Devil May Cry HD Collection [By Decibel per Oxide]
Devil May Cry HD Collection
Walkthrough By Decibel per - oxide
Story Timeline By Pooky / Devilexe / Dolen ผู้เขียนหนังสือ เปิดตำนาน เดวิล เมย์ คราย
นานมาแล้วโลกมนุษย์ถูกปกครองโดยปีศาจ มนุษย์ถูกเข่นฆ่าจนไม่สามารถต่อสู้เพื่อให้อยู่รอดได้ จนมีปีศาจแหกคอกที่ฝีมือฉกาจตนหนึ่งชื่อ สปาร์ด้า ได้ลุกขึ้นต่อกรกับราชาปีศาจมุนดัส เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์
จนสามารถเอาชนะมุนดัสลงได้และได้ปิดผนึประตูทางเชื่อมต่อระหว่างโลกปีศาจและโลกมนุษย์ตามที่ต่างๆได้สำเร็จ จนโลกมนุษย์เกิดความสงบสุข ทำให้ผู้คนมากมายเคารพบูชาสปาร์ด้าอย่างที่สุดโดยมีเมืองศูนย์กลางแห่งการบูชาสปาร์ด้าคือ เมือง ฟอร์ทูน่า นั่นเอง.แต่ด้วยความที่สปาร์ด้าเองเขาก็เป็นปีศาจด้วยจึงโดนพลังนี้ดึงตัวกลับไปยังโลกปีศาจและได้หายสาปสูญไป…
สปาร์ด้า ได้มีสัมพันธ์กับ อีวา หญิงสาวที่เป็นมนุษย์โลกก่อนจะหายสาปสูญไป จนมีลูกชายฝาแฝดด้วยกัน 2 คนนามว่า เวอร์จิล และ ดันเต้
หลังจากนั้น ..ราชาปีศาจมุนดัส ก็ได้คืนชีพขึ้นมา มันทำการไล่ล่าทายาทของ สปาร์ด้า ทันที เมื่อลูกชายทั้ง 2 โดนปีศาจเข้าเล่นงาน อีวา ก็ได้เข้าต่อสู้เพื่อปกป้องลูกของเธอจนเสียชีวิตลง จากเหตุการ์ณเลวร้ายนี้ทำให้ครอบครัวของ สปาร์ด้า ได้แตกสลายลง ..
ดันเต้ ลูกคนสุดท้องที่รอดชีวิตจากเหตุการ์ณเลวร้ายมาได้เขานึกแต่ว่าเขาได้สูญเสีย แม่ และ เวอร์จิล พี่ชายของเขาไปแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปจนดันเต้อายุ 18 ปีเขาจึงได้รู้ข่าวว่า จริงๆแล้ว เวอร์จิล พี่ชายฝาแฝดของเขายังมีชีวิตอยู่ และมีแผนที่จะเปิดโลกปีศาจเพื่อจะนำพลังของ สปาร์ด้า ที่ยังหลงเหลืออยู่มาเป็นของตนเอง
……..…เรื่องราวของ Devil may Cry จึงได้เริ่มต้นขึ้น ……….
*** เนื้อเรื่อง Story Timeline ของ Devil May Cry ถ้าเรียงตามลำดับของภาคต่างๆตามเนื้อเรื่องของเกมจะต้องเรียงจาก ภาค 3 – ภาค 1 – ภาค 4 และ ภาค 2 เป็นเหตุการณ์ล่าสุดของเรื่องนะครับ โดยมีเวอร์ชั่นหนังสือการตูนและการ์ตูนอนิเมชั่นอุดตามช่องว่างของเนื้อเรื่องด้วย ***
Devil May Cry 3 Manga (หนังสือ การ์ตูน)
เรื่องราวเมื่อ 1 ปีก่อนเหตุการ์ณในเกม Devil may Cry 3 Dante’s Awakening เนื้อเรื่องกล่าวถึงเรื่องราวต้นเหตุของความขัดแย้งระหว่าง ดันเต้ และ เวอร์จิล ซึ่ง ดันเต้ที่พยายามจะแก้แค้นพวกปีศาจที่ฆ่าแม่ของเขา ส่วน เวอร์จิล ต้องการพลังของ สปาร์ด้า ผู้พ่อโดยการเปิดผนึกเส้นทางระหว่างโลกมนุษย์และปีศาจออก
โดยหนังสือจะแบ่งออกเป็น 2 ภาคคือ Code 1 : Dunte ที่กล่าวถึง ดันเต้ ที่เริ่มเรียนรู้ที่จะกลายร่างเป็นปีศาจเพื่อปกป้องผู้คน และ Code 2 : Vergil เวอร์จิลก็เรียนรู้วิธีที่จะทำลายผนึกเปิดโลกแห่งปีศาจซึ่งต้องใช้สร้อยคอของ สปาร์ด้า ที่แยกเป็น 2 ชิ้นห้อยคอลูกทั้ง 2 ของเขาเพื่อใช้เป็นกุญแจเปิดประตูโลกปีศาจ
เวอร์จิล สามารถใช้กลลวงเอาเครื่องรางส่วนของ ดันเต้ มาได้สำเร็จ… ทำให้ทั้ง 2 พี่น้องต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้พบกันนาน แต่เส้นทางของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันจนต้องเข้าห่ำหั่นกันอย่างดุเดือด การต่อสู้จบลงด้วยความสูสีกัน แต่ด้วยความโอหัง เวอร์จิล โยนเครื่องรางคืนให้กับ ดันเต้ ผู้น้อง และพูดอย่างเยาะเย้ยว่า ” ฉันมาเอามันได้ทุกเมื่อ “ ก่อนทั้งคู่จะจากกันไปอีกครั้ง….. ในขณะที่แผนการขั้นสุดท้ายของการเรียกหอคอยแห่งความกลัว temen – ni – gru เพื่อเปิดทางเชื่อมต่อไปยังโลกปีศาจของเวรอ์จิลก็ใกล้สุดสุดการรอคอยแล้ว…
Devil may Cry 3 Dante’s Awakening / PS2 / 23 Feb 2006
1 ปีต่อมา ดันเต้ในวัย 19 ปี เวอร์จิลร่วมมือกับอาร์คัมวางแผนที่จะชิงเครื่องรางมาจากดันเต้อีกครั้ง ดันเต้จึงต้องเข้ามาขัดขวางแผนการร้ายที่จะนำควาววุ่นวายมาสู่โลกมนุษย์ของ เวอร์จิล พี่ชายเขาอีกครั้ง
คุณเคยได้ยินไหม ตำนานของสปาร์ด้า เมื่อฉันยังเป็นเด็ก พ่อได้เล่าเรื่องราวของ สปาร์ด้า ให้ฟัง ว่านานมาแล้วปีศาจตนหนึ่งได้ก่อกฎบต่อพวกเดียวกัน เพื่อปกป้องมวลมนุษย์….
