให้ลิฟต์ทำงานได้ (ก่อนใช้เทปต้องเปิดปุ่มไมค์ที่ลิฟท์ก่อน) เมื่อเข้าไปในลิฟต์จะมีอยู่ 2 ชั้นให้เลือกไปคือ ชั้น 4 และ B3 ให้เลือกไปที่ชั้น 4 ก่อน ออกจากลิฟท์มาจะมีทางแยกทางซ้ายมือ ให้เข้าไปในห้องแรกจะมีศพของหมออยู่ ที่มือของศพจะมีอักษรเขียนเป็นเลขรหัสไว้ 3 ตัว ให้จำไว้แล้วออกมา เข้าไปทางห้องสุดทางของทางเดินหลัก เมื่อเข้าไปแล้วจะพบนิโคไลอีกครั้ง คาร์ลอสจึงเข้ามาถามเรื่องราวทั้งหมดนั้นคืออะไรกันแน่ แต่นิโคไลไม่ยอมพูดแถมยังคิดจะกำจัดคาร์ลอสไปอีกด้วย แต่โชคดีที่เกิดระเบิดขึ้นจนนิโคไลหลบออกไปข้างนอก

ให้สำรวจด้านหลังของห้องนี้จะพบ กุญแจของห้อง 402 ซึ่งใช้ไขเข้าห้องที่อยู่ข้างๆห้องที่ได้รหัสมา ภายในห้องจะมีชั้นวางของและจุดอยู่ตรงมุมห้องทั้ง 4 มุม จะมีอยู่จุดเดียวที่เมื่อเข็นทับแล้วจะเปิดให้เห็นตุ้เซฟข้างหลังรูปภาพ หากเข็นผิดให้ออกไปแล้วกลับเข้ามาอีกครั้ง ส่วนรหัสที่จะใช้เปิดตู้คือรหัสที่ได้มาจากศพ จะได้ วัคซีนของไวรัส จากนั้นจึงลงไปที่ B3 สุดทางของชั้นนี้จะเป็นห้องทดลองซึ่งมีร่างของฮันเตอร์แกมม่าอยู่ ในชั้นวางด้านหลังจะมี เบสวัคซีน ให้เดินอ้อมมาอีกฝั่งหนึ่งแล้วกดสวิตซ์ไฟเพื่อเดินไปเข้าเครื่องผสมวัคซีน จากนั้นจึงใส่เบสวัคซีนลงในเครื่องนี้เพื่อเริ่มทำการผสม วิธีผสมคือปรับคันโยก 1,2,3 และ A B เพื่อให้เกจที่อย่ด้านซ้ายลงมาอยู่ที่ระดับสีเหลืองเท่ากันทั้งสองเกจ (ปริศนานี้ค่อนข้างยากที่สุดในเกมนี้) เมื่อผสมได้แล้วก็จะได้เบสวัคซีนมา เอามาผสมกับวัคซีนไวรัสก็จะได้ วัคซีนแก้ไวรัส ทีนี้ก็รีบเอาไปรักษาจิล แต่ว่าเมื่อขึ้นมาถึงขั้นหนึ่งก็พบว่ามีระเบิดเวลาติดตั้งไว้ ให้รีบหนีออกมาก่อนที่จะระเบิด ผลของการระเบิดทำให้โรงพยาบาลพังทลายลงมา ในตอนที่คาร์ลอสวิ่งกลับไปหาจิลนั้น ก็จะเจอผู้ตามล่าเข้ามาขัดขวางอีกครั้ง ให้รีบวิ่งเข้าไปหาจิลก่อนที่มันจะเข้าไปถึงตัวจิลได้ (หากสู้กับมันเมื่อยิงถึงช่วงหนึ่งมันจะหนีไปห้องต่อไปซึ่งทำให้เข้าใกล้จิลเข้าไปอีก) เมื่อไปถึงแล้วจิลจะหายจากอาการติดไวรัสได้แล้ว

