Star Ocean: The Second Story [Chapter 1-5]
ณ ชายหาดแห่งหนึ่ง
ท่ามกลางซากเรือที่กระจัดกระจายล่องลอยตามลมคลื่นมาเกยชายฝั่ง ร่างของบุรุษหนุ่มค่อยๆขยับตัวช้าๆ คล็อดเปิดเปลือกตาขึ้น เขาค่อยๆขยับตัวและมองไปรอบๆ มีเพียงเขาคนเดียวในบริเวณนี้ คล็อดพยายามตั้งสติและเรียกหาผองเพื่อนแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ คล็อดเดินเลียบชายหาดไปสักพักจนพบกับร่างเล็กๆร่างหนึ่งนอนเกยตื้นอยู่ เป็นเด็กน้อยลีออนนั่นเอง คล็อดเรียกลีออนจนตื่นขึ้น ลีออนร้องเรียกหาพ่อแม่ทันที เมื่อไม่พบใครอื่นอีกลีออนก็ถึงกับสติแตก จนคล็อดต้องเรียกสติด้วยกำปั้น คล็อดเตือนว่าถ้าเรารอดคนอื่นก็คงรอดและรอเราอยู่ในหมู่บ้านสักแห่งแถวนี้ คล็อดและลีออนจึงออกเดินทางเพื่อตามหาเพื่อนพ้องคนอื่นๆ
ทั้งสองเดินลึกเข้าไปในป่าจนพบหมู่บ้านเล็กๆที่ซ่อนอยู่ ที่นี่คล็อดได้พบกับเพื่อนทั้งหมดอีกครั้ง เมื่อเรน่าเห็นคล็อดจึงโผเข้ากอดทันทีพร้อมร้องไห้พร่ำบอกว่าเธอคิดว่าจะไม่ได้เจอคล็อดแล้ว ทั้งสองกอดกันสักพักจนเพื่อนรอบๆต้องเตือนสติว่าพอได้แล้วเฮ้ย คล็อดและเรน่าเพิ่งรู้ตัวจึงแยกกันมาแบบเขินๆ
แม้เพื่อนทั้งหมดของคล็อดจะรวมตัวกันอยู่ที่นี่ แต่ไม่พบพ่อแม่ของลีออน ทั้งหมดจึงพร้อมใจกันไปถามข้อมูลจากหัวหน้าหมู่บ้าน คล็อดสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปรากฎการณ์ลูกโลกเวทมนตร์ ผู้เฒ่าเล่าให้ฟังว่า นับแต่ลูกโลกเวทมนตร์ตกลงมายังเมืองเอลีเรีย เริ่มแรกสัตว์เล็กสัตว์น้อยค่อยๆได้รับผลกระทบและเปลี่ยนแปลงกลายเป็นอสูร ไม่นานก็ลุกลามขยายไปจนทั่ว บัดนี้สัตว์อสูรยึดครองทวีปนี้ไว้ได้โดยสมบูรณ์ คนในหมู่บ้านนี้เพียงอาศัยป่าหลบซ่อนตัวซึ่งก็คงอีกไม่นานจะถูกพบเห็น คล็อดให้คำมั่นว่าเขาจะเป็นคนหยุดยั้งวิกฤตินี้โดยไปสำรวจลูกโลกเวทมนตร์ให้เอง
แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ตัดสินใจคว้าความหวังนี้ไว้ ผู้เฒ่าให้คล็อดไปเอาสรรพาวุธต่างๆที่หมู่บ้านรวบรวมไว้เผื่อจะช่วยอะไรได้ คล็อดและผองเพื่อนเก็บโกยทรัพย์สมบัติจนเกลี้ยงคลัง คนเฝ้าสมบัติยังมอบวัตถุประหลาดชิ้นหนึ่งที่ไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร คล็อดประหลาดใจเล็กน้อยเพราะนั่นคือ ID CARD สำหรับเปิดประตู แต่นี่มันเทคโนโลยีที่ล้ำมากๆสำหรับโลกใบนี้ คล็อดสังหรณ์ใจว่านี่ต้องเกี่ยวพันกับลูกโลกเวทมนตร์เป็นแน่
คล็อดและผองเพื่อนอำลาคนในหมู่บ้านและเดินทางต่อไปยังซากเมืองอีเลเรีย ที่ซี่งลูกโลกเวทมนตร์ตกลงมา เมื่อมาถึงคล็อดกลับพบหอคอยสูงตระหง่านที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งปลูกสร้างของอารยธรรมล้ำยุค และ ID CARD ที่ได้มาเป็นกุญแจเปิดประตูหอคอยนี้เอง เบื้องหน้าประตู สร้อยคอของเรน่าได้ส่องสว่างอีกครั้ง