ด้วยดาบของเขา เขาได้ทำการปิดประตูแห่งโลกปีศาจปีศาจและปิดผนึกพวกปีศาจเอาไว้จากพวกมนุษย์ แต่ด้วยความที่เขาเป็นปีศาจ เขาจึงถูกตรึงเอาไว้ในโลกปีศาจด้วยเช่นกัน
ฉันไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลย คิดว่ามันเป็นแค่นิยายสำหรับเด็กเท่านั้น จนฉันเริ่มค้นพบว่าตำนานเหล่านั้นไม่ใช้เรื่องเล่าอีกต่อไป.. สปารด้านั้นมีตัวตนจริง ฉันรู้เพราะอะไรนั่นหรือ เพราะฉันได้เจอกับบุตรของสปาร์ด้าทั้ง 2 คน แม้จะสายเลือดเดียวกันแต่ทั้งคู่ก็เข้าจ่อสู้กันเหมือนศัตรูคู่อาฆาต
มันดูเหมือนเขาทั้ง 2 คนได้กระตุ้นความพอใจที่บิดเบี้ยวจากการต่อสู้ฉันท์พี่น้อง แต่ท้ายที่สุดก็จะเหลือเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะยืนหยัดอยู่ได้ ..
บทสรุป - Devil may Cry 3 Dante’s Awakening
ที่ห้องสมุดเก่าแก่แห่งนึงในขณะที่เวอร์จิลกำลังกังวลอยู่กับสิ่งที่เขากำลังค้นหา บางสิ่งที่ทรงพลังพอที่จะเปิดประตูมิติเพื่ออัญเชิญพลังที่ยิ่งใหญ่ของสปาร์ด้าราชาปีศาจผู้พ่อเพื่อหวังจะใช้มัน ชายหัวโล้นหน้าบากนามว่า อาร์คัม ที่คอยติดสอยห้อยตามเวอร์จิลมาตลอดก็แนะนำว่า ตามตำนานอำนาจยิ่งใหญ่นั้นอยู่กับลูกแฝดทั้ง 2 คนของสปารด้า สร้อยผลึกที่ได้จากผู้เป็นแม่ต่างหากคือสิ่งที่เวอร์จิลจำเป็นต้องได้มันมา อันนึงอยู่กับคอของเขาแล้วส่วนอีกอันอยู่กับน้องชายฝาแฝดนาม ดันเต้ นั่นมากพอที่เวอร์จิลพอจะหันมาสนใจผู้ชายประหลาดคนนี้แต่ก็จำเป็นต้องแชร์ข้อมูลทุกอย่างที่มีเกี่ยวกับสปาร์ด้าให้มันรู้ด้วย
ก่อนที่เวอร์จิล และ อาร์คั่ม จะเดินทางมาจนถึงหน้าหอคอย temen – ni – gru เพื่อทำพิธีตามคำพูดของ อาร์คั่ม ซึ่งมันจะให้เวอรจิลเตรียมการณ์อยู่ที่นี่ส่วน อาร์คัม จะขออาสาไปจัดการทวงสร้อยคอคืนมาจากดันเต้น้องชายฝาแฝดด้วยตัวเอง
Mission 1 : Crezy Party
ดันเต้ กำลังพักผ่อนอยู่ในร้านรับจ้างปราบปีศาจที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ แถมต้องเดินออกจากห้องอาบน้ำด้วยความหงุดหงิดเพราะโทรศัพท์ลูกค้าดังขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มเปิดกิจการเลย ก่อนที่ชายหัวโล้นหน้าแปลกๆจะเดินเข้ามาแล้วก็เริ่มชักชวนให้เขาไปหาพี่ชายที่หายสาบสูญไปนานทันที
Dante -นายก็เป็นลูกค้าอีกคนหรอ..ถ้าจะเข้าห้องน้ำล่ะก็ช่วยตัวเองน๊ะอยู่ด้านหลัง..เชิญ
Arkham - ชื่อของนาย Dante สิน๊ะ..ลูกของสปาร์ด้าใช่มั๊ย
Dante – แล้วนายไปได้ยินเรื่องนี้มาจากไหนล่ะ
Arkham - จากพี่ชายของนายไง เขาให้เอาบัตรเชิญมาให้นายด้วย โปรดรับไว้ด้วย
Dante - บัตรเชิญงั้นหรอ..
-จากนั้นพวก 7 HELLS จะออกมารุมมากมายให้ทดสอบการบังคับเบื้องต้นในเกม จัดการมันให้หมด
Dante - จบแล้วหรอ..พนันได้เลยว่าว่ามันต้องมีอีกแน่ๆ
Mission 2 : The Blood Link
-7 HELLS ตัวสุดท้ายกระเด็นออกมาด้วยกระแทกจากฝ่าเท้าจนกระเด็นออกมาพร้อมกับบานประตูหน้าร้าน เมื่อออกมานอกร้านจะพบพวก 7 HELLS มากมายที่รออยู่อีกมากมาย
Dante - ไอ้บ้าเอ๊ย..พวกแกเล่นร้านชั้นพัง ตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลยด้วยซ้ำ พวกแกคงต้องรบผิดชอบในสิ่งที่พวกแกทำ….หวังว่าก็มีพอจ่ายไหวน๊ะ…
- จัดการพวก 7 HELLS ที่ออกมาเรื่อยๆจนหมดแล้วพบ Boss Hell Vanguard
เมื่อจัดการมันได้จนหมดดันเต้ก็จะพบว่ามีแรงสั่นสะเทือนเพราะหอคอยขนาดใหญ่กำลังโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน สายตาของพี่ชายที่ห่างไปนานบนยอดหอคอยที่มองมาที่ตัวเขาจากระยะทางไกล สำหรับเขานี่ช่างเป็นการ์ดเชิญที่ยอดเยี่ยมขนาดที่จะทนรอที่จะไปตามคำเชิญไม่ได้อีกแล้ว
Dante - เฮ้อ..เกือบปีแล้วสินีะที่เราพบกันครั้งสุดท้าย เวลาแบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่านายคงเตรียมแผนสนุกๆไว้ให้ชั้นแล้วใช่มั๊ย…Vergil
Mission 3 : The Devil Tower
หน้าหอคอย temen – ni – gru
Vergil - อาร์คแฮม
Arkham – ครับนายท่าน..ดูท่านไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไหร่เลยนี่ครับ..The temen – ni – gru จะพื้นคืนชีพแล้วความยิ่งใหญ่สิ่งที่ครั้งนึงเคยปกครองโลกนี้ ซึ่งเป็นที่เชื่อมต่อกันทั้งดลกมนุษย์และโลกปีศาจ..ในช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่นั่นเวลาที่ผู้คนที่นับถือและยกย่องปีศาจมันเสริมสร้างศรัทธาอันแสนมีเกียรติ หลังจาก 2 พันปีที่มันถูกปิดกั้นมันจะเป้นครั้งสุดท้ายที่จะทำให้เรื่องนี้สำเร็จตามที่มุ่งหมายเอาไว้
Vergil - เรื่องนั้นเป็นธุระของข้า.. ของสิ่งนั้น เจ้านั่นยังเก็บมันเอาไว้หรือเปล่า
Arkham - ครับ..เขายังรักษามันไว้อย่างดี
Vergil - มันคือทั้งหมดที่แม่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า แต่เจ้านั่นไม่รู้พลังที่แท้จริงของมัน
ที่ 66 Slum Avanue กับการมาถึงของสาวน้อยกับมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ที่ตั้งใจจะมาหาอะไรบางอย่าง
-ดันเต้เริ่มลุยจาก 66 Slum Avanue กำจัดศัตรูลุยไปข้างหน้าให้หมดแล้วเข้าประตูบาร์ไป ในบาร์ Bulleye ฟันตู้สล๊อตแล้วฟันตราเวทจนไฟติดหมด เก็บปืน Shotgun แล้วออกประตูไปใน Love Planet disco กำจัดศัตรูให้หมดแล้วออกไปตูไปถนน 13th Avenue แล้วเดินเข้าสู่หอคอย Ice Guardian’s Chamber
Cerberrus - เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่นี่ พวกที่ไม่มีพลังอำนาจไม่อาจเข้ามาได้
Dante - ว๊าว..หมาพูดได้แฮะ..น่าเอาโชว์งานวัดดีกว่ามั๊ง
Cerberrus – แกมันก้มนุษย์ที่อ่อนแอกล้าดียังไงมาล้อเลียนข้า
Dante - เฮ้..เย็นไว้จะว่าไงถ้าจะพาแกไปเดินเล่นซะหน่อย
Cerberrus –แกต้องเสียใจที่หลังที่แกทำแบบนี้แน่
Dante – โชว์หน่อยหมาน้อย !!