3.7 Park
--------------
หลังจากที่จิลหายแล้วจะได้กลับมาบังคับจิลอีกครั้ง (อย่าลืมว่าถ้าออกไปตอนนี้จะต้องเจอกับผู้ตามล่าอีกครั้ง ในคราวนี้เมื่อกำจัดก็จะได้ แอสซอลท์ไรเฟิล) ให้เตรียมเอากุญแจผีติดตัวมาด้วย แล้ววิ่งออกไปทางที่คาร์ลอสเปิดทางไว้ให้ ตรงกลางระหว่างโรงพยาบาลกับสวนสาธารณะ จะมีบ้านพักของยามเฝ้าสวนสาธารณะด้วย นอกจากจะใช้เซฟแล้วที่นี่ยังมี กุญแจเปิดทางเข้าสวน ใช้เปิดทางเข้าได้ ซึ่งในสวนแห่งนี้ถ้าดูจากทางเข้าแล้วจะสามารถแยกเป็นสองทางคือ ทางซ้ายและทางขวา ในตอนนี้ให้ไปทางด้านขวามือก่อน ซึ่งจะเป็นทางเดินรอบๆสวนตรงสุดทางเส้นนี้จะมีศพซึ่งถือ กุญแจของสุสาน อยู่ หลังจากนั้นจึงกลับมาที่ทางเข้า เพื่อไปยังเส้นทางทางซ้ายมือซึ่งเป็นทางไปน้ำพุ หลังจากที่เข้าประตูมาแล้วจะเห็นป้ายประกาศอยู่ทางซ้ายมือ ที่ป้ายประกาศนี้จะมี แผนที่ของสวนสาธารณะ เมื่อเก็บแล้วให้เดินมาทางซ้ายมือ (จากประตู) จะมีเครื่องควบคุมน้ำพุซึ่งใกล้ๆกันจะมีวิธีการควบคุมอยู่ ไม่ต้องสนใจ ให้กระโดดลงมาในบ่อแล้วลุยน้ำอ้อมมาอีกด้านหนึ่ง จะมีป้ายอยู่อีกป้ายหนึ่งจะเป็นวิธีการทดเกียร์เพื่อระบายน้ำออก ให้จำเอาไว้ แล้วเอาเฟืองรูปแบบนี้ไปใส่ที่เครื่องควบคุม (เครื่องนี้จะมีตัวเลขอยู่ทางซ้ายมือนั้นคือจำนวนครั้งที่เลื่อนเฟืองได้) ก็จะสามารถระบายน้ำออกไปได้ ทีนี้ก็สามารถลงไปในทางน้ำข้างใต้เพื่อออกจากสุสานได้แล้ว สุดทางของสุสานนี้ก็คือบ้านพักของผู้ดูแล ภายในบ้านพักนี้จะมี แท่งเหล็ก อยู่ในตู้จากนั้นให้เอาไฟแช็คออกมาจากห้องเซฟ เพื่อใช้กับเตาไฟที่อยู่ในบ้านหลังนี้ จะเปิดให้เห็นทางลับที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง ให้ใช้แท่งเหล็กเพื่อขยายช่องทางนี้แล้วมุดเข้าไป ของที่มีให้เก็บในห้องนี้คือ กุญแจของสวนสาธารณะ อีกด้านหนึ่ง ในตอนที่จิลกำลังกลับออกมานั้นก็ได้ยินการติดต่อเข้ามาว่า ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อกลับออกมาจะพบกับนิโคไลที่มาดักรออยู่ เขาคิดจะฆ่าจิลเพื่อไม่ให้ยุ่งยากในภายหลัง แต่ก็เกิดเสียงประหลาดมุ่งหน้าเข้ามาใกล้ เขาจึงรีบหนีออกไปก่อน เมื่อออกไปจากบ้านของผู้ดูแล ในคราวนี้จิลก็ต้องพบกับหนอนยักษ์ เกรปดิกเกอร์ อีกครั้งหนึ่ง การต่อสู้คราวนี้ไม่สามารถหนีได้แล้ว ให้ยืนรอจังหวะอยู่ช่วงหนึ่ง พอมันมุดดินเข้ามาหาให้วิ่งออกไปแล้วหันหลังกลับมายิง (ในกรณีไม่ได้เตรียมอาวุธมา ให้ยิงสกัดไปสักระยะหนึ่งแล้วไฟฟ้าจะรั่วที่แอ่งน้ำ ให้ยืนล่อมันเข้ามาที่แอ่งน้ำนี้แล้ววิ่งออกมา ใช้ปืนเล็งไปที่เสาไฟฟ้าก็จะสามารถกำจัดมันได้เช่นกัน) หลังจากที่กำจัดมันได้แล้วรั้วจะตกลงมาทำให้สามารถปีนเข้าด้านข้างบ่อน้ำได้ หลังจากที่กลับมาที่ทางเข้าสวนสาธารณะแล้วให้ไปที่ทางเดินรอบสวน (ทางขวา) จะพบกับทางออกไปสู่ โรงงานกำจัดขยะ แต่ก็ยังพบกับผู้ตามล่าอีกครั้ง ซึ่การต่อสู้ในที่แคบนี้เป็นการเสียปรียบอย่างมากจะมี Live Selection ขึ้นมาอีกครั้ง (การเลือกครั้งนี้จะมีผลให้ฉากจบไม่เหมือนกัน)
-กระแทกให้ตกลงไป
จุดเริ่มต้นของ โรงงานกำจัดขยะ ถ้าเลือกแบบนี้จะเริ่มจากข้างบนชั้น 1F
-กระโดดหนีลงไปข้างล่าง
เลือกแบบนี้จะไปเริ่มข้างล่าง ชั้น B1

