Skip to main content

Bravely Default II

(as "Bravely Default 2")
Platform:  

Bravely Default 2 - บทที่ 3 อัคคีแห่งศรัทธา






ภูมิประเทศเขตเมืองไรม์ดาลเป็นหิมะอันหนาวเหน็บ ทว่าเมื่อใกล้ถึงเมือง อเดลเอ่ยขึ้นว่าเมื่อก่อนพื้นที่แถบนี้มีชั้นน้ำแข็งปกคลุมหนากว่านี้ กลอเรียจึงวิเคราะห์ว่านี่อาจเป็นผลกระทบจากพลังของคริสตัลทำให้ชั้นน้ำแข็งละลายและเป็นสาเหตุให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ทันใดนั้นเองก็มีเสียงปริศนากล่าวชมเชยความฉลาดของกลอเรีย ทุกคนหันมองรอบตัวจนพบมังกรน้อยตัวหนึ่ง อเดลทักทายอย่างคุ้นเคยและถามว่าทำไมมาอยู่แถวนี้ มังกรน้อยแนะนำตัวว่าชื่อกวีลิมเป็นเชื้อสายมังกรราชวงศ์ เขาตามกลิ่นความตายมาจนถึงที่นี่ กวิลิมขอเข้าร่วมกลุ่มด้วยเพื่อหาสาเหตุของเรื่องนี้ (แต่เพื่อไม่ให้เด่นเกินอเดลจึงจับกวิลิมใส่กระสอบซะเลย)
เมื่อมาถึงทางเข้า ทุกคนก็ได้ยินชาวบ้านต่างพูดคุยว่าแฟรี่ปรากฏตัวอีกแล้ว และเมื่อเข้าไปยังด้านในเมือง ก็พบว่ามีการตัดสินโทษบางอย่าง สตรีผู้หนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นแฟรี่ปลอมตัวมา และหนทางในการล้างบาปคือต้องกระโดดลงเหว สตรีนางนั้นสรรเสริญเทพมังกรและกระโดดลงไปต่อหน้าทุกคน ชาวบ้านที่เหลือต่างพร้อมใจกันสรรเสริญเทพมังกร เซธที่มองเห็นคนฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาขณะที่คนอื่นไม่มีใครคิดช่วยเหลือ เซธและพวกจึงโวยวายออกมา ทันใดนั้นก็มีผู้อาวุโสคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางการสรรเสริญจากผู้คนโดยรอบ เขาคืออาร์คบิชอปโดมินิค เป็นผู้นำลัทธิเทพมังกรของที่นี่ เขากล่าวว่าพวกเซธเป็นคนเบื้องนอกไม่เข้าใจวิถีของพวกเขาจึงเชิญทุกคนไปที่มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำความเข้าใจ จากนั้นอาร์คบิชอปก็เดินจากไป
เมื่อสิ้นสุดเหตุการณ์ชาวบ้านต่างก็แยกย้ายกันไป มีเพียงชายกลางคนผู้หนึ่งที่ร่ำไห้คร่ำครวญตรงนั้นว่าบุตรสาวของเขาไม่ใช่แฟรี่ เซธและพวกเห็นพ้องว่าควรไปดูที่มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์สักครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพื่อถามข่าวเรื่องศิลาอัคคีด้วย
เมื่อมาถึงมหาวิหารเทพมังกรซึ่งมีอาร์คบิชอบโดมินิคยืนรออยู่พร้อมคนอีกสองสามคน เซธถามถึงเรื่องการประหารเมื่อครู่ทันที อาร์คบิชอปตอบว่านี่มิใช่การประหาร แต่มันคือการแสดงศรัทธาอันบริสุทธิ์ต่อเทพมังกร ส่วนหญิงสาวที่เสียชีวิตเมื่อครู่ นางได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อเทพมังกรว่านางไม่ใช่แฟรี่ (ชาวบ้านเล่าว่าแฟรี่กับเทพมังกรเป็นศัตรูกันมาช้านาน) หากเป็นแฟรี่ปลอมตัวมาย่อมต้องเผยปีกเมื่อกระโดดในระดับความสูงเช่นนั้น และหากเป็นผู้บริสุทธิ์ที่มีศรัทธาอันแรงกล้า เทพมังกรย่อมปกปักษ์ช่วยเหลือเอง อาร์คบิชอปยังเตือนทุกคนว่าตนสามารถยอมรับการดูหมิ่นต่อเทพที่พวกเซธพูดแค่เพียงครั้งเดียว มิเช่นนั้นแล้วคงต้องลงไม้ลงมือ