-จัดการ Boss Cerberrus
Cerberrus – แก…ไม่ใช่มนุษย์นี่
Dante – ใครจะไปรู้ล่ะ…ชั้นก็ไม่แน่ใจตัวเองอยู่เหมือนกัน
Cerberrus – ยังไงก็เถอะ..แกได้พิสูจน์แล้วจงรับเอาจิตวิญญาณของข้าไปมันจะคุ้มครองเจ้า จะได้อาวุธ cerberrus มา
Dante – ของหมูๆ
จากนั้นผู้หญิงผมสั้น ตาสองสี หน้าตาเคร่งเครียดก็ขับมอเตอร์ไซด์คันโตทะลุกำแพงเข้ามา ไม่พูดไม่จาที่จะยิงใส่ดันเต้เพื่อให้พ้นทางก่อนจะรีบขี่รถพุ่งออกจากหน้าต่างหายไป
Mission 4 : The Unwanted One
Vergil – ดูเหมือนเราจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญน๊ะ
Arkham - อย่างงั้นหรอท่าน
Vergil - ใช่..มนุษย์ ผู้หญิงด้วย
Arkham – ข้าเกรงว่าเราจะต้องปล่อยแขกที่ไม่ไดรับเชิญไปน่ะสิ
Vergil – นี่เจ้าต้องการพูดอะไรกันแน่
Arkham - ข้าว่าข้ารู้น๊ะว่าเธอมาเพื่ออะไร..พายุเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว
-ดันเต้เข้ามาถึงที่ Chamber of Echors ขึ้นชั้น 2 ผ่านห้อง Living Staue room เข้าห้องลิฟท์ Silence Statuary ขึ้นมาชั้นบนในห้อง Incandescent Space กำจัดศัตรูแล้วออกประตุเขียวไป แล้วเดินไปเข้าประตูเหลืองเข้าห้อง Endless infernum แล้วเดินขึ้นบันไดแต่จะพังลงมาจะตกลงด้านล่างสู่ Chamber of sin กำจัดศัตรูให้หมดแล้วกลับขึ้ยด้านบนเข้าประตูใหญ่ไปในห้อง Giantwalker Chamber พบ Boss ตะขาบยักษ์ Gigapede
- จากนั้นเข้าประตูไปเก็บไอเทม Astronomical Board มา จะพบกับตัวตลกลึกลับที่ชื่อ Jester
Jester - ยู้ฮู..อย่ารุนแรงแบบนี้สิ..เจ้าปีศาจน้อยหอคอยนี้มันแข็งแกร่งนา..วิธีเจ้าไม่ดีเลย
Dante - เงียบซะ..ไม่งั้นชั้นจะเจาะรูที่จมูกโตๆของแกเพิ่มให้
Jester - เจ้าแค่ฟังข้าพูดก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนี่ ข้ารู้อะไรเกี่ยวกับหอคอยนี้เยอะน๊ะ ที่นี่คือ การสร้างพลังอันสมบรูณแบบเพื่อที่จะเปิดประตูนี่ แต่เจ้าต้องรุ้อะไรเล็กๆน้อยๆซะก่อน
Dante – เข้าเรื่องซะที่ลีลาอยู่ได้
Jester - อันที่จริงข้าชอบดาบมากกว่านะ เต้นกับข้าซักเพลงมั๊ยล่ะ
Dante – Bingo
Jester - อา..จำไว้เจ้าหนู ถ้าไม่มั่นใจหัวเจ้าว่าจะจำได้ก็หัดจดใส่มือเอาไว้บ้างน๊ะ
Dante - เออ..ขอบใจ ยังไงก็เถอะแกเล่นเอาชั้นหมดสนุกไปเลยน๊ะเนี้ย
Mission 5 : Of devil and Swords
-ที่ห้อง Giantwalker Chamber กำจัดศัตรูให้หมดแล้วออกทางประตูแดงด้านบนจะออกมาด้านนอกโดดขึ้นชั้นบนไปใช้ไอเทม Astronomical Board กับแท่นได้ไอเทม Vajma มา เข้าประตูสีฟ้าไปห้อง Living Staue room ใช้ไอเทม Vajma ที่คันโยกด้านในเพื่อเปิดลูกกรงจะได้ไอเทม Soul of Steel มา จากนั้นกลับไปเข้าประตูเหลืองที่บันไดเคยพังลงไปด้านล่าง จะสามารถเดินขึ้นบันไดที่ขาดไปแล้วได้ใช้ไอเทม Soul of Steel เพื่อเปิดประตูมาลงบันไดไปด้านล่างในห้องลิฟท์ Surge of Fortunas ฟันตราเพื่อให้ลิฟท์ขึ้นด้านบนกำจัดศัตรูให้หมดโดยเร็วก่อนน้ำหนักจะเกิน ขึ้นมาที่ส่วน Central Temen – ni – gru เข้าห้อง
Firetorm Chamber
Agni - ดูสิ..พี่ชายนานแล้วที่เราไม่ได้มีแขกมาหาอ่ะ
Rudra - ใช่..ข้าเห็นด้วย
Agni - เรามาสร้างความบันเทิงให้แขกของเรากันเถอะ
Rudra – ก็เราเป็นเจ้าบ้านนี่น๊ะ
Agni – แล้วจะตอนรับยังไงดีล่ะ
Rudra - ไม่รู้สิ..แต่เราต้องทำอะไรซักอย่าง
Agni – ข้าว่าแขกของเราต้องการ …
Rudra - ต้องการอะไร ?
