Bravely Default II

(as "Bravely Default 2")

Platform:

Bravely Default 2 - บทที่ 1 ไล่ตามมายา

เมืองซาวาลอน เมืองแห่งทะเลทรายที่เคยแห้งแล้งบัดนี้ครึ่งเมืองจมอยู่ใต้บาดาล คาดว่าผู้ถือครองศิลาวารีต้องอยู่ในเมืองแห่งนี้เป็นแน่
ด้านในเมือง ชาวบ้านรวมตัวประท้วงลอร์ดเบอร์นาร์ดเพราะเชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วม แต่ได้มีศิลปินออฟิอุสออกมาระงับความวุ่นวายและใช้พลังของเขาสะกดจิตให้ม็อบทยอยกลับบ้าน กลอเรียเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนออฟิอุสจะรู้จักกลอเรียตั้งแต่สมัยเมืองมิวซ่า เขาเคยเป็นนักดนตรีประจำที่นั่นแต่ก็ถูกจับว่าทุจริตจึงถูกเนรเทศออกมา ออฟิอุสมิได้เกรงใจกลอเรียแม้แต่น้อย กลอเรียก็เช่นเดียวกัน ทั้งสองปะทะฝีปากกันอย่างเฉียบคมก่อนจะแยกย้ายกันไป
กลอเรียพาทุกคนเข้าวังแต่กลับได้พบองค์ชายแคสเตอร์แทน องค์ชายยินดีช่วยเหลือเต็มที่ทว่าสถานการณ์ในเมืองซาวาลอนตอนนี้ก็กำลังวิกฤติเนื่องจากพระราชาหายตัวไป องค์ชายน้อยซึ่งเป็นน้องชายก็ออกท่องเที่ยวไม่ทราบข่าวคราว องค์ชายแคสเตอร์นั้นสุภาพกับองค์หญิงมาก แต่หยาบคายกับคนธรรมดาเช่นพวกเซธอย่างยิ่ง องค์ชายแคสเตอร์พาทุกคนไปพบกับผู้อาวุโสซิกนัสและเบอร์นาร์ด (ซึ่งดูยังไงก็โหงวเฮ้งตัวร้ายชัดๆ) เบอร์นาร์ดบอกว่าปัญหาเรื่องน้ำน่าจะเกิดจากลูกน้องของเขาไปขุดโพรงใต้ดินแล้วเจอตาน้ำเข้า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับศิลาวารีแต่อย่างใด
องค์ชายแคสเตอร์กลับมาตั้งข้อสังเกตว่าหากเป็นแค่เรื่องขุดทางใต้ดินดังที่เบอร์นาร์ดบอก เหตุใด "เกมมิ่งฮอลล์" ที่เบอร์นาร์ดดูแลจึงไม่ได้รับผลกระทบ องค์ชายแคสเตอร์จึงขอร่วมทางไปสืบหาความจริงกับองค์หญิงกลอเรียด้วย อีกประการคือองค์ชายไม่ไว้ใจเหล่า "ไพร่" เช่นพวกเซธว่าจะปกป้องกลอเรียได้ ทั้งหมดจึงเดินทางไปที่เกมมิ่งฮอลล์ทันที
เมื่อมาถึงเบอร์นาร์ดก็เข้ามาต้อนรับพร้อมผู้ติดตามที่ไม่พูดไม่จานามอานิฮอล แม้เบอร์นาร์ดจะน่าสงสัยสุดๆแต่ก็ไม่อาจหาร่องรอยใดๆได้ กลอเรียจึงเปลี่ยนแผนโดยจะสืบหาจากศิลปินออฟิอุสแทน แต่ออฟิอุสกลับเดินทางออกไปยังโบราณสถานนอกเมืองอย่างมีพิรุธ กลอเรียจึงตัดสินใจตามเขาไป
เมื่อมาถึงด้านในโบราณสถาน ทุกคนเผชิญหน้ากับออฟิอุสอีกครั้ง เขาแค้นกลอเรียมากเพราะราชวงศ์มิวซ่าเนรเทศเขาจนเขาต้องตกระกำลำบาก (โดยไม่โทษตัวเองเลย) ออฟิอุสจึงล่อกลอเรียออกมาจัดการที่นี่ แต่เมื่อกลอเรียและทุกคนรุมสหบาทาใส่ออฟิอุสจนพ่ายแพ้ เขายอมรับสารภาพว่าเบอร์นาร์ดเป็นผู้เก็บศิลาวารีไว้จริงแต่เขาไม่รู้ว่าซ่อนไว้ที่ใด เอลวิสนำศิลาแอสเทอริสก์ใส่ในคัมภีร์โบราณของเขา ก่อนหน้านี้เมื่อมีศิลาแอสเทอริสก์มากขึ้นทำให้เขาพอจะอ่านเนื้อความในคัมภีร์ได้บ้าง แต่คราวนี้กลายเป็นว่าคัมภีร์ได้ฉายภาพความทรงจำในอดีตของผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์ช่วงเวลาหนึ่ง ระหว่างที่กำลังแปลกใจกันอยู่นั้นออฟิอุสก็ฉวยโอกาสใช้ระเบิดควันหลบหนีไป