เซธถึงกับหมดคำพูด ทว่าอเดลกลับเลือดขึ้นหน้าและด่ากราดว่า "เจ้าคิดว่านี่คือสิ่งที่เทพมังกรต้องการหรือ?" อาร์คบิชอปสวนกลับว่า "เจ้าบังอาจดูหมิ่นข้าซึ่งเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับพระวจนะของเทพมังกรหรืออย่างไร? เพราะคำขอพรของข้าอย่างยาวนานจึงทำให้เมืองไรม์ดาลอบอุ่นจากหิมะอันหนาวเย็น แต่เอาเถอะ วิหารแห่งนี้ต้อนรับทุกคนที่กล้าเข้ามา" จากนั้นอาร์คบิชอปโดมินิคก็เดินจากไป
เมื่อทุกคนออกจากวิหารก็สุมหัวคุยกัน กลอเรียสังเกตว่าอาร์คบิชอปไม่ได้พูดว่าที่เมืองนี้อบอุ่นเป็นเพราะเทพมังกร แต่พูดว่าพราะการสวดมนต์ของเขา สิ่งนี้ทำให้กลอเรียค่อนข้างมั่นใจว่าอาร์คบิชอปจะต้องมีศิลาอัคคีอยู่อย่างแน่นอน
ทันใดนั้นก็มีชายหญิงสองคนเดินเข้ามาขัดจังหวะว่าใครกันที่กล้าตั้งคำถามกับคำพูดของอาร์คบิชอป ผู้มาเป็นหญิงสาวกล้ามเนื้อบึกบึนนามกลาดิส ตำแหน่งองครักษ์มังกร และชายกลางคนผอมบางในชุดนักบวชสีขาวนามเฮลิโอ ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายลงทัณฑ์ของศาสนจักร ทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบสืบหาและลงทัณฑ์พวกแฟรี่โดยเฉพาะ (ดูโหงวเฮ้งแล้วเป็นผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์แน่ๆ) กลาดิสกล่าวหาว่าทุกคนต้องเป็นแฟรี่แน่นอน แต่เฮลิโอก็เข้ามาไกล่เกลี่ยและขอโทษทุกคนแทนกลาดิสที่ศรัทธาแรงกล้าไปหน่อย
เมื่อทุกคนแยกย้ายจากไป กวิลิมก็โผล่ออกมาและบอกว่า กวิเดียนผู้เป็นบิดา (ซึ่งคือเทพมังกรตัวจริง) ส่งเขามาเพื่อตามหาอเดลโดยเฉพาะและขอให้อเดลไปที่อุโมงค์อสรพิษ ทุกคนถึงกับแตกตื่นที่อเดลรู้จักกับเทพมังกรเป็นอย่างดีด้วย อเดลถามกวิลิมว่าทำไมถึงไม่รีบบอกนางเรื่องนี้ กวิลิมย้อนว่าก็เธอมัวแต่ยุ่งกับการจับฉันใส่กระสอบน่ะสิ!! แล้วในนั้นมันก็อุ่นสบายดีเลยเผลอ...พักผ่อนระหว่างพยายามจะบอกเธอไง
และระหว่างที่ทุกคนเดินทางออกจากเมืองนั้น พวกอาร์คบิชอปก็คาดการณ์ได้ว่าพวกกลอเรียย่อมมาเพื่อช่วงชิงศิลาอัคคีแน่นอน ด้วยเหตุนี้อาร์คบิชอปจึงส่งคนให้เคลื่อนไหวแล้ว
