Star Ocean: The Second Story [Chapter 1-1]
คล็อด ซี เคนนี่ (Claude C Kenny) บุตรชายเพียงคนเดียวของโรนิกส์ เจ เคนนี่ ฮีโร่แห่งพันธมิตรเทอแรน (โรนิกส์เป็นหนึ่งในตัวละครหลักจากภาคแรก) คล็อดเป็นชายหนุ่มอายุ 19 จากดาวโลกผู้ซึ่งยังไร้เป้าหมายในชีวิต แต่เกิดมามีพ่อเป็นฮีโร่ก็เลยไม่อาจหนีพ้นจากบารมีพ่อได้
ในปี S.D.342 ยุคที่มนุษย์ออกสำรวจอวกาศเป็นล่ำเป็นสัน ดาวโลกซึ่งอยู่ในพันธมิตรเทอแรนต้องร่วมทำสงครามกับดาวเลซาเลียซึ่งมนุษย์ดัดแปลงหมายจะยึดครองโลก (เหตุการณ์ในภาคแรก) เคราะห์ดีที่เหล่าผู้กล้าพิชิตมนุษย์ดัดแปลงผู้นั้นลงได้ โรนิกส์ซึงเป็นหนึ่งในทีมผู้กล้าจึงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองเรืออวกาศนับแต่นั้น
ปัจจุบัน คล็อดซึ่งเป็นบุตรชายของโรนิกส์ติดตามพ่อมาในภารกิจบนดาวมีโลคีเนีย เขานับถือพ่อมากแต่ก็ไม่ได้มีความทะเยอทะยานอยากจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหมือนพ่อเท่าใดนัก สถานการณ์บนดาวดวงนี้มีพลังงานแปลกๆที่ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ โรนิกส์จึงมอบปืนพลังงานไว้ให้คล็อดติดตัว คณะสำรวจเดินทางจนพบกับโดมขนาดมหึมา ภายในโดมคณะสำรวจได้ค้นพบอุปกรณ์ลึกลับบางอย่าง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังรอวิเคราะห์อยู่นั้น คล็อดที่สงสัยใคร่รู้จึงเดินเข้าไปสำรวจใกล้ๆ โรนิกส์รีบสั่งให้คล็อดถอยออมาแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว อุปกรณ์นั้นทำงานด้วยตนเองและเปิดประตูมิติพาคล็อดวาร์ปหายไปเพียงชั่วพริบตา
คล็อดรู้สึกตัวขึ้นมาในป่าแห่งหนึ่งซึ่งไม่พบใครอื่นเลย เขาพยายามใช้เครื่องมือสื่อสารแต่ก็ไร้ผล ระหว่างที่ยืนงงอยู่นั้น คล็อดได้พบเด็กสาวคนหนึ่งกำลังถูกสัตว์อสูรโจมตี คล็อดจึงรีบเข้าไปช่วยและใช้ปืนพลังงานยิงลำแสงกำจัดสัตว์อสูรตัวนั้นลงได้
ระหว่างที่คล็อดกำลังจะเข้าไปถามไถ่สาวน้อยคนนั้น เธอก็วิ่งหน้าตั้งหนีอย่างไว คล็อดรีบตามไปจนพบเด็กสาวอีกครั้ง เธอขอโทษที่ตกใจหนีมาและแนะนำตัวว่าขื่อ "เรน่า แลนฟอร์ด" คล็อดพยายามถามว่าที่นี่ที่ไหน พร้อมบอกว่าตนมาจากดาวโลก ซึ่งเรน่าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
เรน่าพาคล็อดมาที่หมู่บ้านอาเลีย แม่ของเรน่าทำอาหารมื้อใหญ่เลี้ยงแทนคำขอบคุณที่เขาช่วยชีวิตเรน่าไว้ หลังมื้ออาหารเรน่าออกไปข้างนอกส่วนคล็อดพักผ่อนอยู่ชั้นบน สักพักเรน่าพาผู้เฒ่ารีจีส หัวหน้าหมู่บ้านกลับมาด้วย ผู้ใหญ่บ้านตื่นเต้นมากที่ได้พบกับ "ผู้กล้า" ตัวเป็นๆ
เรื่องมีอยู่ว่า หมู่บ้านนี้มีตำนานบทหนึ่งกล่าวถึงผู้กล้าจากต่างโลกในชุดแปลกประหลาดปรากฏขึ้นพร้อมดาบแห่งแสง และจะช่วยกอบกู้โลกใบนี้ไว้ในยามที่โลกประสบภัย ย้อนไปตอนที่คล็อดใช้ปืนพลังงานสังหารสัตว์อสูรเพื่อช่วยเรน่า เรน่ามั่นใจมากว่าคล็อดคือผู้กล้าในตำนาน และลำแสงจากปืนพลังงานนั่นคือดาบแห่งแสง เรน่าจึงรีบมาบอกแม่และหัวหน้าหมู่บ้าน