องค์ชายแคสเตอร์ได้ขอโทษทุกคนที่เขาได้ล่วงเกินก่อนหน้านี้ เมื่อได้ร่วมสู้ด้วยกันทำให้เขาพบว่า พวกเซธนั้นแข็งแกร่งและมีเกียรติกว่าที่เขาคาดคิดไว้ นั่นทำให้เขามองทุกคนใหม่
เมื่อกลับมาถึงเมืองซาวาลอน ที่ปรึกษาโดรเมดต่อว่าที่พวกกลอเรียพาองค์ชายออกไปนอกเมือง องค์ชายออกหน้าปกป้องว่าเขาไปด้วยเจตจำนงค์ของตัวเอง แม้อาณาจักรมิวซ่าจะไม่คงอยู่ แต่เขากต้องข่วยเหลือภารกิจขององค์หญิงกลอเรียให้บรรลุ ทว่าเขาก็เข้าใจว่าซาวาลอนเองก็มีปัญหาภายใน องค์ชายแคสเตอร์จึงขอแยกตัวกลับวัง
กลอเรียมองว่าการจะสืบเรื่องต่อน่าจะต้องอาศัยอานิฮอล สาวน้อยที่อยู่กับเบอร์นาร์ด ทุกคนจึงไปหาและพบอานิฮอลถูกชาวเมืองขับไล่ เซธออกหน้าช่วยอานิฮอลจึงพาไปคุยที่บ้านซึ่งอานิฮอลเลี้ยงมอนสเตอร์งูยักษ์เอาไว้ เธอเล่าว่าที่ผู้คนรังเกียจเธอเพราะเธอเป็นคนชนเผ่านอกด่าน เธอเดินทางมากับคณะละครสัตว์ซึ่งถูกโจรลอบโจมตีและสังหารหมดสิ้น เหลือเพียงอานิฮอลที่รอดเพราะมอนสเตอร์ช่วยเอาไว้ หลังจากนั้นเบอร์นาร์ดจึงรับเธอมาใช้งาน เธอจึงคิดว่าเบอร์นาร์ดมีบุญคุณกับเธอมาก อานิฮอลจึงปฏิเสธที่จะช่วยเหลือพวกกลอเรีย
กลอเรียสืบหาข้อมูลจากชาวเมืองต่างๆจนพบว่า เบอร์นาร์ดนั้นในอดีตเขาเคยเป็นมหาโจรมาก่อน และมักซ่อนของล้ำค่าเอาไว้ในทางใต้ดินฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง ทุกคนจึงตัดสินใจเข้าไปสำรวจที่นั่น และองค์ชายแคสเตอร์ก็ขอร่วมทางด้วยอีกครั้ง
ครั้งนี้องค์ชายแคสเตอร์ดีกับทุกคนจนแปลกประหลาด (กลอเรียบอกจริงๆแล้วเขาก็เป็นคนอย่างนี้แหละแต่พวกเซธปรับตัวไม่ทัน) ที่ทางเข้าทุกคนได้เจออานิฮอลอีกครั้ง อานิฮอลเตือนทุกคนว่าอย่ายุ่งกับเบอร์นาร์ดเลย ทุกคนเป็นคนดีเธอไม่อยากลงมือแต่หากจำเป็นก็ต้องทำ พวกกลอเรียเมินเฉยและเข้าไปตามทางใต้ดินจนสุดทาง ที่นี่ทุกคนได้พบอานิฮอลอีกครั้งซึ่งเธอเข้ามาขัดขวาง อานิฮอลเป็นอีกคนหนึ่งที่ถือครองศิลาแอสเทอริสก์ Beastmaster (ผู้ใช้สัตว์อสูร) สามารถนำสัตว์อสูรมาช่วยสู้ได้
หลังจากเอาชนะอานิฮอลได้ กลอเรียพยายามอธิบายว่าเธอจำเป็นต้องนำศิลาวารีกลับคืนมาให้ได้มิเช่นนั้นทั้งเมืองซาวาลอนจะเดือดร้อน ส่วนอานิฮอลไม่ต้องกังวลว่าถ้าเบอร์นาร์ดทิ้งเธอไปแล้วจะไม่เหลือใคร เพราะอานิฮอลยังมีสัตว์เลี้ยงของเธออยู่ อานิฮอลขอบคุณทุกคนและยอมเปิดเผยที่ซ่อนของศิลาวารีพร้อมทั้งให้กุญแจเปิดที่ซ่อนสมบัติมา