ทุกคนเดินทางมาถึงปลายอุโมงค์อสรพิษโดยมีสตรีนางหนึ่งยืนเด่นอยู่ หญิงสาวนางนี้เอ่ยชมกวิลิมพร้อมแนะนำตัวกับทุกคนว่านางชื่อมาร์ธา เป็นผู้พิทักษ์ประจำอุโมงค์อสรพิษนี้ นางรู้จักกลอเรียเป็นอย่างดีเพราะเทพมังกรกวิเดียนเล่าให้ฟังทั้งหมดรวมถึงภารกิจคริสตัลของกลอเรียด้วย มาร์ธาพาทุกคนไปหาเทพมังกรกวิเดียนในทันที อเดลทักทายอย่างสนิทสนม ดูเหมือนอเดลจะเคยช่วยเหลือบางอย่างกับกวิเดียนเมื่อครั้งอดีต กวิเดียนกล่าวว่าเขารู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไรม์ดาลดี แต่ไม่อาจสื่อสารไปถึงอาร์คบิชอปได้อีกต่อไป ส่วนสิ่งใดทำให้อาร์คบิชอปต้องทำเรื่องโง่เขลาเช่นนั้น เขาเองก็มิอาจทราบ เทพมังกรกวิเดียนเคยให้คำสัตย์ต่อผู้ก่อตั้งเมืองไรม์ดาลว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายกิจของเมืองโดยตรงเขาจึงไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทว่าเขาเองก็มิอาจยืนเฉยดูเหล่าผู้ที่ศรัทธาในตัวเขาต้องทุกข์ทรมานเช่นนี้ กวิเดียนจึงขอให้อเดลและทุกคนช่วยหยุดเรื่องนี้แทนเขา ส่วนกวิเดียนก็จะช่วยเรื่องการกอบกู้คริสตัลเท่าที่เขาช่วยได้เป็นการตอบแทน ส่วนตัวเขาเองนั้นเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว..
เมื่อเสร็จธุระกับเทพมังกร มาร์ธาก็ชวนทุกคนนอนพักกันที่นี่คืนนี้ เนื่องจากสถานที่นี้ยากนักจะมีคนมาเยี่ยมเยียน ยิ่งกับกลุ่มคนแข็งแกร่งเช่นนี้ มาร์ธาจึงชวนทุกคน "เล่น" กับเธอด้วยการท้าสู้อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
มาร์ธาเป็นผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์ Dragoon (นักรบมังกร) ซึ่งนางได้มาจากอาร์คบิชอปเพื่อไว้ใช้ปกป้องเทพมังกรกวิเดียน มาร์ธานั้นแข็งแกร่งมาก แม้ทุกคนจะรวมพลังกันสู้ (รุมนั่นแหละ) ก็ยังต่อสู้อย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายก็เอาชนะได้ และมาร์ธาก็ส่งมอบศิลาแอสเทอริสก์ดรากูนด้วยความเต็มใจ)
รุ่งเช้า มาร์ธามาส่งทุกคนพร้อมอวยพรให้ช่วยเหลือเมืองไรม์ดาลให้ได้ ส่วนนางมีภารกิจพิทักษ์สถานที่แห่งนี้จึงมิอาจตามไปช่วย มาร์ธายังเล่าถึงกลาดิส (หญิงสาวกล้ามโต) ว่าบิดามารดาของกลาดิสนั้นเคยเป็นนักบวชมาก่อน แต่ก็ต้องตายเพราะคดีแฟรี่ กลาดิสเชื่อว่าแฟรี่เป็นต้นเหตุให้บิดามารดาของนางต้องพบจุดจบอย่างอนาถเช่นนี้จึงอาสามาเป็นผู้ช่วยของเฮลิโอหัวหน้าฝ่ายลงทัณฑ์ เพราะการล้างแค้นนั่นเอง แต่มาร์ธาเชื่อว่าถ้ากลาดิสได้รู้ความจริงย่อมต้องคืนสติกลับมาแน่นอน
ทุกคนกลับมาที่เมืองไรม์ดาลและพบว่ากำลังมีการจับผู้สงสัยว่าเป็นแฟรี่อีกแล้ว เป็นชายหนุ่มผู้หนึ่งที่กำลังถูกจับกุม หญิงสาวนามมากาเร็ตรีบเข้ามาขัดขวาง แต่นักบวชเฮลิโอก็โยนความผิดให้มากาเร็ตกลายเป็นแฟรี่ บังคับใหชาวเมืองรอบข้างโทษว่ามากาเร็ตเป็นแฟรี่ (ใครไม่เชื่อฟังจะถูกจับเป็นแฟรี่ไปด้วย )และสั่งให้กลาดิสจับมากาเร็ตไปทันที