Agni - ต้องการ….
dante - เฮ้ย !! …พอได้แล้ว พวกแกพูดมากแบบนี้มานานหรือยังฟ่ะ แขกคนนี้ต้องการจะผ่านประตูนี้ไปเว้ย..
Agni & Rudra - เรามีหน้าที่รักษาประตู คงตามใจแขกไม่ได้แล้ว …….
- พบ Boss Agni & Rudra
Agni – ช้าก่อน
Rudra - ใช่..หยุดก่อน
Agni – พวกเรารอคอยมานานแล้ว
Rudra – ใช่.. นานแล้ว
Agni – รอคอยใครบางคนที่แข้งแกร่งกว่าเรา
Rudra – และควบคุมเราได้
Agni - ข้าชื่อ Agni
Rudra - ส่วนข้า Rudra
Agni & Rudra - โปรดนำข้าทั้ง 2 ไปด้วยเถอะเพื่อจะช่วยอะไรท่านได้บ้าง
Dante - อืมม..ได้สิ..แต่มีข้อแม้น๊ะ..เจ้าทั้ง 2 ต้องไม่พูด เข้าใจ๋
Agni & Rudra - ย่อมได้ ถ้าท่านต้องการ น่าประทับใจจริงๆ แจ๋วจริงๆ
Dante – ห้ามพูดไง !!!!
Agni & Rudra - …………….
[หลังจากชนะแล้วจะได้อาวุธ ดาบคู่ Agni & Rudra มา]
Mission 6 : Family Ties
- ที่ Mute Goodess Chamber ด้านในจะเป็นห้องทดสอบ Chamber of 3 Trials เข้าทดสอบที่ล่ะห้อง ที่Triat of Warrior กำจัดศัตรูให้หมด ได้ไอเทม Essence of Figthing ที่ห้อง Triat of Skill หลบกับดัก ได้ไอเทม Essence of Teahnigue มา ที่ห้อง Triat of Wissdom ห้องวงกต เข้า บน , ล่าง , ซ้าย ได้ไอเทม Essence of Intelligence จากนั้นนำทั้ง 3 มาใส่ที่ปืนใหญ่ด้านนอกเพื่อยิงหินที่ปิดประตูเพื่อเข้าห้อง Dark corridor ต่อ
- จากนั้นกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ Arkham ออกมาต้อนรับ LADY
Arkham – เจ้า…ดู แข็งแกร่งขึ้นน๊ะ
LADY – ไปลงนรกซะ
Arkham - นี่เจ้ากล้าเล็งปืนมาที่ข้าหรอ ข้าเป็นพ่อของเจ้าน๊ะ
LADY – ครอบครัวชั้นมีแค่แม่คนเดียวเท่านั้น และเธอก็ตายไปแล้ว
Arkham - เจ้า..ทำให้ข้าผิดหวัง แต่ยังไงเจ้าก็เป็นลูกสาวข้าอยู่ดี..แมรี่…
Mission 7 : A Chance Meeting
ในขณะที่ Dante มาถึงด้านบนหอคอยก็แวะออกมาส่วนนอกของหอคอยที่ฝันกำลังก็จะพบ LADY ตกลงมาด้วย
Dante -โอ๊วว…นี่มันฝนแบบไหนกันเนี้ยย….
LADY - นี่…ปล่อยชั้นน๊ะ
Dante- ปล่อยหรอ ถ้าปล่อยเธอก็ร่วงไปอ่ะดิ ชั้นไม่อยากทำบาปน๊ะ (LADY ยิงสวนเข้าหัวไปนัดนึง) อ๊าคค..นี่เธอทำบ้าอะไรเนี้ย..ชั้นช่วยชีวิตเธอน๊ะแต่เธอตอบแทนชั้นโดยเจาะรูที่หน้าผากชั้นเนี้ยน๊ะ ก็ตามใจล่ะกัน
LADY – นี่เจ้าก็เป็นปีศาจเหมือนกันหรอเนี้ย
Dante - เฮ้อ..ผู้หญิงนี่เข้าใจยากฉิบ..เริ่มคิดได้ว่าเราไม่มีโชคเรื่องผู้หญิงเอาซะเลยเรา
-ที่ Dark corridor เข้าประตูสู่ Heavenrise Chamber หอคอยแท่นกระโดด ลงมาด้านล่างสุดก่อนเข้าห้องสมุด Divine library ทำลายรูปั้นเก็บไอเทม Orihalcon Fragment มาจากนั้นโดดไปด้านบนสุดบนชั้น Pitch – Black Void ผ่านประตูหัวกระโหลกไปทางซ้ายก่อน เข้าห้อง Tranqoill Soul Room กำจัดศัตรูไดไอเทม Siren Spire เข้าห้อง Life room ใช้ไอเทม Orihalcon Fragment เปิดประตูลิฟท์แล้วลงลิฟท์ไปด้านล่าง ซึ่งจะกลับลงมาชั้นล่างตรงทางเข้าตอนแรก ไปที่ประตูที่มีไฟลุกอยู่ใช้ไอเทม Siren Spire ดับไฟแล้วเข้าด้านในห้อง Cursed Skull ฟันตราแล้วทำลายลูกตุ้มจะได้ไอเทม Crystal Skull มาขึ้นลิฟท์กลับไปด้านบนแล้วไปที่ประตูกระโหลกใช้ไอเทม Crystal Skull เปิดเข้าไปส่วน Moonlight Mile ขึ้นไปด้านบนดาดฟ้าของหอคอยจะพบกับ Virgil รออยู่
Virgil – นายทำได้ไม่เลวนี่
Dante - เฮ้ …พี่ชาย ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้วหรอ เลี้ยงน้องทั้งทีอาหารเครื่องดื่มก็ไม่มีที่สำคัญสาวๆก็ไม่เชิญมา
Virgil - อันนี้ก็ต้องขอโทษด้วย ก็มัวแต่เฝ้ารอการมาของนายอยู่น่ะสิ
Dante - จากที่เจอกันคราวที่แล้วมันก็ไม่นานเลยน๊ะ พบกันคราวนี้ของน้องจุ๊บซะทีได้มั๊ย อืมม..แต่ชั้นว่าจูบไอ้นี่ไปแล้วกัน แบบนี้น่ะหรอเรียกว่าการเลี้ยงรวมญาติ
Virgil – งั้นมั๊ง
- พบ Boss Virgil
Virgil - ทำไม..ทำไมนายถึงไม่ใช้พลังนั่น พลังที่ท่านพ่อมอบให้
Dante - พ่อ..งั้นหรอ ชั้นไม่มีพ่อ มันก็แค่ .... ชั้นไม่เหมือนนาย
Virgil - เจ้าโง่ ถ้าปราศจากพลัง นายก็จะไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลยจนเหลือแค่ตัวคนเดียว หรือ นายอยากให้จบอย่างนั้น
Arkham - ใช่แล้วครับ…เท่านี้ก็จะคลายสะกดของสปาร์ด้าได้แล้ว
Virgil - อืมม..ชั้นเห็นปีศาจในตัวมันแล้ว..มันกำลังจะตื่นขึ้น ข้าต้องจัดการมันซะ
Arkham - ช้าก่อนครับ ข้าว่าเราคงต้องรีบกันแล้ว นี่ก็ใกล้เวลามากแล้วครับ ไปกันก่อนดีกว่า ..