3.8 Disuse Pant
--------------------------
-ถ้าเลือกกระแทกให้ตกลงไป
จะเข้ามาในโรงงานนี้จากชั้น 1F ตามเส้นทางเดินนี้จุดที่สามารถเข้าได้คือ ห้องเซฟที่อยู่ทางซ้ายมือ ภายในห้องเซฟจะมี กุญแจของโรงงาน อยู่ที่ตู้ภายในห้อง ประตูที่อยู่ภายในห้องนี้จะเป็นทางเข้าห้องไอน้ำ ให้เข้าไปปิดและเปิดวาล์วต่างๆในห้องนี้เพื่อเปิดทางเข้าไปกดสวิตซ์เปิดทางเข้าไปในห้องกำจัดขยะ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปได้อยู่ดี ออกมาจากห้องเซฟแล้วใช้กุญแจโรงงานที่ได้มาไขเข้าห้องที่อยู่ตรงกันข้าม จากประตูที่เข้ามานี้ทางด้านข้างจะมี แผนที่ของโรงงาน ส่วนโต๊ะตรงกลางห้องจะมี ซิสเต็มดิสก์ แล้วจึงเข้าลิฟท์ที่อยู่ภายในห้องนี้เพื่อลงไปยังชั้น B1 เส้นทางของชั้น B1 จะเป็นทางเส้นเดียวและไม่ซับซ้อนอะไรนัก เมื่อไปจนถึงห้องเซฟแล้ว ภายในห้องเซฟของชั้น B1 จะมี ตัวอย่างของน้ำ อยู่ข้างผนังให้เก็บ แล้วเดินต่อไปห้องข้างล่างสุด จะเป็นห้องวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ ให้เอาตัวอย่างของน้ำที่มีใส่ลงไปแล้วเครื่องจะแสดงรหัสให้ดู ต่อไปก็จะให้จิลใส่รหัสให้เหมือนกับที่เครื่องแสดง ซึ่งหลักการใส่ก็คือ 1.แถวของรหัสที่จะได้คือการรวมกันระหว่างแถว A,B,C
2.วิธีการใส่ให้ง่ายที่สุดคือพยายามดูช่องว่างของแถวทั้ง
3.ให้ตรงกับตัวอย่างก่อน 3.ต่อไปคืออันที่สูง 3 ช่องคือ อันที่ต้องมีทั้ง 3 แถวให้ลองปรับดู โดยไม่ให้ช่องว่างเสียไป
เท่าที่ลองดูมาวิธีนี้จะทำให้ใส่ได้ง่ายที่สุด อย่าลืมว่าต้องเลือกปรับทั้ง 3 แถวก่อน สุดท้ายคือคำสั่งเช็คถ้าคิดว่าถูกแล้วให้ลองเช็คดู เมื่อใส่รหัสตัวอย่างน้ำแล้ว ทีนี้จะสามารถเข้าห้องกำจัดขยะได้แล้วแต่ต้องใช้ซิสเต็มดิสก์ด้วย (หากเอากุญแจของโรงงานมาด้วย ให้เอาไปใส่ในเครื่องปั๊มบาร์โค้ดข้างๆเครื่องใส่รหัสน้ำเพื่อเอาไปใช้ทีหลัง) เมื่อเข้าไปในห้องจะพบกับนิโคไลอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เขาตั้งใจที่จะกำจัดจิลจริงๆ แต่ในระหว่างสู้กันอยู่เขาถูกอะไรบางอย่างทำร้ายเอาจนตาย ให้จิลเข้าไปใช้ซิสเต็มดิสก์ตรงหน้าห้องเพื่อเข้าไปในห้องกำจัดขยะ