ทุกคนสอบถามชาวเมืองจนพบว่ามากาเร็ตเป็นลูกสาวของหลวงพ่อรีเดียน อเดลจึงนำทุกคนไปพบหลวงพ่อรีเดียนและเล่าให้ฟังว่าพวกเขาเป็นตัวแทนของเทพมังกรมาหยุดยั้งเรื่องนี้ หลวงพ่อรีเดียนนั้นยากที่จะเชื่อเพราะเขาศรัทธาว่ามีแต่อาร์คบิชอปเท่านั้นที่สามารถสื่อสารกับเทพมังกรได้ แต่เมื่อเกิดเรื่องกับลูกสาวตนเองเขาจึงนัดทุกคนไปคุยกันที่โรงแรมอย่างละเอียดอีกที ทว่าไม่ทันการแล้ว มากาเร็ตถูกจับเข้าพิธีประหารด้วยการโดดลงเหวทันที พวกอเดลพยายามไปช่วยแต่ช้าเกินไป เมื่อจบเรื่องทุกคนจึงคิดกลับไปหาหลวงพ่อรีเดียนแต่พบว่า เขาไม่อยู่แล้ว
หลังจากรู้ว่าหลวงพ่อรีเดียนมุ่งหน้าไปยัง "กรามแห่งการตัดสิน" ซึ่งเป็นเหวลึกที่ผู้ถูกตัดสินโทษโดดลงไป ทุกคนเป็นห่วงจึงรีบตามไปจนเจอหลวงพ่อรีเดียนด้านในหุบเหว และพบเห็นภาพอันน่าอาดูร ซากศพของผู้คนมากมายที่ตกลงมาและกลายเป็นศพที่นี่มีมากมายนับไม่ถ้วน หลวงพ่อรีเดียนกล่าวว่า เขาเชื่อว่าในบรรดานี้ย่อมมิใช่จะเป็นแฟรี่เสียทั้งหมด ย่อมต้องมีผู้ศรัทธาอันแท้จริงบ้าง ทว่าทุกคนก็จบชีวิตลงที่นี่ทั้งหมด สิ่งที่พวกอเดลกล่าวนั้นถูกต้องทุกอย่าง นี่มิใช่ประสงค์ของเทพมังกร แต่เป็นการกระทำอันโง่เขลาของเหล่ามนุษย์เอง
ทันใดนั้นเฮลิโอและกลาดิสก็ปรากฏตัว เขาโยนความผิดว่าผู้มาที่นี่ย่อมเป็นผู้ที่สงสัยต่อประสงค์ของเทพมังกรจึงสั่งกลาดิสเข้าโจมตีทุกคนพร้อมกัน เฮลิโอเป็นผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์ Spirit Master (ปรมาจารย์จิตวิญญาณ) ส่วนกลาดิสเป็นผู้ถือครองศิลาแอสเทอริสก์ Swordmaster (ปรมาจารย์ดาบ) เมื่อทุกคนเอาชนะได้ก็ชิงแอสเทอริสก์ทั้งสองมาครอง
หลังจากพ่ายแพ้เฮลิโอจึงพยายามหนี ทุกคนจะไล่ตามแต่กลาดิสก็เข้ามาขัดขวางไว้ อเดลโกรธที่กลาดิสยังโง่ไม่เลิกจึงดึงตัวกลาดิสมาดูด้านล่างหุบเหว เมื่อกลาดิสเห็นศพผู้คนมากมายจึงถึงกับเข่าทรุด นางเชื่อมาตลอดว่าทุกสิ่งที่ทำนั้นเพื่อกำจัดแฟรี่ที่ถือว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้บิดามารดานางต้องตาย แต่กลับกลายเป็นว่าตลอดมานางถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกำจัดผู้เห็นต่างและผู้ที่ขวางทางเฮลิโอเท่านั้น เมื่อความจริงอันโหดร้ายมาอยู่เบื้องหน้า กลาดิสก็ถึงกับพูดไม่ออก หลวงพ่อรีเดียนเข้ามากล่าวกับกลาดิสว่า เขาควรจะโกรธแค้นกลาดิสที่เป็นคนจับลูกสาวเขาไปสู่ความตาย แต่ตัวเขาเองก็เมินเฉยกับเรื่องนี้มาตลอดจนกระทั่งมาถึงคราวลูกสาวตัวเองถึงได้เข้าใจ เรื่องทั้งหมดนี้ทั้งตัวเขาและกลาดิสต่างก็เป็นเหยื่อด้วยกันทั้งคู่ เมื่อย้อนกลับไป ความบ้าคลั่งในเมืองมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อนักบวชเฮลิโอปรากฏตัว...