ตัดภาพมาที่เบอร์นาร์ดกำลังคุยกับที่ปรึกษาโดรเมดอยู่ โดรเมดเตือนว่าองค์หญิงกลอเรียรู้แล้วว่าเบอร์นาร์ดมีศิลาวารี และหากจำเป็นต้องลงมือก็ขอให้อย่าได้ทำอันตรายต่อองค์ชายแคสเตอร์ เบอร์นาร์ดตอบตกลงแต่แท้จริงแล้วเขาวางแผนจะจัดการองค์ชายด้วยและขึ้นเป็นราชาของเมืองนี้แทน
ระหว่างที่กำลังพักผ่อนอยู่ในเกมมิ่งฮอลล์นั้น หญิงสาวแปลกหน้าผู้หนึ่งแนะนำตัวว่านางชื่อเชอร์ลีย์ และแนะนำทุกคนให้รู้จักกับเกมการ์ด B n D ที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง (ในเกม) ทุกคนยังพบออฟิอุสหน้าเดิมและเตือนให้ทุกคนระวังเชอร์ลีย์ให่ดีเพราะเธอเป็นผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์นักพนันที่เก่งมาก เขายังเคยพ่ายแพ้หมดตัว และเมื่อทุกคนติดงอมแงมแล้วเชอร์ลีย์ก็ท้าทายทุกคนให้เล่นแข่งกับนางโดยมีศิลาแอสเทอริสก์เป็นเดิมพัน แต่เมื่อแพ้เกมการ์ด เชอร์ลีย์กลับกล่าวหาว่าพวกเราโกงและเรียกทหารมาช่วย ที่ปวดหัวคือออฟิอุสก็มาร่วมสู้ด้วยเพราะเขาเป็นหนี้เชอร์ลีย์อยู่ เมื่อเอาชนะได้เราก็ได้รับศิลาแอสเทอริสก์นักพนันมาครอง ส่วนเชอร์ลีย์ก็หนีหายไป
เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ ทุกคนก็ออกเดินทางเพื่อตามทวงคืนศิลาวารี เป้าหมายคือแมนชั่นส่วนตัวของเบอร์นาร์ดที่อยู่นอกเมือง ระหว่างนั้นเบอร์นาร์ดถูกองค์ชายแคสเตอร์เรียกตัวไปวังเพื่อถ่วงเวลาให้พวกกลอเรียเข้าไปชิงศิลาวารีกลับมา
หลังจากผ่านกลไกกับดักภายในอันซับซ้อน ทุกคนก็เข้ามาถึงด้านในสุดและพบศิลาวารีอยู่จริงๆ แต่ทันใดนั้นเองเบอร์นาร์ดก็กลับมา ทุกคนไม่มีเวลามาสนใจแล้วว่าเบอร์นาร์ดเหตุใดกลับมาไวนัก เบอร์นาร์ดเสียดสีว่าเป็นถึงองค์หญิงกลับทำตัวเป็นขโมย นั่นทำให้กลอเรียอารมณ์ขึ้นทันที เพราะนางต่างหากที่ถูกช่วงชิงสมบัติของราชวงศ์ไป และนั่นก็ไปกระตุ้นศิลาวารีให้มอบพลังแก่กลอเรีย
กลอเรียเข้าสู่นิมิตของคริสตัลแบบเดียวกับที่เซธเคยเป็นกับศิลาวาตะ ศิลาวารีกล่าว่ากลอเรียเป็นผู้ถูกศิลาเลือกเช่นเดียวกับปู่ของนาง แต่ยังไม่ทันได้พูดจบ กลอเรียก็พร้อมแล้ว นางไม่จำเป็นต้องเลือกเพราะนางรู้โชคชะตาของตนเองดี นางพร้อมแบกรับชะตากรรมของผู้ถูกเลือกและก้าวเดินไปข้างหน้า และมีแต่ก้าวไปข้างหน้าเท่านั้น ไม่คิดจะถอยหลัง
กลอเรียกลับมาที่โลกเดิมอย่างรวดเร็ว และพาทุกคนเข้าต่อสู้กับเบอร์นาร์ด ผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์จอมโจร สุดท้ายเบอร์นาร์ดก็พ่ายแพ้ อานิฮอลเดินเข้ามาพยายามเกลี้ยกล่อมให้เบอร์นาร์ดยอมแพ้เสีย เบอร์นาร์ดที่โกรธจัดเพราะอานิฮอลหักหลังตนไปช่วยพวกกลอเรียก็จับอานิฮอลโยนออกไปอย่างรุนแรง ขณะที่กำลังจะหนี ด้านหลังองค์ชายแคสเตอร์ก็นำทหารมาล้อมไว้หมดแล้ว กลอเรียเห็นว่าเบอร์นาร์ดหมดทางหนีจึงคิดจะนำศิลาวารีกลับ ทว่าเบอร์นาร์ดกลับยิ้มออกมา