-ถ้าเลือกกระโดดลงข้างล่าง
หลังจากโดลงมาแล้วจะเข้ามาเริ่มที่ชั้น B1 ของโรงงาน ตอนนี้ให้แวะทางขวามือก่อนซึ่งจะเป็นห้องเซฟของชั้น B1 เก็บตัวอย่างน้ำจากภายในห้องเพื่อเอาไปใส่รหัสตัวอย่างน้ำที่ห้องชั้นล่าง (อ่านวิธีใส่รหัสจากข้างบน) เมื่อกลับขึ้นมาเพื่อจะขึ้นไปยังชั้น 1F จะเจอกับฝูงซอมบี้เข้ามาล้อม คาร์ลอสจะเข้ามาช่วย เขาจะบอกว่านิโคไลยังมีชีวิตอยู่ให้ระวังให้ดี แล้วเขาจะแยกไปหาทางหนีที่อื่น ให้ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น F1 ภายในห้องที่มีลิฟท์นี้จะมี ซิสเต็มดิสก์ และ แผนที่ของโรงงาน ตอนที่ออกมาจากห้องจะมีกระสุนปืนยิงมาแต่จิลจะหลบได้ทัน แล้วนิโคไลจะเดินเข้าไปในห้องๆหนึ่งซึ่งตอนนี้จะยังเปิดไม่ได้ ให้ไปที่ห้องเซฟของชั้น F1 ภายในห้องเซฟจะมี กุญแจของโรงงาน ให้เก็บ ที่จริงกุญแจนี้ไม่จำเป็นแล้วแต่การ์ดที่อยู่กับบัตรยังจำเป็นอยู่ให้กลับลงไปที่ชั้น B1 เพื่อเอาบัตรลงไปปั๊มบาร์โค้ดจากนั้นกลับมาที่ห้องเซฟชั้น 1F นี้อีกครั้ง ภายในห้องจะมีประตูเข้าห้องไอน้ำ ให้เปิดและปิดวาล์วเพื่อเข้าไปกดสวิทซ์เปิดทางเข้าห้องกำจัดขยะ ซึ่งต้องใช้ซิสเต็มดิสก์เพื่อเปิดประตูด้วย