ทุกคนพาหลวงพ่อรีเดียนกลับมาที่เมืองไรม์ดาล แต่ก็พบว่ากำลังจะมีการประหารเกิดขึ้นอีกแล้ว (กลับมาทีมีเรื่องตลอด) ที่เลวร้ายยิ่งคือครั้งนี้ผู้ถูกประหารคือมาร์ธา (นักรบมังกรที่เฝ้าพิทักษ์เทพมังกรกวิเดียน) ครั้งนี้เมื่อเฮลิโอไม่อยู่ อาร์คบิชอปโดมินิคจึงมาตัดสินโทษด้วยตนเอง พวกเซธรีบเข้าไปขัดขวางแต่ทว่าไม่อาจฝ่าฝูงชนที่รุมล้อมระหว่างทางได้ มาร์ธาถูกนักบวชผลักตกลงเหวทันที ระหว่างที่ทุกคนถอดใจกันแล้วนั้น อเดลกลับแทรกฝ่าฝูงชนกระโดดตามมาร์ธาลงไปในหุบเหว ทันใดนั้นร่างของอเดลก็เปล่งแสง ปีกบางเบาดุจผีเสื้อปรากฏขึ้นที่กลางหลัง แท้จริงแล้วอเดลนั้นเองที่เป็นแฟรี่ตัวจริงเสียงจริง!!
เมื่อฝูงชนได้พบเห็นแฟรี่ตัวเป็นๆต่างก็ชุลมุนวุ่นวาย อเดลจึงฉวยโอกาสอลหม่านนี้พาทุกคนหนีออกมา หลวงพ่อรีเดียนรีบพาทุกคนมาซ่อนในบ้าน เมื่อปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งทุกคนต่างก็ยังไม่หายตกใจต่อความจริงว่าที่แท้อเดลนั้นเป็นแฟรี่ปลอมแปลงมาตลอด
อเดลเล่าคามจริงให้ฟังว่า แต่เดิมนั้นแฟรี่ซ่อนตัวในหมู่บ้านที่มีข่ายพลังเวทย์ขวางกั้นจึงไม่เคยถูกค้นพบจากมนุษย์ ทว่าในวันหนึ่งน้องสาวของอเดลกลับหายตัวไปจากหมู่บ้านแฟรี่พร้อมทั้งขโมยศิลาแอสเทอริสก์ทั้งหมดของหมู่บ้านไปด้วย แท้จริงแล้วศิลาแอสเทอริสก์นั้นเป็นสมบัติตกทอดของชาวแฟรี่มานานแสนนาน เมื่อหายไปอเดลจึงต้องออกตามหาพร้อมทั้งตามหาน้องสาวไปด้วย จนมาพบเอลวิสที่กำลังตามหาศิลาแอสเทอริสก์พอดีจึงได้ร่วมเดินทางกันนับแต่นั้นมา..
แม้ยากจะตั้งตัวทัน แต่ทุกคนก็มิได้ชิงชังรังเกียจที่อเดลเป็นแฟรี่แม้แต่น้อย รวมถึงมาร์ธาและหลวงพ่อรีเดียนด้วย บัดนี้ถึงเวลาที่ต้องตัดสินกันแล้ว ทุกคนต้องหยุดยั้งความบ้าคลั่งของอาร์คบิชอปโดมินิคให้จงได้
ทุกคนมุ่งหน้าไปยังมหาวิหารอันใหญ่โตจนมาถึงด้านใน อาร์คบิชอปโดมินิคยืนอยู่พร้อมศิลาอัคคี เขายังคงพูดถึงความเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของเทพมังกร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อเทพมังกร นั่นทำให้อเดลถึงกับสติหลุด เพราะสิ่งที่อาร์คบิชอปทำนั้นมีเพียงการทำร้ายปวงชนที่เทพมังกรกวิเดียนรัก และแน่นอนตามสูตร นี่ไปกระตุ้นพลังของศิลาอัคคี อเดลนั้นชัดเจนในเส้นทางของตนดีแล้วจึงไม่ลังเลที่จะแบกรับโชคชะตาของผู้ถูกเลือกแห่งอัคคีเช่นเดียวกับที่ราชินีแห่งวงศ์วานแฟรี่เคยเป็นเมื่อครั้งอดีต โดมินิคถึงกับโวยวายว่าเหตุใดเล่าจึงไม่เป็นเขาที่เป็นผู้ถูกเลือก กระนั้นโดมินิคก็ยังมีพลังของศิลาแอสเทอริสก์ Oracle (เทพพยากรณ์) เขาใช้พลังนี้ต่อสู้กับทุกคนแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ แต่ในระหว่างที่กำลังคร่ำครวญดุจสุนัขเสียเจ้าของนั้น มีดเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาแทงทะลุพุงกะทิของอาร์คบิชอปโดมินิคอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด ใบหน้าที่คุ้นเคยปรากฏขึ้น เป็นเฮลิโอนั่นเอง เขาเปิดเเปิดเผยตนว่าแท้จริงแล้วตนเป็นไส้ศึกของจักรวรรดิโฮโลกราด (เมืองของอดัม บอสใหญ่ของเกมนี้) ด้วยการที่เมืองนี้ปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งตลอดปีทำให้ยากแก่การส่งกำลังทหารเข้าบุก แต่ด้วยพลังแห่งศิลาอัคคีที่ทำให้ชั้นน้ำแข็งเบาบางลงเรื่องต่างๆจึงง่ายดายขึ้น ประกอบกับการกุคดีแฟรี่ที่ทำให้เขาสามารถกำจัดเสี้ยนหนามของเมืองนี้ไปได้ทีละคนๆ ทำให้บัดนี้กองทัพโฮโลกราดพร้อมแล้วกับการเข้าบุกยึดเมืองไรม์ดาลแห่งนี้
ทันใดด้านนอกก็มีเสียงปืนใหญ่ดังสนั่น ทัพโฮโลกราดรายล้อมรอบเมืองไรม์ดาลจำนวนมาก และด้วยไส้ศึกที่แอบเปิดประตูเมืองทำให้ศัตรูเข้ามาถึงด้านในเมือง เฮลิโอฉวยโอกาสหยิบศิลาอัคคีจากศพอาร์คบิชอปแล้ววิ่งหนีไป พวกเซธวิ่งไล่ตามแต่เฮลิโอกลับหายไปแล้ว ด้านหน้าโถงของมหาวิหาร มาร์ธาและกลาดิสอพยพคนเจ็บมารักษาตัวอยู่ที่นี่ มาร์ธารับประกันว่าแม้กลาดิสจะหลงเชื่อคนผิดแต่ความรักในประเทศแห่งนี้ก็มีมากไม่แพ้ใคร มาร์ธาเข้าร่วมกับพวกเซธรีบไปรับศึกศัตรูที่หน้ากำแพงเมือง หลวงพ่อรีเดียนบัญชาการทัพทหารชาวไรม์ดาลต่อต้านข้าศึกทัพโฮโลกราดเป็นสามารถ โชคดีด้วยชัยภูมิของเมืองทำให้ศ้ตรูจำต้องบุกจากทางเดียวจึงไม่อาจส่งกำลังเข้าตีทุกทิศทางได้ จึงได้แต่บุกเข้ามาทีละระลอก พวกเซธจึงค่อยๆกำจัดศัตรูทีละกลุ่มๆ
เมื่อกำจัดกองหน้าของศัตรูจนหมด ทหารในเมืองก็รายงานว่า ทัพศัตรูขนาดใหญ่ตีเมืองทางด้านหลัง พวกเซธจึงรีบตามไปแต่ระยะทางนั้นมิใช่น้อย ทางด้านแนวหลัง หัวหน้าทหารกำลังถูกล้อมด้วยทัพศัตรูจำนวนมาก แต่ทันใดนั้นกลาดิสก็เข้ามาช่วยกำจัดศัตรูจนหมด ระหว่างที่กลาดิสเค้นถามที่อยู่ของเฮลิโอจากศัตรูนั้นเอง จู่ๆหัวหน้าทหารผู้นั้นก็พุ่งมาแทงดาบใส่กลาดิสจากด้านหลัง หัวหน้าทหารผู้นี้ก็เป็นเหยื่อคนหนึ่งที่น้องสาวต้องถูกประหารด้วยคดีแฟรี่เขาจึงแค้นกลาดิสจับจิตจนลงมือและวิ่งหนีไป กลาดิสที่บาดเจ็บสาหัสก็พบเฮลิโอที่เดินเข้ามาเยาะเย้ย นางพยายามเงื้อดาบฟันแต่เฮลิโอก็หลบได้อย่างง่ายดาย เฮลิโอเฉลยว่าแท้จริงแล้วพ่อแม่ของกลาดิสก็เป็นฝีมือเขาเองนี่แหละที่สังหารเพราะดันรู้มากเกินไปเรื่องแผนลับของเขา กลาดิสแค้นถึงขีดสุดจึงรวบรวมกำลังที่มีพุ่งเข้าชนใส่เฮลิโอจนล้มลง พอดีกับกำลังเสริมในเมืองเข้ามาเฮลิโอจึงรีบวิ่งหนีไปโดยไม่รู้เลยว่าจังหวะที่ล้มนั้นเขาทำศิลาอัคคีหล่นไว้
