Final Fantasy VII เกิดขึ้นในโลกที่มีชื่อว่า "Gaia" มีพลังชีวิตที่หล่อเลี้ยงดาวเคราะห์ดวงนี้เรียกว่า Lifestream ซึ่งเกิดจากวิญญาณของสิ่งมีชีวิตเมื่อตายไป จนเมื่อบริษัท Shinra Electric Power (Shinra) ได้ค้นพบการนำเอา Lifestream มาแปลงเป็นพลังงาน เรียกว่าพลังงาน “Mako” พวกเขาได้สร้างเตาปฏิกรณ์พลังงาน Mako เอาไว้ทั่วโลกจนทำให้บริษัท Shinra เติบโตขึ้นอย่างมาก จนสุดท้าย Shinra ได้สร้างกองกำลังทหารของตัวเองขึ้นมาเรียกว่า “SOLDIER” ทำให้พวกเขามีอำนาจควบคุมโลกเอาไว้ในกำมือ
Shinra มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมือง Midgar และยังเป็นจุดที่ตั้งของเตาปฎิกรณ์ Mako ที่สูบพลังงานจากโลกไปใช้จนทำให้โลกเริ่มจะตายลงช้าๆ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้มีคนเริ่มออกมาต่อต้านการนำ Lifestream มาใช้ จนมีคนกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้าน Shinra ขึ้นในชื่อ “AVALANCHE” นำโดย Barret Wallace
AVALANCHE ถูกมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย พวกเขาได้จ้าง Cloud Strife ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นอดีต SOLDIER ระดับหนึ่ง ที่ผันตัวเองมาเป็นทหารรับจ้างเพื่อลอบวางระเบิดเตาปฎิกรณ์ Mako ใน Midgar ภารกิจของพวกเขาจึงเริ่มต้นขึ้น
ประเภทเครื่องเล่น:
Platform:
|
||
สงครามวูไท | ||
ยุฟฟี่ คิซารากิ เป็นลูกสาวของโกโด้เจ้าเมืองวูไท เมืองใหญ่บนทวีปตะวันตกที่อดีตเคยยิ่งใหญ่เกรียงไกร จนกระทั่งชินระสำรวจพบแหล่งมาโคขนาดใหญ่ทางตะวันออกของวูไทจึงเจรจาของสร้างเตาปฏิกรณ์ที่นี่ แต่โกโด้ไม่ยอมยกพื้นที่ให้ จึงเกิดเป็นความบาดหมางและสงครามระหว่างวูไทกับชินระก็อุบัติขึ้น การต่อสู้ยืดเยื้อมาหลายปี วูไทมีศาสตร์การต่อสู้ที่เป็นหนึ่งและมีกองทัพที่ได้รับพรจากเทพวารี ทำให้สามารถรับมือชินระได้สูสี จนกระทั่งเซฟิรอธออกโรงนำโซลเยอร์เข้าถล่มวูไท พ่วงด้วยปฏิบัติการของโซลเยอร์แซ็คที่เข้าตีป้อมแทมบลิน ป้อมสำคัญของวูไทแตกได้สำเร็จ ทำให้สงครามจบลงด้วยชัยชนะของชินระ หลังแพ้สงคราม เมืองวูไทย่ำแย่ลง เปลี่ยนสถานะจากมหาอำนาจเป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยว โกโด้หมดไฟที่จะทำอะไรแล้ว แม้เขายังมีความสามารถในการต่อสู้ไม่แพ้ใครแต่เมื่อนึกถึงความล้มเหลงที่วูไทต้องเผชิญก็ทำให้เขาได้แต่นอนลืมวันลืมคืน จนยุฟฟี่ขนานนามว่า "ตาพ่อยอดแย่" |