แท้จริงแล้วการมาถึงขององค์ชายแคสเตอร์มิใช่มาเพื่อล้อมจับเบอร์นาร์ด แต่มาเพื่อล้อมจับกลอเรีย เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริงของเหตุการณ์ทั้งหมด ทุกการเคลื่อนไหวของพวกกลอเรียล้วนถูกชักนำโดยเขา ทว่าเบอร์นาร์ดยังไม่ทันดีใจในชัยชนะที่พลิกกลับ องค์ชายแคสเตอร์ชักดาบฟันสังหารเบอร์นาร์ดทันที และโยนความผิดในการสังหารเบอร์นาร์ดหนึ่งในผู้อาวุโสของราชวงศ์ให้เป็นของกลอเรีย กลอเรียและพวกถูกจับเข้าคุกอย่างจนตรอก องค์ชายแคสเตอร์เดินเข้าหาศิลาวารีพร้อมหัวเราะอย่างสะใจ
กลอเรียกับพวกถูกจับขังรวมอยู่ในคุกใต้ดินของปราสาท ที่นี่ทุกคนกลับพบองค์ชายพอลลุกส์ องค์ชายน้อยที่ทุกคนเข้าใจว่าออกท่องเที่ยวไม่ทราบข่าวคราว แท้จริงแล้วองค์ชายพอลลุกส์ถูกองค์ชายแคสเตอร์พี่ชายแท้ๆ จับมาขังไว้ เขาบอกว่าองค์ชายแคสเตอร์เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อได้รับศิลาแอสเทอริสก์มาจาก "นักเดินทาง" คนหนึ่ง ยังไม่ทันคุยกันมากกว่านี้องค์ชายแคสเตอร์ก็ลงมาเยี่ยม กลอเรียถามว่าเหตุใดองค์ชายแคสเตอร์ถึงต้องขโมยศิลาวารี องค์ชายแคสเตอร์หัวเราะพร้อมบอกว่า ก็เพราะข้าต้องการมันน่ะสิ ไม่น่าถาม เมืองซาวาลอนเป็นเมืองทะเลทรายอันแห้งแล้ง มีแต่ศิลาวารีที่จะทำให้เมืองอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาได้ ข้าทำเพื่อปวงประชาของข้า แต่น่าเจ็บใจที่เจ้าเบอร์นาร์ดกลับคิดเก็บไว้ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ต้องขอบใจองค์หญิงกลอเรียและพวกที่มาได้ถูกเวลา ทำให้ข้าดำเนินแผนกำจัดเบอร์นาร์ดและนำศิลาวารีมาได้
องค์ชายแคสเตอร์เดินจากไป ทุกคนพยายามหาทางออกจากคุกแต่ก็ไร้ผล แต่ไม่นานนักอานิฮอลก็เดินเข้ามาพร้อมกุญแจ เหล่าสัตว์อสูรเพื่อนของอานิฮอลนำมันมาได้ อานิฮอลเปิดประตูคุกช่วยทุกคนออกมาและขอให้ทุกคนหยุดยั้งองค์ชายแคสเตอร์และช่วยเพื่อนของเธอ กลอเรียรับปากและขอฝากให้อานิฮอลดูแลองค์ชายพอลลุกส์ด้วย องค์ชายพอลลุกส์เองก็ขอให้กลอเรียช่วยหยุดพี่ชายตนเองด้วย เพราะตอนนี้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง
กลอเรียเสียดายมากเพราะเธอเองก็สนิทกับองค์ชายแคสเตอร์แต่เด็ก เนื่องจากในหมู่องค์ชายองค์หญิงมีคนรุ่นเดียวกันกับนางไม่มากนัก องค์ชายแคสเตอร์แต่เดิมเป็นคนรู้หน้าที่และคิดเพื่อปวงประชาของตนเองมาตลอด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเช่นนี้..