เมื่อเข้าไปในห้องกำจัดขยะและประตูจะเกิดการล็อคขึ้น และเครื่องกำจัดขยะก็พร้อมที่จะทำงาน ผู้ตามล่าก็จะตามเข้ามาอีกครั้ง ในคราวนี้จะเป็นการต่อสู้กับมันอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้แล้ว ถ้าใช้การเล็งยิงไปที่เครื่องปล่อยสารเคมีก็จะช่วยได้เยอะ เมื่อกำจัดมันได้แล้วจะมี คีย์การ์ดของอัมเบรลล่า ตกมาจากศพที่อยู่กลางห้อง เอาไปใช้ที่ประตูจะออกไปจากห้องนี้ได้ ในตอนที่ออกมาจากห้องตอนนี้จะมีการเตือนภัยถึงมิสไซล์ที่ถูกยิงมาที่เมืองนี้ ซึ่งในตอนนี้ยังมีเวลาพอที่จะหาทางหนีได้ให้กลับไปเตรียมตัวที่ห้องเซฟของชั้น 1F ก่อน ภายในห้องไอน้ำที่อยู่ข้างในห้องเซฟจะมีลิฟต์อยู่หนึ่งตัว ซึ่งลิฟต์ตัวนี้จำเป็นต้องใช้คีย์การ์ดของอัมเบรลล่าในการเปิด ข้างล่างนี้จะมีกระสุนของปืนเกรเนดลันเชอร์ และตรงตู้ที่อยู่สุดทางเดิน ให้กดใช้กุญแจของโรงงาน (ที่ปั๊มบาร์โค้ดมาแล้ว) เพื่อเปิดตู้หยิบ ร็อคเกตลันเชอร์ ที่อยู่ภายใน เมื่อพร้อมแล้วทีนี้ก็เตรียมตัวลุยเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเกมได้เลย