||
เจ้าพวกที่ชั้นเกลียด | ||
ตอนนี้ในวูไทเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกที่เกลียดชินระมารวมตัวกันอยู่มาก อวาลันช์กลุ่มต่อต้านชินระจึงใช้ที่นี่เป็นฐานทัพใหญ่ ยุฟฟี่เองก็เกลียดชินระแต่ก็ไม่ชอบพวกอวาลันช์ที่เข้ามาวุ่นวายในเมือง เธอคิดแค่หาทางบูรณะวูไทให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม แล้ววันหนึ่งก็ได้พบกับเติร์กเข้า เธอได้ยินคำว่ามาทีเรียครั้งแรกจากเติร์กคนนี้ แล้วก็เกิดความคิดว่ามาทีเรียอาจช่วยให้ความฝันที่จะทำให้วูไทกลับมายิ่งใหญ่เป็นจริงขึ้นมา อวาลันช์มีป้อมปราการที่หนาแน่น การส่งกองทหารมาทำลายป้อมอาจทำให้เกิดความเสียหายมากเกินรับมือ ชินระจึงส่งเติร์กคนนี้เข้ามาวางระเบิดฐานทัพของอวาลันช์ ทีแรกยุฟฟี่ได้ยินว่าเติร์กจะมากำจัดอวาลันช์ เธอจึงให้ความร่วมมือกับเติร์กเพื่อกำจัดพวกอวาลันช์ที่เธอเกลียด "ชั้นจะทำให้วูไทกลับไปยิ่งใหญ่เหมือนอย่างเก่า จะจัดการทั้งเจ้าพวกชินระ ทั้งเจ้าพวกบ้าๆพวกนั้นให้เละเลย!" เติร์กตอบกลับมาสั้นๆว่า "ชั้นช่วยเธอได้ครึ่งนึงนะ" โดยไม่กล้าเปิดเผยว่าตัวเองนี่แหละคือพนักงานของชินระที่ทำให้วูไทอนาถาแบบนี้ แล้วภารกิจระเบิดทำลายรังใหญ่ของอวาลันช์ก็ลุล่วงลงด้วยดี แต่หลังได้รู้ความจริงว่าเติร์กที่เธอเคยคิดว่าเป็นเพื่อนแท้จริงแล้วเป็นพนักงานของชินระ แถมแรงระเบิดยังแทบจะทำให้วูไทพินาศซ้ำอีกรอบก็ทำให้ยุฟฟี่โกรธมาก "ชั้นเกลียดเจ้าพวกนั้น แต่ชั้นเกลียดชินระมากกว่า!!" เติร์กยอมออกไปจากวูไทแต่โดยดีพร้อมทนแบกรับชื่อเสียของชินระต่อไป ส่วนยุฟฟี่ก็ออกตามหาสมบัติมาบูรณะวูไทต่อไป และสมบัติที่เธอสนใจมากที่สุดก็คือ มาทีเรีย |
||
นักล่ามาทีเรียยุฟฟี่ | ||
ยุฟฟี่ออกล่ามาทีเรียจนมาพบกับคลาวด์ สไตรฟ์ และพรรคพวก เธอขอเดินทางพร้อมพวกคลาวด์โดยบอกว่า "ชั้นรู้น่าว่าพวกนายอยากให้ชั้นช่วยเพราะชั้นเก่ง" (พูดเองเออเอง) แต่จริงๆที่เข้ามาอยู่ในทีมเพราะต้องการหาโอกาสชิงมาทีเรียต่างหาก