คล็อดปฏิเสธอย่างแข็งขันและขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง (ประมาณว่ากรูยังงงเลยว่าโผล่มานี่ได้ไง แล้วจะไปมีปัญญาช่วยเหลือใครได้) แต่ตนไม่ใช่ผู้กล้าที่ว่านั่นจริงๆ เป็นเพียงนักเดินทางที่หลงมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เท่านั้น กระนั้นผู้เฒ่าก็ยังคงเชื่อว่าการที่คล็อดปรากฏนั้นไม่ใช่เหตุบังเอิญ เพราะก่อนหน้านี้เพียงสามเดือน โลกใบนี้ที่สงบสุขก็มีดาวตกลึกลับตกลงมาที่อาณาจักรแอลในอีกทวีปทางตะวันตกเฉียงเหนืออันห่างไกลออกไป จากนั้นก็ปรากฏสัตว์อสูรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทุกคนเรียกดาวตกนั้นว่า "ลูกโลกเวทมนตร์" วัตถุทรงกลมที่มีพลังอสูรอันชั่วร้ายที่เปลี่ยนสัตว์ป่าธรรมดาให้กลายเป็นปีศาจบุกรุกไปทั่วทุกหย่อมหญ้า และเรียกเหตุการณ์นี้ว่า "มหาภัยพิบัติ" ทั้งโลกใบนี้ตกอยู่ในความโกลาหล แล้วคล็อดก็โผล่มาในช่วงเวลานี้พอดี
กระนั้นผู้เฒ่าก็ไม่บีบคั้นคล็อดจนเกินไป แต่เรน่ากลับรับไม่ได้และวิ่งหนีออกจากบ้าน ผู้เฒ่าจึงขอให้คล็อดระวังอย่าทำตัวแปลกให้คนอื่นเชื่อว่าเขาเป็นผู้กล้าอีก อย่าได้มอบความหวังให้ผู้ใดเช่นนี้อีก และหากคล็อดยังไม่มีจุดหมายอะไรก็สามารถอาศัยอยู่ในบ้านผู้เฒ่าได้ยาวๆตามอัธยาศัย คล็อดก็รับปาก
เช้าอีกวันผู้เฒ่าได้มอบดาบยาวให้คล็อดติดตัว (เขาว่าดาบแห่งแสงของพ่อหนุ่มมันเด่นเกินไปอะนะ) พร้อมแนะนำว่าให้ลองไปหาข้อมูลที่เมืองซัลวาดู คล็อดกลับไปที่ป่าและได้พบกับเรน่า คล็อดขอโทษที่ไม่ได้เป็นฮีโร่แบบที่เรน่าต้องการ ทั้งสองเคลียร์ใจกันเรียบร้อยคล็อดก็ตักสินใจออกจากหมู่บ้านและเดินทางไปที่เมืองซัลวาทันที
คล็อดตั้งใจมาหาข้อมูลจากเจ้าเมืองแต่กลับพบว่าเจ้าเมืองออกท่องเที่ยวเสียแล้ว คล็อดที่ไม่มีเป้าหมายต่อจึงเดินทางกลับหมู่บ้านอาเลีย แต่กลับพบว่า เรน่าถูกอัลเลนลูกชายของเจ้าเมืองซิลวาลักพาตัวไป คล็อดจึงรีบกลับไปช่วยเรน่าที่เมืองซัลวาทันที
เมื่อถึงคฤหาสถ์เจ้าเมืองที่ล็อคประตูอย่างแน่นหนา คล็อดร้อนใจจึงใช้ปืนพลังงานยิงใส่ประตูทันที (ท่ามกลางสายตาของเหล่าซัลวามุงจำนวนมาก) แม้ตอนนี้ปืนพลังงานซึ่งเป็นตัวช่วยอันแข็งแกร่งกลับพลังงานใกล้หมดแล้ว แต่คล็อดก็ยังรีบเข้าไปโดยไม่สนใจสิ่งใด คล็อดพบปิ่นปักผมขงเรน่าที่ตกอยู่จึงค้นพบเงื่อนงำในการเปิดทางลับใต้ดินที่เชื่อมต่อไปยังเหมืองซัลวา ด้านในพบอัลเลนและเรน่าที่ถูกจับมัดไว้บนแท่นบูชา อันเลนตั้งใจจะทำพิธีแต่งงานกับเรน่า (แต่ดูจะเป็นพิธีสังเวยเสียมากกว่า) เมื่อคล็อดเข้าไปช่วยเรน่ากลับพบว่าข้างกายอัลเลนมีหินส่องแสงสีเขียวเจิดจ้า มันหลอมรวมกับร่างอัลเลนจนกลายเป็นปีศาจขนาดใหญ่ แต่ด้วยความช่วยเหลือของเรน่าที่มีเวทย์สนับสนุนทำให้สามารถเอาชนะอัลเลนลงได้ หินสีเขียวแตกกระจัดกระจาย