หลังจากเวอร์จิลไปแล้วพลังในตัวของดันเต้ที่ผ่านความเจ็บปวดทรมานจากบาดแผลก็พยายามจะรักษาตัวเองจนระเบิดพลังปีศาจในตัวของดันเต้ให้ตื่นขึ้นมา ร่างปีศาจมรดกจากสปาร์ด้าที่ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก ก่อนที่ดันเต้จะห้าวใช้พลังใหม่เพื่อโดดลลงจากหอคอยไปพร้อมๆกับจัดการพวกนักปีศาจที่ขวางทางจนลืมเห็นไปว่ามี Leviathan วาฬปีศาจขนาดใหญ่เวียนว่ายอากาศอยู่รอบๆหอคอยจะเข้ามางับกลืนกินดันเต้เข้าไปทั้งตัว
Mission 8 : Renewed Fear
- ในท้องเจ้า Leviathan ในส่วน Stomach ทำลายสลักประตู 5 อันเพื่อเข้าประตูที่อยู่บนหลังคารถไป จากนั้นวิ่งผ่านส่วน intestines จนผ่าห้อง Heartcore ไปก่อน ผ่านส่วน intesines อีกด้านเข้าส่วน Rrting กำจัดศัตรูให้หมด ได้ไอเทม Ignis Fatmus แล้วย้อนกลับมาที่ห้องหัวใจ Heartcore เอาไอเทม Ignis Fatmus ใส่ไปที่แท่นพบ Boss Heart of Leviathan
Arkham - ในอดีตผู้คนต่างหวาดกลัวหอคอย Temen ni gru แห่งนี้ มันถูกสร้างมาจากความกลัวของมนุษย์
Virgil - ความกลัวหรอ
Arkham - ใช่..ความกลัว..หรือท่านไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย ผู้คนต่างมารวมตัวกันเพื่อทำลายหอคอยแห่งนี้ ความปราถนาของท่านจะสัมฤทธิ์ผล เหล่าปีศาจกำลังจะกลับมาครองโลกอีกครั้ง และท่านจะได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากสปาร์ด้า
Virgil - มีอะไรหรอ
Arkham - เปล่า…ไม่มีอะไรครับ
Mission 9 : Faded Memories
Dante ออกมาจากเจ้า Leviathan ได้และพบกับ LADY อีกครั้ง
Dante - นี่ล่ะมั๊ง..สเตทต่อไป
LADY – เดี๋ยวก่อน
Dante - มีอะไรจ๊ะ จะชวนออกเดทหรอ..ไม่ละชั้นไม่เดทกับคนที่ทำให้หัวชั้นเป็นรูหรอกน๊ะ
LADY - เดทกับปีศาจอย่างนายเนี้ยน๊ะ ชั้นไม่สิ้นคิดขนาดนั้นหรอก ตัวก็ยังจะเหม็นอีก
Dante – อืมม ก็จริง .. ว่าแต่เธอน่ะชื่ออะไรหรอ
LADY – ชั้นว่าอย่ารู้เลยดีกว่า
Dante - อ้าว.แล้วจะให้เรียกอะไรล่ะ เผื่อเจอกันอีก
LADY - จะเรียกอะไรก็ตามใจนายเถอะ ชั้นไม่สนอยู่แล้ว
Dante - คงไม่ม่าน๊ะถ้าจะเรียกว่า คุณผู้หญิง (LADY) ผมคงต้องขอตัวก่อนละเดี๋ยวไม่ทันงานเลี้ยง
LADY - เชิญ…ชั้นไม่ได้ห้ามนี่
- ที่สะพาน Rotating Brige เข้าไปตามทางจนถึงห้อง Subterran Garden ผ่านห้องกับดักจนถึงถ้ำน้ำตก Subteranean Lake เข้าประตูทางขวาผ่านห้องกับดักเก็บไอเทม Ambrosia แล้วเข้าถ้ำน้ำตกใช้ไอเทม Ambrosia กับแท่นด้านในเปิดประตูเข้าไปใน Sunken Opera House พบ Nevan
Nevan - ขอต้อนรับค่ะท่าน นี่เป็นครั้งแรกสิค่ะ
Dante – งั้นมั๊ง
Nevan - ท่านนี่น่ารักจริงๆ
Dante - แน่นอน..ใครๆก็ว่างั้นน๊ะ
Nevan – ชักชอบจนไม่อยากให้ไปแล้วสิ
Dante - โอ้..ไม่ใช่อย่างว่าน๊ะ..แบบนี้ต่างหากที่จะทำกัน
Nevan - แหม..ท่านนี่ไม่โรแมนติคเลยน๊ะ…..
-พบ Boss Nevan
Nevan - อ้า..หวานใจของข้า
Dante - นี่..นี่ คิดอะไรของเธอเนี้ย
Nevan - ตกลงชั้นจะช่วยท่าน แต่พ่อท่านเนี้ยเป็นปีศาจที่หล่อที่สุดเลยน๊ะ ทำไมท่านไม่เอาอย่างพ่อท่านน๊า..
Mission 10 : The Job
Arkham - ในไม่ช้านี้จะเกิดปราฎกการณ์ Lair of Judgment และหอคอยที่สมบรูณ์จะนำโลกปีศาจกลับมา มีแต่ท่านเท่านั้นทีจะปลดผนึกมันได้ บุตรแห่งสปาร์ด้า
Virgil - ข้ารู้สึกว่าผู้หญิงนั่นยังตามเราอยู่น๊ะ
Arkham -นี่ท่าน สงสัยข้าหรอ
Virgil - ทำไมไม่กับจัดเธอซะ หรือทำใจลำบากที่จะฆ่าลูกสาวตัวเอง !!!