กลุ่มของคลาวด์ชื่ออวาลันช์ แต่ก็เป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับอวาลันช์เก่าที่เคยทำวูไทเละเทะพวกนั้น พวกเขาต้องการเดินทางตามล่าเซฟิรอธ ระหว่างการเดินทางยุฟฟี่เสนอให้พวกอวาลันช์ออกเดินทางมาทางตะวันตกดู แล้วพวกเขาก็มาถึงวูไทในที่สุด ยุฟฟี่ฉวยโอกาสขโมยมาทีเรียพวกคลาวด์หนีเข้าไปในวูไทซึ่งเธอวางกับดักไว้มากมาย แต่เคราะห์ไม่ดีที่เธอถูกลูกน้องของดอนคอร์เนโอ ตาแก่หื่นจับตัวไว้พร้อมเติร์กสาวเอเลน่า แต่พวกคลาวด์ก็ได้ร่วมมือกับเติร์กที่เดินทางมาจับตัวคอเนโอชิงตัวยุฟฟี่และเอเลน่ากลับมาได้สำเร็จ ยุฟฟี่ขอโทษพวกคลาวด์และคืนมาทีเรียให้ เธอต้องการเดินทางตามอวาลันช์ต่อไปถึงพวกเขาจะไม่สนใจนักก็เถอะ ไหนๆก็แวะกลับมาบ้านแล้วยุฟฟี่ได้แวะขึ้นไปทดสอบความสามารถของตนเองบนหอคอยห้าเทพอันเลื่องชื่อของวูไท นักรบทั้งห้าที่เก่งกาจจะประจำอยู่แต่ละชั้น เพื่อทดสอบผู้มาท้าทาย ยิ่งชั้นสูงยิ่งเก่ง และหากเอาชนะนักรบที่อยู่ชั้นบนสุดได้จะได้สืบทอดตำแหน่งผู้คุ้มครองหอคอยนี้พร้อมรับมาทีเรียลิไวอาธันสำหรับใช้อัญเชิญเทพวารีซึ่งชาววูไทบูชา ยุฟฟี่ที่ผ่านการต่อสู้มาจนเก่งกาจได้ผ่านการทดสอบขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก็พบกับโกโด้ ทำเอายุฟฟี่ตกใจเพราะไม่คิดว่านักรบบนชั้นบนสุดจะเป็นพ่อของเธอเอง นักรบอีกสี่คนที่พ่ายแพ้แก่ยุฟฟี่ไปแล้วได้ขึ้นมาเป็นสักขีพยานการต่อสู้ครั้งนี้ โกโด้บอกให้ยุฟฟี่ทุ่มความสามารถทั้งหมด เพราะเขาจะเอาจริง ด้วยพลังการต่อสู้สุดยอดของเจ้าเมืองวูไททำให้น้อยคนที่จะเอาชนะเขาได้ การต่อสู้เป็นไปอย่างยาวนานจนทั้งคู่หมดแรงล้มลง โกโด้ยอมรับความสามารถของยุฟฟี่และมอบมาทีเรียลิไวอาธันให้แก่เธอ หลังได้เห็นความสามารถของนักรบวูไทที่เก็บซ่อนอยู่แล้วยุฟฟี่โวยกับนักรบวูไทคนอื่นๆที่เก่งขนาดนี้แต่ดันมาหมกตัวอยู่ในหอพรรค์นี้ แถมด่าโกโด้ที่ทำให้วูไทกลายเป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้เทวรูปต้าเสาและลิไวอาธันต้องอับอาย แต่โกโด้ก็ให้เหตุผลว่าความรุนแรงจะก่อให้เกิดแต่ความรุนแรง และความแข็งแกร่งนี้ไม่ได้มีไว้โอ้อวดใครแต่ควรเอาไว้ปกป้องวูไทมากกว่า เขาเรียนรู้เรื่องนี้หลังแพ้การต่อสู้กับชินระ และคิดว่าสิ่งที่จำเป็นต่อการบูรณะวูไทคือกำลังและความมุ่งมั่น ซึ่งพวกคลาวด์มีทั้งสองสิ่งอยู่เต็มเปี่ยม เขาจึงขอให้พวกคลาวด์ช่วยพายุฟฟี่ออกเดินทางไปด้วย (แต่จริงๆเพราะอยากให้ยุฟฟี่ขอมาทีเรียกลับมาหลังสิ้นสุดการเดินทางต่างหาก)
|
||
วีรกรรมอันสูญเปล่า | ||
ยุฟฟี่ติดตามพวกคลาวด์ไปจนจบการต่อสู้ แต่เธอก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง รู้เพียงแต่ว่าพวกเขาต้องกำจัดเซฟิรอธเพื่อช่วยโลกจากเมเทโอที่จะตกลงมา แล้วคลาวด์ก็สามารถจัดการเซฟิรอธได้สำเร็จ เมื่อการต่อสู้จบลงไปแล้วยุฟฟี่ก็คิดว่าจะขอมาทีเรียของพวกคลาวด์ไปช่วยวูไท เพราะพวกคลาวด์คงไม่จำเป็นต้องใช้มาทีเรียแล้ว คลาวด์ปรึกษาเพื่อนๆอยู่พักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจยกมาทีเรียทั้งหมดให้ยุฟฟี่ แต่เขาจะขอเป็นคนเก็บมาทีเรียของยุฟฟี่ไว้กับตัวเอง (หลอกเด็กชัดๆ) ถึงจะรู้สึกเหมือนโดนหลอกแต่ยุฟฟี่ก็เห็นด้วยกับคลาวด์ที่ว่ามาทีเรียอันตรายคงไม่จำเป็นกับโลกหลังจากนี้หรอก ขอแค่มาทีเรียรักษาอันเดียวก็น่าจะดีพอแล้ว แล้วเธอก็แยกย้ายจากเพื่อนๆกลับมาวูไทบ้านเกิด
เมื่อมาถึงวูไทแทนที่ยุฟฟี่จะได้รับการต้อนรับเยี่ยงวีรสตรี แต่เมืองกลับเงียบเหงา โกโด้พายุฟฟี่ไปช่วยกันซ่อมแซมบ้านเรือน เขาไม่สนว่ายุฟฟี่ผ่านอะไรมาบ้าง เข้าใจแต่เพียงว่าโลกจะฉิบหายเพราะไอ้พวกชินระ จักรวาลเลยส่งเมเทโอมาลงทัณฑ์ แต่ดวงดาวก็ปล่อยไลฟ์สตรีมออกมาป้องกันตัวเอง (โห ยิ่งกว่ายุฟฟี่อีก) แถมยังบอกไม่ให้ยุฟฟี่ไปเล่าให้ใครฟังว่าตัวเองก็เกี่ยวข้องกับการต่อสู้นี้ เพราะไลฟ์สตรีมที่พัดขึ้นมาทำเอาบ้านเรือนเสียหายไปมาก ผู้คนคงไม่ค่อยแฮปปี้กับเรื่องนี้เท่าไหร่ โกโด้ปรับโรงฝึกเป็นสถานพยาบาล แล้วยุฟฟี่ก็ใช้มาทีเรียรักษาที่ติดมือมาคอยรักษาผู้คนที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์นั้น วันรุ่งขึ้นมีคนติดโรคจีโอสติ๊กม่า ซึ่งเป็นโรคที่ระบาดอยู่ในมิดการ์ ทุกคนจึงคิดว่ายุฟฟี่นำโรคนี้มาและขังเธอไว้ในห้อง แต่ยูริเด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนยุฟฟี่มาตั้งแต่เด็กก็ช่วยเธอหนีออกมา คนที่ติดโรคนี้คือแม่ของเขาเอง ยุฟฟี่ไม่ได้สนใจความรู้สึกของยูริเท่าไหร่ เธอข้องใจแต่เพียงว่าเธอไม่ใช่คนนำโรคนี้มาระบาดตามที่พวกผู้ใหญ่กล่าวหาแน่ๆ "ต้องมีคนอื่นกลับจากมิดการ์ด้วยแน่ๆ ต้องหาให้เจอแล้วแฉมัน! ต้องให้ไอ้พวกนั้นที่มันมาโทษชั้นรู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร!" แต่ยูริอยากให้ยุฟฟี่ช่วยหาวิธีรักษาโรคมากกว่าหาตัวคนผิด ซึ่งยุฟฟี่ก็คิดว่านั่นก็เป็นวิธีกู้ชื่อเสียงของเธอได้เหมือนกัน ทั้งสองออกเดินทางเพื่อตามหามาทีเรียสำหรับใช้รักษาโรคจีโอสติ๊กม่า (ตอนนั้นพวกเขาเรียกว่า "โรคมิดการ์") ยูริเองถึงจะเก่งสู้ยุฟฟี่ไม่ได้แต่เขาก็ฝึกขว้างมีดจนชำนาญ ไม่ได้เป็นเด็กอ่อนแอที่ยุฟฟี่เคยรู้จักในสมัยก่อน ในตอนที่เข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งยูริพลาดถูกน้ำสีดำซึ่งปนเปื้อนไลฟ์สตรีมดำเข้าจนอาการไม่ดี ยุฟฟี่ต้องพยุงยูริออกจากถ้ำเดินทางกลับวูไทมา "ตาบ้า ชั้นดูแลแม่แทนนายไม่ไหวนะยะ!" ระหว่างทางยุฟฟี่พบนานากิเข้า เธอเคยเรียกสัตว์สี่เท้าที่เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมอวาลันช์ตัวนี้ว่าเร้ด แต่นั่นเป็นชื่อที่คนอื่นตั้งให้ เขาอยากให้ยุฟฟี่เรียกเขาว่านานากิซึ่งเป็นชื่อจริงมากกว่า นานากิอยู่ระหว่างเดินทางบันทึกโลก เลยคิดจะเริ่มจากวูไทที่อยู่ตะวันตกสุดก่อน (ยุฟฟี่แย้งว่าวูไทเป็นศูนย์กลางโลกต่างหาก!) ระหว่างที่คุยกันยูริเผลอหลุดปากบอกว่าเขาเคยเข้าไปในมิดการ์มา ทำให้ยุฟฟี่รู้แล้วว่าจริงๆคนที่เอาโรคนี้มาก็คือยูรินี่เอง เธอโกรธมากจนถึงกับสบถออกมาว่า "ไอ้สารเลวววววว!!" ยูริสารภาพว่าแม่เขาป่วยหนักเมื่อหลายเดือนก่อน เขาเลยเข้าไปหาวิธีรักษาโรคในมิดการ์ แต่มาทีเรียรักษามีไว้สำหรับโซลเยอร์เท่านั้นไม่ได้มีไว้ขาย เขาเลยเดินคอตกออกมา แล้วในมิดการ์ก็มีคนเป็นจีโอสติ๊กม่ามากมาย เขาคงติดมาตอนนั้น ก่อนแพร่โรคไปยังแม่และเพื่อนคนอื่นๆ นานากิพยายามใช้เหตุผลอธิบายว่าชาวเผ่าโบราณคงไม่รู้จักโรคนี้ มาทีเรียที่ตกผลึกจากภูมิปัญญาของเผ่าโบราณจึงไม่สามารถรักษามันได้ และถ้ารักษาได้จริงก็คงไม่มีคนติดโรคเยอะขนาดนี้ แต่นั่นเป็นคำที่ยุฟฟี่ไม่อยากฟัง "ชั้นเกลียดนาย นานากิ!" "อะไรเล่า!" |
||
ความหวังของวูไท | ||
เมื่อยุฟฟี่กลับมาวูไทก็พบว่าพวกเขาแยกคนป่วยออกมานอนที่กระท่อมด้านหน้าเมือง เพื่อป้องกันการระบาด แต่จำนวนคนป่วยกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกเขาเข้าใจว่านี่ไม่ใช่โรคติดต่อ โกโด้กล่าวขอโทษยุฟฟี่ แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจเรื่องกู้ชื่อเสียงตัวเองอะไรนั่นแล้ว เธออยากรู้สาเหตุจริงๆของโรคนี้มากกว่า จากข้อสังเกตของยูริทำให้สรุปได้ว่าน้ำสีดำอาจเป็นพาหะนำโรคนี้มา และคนที่คิดว่าตนเองกำลังจะตายจะมีอาการโรคนี้แสดงได้ง่ายกว่าคนที่จิตใจยังเป็นปกติอยู่ ไม่นานแม่ของยูริก็เสียชีวิตลง แต่ถึงอย่างนั้นยูริก็ได้สัญญากับยุฟฟี่ว่าเขาจะรักษารอยยิ้มของตนเองไว้ตลอดไป