สถานการณ์การรบไม่สู้ดีนักเพราะทัพศัตรูมีมากเกินไป แม้กำลังขวัญทหารชาวไรม์ดาลจะมีมากแต่ไม่นานก็คงเหนื่อยล้าและพ่ายแพ้ แต่ทันใดนั้นก็มีแสงคำรามแผดดังสนั่นลั่นท้องฟ้า มังกรเฒ่ากวิเดียนบินมาด้วยตนเองและขับไล่ทัพทหารโฮโลกราดจนแตกพ่าย ไรม์ดาลพลิกกลับมาชนะท่ามกลางเสียงโห่ร้องสรรเสริญเทพมังกรจากทุกคน
ระหว่างที่พวกเซธกำลังเก็บกวาดซากสงคราม เงาร่างหนึ่งก็เดินมาหาอย่างทุลักทุเล เป็นกลาดิสที่ฝืนแบกร่างตนเองนำศิลาอัคคีมาให้กลอเรีย นางเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปทั้งหมดก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะหมดลงในอ้อมกอดของมาร์ธา หลองพ่อรีเดียนได้แต่กล่าวอย่างเงียบงัน
"กลาดิสแห่งไรม์ดาลเอ๋ย การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเจ้านั้น ชาวเราขอขอบคุณ"
...
เฮลิโอที่วิ่งหนีตายสุดท้ายก็ไม่รอดไปจากเพลิงมังกรของเทพมังกรกวิเดียน กวิเดียนสังหารทัพโฮโลกราดตลอดทางจนได้พบกับแม่ทัพใหญ่ข้าศึก อดัม ราชาแห่งโฮโลกราดผู้นำทัพครั้งนี้มาด้วยตนเอง
อดัมกำกระชับดาบโลกันต์ในมือเข้าต่อสู้กับกวิเดียนเพียงลำพัง การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เทพมังกรกวิเดียนทุ่มพลังสุดตัวปลดปล่อยเพลิงมังกรขั้นสูงสุด ทว่าอดัมกลับสามารถใช้ดาบตัดเพลิงมังกรออกเป็นสองส่วน กวิเดียนแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะมีมนุษย์ที่ต้านทานพลังของเขาได้ สุดท้ายมังกรเฒ่าก็ถูกอดัมสังหารอย่างโหดเหี้ยม แต่อดัมเองก็ต้องบาดเจ็บไม่น้อย
เมื่อเสร็จศึก เอ็ดน่า สตรีลึกลับที่อยู่ข้างกายอดัมมาตลอดก็เข้ามาหา บัดนี้อุปสรรคชิ้นใหญ่อย่างมังกรเฒ่าก็ถูกกำจัดลงแล้ว ไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางแผนการของอดัมอีก อดัมสั่งการเอ็ดน่าให้ดำเนินแผนขั้นต่อไปทันที
...
มาร์ธาพาทุกคนมาหาเทพมังกรกวิเดียนซึ่งหลงเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย กวิเดียนสั่งเสียให้มาร์ธาดูแลนายคนใหม่ และฝากฝังมังกรน้อยกวิลิมให้ช่วยดูแลเมืองนี้แทนเขาด้วย...
...เมื่อเวลามาถึง บาดแผลจะถูกรักษา ความผิดจะถูกอภัย ความหวังจะกลับมา...

-- จบบทที่ 3 --








CREDIT:

Bravely Default II

Bravely Default 2

แนวทางการเล่น
WALKTHROUGH/GUIDES

ตัวละคร
Character

ข้อมูลเบื้องต้น
Basic information

ข้อมูลที่น่าสนใจ
ARRTICLE INTERESTING

ความลับ, โกงเกม
Secrets, Cheat Game

เว็บไซต์:ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
RELATED WEBSITES

ดาวน์โหลดเกม
GAME DOWNLOAD