Arkham - ท่านไม่ไว้ใจข้าหรอ
Virgil - ทำไมถึงทำไม่ได้ ขนาดเพื่อพลังของปีศาจเจ้ายังฆ่าเมียเจ้าได้เลยนี่ ตอนนี้เจ้าไม่มีประโยชน์กับข้าแล้ว
Arkham – แล้วท่านจะทำเองได้รึไง
Virgil - หุบปาก !! …ข้าไม่ต้องการเจ้าแล้ว
-จากห้องของ Nevan เก็บไอเทม Stone Mask นำไปใส่ที่รูปปั้นตรงหน้าทางเข้าถ้ำน้ำตกได้ไอเทม Neo – Generator กลับมาที่สะพาน Rotating Bridge ใช้ไอเทม Neo – Generator ใส่เปลี่ยนทางสะพาน ในขณะที่ LADY เข้ามาเจอ Dante กับศพของ Arkham พอดี
Dante - เร็วเหมือนกันนี่เธอ
LADY - นี่…ฝีมือนายหรอ
Dante - ถ้าใช่แล้วไง..แล้วถ้าไม่ใช่แล้วไง..แหมชั้นชอบผู้หญิงที่คล่องแคล่วจริงๆเลย
LADY – หุบปาก
Dante – ไม่ต้องไปกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดเลยน่า
LADY – ถึงชายคนนี้จะเป็นคนเลวฆ่าเมียตัวเองและขายวิญญาณให้ปีศาจแต่ยังไงเขาก็ไปพ่อชั้น
Dante - งั้น..ครอบครัวชั้นก็ผิดปกติอ่ะดิ
LADY - นายเป็นปีศาจจะรู้อะไรเรื่องครอบครัว นี่พ่อของชั้นชั้นต้องจบทุกอย่างเองถึงจะถูก
Dante – ก็ยิงซะซี่
LADY - ไปซะ..ชั้นไม่สนอะไรแล้ว
Dante - ครอบครัวเหรอ …เฮอะ !!
Mission 11 : Revenge
Arkham - นี่ที่ไหน..ทำไมมืดอย่างนี้
LADY – นี่แกยังไม่ตายอีกหรอ
Arkham - แม่รี่..นั่นลูกหรอ เกิดอะไรขึ้นแล้วแม่เจ้าล่ะ
LADY - แม่ชั้น…แกเป็นคนฆ่าไปลืมแล้วหรอ !!!
Arkham - ใช่สิน๊ะ..ชั้นเป็นฆ่านางเอง
LADY - สิ่งที่แกทำมันเลวที่สุด อภัยให้ไม่ได้ แล้วแกก็ไม่สามารถชักนำชั้นสู่ด้านมืดได้หรอก
Arkham - คนที่ลงมือคือ Vergil
LADY - Vergil ??
Arkham - มันพยายามจะเปิดประตูโลกปีศาจที่พ่อมันเคยผนึกไว้อีกครั้ง เจ้าต้องหยุดมัน…
LADY - ชั้นน่ะหรอ…
Arkham - แม่รี่..ลูกช่างเหมือนแม่เจ้านัก
LADY - พ่อ..!!!
- ดันเต้เข้ามาถึงที่สะพาน Rotating Bridge เข้าห้อง Gears of Madness ผ่านห้องฟันเฟืองจนถึงห้อง Altar of Evil ดันหิน 2 ก้อนเข้าผนังประตูจะเปิดออก ขึ้นรถรางไปที่ Torture Chamber พบ Beo Wulf
Beo Wulf - สปาร์ด้าาาา…!!!!!!!
Dante - อืมม..มารยาทแกแย่จริงๆ แม่แกไม่สอนให้เคาะประตูหรอไง
Beo Wulf - กลิ่นนี้คุ้นๆ เหมือนเคยได้กลิ่นมาก่อน
Dante - เฮ้ย..นี่มันน้ำหอมรุ่นใหม่เชียวน๊ะ
Beo Wulf - ข้าน่ะ เคยแพ้สปาร์ด้า พ่อของแกและสาบานว่าจะแก้แค้นกับสายเลือดของมัน
Dante - เอ..ชั้นเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากไหนน๊าา..นึกไม่ออก
-พบ Boss Beo Wulf
Beo Wulf - จำไว้..!! ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นสายเลือดของสปาร์ด้าจะต้องชดใช้ในไม่ช้า
Dante - แล้วทำไมชั้นต้องมารับรู้ในสิ่งที่ไม่ได้ทำด้วยฟ่ะเนี้ยย…
Mission 12 : Hunter and Hanted
-หลังจากฟังเจ้า Jaster พล่ามสุดไร้สาระแก่นสารจบ ดันเต้ก็ผ่านเข้ามาถึงที่ Torture Chamber ได้ไอเทม Hayvire Neo – Generator (พลังชีวิตจะลดลงเรื่อยๆ) วิ่งกลับไปที่สะพาน Rotating Bridge ใช้ไอเทม Hayvire Neo – Generator เปลี่ยนทางสะพานอีกครั้ง จะมาออกที่ Forbiden Land เข้ามที่ Undergrund Arena พบ Boss Geryon
-ทางด้าน Vergil ที่ตามมาที่หลังก็พบกับเจ้า Beo Wulf เข้า
Beo Wulf - เจออีกแล้วน๊ะผลผลิตของสปาร์ด้า ข้าจำกลิ่นเน่าๆของเจ้าได้ นี่แกไม่ใช้คนเมื่อกี้นี่
Vergil - แฝด เว้ยยย !!!
จากนั้นเวอร์จิลจะใช้ผลึกจากสร้อยทั้ง 2 เส้นและเลือดของเขาในการเปิดประตูมิติที่พ่อของเขาสปาร์ด้าได้ผนึกมันเอาไว้ทันที แต่ดูเหมือนมันจะขาดอะไรไปบางอย่างจึงทำให้พิธีไม่สัมฤทธิผล ซึ่งบางอย่างที่ขาดไปก็คือเลือดจากกายของแฝดผู้น้อง ดันเต้ นั่นเอง
Mission 13 : Chaos Warm Wellcome
-เข้ามาที่ Effervescence Corridor ลงบันไดมาตามทางถึงห้อง Vistibule แก้ปริศนากระจก จะได้ไอเทม Orihalcan นำไอเทมไปใช้กับประตูใหญ่ด้านใน Obsidian Path จะพบกับ Vergil อีกครั้ง
Vergil - ทำไมถึงไม่ได้ผลหรือว่ามีอะไรผิดไป
Dante - เป็นไรไปพี่ชาย ดูท่าอารมณ์บ่จอยน๊ะ
Vergil - ดันเต้..!!!
Dante – ถ้าใช้ไม่ได้ก็ขอคืนน๊ะ
Vergil - ยังไงเราก็สายเลือดเดียวกัน ทำไมไม่ร่วมมือกันซะ
Dante - ขอบคุณที่ชวน ไม่ล่ะ..ชั้นมีทางของชั้นเอง
Vergil - แน่ใจแล้วหรอ ที่จะขวางทางชั้น
Dante - แน่นอน..เฮ้อ..ทำไมต้องเกิดมาเป็นพี่น้องกับนายด้วยน๊ะ มาเริ่มกันได้แล้ว
Vergil - ชั้นว่าคงต้องเอาจริงกับนายซะที และจะใช้ตัวแกปลดผนึกพลังของพ่อด้วย
Dante ถ้าคิดว่าจะทำได้อย่างที่พูดล่ะก็นะ..เข้ามาซะทีรอนานแล้ว..!!!