ตอนนี้ยุฟฟี่แบกรับภาระอันหนักอึ้งที่จะต้องหาวิธีรักษาโรคนี้ไปพร้อมๆกับคอยพยาบาลผู้ป่วยในเมืองด้วย เธอเปิดสอนศิลปะการป้องกันตัวให้ผู้คนในเมืองได้ออกกำลังและมีจิตใจเข้มแข็งไม่มัวแต่คิดถึงวันตาย ผ่านไปหนึ่งปีการตามหามาทีเรียกรักษาจีโอสติ๊กม่าก็ยังไม่คืบหน้า ยุฟฟี่ได้พบกับนานากิอีกครั้ง เขามากับซิด ไฮวินด์ อดีตเพื่อนอวาลันช์ที่สร้างเรือเหาะลำใหม่ได้สำเร็จ ยุฟฟี่ถามซิดเรื่องมาทีเรียรักษาโรค ซึ่งซิดเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เท่าไหร่ แต่พอเห็นว่ายุฟฟี่เชื่อว่ามันต้องมีเขาก็บอกว่า "งั้นมันก็ต้องมีนั่นแหละ!" ซึ่งคำตอบส่งเดชนี้เป็นสิ่งที่ยุฟฟี่อยากได้ยิน ยุฟฟี่ออกเดินทางกับนานากิตามหามาทีเรียต่อไปแต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลวอีกครั้ง เธอไม่ชอบให้นานากิพูดว่ามันไม่มีทางรักษาเพราะทนคิดถึงความเจ็บปวดของผู้คนที่ทนทุกข์จากโรคนี้ไม่ได้ ยุฟฟี่เริ่มคิดถึงจิตใจคนอื่น ในขณะที่นานากิเองก็ผ่านการเดินทางบันทึกโลกมามากจนมีบาดแผลเต็มตัว ตอนนี้พวกเขาต่างเติบโตขึ้นผ่านความเจ็บปวดและพยายามดำเนินชีวิตในรูปแบบของตนเอง "สู้เข้านะ นานากิ" เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด พวกคาดาจที่เป็นร่างแยกของเซฟิรอธได้ลักพาตัวเด็กที่ติดจีโอสติ๊กม่าไปจากวูไท เพื่อใช้ในแผนการของเขา ยุฟฟี่เดินทางกลับมาที่มิดการ์พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆและช่วยกันสู้กับพวกคาดาจจนชนะ ในตอนนั้นดวงดาวก็ได้ตอบรับความหวังของผู้คนด้วยการส่งน้ำที่มีพลังบริสุทธิ์ของไลฟ์สตรีมขาว ขึ้นมาบนโลก เกิดเป็นสายฝนชำระล้างจีโอสติ๊กม่าไปได้ส่วนหนึ่ง แล้ววูไทก็เริ่มกลับมามีบรรยากาศสดใสอีกครั้ง ปัจจุบันยุฟฟี่ได้เป็นกำลังสำคัญของกองกำลังฟื้นฟูโลก และออกสร้างเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเองต่อไป... |
||
การออกแบบแนวคิด ยุคแรก | ||
|
||
เรื่องไม่สำคัญ | ||
|
DISK 1
DISK 2
DISK 3
DISK 4
END.
DISK 1
DISK 2
DISK 3
END.
(c) 2000 game.andaplus.com เนื้อหาทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์โดยผู้เขียนที่เกี่ยวข้อง เกมทั้งหมดที่กล่าวถึงในเว็บไซต์นี้มีลิขสิทธิ์โดยผู้ผลิตและผู้จัดพิมพ์ที่เกี่ยวข้อง ไม่มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีอยู่. สงวนลิขสิทธิ์.