ทุกคนเดินทางขึ้นหอคอยไปจนถึงชั้นที่ห้า จู่ๆวิทยุส่งสัญญาณของคล็อดที่ไม่เคยมีสัญญาณกลับดังขึ้นมา และไม่ทันได้เตรียมใจ สัญญาณเตือนการนำส่งดังขึ้น คล็อดรีบแยกตัวออมาจากทุกคนและกล่าวว่า เขาจะกลับมา ก่อนที่จะมีแสงลึกลับล้อมรอบคล็อดและพาเขาหายไปท่ามกลางสายตาของเรน่าและคนอื่นๆ
คล็อดถูกนำส่งมายังสถานที่และผู้คนอันคุ้นเคย นั่นคือยานอวกาศภายใต้การบังคับบัญชาของโรนิกส์ บิดาของคล็อด โรนิกส์รอต้อนรับคล็อดหน้าเครื่องนำส่งด้วยความปลื้มปีติ แต่คล็อดกลับร้อนใจที่ต้องแยกจากเรน่าและผองเพื่อนอย่างกระทันหัน
แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้โรนิกส์พยายามติดต่อคล็อดตลอดมาแต่ไม่อาจติดต่อได้เลย จนกระทั่งไม่นานนี้ สัญญาณข้อความที่คล็อดเคยพยายามส่งก็ถูกตรวจจับได้โดยเจ้าหน้าที่ และด้วยวิทยาการล้ำสมัยจึงสามารถระบุพิกัดของสัญญาณต้นทางได้ โรนิกส์จึงตามรอยมาจนพบดาวดวงนี้ ซ้ำร้ายเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบคลื่นพลังงานมหาศาลบนดาวดวงนี้ หลังจากคำนวณจึงพบว่าเหลือเวลาอีกเพียง 80 นาที ดาวดวงนี้จะถูกทำลาย
คล็อดพยายามอธิบายกับพ่อว่าเขาจำเป็นต้องไปช่วยเพื่อนๆบนดาว โรนิกส์ยืนยันหนักแน่นว่าไม่อนุญาต คล็อดจึงขอเพียงกลับไปยังดาวเพียงเพื่อจะบอกลาทุกคน โรนิกส์เห็นว่าเวลายังพอมีจึงอนุญาตพร้อมทั้งกล่าวชมว่า เดินทางกลับมาครั้งนี้ คล็อดดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นอย่างมาก
เครื่องนำส่งทำงานอีกครั้ง คล็อดกลับมาพบเรน่าและผองเพื่อนในหอคอย แต่คราวนี้คล็อดตัดสินใจแน่วแน่ เขาวางวิทยุส่งสัญญาณลงและเดินทางขึ้นหอคอยชั้นบนต่อไป โรนิกส์ซึ่งเรียกให้เครื่องนำส่งดึงตัวคล็อดกลับมาจึงเห็นเพียงวิทยุของคล็อดเท่านั้น โรนิกส์ร้อนใจมากเพราะอีกไม่นานดาวดวงนี้จะถูกทำลาย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก ได้แต่กล้ำกลืนความรู้สึกไว้และสั่งการให้ยานหลบหนีออกจากบริเวณนี้
กลับมาที่คล็อด เขารู้ความจริงทุกอย่างว่าดาวดวงนี้กำลังจะถึงจุดจบในอีกไม่ช้า แต่เขาไม่อาจทิ้งเรน่าและเพื่อนๆเพื่อหนีรอดเพียงคนเดียวได้ นี่คือสิ่งที่เขาตัดสินใจด้วยความแน่วแน่ คล็อดขึ้นลิฟต์มายังชั้นต่อไปของหอคอย แต่ก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดก็ถูกขัดขวางโดยอสูรไคเอนอีกครั้ง ไคเอนแปลกใจที่พวกคล็อดรอดชีวิตกันมาได้ ครั้งนี้ไคเอนจึงตั้งใจจะปลิดชีวิตทุกคนด้วยมือตนเอง แต่อนิจจาไหนเลยปีศาจตัวประกอบจะสู้พลังพระเอกได้ ครั้งนี้ไคเอนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ พวกคล็อดขึ้นลิฟต์กันจนมาถึงชั้นบนสุด
ที่นี่พวกคล็อดได้พบวัตถุทรงกลมขนาดยักษ์ มันคือลูกโลกเวทมนตร์นั่นเอง แต่ก่อนที่จะเข้าใกล้ เสียงลึกลับร้องเตือนให้พวกคล็อดอย่าขยับ คล็อดที่เข้าไปขวางเรน่าที่กำลังแตกตื่นก็โดนยิงร่วงทันที สิ้นเสียงปรากฏเงาตะคุ่มๆ 10 เงาที่ดูแล้วไม่น่าจะมาดีเป็นแน่