-พบ Boss Vergil (ครั้งที่ 2 ) หลังจากที่ชนะแล้ว เลดี้จะเดินเข้ามา
Dante - เฮ้..นี่ไม่ใช่ที่เดินเล่นน๊ะจ๊ะน้องสาว
Vergil - เฮ้ย..มาสู้กันต่อเซ่ะ..!!!
LADY - หุบปาก !!!
Vergil - นังเด็กโง่..ไปซะ..!!!
(Jester จะออกมา)
Jester - ยอดเยี่ยม..ยอดเยี่ยม ..ดีมากทุกท่าน จำป๊ะป่าไม่ได้หรอ..แมรี่
Dante - แก..อีกแล้ว
Jester - ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยน้า..แมรี่ เดี๋ยวป๋าตีเลยนี่
Vergil - แกเป็นใคร !! รีบออกไปซะก่อนที่ชั้นจะฆ่าแก
Jester - Zowie…!!! ใกล์ไปมั๊ย..เงียบเถอะน่า ชั้นว่าแกประเมินชั้นผิดไปแล้ว
LADY - นี่มันเกิดอะไรขึ้น !!!!
(Jester กลายร่างเป็น Arkham )
Arkham - แกคงอยากรู้สิว่า ทำไมมีเครื่องราง 2 ชิ้นและเลือดของสปาร์ด้าแล้วยังไม่เกิดผล เพราะยังขาดอีกสิ่งนึงน่ะสิDante - ชั้นเคยบอกแล้วไงว่าอย่ามาให้ชั้นเห็นหน้าอีก..
Arkham - นี่สำหรับแก ปีศาจน้อย นอนซะน๊ะสาวน้อย จะแวะไปเยี่ยมแม่เธอก็ได้น๊ะ สิ่งที่ขาดอีกสิ่งคือ เลือดของสาวพรมจรรย์ ยังไงล่ะ
Arkham - ไม่ต้องกลัวลูกรัก….แม่เธอก็เคยเสียสละแบบนี้มาแล้ว
LADY - ถึงทีชั้นบ้างน๊ะ..!!!
Vergil - หมดเวลาของแกแล้ว Arkham
Dante - จบการแสดงห่วยๆของแกได้แล้ว !!!
Arkham - น่าประทับใจพวกแกมาก แต่แกหยุดชั้นไม่ได้แล้ว ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นแล้ว มาสิ..เชิญ ..ขอตอนรับสู่ หายนะ ..!!! จับตาดูให้ดีกับการกำเนิดใหม่ของพระเจ้า ข้าผู้ได้รับพลังทั้งมวลจากสปาร์ด้าา…!!!!
Mission 14 : Drive
Dante – นี่ยังจะคิดจะไปอีกหรอ
LADY - แน่นอน ชั้นต้องไปจบทุกอย่าง นายน่ะกลับไปวะยังไงชั้นก็ต้องไปอย่ามาห้าม
Dante - จะรับผิดชอบอะไรอีก..ที่ทำมาน่ะมากพอแล้วหยุดเถอะ
LADY - เขาเป็นพ่อชั้นน๊ะ..ปีศาจอย่างนายไม่เข้าใจหรอก..!!
Dante - ถึงยังไงชั้นก็จะตามเธอไป แต่คงต้องรีบหน่อย แค่นี้เธอก็ทำให้ความเชื่อถือในตัวชั้นหายไปเยอะแล้ว
-ที่ Lair of Judgement Ruins เก็บอาวุธ Beo Wulf ตรงที่ Vergil ตกลงไปแล้วเอามาทำลายรูปั้นแล้วเข้าประตูไปขึ้นลิฟท์ไป นั่งรถรางมาที่ ห้องวงกตหาทางออกแล้วมาที่เขต Subgroud Water Vein ถ้ำน้ำตก จะพบจุดวาร์ปๆกลับมาที่ บาร์ Love Planet แล้วออกมาที่ถนน 13th Evenue: After Math ไปหน้าทางเข้าหอคอยจะพบมอเตอร์ไซด์
…Let ‘Drive …!!!
Mission 15 : The gatecrasher
-ที่ Upper Subterran Garden เดินเข้าด้านในฟันตราแล้วกลับเข้าด้านในจะพบตราอีกอันออกมา ฟัน 1 ครั้งแล้วเข้าประตูไปเป็น Gears of Madness – Altar Evil ห้องกับดัก ได้ ไอเทม Orihalcon # 1 มากลับออกมาฟันตราที่ห้อง Gears of Madness แล้วเข้าประตูไปจะมาที่ Rounded Pathway ห้องกับดัก ได้ไอเทม Orihalcon # 2 มากลับออกมาฟันตราที่ห้อง Rounded Pathway แล้วเข้าประตูไปจะมาออกที่ Top Subterria Lake น้ำตก – Rounded ได้ไอเทม Orihalcon # 3 มาจากนั้นกลับมาฟันตราที่ Top Subterria Lake 2 ครั้งแล้วเข้าประตูไปจะกลับมาออกที่ Provision Rtore room เข้าประตุแดงมาที่ Devilsprout Lift ใช้ Orihalcon ทั้ง 3 เพื่อขึ้นลิฟต์ไปที่ Sun & Moon Chamber
Arkham - ในที่สุดข้าก้ทำสำเร็จ ข้าจะพาพวกเจ้ามาใกล์นรก ระฆังแห่งหายนะกำลังจะดังขึ้นหลังจากที่ถูกผนึกมา 2000 ปีและจะนำพาโลกเข้าสู่ความน่ากล้วของหอคอย Temen ni gru กลับมาอีกครั้งและพลังที่ไร้ขีดจำกัดของสปาร์ด้าจะเป็นของข้าคนเดียว…!!!!
Mission 16 : Win or Lose
-หลังจากขึ้นลิฟต์มาที่ Sun & Moon Chamber เข้าประตูแดงออกทางกำแพงร้าวไปส่วน Clamber of sin ทำให้ลูกตุ้ม 2 ลูกให้ชนกันได้ไอเทม Onyx Moon Shard จากนั้นเข้าประฟ้าออกมาที่ Living Statue – Waking Sun Chamber ทำลายลูกตุ้มได้ไอเทม Golden Sun นำไอเทมทั้ง 2 ไปใส่ที่ประตูกระโดดขึ้นด้านบนไปตามทางจนถึงห้องสมุด Divine Library พบ LADY อีกครั้ง
Dante - ไง..หมดแล้วแล้วสิ ชั้นไปต่อให้จบเอง นี่ไม่ใช่เรื่องของมนุษย์จะทำไหว
LADY - นี่ไม่ใช่ธุระของนาย อนาคตของโลกมนุษย์ปีศาจอย่างนายไม่เกี่ยว.!! ชั้นต้องฆ่ามันด้วยตัวเองเท่านี้ก็ทำให้มีแรงไปพอแล้ว นายน่ะไปซะ..!!!