ในตอนนี้จะมีเพียงทางไปห้องสื่อสารเท่านั้นที่ยังไม่ได้ไปสำรวจ ให้ใช้คีย์การ์ดของอัมเบรลล่าที่เครื่องเช็คบัตรหน้าประตูจะเปิดประตูได้ มาถึงตอนนี้เนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นสองแบบตาม Live Selection ที่เลือกมาในตอนเข้าโรงงานนี้
แบบที่ 1 คาร์ลอสจะติดต่อเข้ามาที่ห้องสื่อสารให้จิลหยิบเอาเครื่องตรวจมิสไซล์ขนาดเล็กมาไว้ แล้วบอกเขาว่าเขากำลังหาเฮลิคอปเตอร์อยู่ ให้จิลรีบตามออกมาข้างนอก หลังจากจบการติดต่อแล้วให้สำรวจบันไดที่อยู่กลางห้อง การเตือนภัยจะถึงขั้นระดับ D มิสไซล์เข้าใกล้เมือง 80,000 ก.ม. เส้นทางหนีจะถูกเปิดออก
แบบที่2 หลังจากเก็บเครื่องตรวจมิสไซล์ขนาดเล็กแล้ว นิโคไลจะขับเฮลิคอปเตอร์ขึ้นมาเพื่อหมายจะกำจัดจิลให้ได้ ตอนนี้ก็จะมี Live Selection ขึ้นมาอีกครั้ง
-เจรจากับนิโคไล
หลังจากที่คุยถ่วงเวลากันไปได้หน่อย จิลจะบอกว่ากำจัดเธอไปก็ไม่ได้ค่าตอบแทนหรอก และในตอนนี้มิสไซล์ก็ใกล้จะเข้ามาถึงเมืองนี้แล้ว แล้วนิโคไลก็บินจากไป
-สู้กับเฮลิคอปเตอร์
ถ้าเลือกแบบนี้ก็ไม่ต้องเสียดายร็อคเกตลันเชอร์ เพียงนัดเดียวเท่านั้นเฮลิคอปเตอร์กระจอกๆก็ร่วงแล้วหลังจากนั้นคาร์ลอสจะตามเข้ามาในห้องสื่อสารนี้ เขาจะพยายามใช้อุปกรณ์สื่อสารในการขอความช่วยเหลือ ในที่สุดก็สำเร็จ มีการติดต่อถึงจิลแต่สัญญาณขาดหายไปเป็นช่วงๆจนจับใจความไม่รู้เรื่อง ในตอนนี้จะมีอยู่ 2 วิธีการให้เลือกคือ
-สำรวจเส้นทางหนีที่อยู่กลางห้อง คาร์ลอสสจะหมดความพยายามกับเครื่องสื่อสารแล้วบอกว่าจะไปหาทางอื่นดู -ออกไปนอกห้องแล้วกลับเข้ามาอีกครั้ง ในคราวนี้การติดต่อจะชัดเจน เฮลิคอปเตอร์บอกมาว่าจะมารับที่ด้านหลังของโรงงาน คาร์ลอสจะแยกไปเตรียมตัวทางด้านอื่น
ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ไม่แตกต่างกันนักนอกจากเนื้อหาของบทพูดจะต่างกันหน่อย จากนั้นเมื่อสำรวจที่เส้นทางหนีตรงกลางห้องก็จะเริ่มถอยหลังที่ 80,000 ก.ม.
3.9 ห้องทดลองชีวอาวุธ
ในตอนนี้เครื่องวัดระยะจะบอกว่ามิสไซล์เข้ามาใกล้แล้ว (ถ้านับถอยหลังถึง 0 คือเกมโอเวอร์) และจิลก็ไม่สามารถที่จะไปที่อื่นได้อีกแล้วนอกจากลงไปตามเส้นทางข้างล่างนี้ สุดทางของเส้นทางนี้คือห้องทดลองอาวุธซึ่งเมื่อเข้ามาถึงห้องนี้จะไม่สามารถกลับออกไปได้อีก ภายในห้องนี้จะมีเครื่องควบคุมอาวุธอยู่ทางมุมขวามือ และ ลิฟต์ทางซ้ายมือ แต่ลิฟต์นี้ยังทำงานไม่ได้เพราะระบบไฟฟ้าขัดข้อง ให้สำรวจที่เครื่องควบคุมอาวุธก่อน เครื่องนี้จะทำงานได้ต้องมีแบตเตอรี่ 3 ตัว ซึ่งอยู่ภายในห้องนี้ แต่ละตัวจะมีลำดับหมายเลขที่ต้องใส่เรียงกันให้ถูกต้อง เริ่มจากตัวที่ 1 หน้าประตูทางเข้าห้องให้เข้าไปดันจากทางด้านข้างซ้ายเพื่อให้แบตเตอรี่กลับเข้าที่ เมื่อกลับเข้าที่แล้วจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อผู้ตามล่าตกมาจากข้างบนแถมในตอนนี้มันยังกินเศษซากของ G Virus ที่อยู่ภายในห้องนี้จนกลายเป็นปีศาจขนาดใหญ่ จิงจึงต้องต่อสู้กับมันอีกครั้ง คราวนี้ให้พยายามโจมตีจากระยะไกลๆและดูท่าทีของมันด้วย เมื่อเห็นมันตั้งท่าให้วิ่งออกจากจุดยืนอยู่เพราะมันจะพ่นพิษเข้าใส่จุดนั้น ระวังพิษของมันที่เปื้อนอยู่ที่พื้นก็จะทำให้เสียพลังได้เช่นกัน ให้ยิงสู้กับมันจนกว่ามันจะถอยไปกินซากของ G อีกครั้ง ตอนนี้ให้เข้าไปเข็นแบตเตอรี่ตัวที่ 2 และ 3 เพื่อให้ปืนใหญ่ทำงาน พอเริ่มนับถอยหลังให้ถอยออกห่างจากปากกระบอกปืน ระวังจะโดนลูกหลงจากปืนด้วย (หากมีกระสุนเหลืออยู่น้อยให้วิ่งไปเข็นแบตเตอรี่อันที่ 2 และ 3 เข้าที่เพื่อให้ปืนใหญ่เรลแคนนอนเริ่มทำงาน แล้วหลบหลีกล่อมันอยู่สักพักพอเครื่องเริ่มนับถอยหลังจาก 5 ให้ล่อยิงมันเข้าที่หน้าปากกระบอกปืนแล้วรีบวิ่งหนีออกไป จะสามารถใช้ปืนใหญ่ยิงมันตรงๆได้เช่นเดียวกัน) หลังจากที่กำจัดมันได้แล้ว ระบบไฟฟ้าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมรวมทั้งลิฟต์ก็สามารถใช้การได้แล้วด้วย แต่ในตอนที่จะขึ้นลิฟต์ มอนสเตอร์ตัวนั้นก็เริ่มขยับอีกครั้ง
-กำจัดมัน จัดการปิดฉากไม่ให้ตามมาได้อีกกต่อไป
-หนีขึ้นลิฟต์ หากเวลาเหลือน้อยแล้วควรจะะรีบหนีดีกว่า
หลังจากที่ขึ้นลิฟต์มาแล้วก็จะพบกับคาร์ลอสที่กำลังรอคอยจิลอยู่ การหนีที่ยาวนานก็กำลังจะจบลงแล้ว พร้อมกับแร็คคูนซิตี้และชาวเมืองกว่าแสนคนที่กำลังจะหายไปจากโลกนี้ เรื่องราวหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร...
T H E E N D
จ บ แ ล้ ว
3.10 The Mercenaries
-----------------------------------
MERCENARIES หมายถึงทหารรับจ้าง แต่ในเกม BIOHAZARD 3 LAST ESCAPE ในภาคปกติจบก็มีให้เล่น ซึ่งวัตุประสงค์ในการเล่นส่วนนี้คือ ไปถึงจุดมุ่งหมายให้ทันเพื่อรับเงินค่าจ้าง แล้วนำเงินนั้นมาซื้ออาวุธพิเศษให้จิลใช้ในภาคปกติ ซึ่งเงื่อนไขที่ต้องทำก็แค่ไปให้ถึงเป้าหมายเท่านั้น แต่จะต้องไปภายในเวลาที่กำหนดมาให้ (2 นาที) และมีอาวุธให้ใช้จำนวนจำกัด แต่เมื่อเราฆ่าซอมบี้ได้หนึ่งตัวก็จะเพิ่มเวลาให้ด้วย (1 ตัวประมาณ 3 วินาที) ฉะนั้นก็ไม่ต้องห่วงว่าเวลาจะหมดไปง่ายๆ เพราะมีซอมบี้ออกมาให้เป่าสมองเยอะมาก แต่ในส่วนนี้ก็มีเทคนิคเล็กน้อยที่ทำให้เวลาเพิ่มเป็นทวีคูณ นอกจากนี้จะต้องเอาชีวิตรอดไปถึงที่หมายแล้ว เราต้องช่วยผู้คนที่มักจะซุกซ่อนตามห้องต่างๆด้วย ซึ่งการช่วยนี้จะมีผลกับ ที่ปรากฏตอนเล่นจบโหมดนี้และเงินที่จะได้รับด้วย บางคนว่าเวลาไม่พอไปช่วยคนแน่ แต่ถ้าลองเล่นดูแล้วจะรู้ว่าเวลาเหลือเฟือทีเดียวเพราะต้องเจอซอมบี้มากขึ้น (ศัตรูที่โค่นได้จะได้เวลาไม่เท่ากัน เช่น ซอมบี้ธรรมดา 3 วินาที, อีกา 1 วินาที, ฮันเตอร์ 6 วินาที, ผู้ตามล่า(เนเมซิส)ร่างแรก 20 วินาที, ผู้ตามล่าร่างสอง 120 วินาที)