เงาทั้งสิบนี้กลับรู้ว่าคล็อดไม่ใช่คนของโลกใบนี้แต่เป็นคนของดาวโลก และประหลาดใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นเรน่ามีสร้อยคอซึ่งแท้จริงแล้วเป็นกุญแจควอดราติค (quadratic แปลว่า สมการสองชั้น แปลแล้วมันแปลกๆขอทับศัพท์เลยแล้วกันครับ) เมื่อเรน่าใช้พลังรักษาคล็อด เงาทั้งสิบตกใจว่าเรน่าเป็นชาวนีเดียนแห่งดาวนีดซึ่งไม่น่าจะปรากฏตัวในจักรวาลอีก แท้จริงแล้วคนทั้งสิบ (ซึ่งบางคนก็ดูจะไม่ใช่คน กลายเป็นมนุษย์ดัดแปลงไปแล้ว บางคนก็เป็นเฒ่าประหลาดที่มีดวงตาอยู่บนฝ่ามือ) ล้วนเป็นชาวนีเดียน และเรียกตนเองว่า "10 ผู้ทรงปัญญา" (หากเรามีโอเปร่ากับเออเนสอยู่ในกลุ่ม พวกเขาจะรู้ด้วยว่าสองคนนี้เป็นชาวดาวเททราจีเนียต) ทั้งสิบบอกว่าคล็อดไม่อาจหยุดยั้งการล่มสลายของดาวดวงนี้ได้หรอก ดาวดวงนี้จะต้องพุ่งชนดาวนีดไม่ว่าคล็อดจะหยุดยั้งพวกเขาได้ก็ตาม คล็อดประหลาดใจว่าเหตุใดดวงดาวมีตั้งมากจึงเลือกเป้าหมายมาที่ดาวดวงนี้ พวกเขาตอบว่ามันเป็นเพียงเพราะดาวดวงนี้อยู่ใกล้กับวิถีโคจรของดาวนีดที่สุดก็เท่านั้น แผนการของพวกเขาคือการใช้พลังของลูกโลกเวทมนตร์ในการบังคับทิศทางโคจรของดาวดวงนี้ให้ไปหาดาวนีด เพื่อที่พวกเขาทั้งสิบจะได้กลับไป และประกาศศักดากลายเป็นผู้ปกครองจักรวาลนี้อีกคร้้ง อีกทั้งศิลาพลังงานที่อสูรไคเอนชิงมาจากปืนใหญ่ยังเป็นตัวเร่งกระบวนการที่อาจต้องใช้เวลาเป็นร้อยปีให้เกิดขึ้นทันใด พวกเขาเรียกศิลาพลังงานว่า quadratic sphere ซึ่งเป็นวัตถุชนิดเดียวกับสร้อยของเรน่าและเป็นกุญแจในการควบคุมลูกโลกเวทมนตร์ โดยมีเพียงชาวนีเดียนเท่านั้นที่มีภูมิปัญญาสร้างกุญแจควอดราติคได้ คล็อดพยายามเข้าขัดขวางแต่ก็ถูกหนึ่งในสิบผู้ทรงปัญญาที่หน้าตาเหมือนโรโบคอบเข้าต่อสู้ด้วย แต่ยังไม่ทันรู้ผลแพ้ชนะเวลากลับไม่เหลือแล้ว และก่อนที่ดาวดวงนี้จะพุ่งชนดวงดาวอีกดวง 10 ผู้ทรงปัญญาก็วาร์ปหายไป ทิ้งให้พวกคล็อดเผชิญกับหายนะดวงดาวแตกดับ...
...ภาพตัดมาที่โรนิกส์ผู้เป็นพ่อของคล็อด เขาไม่อาจยับยั้งหายนะนี้ได้อีกแล้ว ทำได้เพียงมองดาวเอ็กส์เปลอันเล็กจ้อยขยับเข้าไปใกล้ผืนแผ่นดินขนาดใหญ่ เหมือนมีพลังบางอย่างดึงดูดดาวเอ็กส์เปลให้กลายเป็นฝุ่นผงลอยเข้าไปในแผ่นดินใหญ่นั้น และดาวทั้งดวงก็ค่อยๆแตกร้าว โรนิกส์ถอนหายใจ เขาจำต้องหันหลังให้ชีวิตที่สูญเสียไปกว่าพันล้านชีวิต และนั่นรวมถึงชีวิตลูกชายเพียงคนเดียวของเขาด้วย...
-- จบ Chapter 1 --
(จบกันแบบค้างๆคาๆ จริงๆ)
Star Ocean: The Second Story By DOOD Gaming - JRPG Story Teller
Star Ocean The Second Story R: [Chapter 1-1] | [Chapter 1-2] | [Chapter 1-3] | [Chapter 1-4] | [Chapter 1-5] | [Chapter 2-1] | [Chapter 2-2] | [Chapter 2-3] | [Chapter 2-4] | [Chapter 2-5] (บทสุดท้าย) |