แต่กลอเรียตัดสินใจมานานแล้ว หน้าที่ของนางคือการรวบรวมคริสตัล ไม่ว่าอะไรหรือใครมาขวางทางนางก็ไม่สนใจ นี่คือเส้นทางที่นางเลือกเดิน นี่คือภารกิจของอาณาจักรและภารกิจของนางในฐานะเชื้อสายราชวงศ์มิวซ่าคนสุดท้าย และกับสหายเก่าที่เลือกผิดทาง ก็เป็นหน้าที่ของนางที่จะต้องหยุดยั้งเขาเช่นกัน
ทุกคนเผชิญหน้ากับองค์ชายแคสเตอร์อีกครั้ง กลอเรียถามว่าเหตุใดเขาจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ แคสเตอร์ถามกลับว่าเจ้าเป็นองค์หญิงในอาณาจักรที่สมบูรณ์พร้อมเจ้าจะเข้าใจอะไร ข้าโตมาในอาณาจักรทะเลทรายอันแห้งแล้ง ข้าทำทุกอย่างโดยคิดถึงแต่ประชาชนของข้า แต่ข้าได้อะไรเล่ากลับมา ไม่มี!! เหล่าพวกผู้อาวุโสก็เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตน พระราชาก็เอาแต่กลัวจะสูญเสียอำนาจ ข้าศึกกรุกล้ำอาณาเขตไม่เว้นวัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยจนกระทั่งนางผู้นั้นปรากฏตัวและมอบศิลาแอสเทอริสก์ให้ข้า ข้าไม่สนว่าต้องแลกด้วยอะไร ศิลาวิเศษจงมอบพลังให้ข้า!!
และด้วยพลังแห่งศิลาแอสเทอริสก์เบอเซอเกอร์ (นักรบคลั่ง) ก็ได้เปลี่ยนร่างองค์ชายให้กลายเป็นนักรบเถื่อนพร้อมขวานยักษ์ เข้าฟาดฟันกับพวกกลอเรียทันที เมื่อทุกคนเอาชนะองค์ขายแคสเตอร์ได้ องค์ชายก็เรียกทหารจะมาจับพวกกลอเรีย ระหว่างที่กำลังร้อนใจกับสถานการณ์ตรงหน้า ทันใดนั้นเอง คัมภีร์ที่เอลวิสถืออยู่ตลอดก็ได้เปล่งแสงขึ้น มันฉายภาพเหตุการณ์ของผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์ และครั้งนี้ก็คืออดีตขององค์ชายแคสเตอร์
ย้อนกลับไปในวันหนึ่ง องค์ชายแคสเตอร์ถกเถียงกับพระราชาผู้เป็นบิดา เขาเสนอให้เบอร์นาร์ดขโมยศิลาวารีจากอาณาจักรมิวซ่าเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งของอาณาจักรซาวาลอน พระราชาโกรธเกรี้ยวยิ่งที่บุตรชายมีความคิดจะขโมยสมบัติของอาณาจักรพันธมิตรเช่นนี้จึงสั่งทหารให้พาตัวองค์ชายกลับตำหนัก องค์ชายแคสเตอร์ขัดขืนและใช้พลังศิลาแอสเทอริสก์กลายร่างเป็นนักรบคลั่ง เขาระเบิดพลังสังหารทหารที่เข้ามาจับกุม ทำลายข้าวของที่ขวางหน้าและสังหารบิดาตนเองที่พยายามหนี จากนั้นเขาจึงสั่งให้ที่ปรึกษาโดรเมดผู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างให้ทำเป็นว่าพระราชาหายตัวไป เขาให้โดรเมดทำลายหลักฐานทั้งหมด และแต่งตั้งเบอร์นาร์ดให้เป็นสภาอาวุโสเพื่อทำภารกิจขโมยศิลาวารี...