อาวุธพิเศษที่หาซื้อได้จากโหมดนี้ อาวุธพิเศษนี้จะเป้นพวกอาวุธหนักกับแพ็คกระสุนอินฟินิตี้ซึ่งต้องสะสมเงินทองให้มากพอที่จะซื้อได้ โดยจะมีให้เลือก 4 ชนิด
1.ปืนกลแอสซอสไรเฟิลอินฟินิตี้
2.ปืนกลแกตริ่งกันอินฟินิตี้
3.ปืนจรวดร็อคเก็ตลันเชอร์อินฟินิตี้
4.แพ็คกระสุน อินฟินิตี้ (มีผลทำให้ปืนทุกกระบอกที่เก็บได้จะเป็นอินฟินิตี้หมด) **อาวุธที่ได้ในโหมดนี้มีผลกับจิลเท่านั้น**

4. Weapon
=========
แฮนด์กัน (ปืนพก)
BARETTA M92F CUSTOM
------------------------------------------
จำนวนกระสุน 15 นัด
เป็นอาวุธประจำตัวพื้นฐาน จะได้มาตั้งแต่เริ่มเกมส์ ใช้กระสุน 9x19 พาราเบลัม พลังในการโจมตีต่ำ แต่การใช้กระสุนไฮ-พาวเวอร์ จะมีพลังการโจมตีที่สูงขึ้น

แฮนด์กัน (ปืนพก)
STI EAGLE 6
-------------------------
จำนวนกระสุน 15 นัด
เป็นอาวุธที่ได้มาด้วยการล้มเนเมซิส 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ชิ้นส่วนใน HEAVY MODE ใช้ได้ทั้งกระสุน 9x19 พาราเบลัมและกระสุนไฮ-พาวเวอร์ที่มีพลังการโจมตีสูง

แมกนั่ม
S&W M629C
---------------------
จำนวนกระสุน 6 นัด
จะพบที่ตู้ล็อกเกอร์ในห้องสตาร์หรือที่ห้องในสถานีย่อยตอนที่ไปเก็บฟิวส์ พลังโจมตีสูง เหมาะที่จะใช้ในการกำจัดพวกฮันเตอร์ ใช้กระสุน .44 แม็กนั่ม

ช็อตกัน (ปืนลูกซอง)
BENELLI M3S
-------------------------
จำนวนกระสุน 7 นัด
เป็นปืนที่มีพลังในการโจมตีเป็นวงกว้าง ใช้จัดการกับฝูงซอมบี้ ได้คราวละหลายๆตัว สามารถยิงรัวต่อเนื่องได้ ใช้กระสุนได้ทั้งกระสุนช็อตกันพ้นฐานและไฮ-พาวเวอร์

ช็อตกัน (ปืนลูกซอง)
WESTERN CUSTOM
-----------------------------------
จำนวนกระสุน 7 นัด
เป็นปืนที่มีพลังในการโจมตีเป็นวงกว้างเช่นเดียวกับ ใช้จัดการกับซอมบี้ได้คราวละหลายๆตัว แต่บรรจุได้น้อยกว่า และใช้กระสุนช็อตกันพื้นฐานได้เพียงอย่างเดียว

แอสซอลท์ไรเฟิล
M4A1
-------------------------
จำนวนกระสุน 100%
เป็นอาวุธที่ได้มาตั้งแต่เริ่มเกมใน LIGHT MODE มีพลังในการโจมตีต่ำ ใช้ได้ทั้งระบบ AUTO และ MANUAL ใช้กระสุน 5.56 m.m. NATO

ปืนกล 3 ลำกล้อง
GALTING GUN
--------------------------
จำนวนกระสุน ?
หาใช้ได้ด้วยการซื้อใน MODE : THE MERCENARIES มีพลังในการโจมตีต่ำแต่กระสุนที่ใช้เป็นอินฟินิตี้เหมาะสำหรับกวาดล้างฝูงซอมบี้

เกรเนดลันเชอร์
HK-p
------------------------
จำนวนกระสุน 250 นัด
เป็นปืนที่มีพลังในการโจมตีสูงเหมาะที่จะใช้กับเนเมซิส, หนอนยักษ์หรือเหล่าฮันเตอร์ สามารถใช้กระสุนได้ถึง 4 ชนิด แต่การโหลดกระสุนช้า

ปืนยิงจรวด
MINESTHROWER
------------------------------
จำนวนกระสุน 6 นัด
เป็นปืนที่ได้รับการพัฒนาโดยอัมเบรลล่า ใช้โจมตีศัตรูในระยะไกล รัศมีการทำลายเป็นวงกว้าง ประสิทธิภาพสูง ใช้กับเนเมซิสได้ดีพอควร

ร็อคเก็ตลันเชอร์
M66
------------------------
จำนวนกระสุน 4 นัด
เป็นปืนที่มีพลังการโจมตีสูงที่สุด ใช้ได้ดีกับเนเมซิส หรือจะใช้ยิงถล่มเฮลิคอปเตอร์ของนิโคไลก็ได้ เก็บได้จากตู้เก็บของ โดยใช้กุญแจ เปิดตู้เอามา