เรน่าสงสัยว่าอัลเลนที่เดิมเป็นคนดีคนหนึ่งทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ (เปลี่ยนจากคนเป็นสัตว์ประหลาดเลยเชียวนะ) ดีที่อัลเลนยังไม่ตายเรน่าจึงใช้เวทย์รักษาอัลเลนจนฟื้นและได้สติกลับมาเป็นคนเดิม เขาจำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้แม้แต่น้อย ทั้งหมดเชื่อว่าต้นเหตุต้องมาจากหินสีเขียวนั่นแน่นอน
กลับมาที่หมู่บ้านอาเลีย ทุกคนตางดีใจที่เรน่ากลับมาได้อย่างปลอดภัย คล็อดและเรน่าบอกผู้เฒ่ารีจีสถึงเรื่องหินสีเขียวที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง ทุกคนเชื่อว่าสิ่งนี้ต้องเป็น "ลูกโลกเวทมนตร์" ตามที่ลือกันแน่นอน ผู้เฒ่าจึงขอให้คล็อดไปสำรวจลูกโลกเวทมนตร์นี้ คล็อดเห็นว่านี่เป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงกับวัตถุนอกโลก ไม่แน่ว่าการไปสำรวจอาจได้ข้อมูลอะไรกลับมา เขาจึงตอบตกลง เรน่าขอติดตามคล็อดไปด้วยเพราะคล็อดไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกใบนี้เลย
คืนนั้นผู้เฒ่ารีจีสคุยกับคล็อด เขาเล่าว่าคนในหมู่บ้านไม่มีใครที่มีเวทย์รักษาสักคนเดียว มีเพียงเรน่าเท่านั้นที่มี เพราะแท้จริงแล้วเรน่าเป็นเด็กทารกที่ถูกเก็บมาเลี้ยง แม่ของเรน่าพบเธอตอนสองขวบในป่าโดยไม่รู้ว่าเรน่ามาจากที่ใดและมาได้อย่างไร รู้เพียงเธอชื่อเรน่าและมีสร้อยคออันเป็นสิ่งเชื่อมโยงบางอย่างเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเรื่องราวของเรน่าทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องลึกลับที่ไม่มีผู้ใดรู้
หลังจากร่ำลากับผู้เฒ่าแล้ว สักพักเรน่ามาเรียกคล็อดเพื่อชวนออกมาคุยด้านนอก เรน่าบอกเหตุผลที่เธอขอเดินทางไปด้วย เพราะเธอแอบได้ยินมาสักพักแล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แม้แม่คนนี้จะเลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ๆและเรน่าก็รักแม่มาก แต่เรน่าก็ยังคงอยากรู้ถึงชาติกำเนิดที่แท้จริงของตนเอง และเชื่อว่าแม่แท้ๆที่มอบสร้อยคออันล้ำค่าเส้นนี้ให้ก็น่าจะรักเธอมากเช่นกัน
วันต่อมาหลังจากร่ำลาคนในหมู่บ้าน คล็อดและเรน่าก็เดินทางออกจากหมู่บ้านโดยมีเป้าหมายคือเมืองครอส เมืองขนาดใหญ่ที่อยู่เลยเมืองซัลวาขึ้นไป
-- จบบทที่ 1-1 --
Star Ocean: The Second Story By DOOD Gaming - JRPG Story Teller
Star Ocean The Second Story R: [Chapter 1-1] | [Chapter 1-2] | [Chapter 1-3] | [Chapter 1-4] | [Chapter 1-5] | [Chapter 2-1] | [Chapter 2-2] | [Chapter 2-3] | [Chapter 2-4] | [Chapter 2-5] (บทสุดท้าย) |