กลับมายังปัจจุบัน เหล่าทหารที่จะมาจับกุมพวกกลอเรียเห็นเหตุการณ์ในอดีตหมดสิ้น องค์ชายแคสเตอร์ยังคงพยายามปฏิเสธและว่าตนถูกปรักปรำ แต่ที่ปรึกษาโดรเมดก็มาถึงและกล่าวว่า พอเถิดองค์ชาย เกมมันจบแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็มีแต่ต้องกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก ข้าในฐานะอาลักษณ์ผู้บันทึกเหตุการณ์เชื่อว่าทั้งหมดนี้ทำไปเพื่อท่าน และเพื่อประเทศชาติ แต่ข้าคิดผิดเอง...
องค์ชายแคสเตอร์ยังคงให้การปฏิเสธ ทหารพยายามเข้าไปล้อมเพื่อถามหาความจริง องค์ชายแคสเตอร์ถอยหนีจนร่วงตกระเบียง (จุดเดียวกับที่เขาคลั่งฟันระเบียงและฆ่าพระราชา) เหตุการณ์วุ่นวายก็ปิดฉากลงเช่นนี้
องค์ชายพอลลุกส์พยายามขอโทษองค์หญิงกลอเรีย แต่กลอเรียเห็สว่าอย่างไรตอนนี้ตนก็ได้ศิลาวารีกลับคืนมาแล้ว องค์ชายพอลลุกส์บอกว่ากลอเรียไม่ต้องรู้สึกผิดกับพี่ชายเขา องค์ชายแคสเตอร์สังหารบิดา ขโมยสมบัติราชวงศ์ของอาณาจักรพันธมิตร ทั้งหมดที่เขากระทำล้วนมิอาจอภัยให้ได้ องค์ชายพอลลุกส์เล่าอีกว่าพี่ชายเขาได้ศิลาแอสเทอริสก์จากนักเดินทางนิรนามผู้หนึ่งรวมถึงเรื่องของศิลาวารีด้วย (อาจกล่าวได้ว่านักเดินทางนิรนามผู้นี้เป็นผู้ยุยงเบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด) แต่เขารู้เพียงว่านักเดินทางผู้นี้เป็นหญิงสาว เรื่องอื่นนอกจากนี้เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนักเดินทางเลย
ส่วนอาลักษณ์โดรเมด เขาขอถูกคุมขังด้วยความรู้สึกผิดในสิ่งที่เขากระทำ แต่องค์ชายพอลลุกส์เห็นว่าประเทศนี้ยังต้องการผู้มีสติปัญญาเช่นโดรเมดช่วยเหลือ พอลลุกส์หวังเพียงสักวันหนึ่งโดรเมดจะกลับมาช่วยราชวงศ์อีกครั้ง
หลังเหตุการณ์ทุกอย่างจบสิ้น น้ำในเมืองซาวาลอนก็กลับสู่ภาวะปกติ ทุกคนมาบอกลาอานิฮอลซึ่งดูจะได้รับการยอมรับจากคนในเมืองมากขึ้น อานิฮอลบอกถึงเบาะแสของคริสตัลว่าสมัยตอนอยู่คณะละครสัตว์ นางเคยพบคริสตัลที่วิสวอลด์ ซึ่งที่นั่นคือบ้านเกิดของเอลวิสเอง แต่เอลวิสก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคริสตัลแม้แต่น้อยเพราะเขาเองก็จากบ้านเกิดมานานหลายปีแล้ว
เมื่อมีเป้าหมายแน่ชัด ทุกคนจึงพร้อมใจออกเดินทางกันต่อ เป้าหมายแน่นอนว่าคือเมืองวิสวอลด์ เมืองแห่งเวทมนตร์และการศึกษา
และโชคชะตาจะนำพาคณะผู้กล้าแห่งแสงไปพบกับสิ่งใด และพบผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์อาชีพใดอีก โปรดติดตามตอนต่อไป....

-- จบบทที่ 1 --