Dante - เฮ้อ..คุณผู้หญิง..จะให้ชั้นกลับไปนั่งเฉยๆคงไม่ดีมั้ง ชั้นก็ต้องจบเรื่องนี้ด้วยตัวเองเหมือนกัน เอาล่ะหลีกทางไม่งั้นเจอดีน๊ะ…
LADY - ก็ดี..ชั้นก็ไม่อยากให้ปีศาจเหลืออยู่แม้แต่ตัวเดียว..!!!
-พบ Boss LADY
Dante – มาชั้นรับช่วงต่อเอง
LADY - ทำไมนายต้องสนใจนัก
Dante - เพราะเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากพ่อและพี่ชายชั้น ดังนั้นชั้นต้องรับผิดชอบเพราะนี่ก็คือครอบครัวของชั้นเหมือนกันLADY - เดี๋ยว ..!!!
Dante – ไว้ใจเถอะน่า
LADY - รับปืนนี่ไป
Dante - ต้องเสียค่าเช่ามั๊ยเนี่ย…
LADY – ไม่หรอก .. แค่บอกชื่อนายมาก็พอ
Dante – ชั้นชื่อ ดันเต้
LADY – ชั้นชื่อ แมรี่ แต่นายเรียก เลดี้ ก็ตามใจนาย ดันเต้ …ช่วยส่งวิญญาณพ่อชั้นให้เป็นอิสระด้วย
Dante - ได้เลยคุณผู้หญิง
- จากนั้นกระโดดขึ้นด้านบนเข้าประตูไป Mission ต่อไปได้เลย
Mission 17 : Inner Demons
ที่ Dark Corridor เดินเข้าห้อง God – Cube Chamber กระโดดขึ้นก้อนสี่เหลี่ยมขึ้นด้านบน เข้าประตูไป Tri – Sealed Antech chamber ผ่านห้องกับดัก Trial of Skill แล้วโดดขึ้นด้านบนชั้น 4 F เข้าประตูหัวกระโหลกไป เดินไปตามทางพบจุดวาร์ปสีดำ
Dopplganger - ข้ารู้ว่าแกมาทำไมที่นี่..แกต้องการอะไรบางอย่าง
Dante - โอ้..ไม่เลวนี่
Dopplganger – ข้าพร้อมจะคุยกับตัวเองแล้ว
Dante -ซะทีเถอะ..เก๊กอยู่ได้
- พบ Boss Dopplganger
Dante - แหม..เกือบไม่มีเงาตัวเองซะแล้ว
-จัดการแล้วจากนั้นเข้าจุดวาร์ปแล้วเดินไปกลางห้องไป Mission ต่อไปได้เลย
Mission 18 : Invading Hell
-ที่ Unsacerd Hellgate เดินไปตามทางเข้าที่วาร์ปพบ Demed Chess Board กำจัดหมากรุกให้หมดแล้ววาร์ปออกมาไปตามทางต่อเข้าทางวาร์ปไปที่ Soul Nirvana ที่นี่ต้องวาร์ปไปสู้บอสที่เคยผ่านมา
สีฟ้า VS Cerberus
สีน้ำเงิน VS Geryon
สีเขียว VS Agni & Rudra
สีแดง VS Heart of Laviathan
สีม่วง VS Nevan
ใส VS Dopplganger
สีขาว VS Beo Wulf
สีเหลืองเข้ม VS 7 Hells and Hell Vanguard
สีเหลืองอ่อน VS Gigaped
- จะสู้แค่ 5 จุดหรือทั้งหมดก็ได้ ทางวาร์ปจะออกมาไป Mission ต่อไปได้
Mission 19 : Forces Collide
-ที่ Room of Fallen one กำจัดศัตรูให้หมด แล้ววาร์ปมาที่ Nirvana of illusions ทำลายกระจกก่อนกำจัดศัตรู แล้ววาร์ปมาที่ infinity Nirvana กำจัดศัตรูให้หมดไดไอเทม Samsara มาแล้วจะวาร์ปกลับมาตรงทางเข้า ให้วาร์ปเข้าไปใหม่จนถึง Nirvana of illusions แล้วใช้ ไอเทม Samsara กับรูปปั้นแล้ววาร์ปไปด้านใน Forbiden Nirvana พบ Arkham
Arkham - ขอต้อนรับ..ไง คิดยังไงกับร่างใหม่ของข้า
Dante - ดูดู แล้วแกไปอยู่ในห้องน้ำจะเหมาะกว่ามั๊ง
Arkham - เดี๋ยวแกจะพูดไม่ออก เมื่อเห็นพลังที่แท้จริงแห่งสปาร์ด้าในตัวข้า
Dante - เฮ้ยย.. พ่อคงไม่บ้าพลังอย่างแกมั๊ง
Arkham - ถึงยังไงชั้นก็ชอบแบบนี้
Dante - เสียเวลาไปนาน..ทำให้มันจบๆไปเถอะ..!!!
Arkham – แล้วแกจะสำนึก ดันเต้
-พบ Boss Arkham หลังจากที่พลังมันลดครึ่งนึงแล้ว Vergil ก็จะเข้ามาช่วยสู้ด้วย
Arkham - แก..ไม่มีทางเอาชนะข้าได้หรอก อ๊าคค..!! อะไรเนี้ยย..!!
Vergil - ข้ากลับมาทวงสิ่งที่ครวเป็นของข้า แกคิดว่าจะคุมพลังไหวหรอ เฮ้..น้องชายแกก็คิดว่าจะจัดการมันคนเดียวได้งั้นหรอ…
Arkham - รู้สึกว่าแก 2 คนจะมั่นใจกันมากน๊ะ
Vergil - แกคุมมันไม่ได้หรอกน่า
Dante - มาต่อให้จบซะที ..รอจนเมื่อยแล้ว…
-จากนั้นก็จัดการ Arkham ร่างปีศาจลงให้ได้
Dante – ชั้นว่าพี่น่าจะลองใช้วิธีชั้นดูบ้างน๊ะ
Vergil - อืมม..น่าลอง
Arkham - ทำไม..ทำไม..ถึงเป็นแบบนี้..!!!!!
Dante - โอ้..ไม่รู้จะพูดอะไรเท่ๆดีแล้ว….แจ็คพ็อต..!!!!
Mission 20 : Screaming Souls
-หลังจากนั้น Arkham จะร่วงลงมาข้างล่างพบกับ LADY พอดี
Arkham - ทำไมถึงเป็นแบบนี้..ชั้นคือพระเจ้า..ไม่มีใครโค่นชั้นได้
LADY - แปลกใจสิน๊ะ ชั้นกำลังรอแกอยู่แล้วแกก็หล่นลงมาหาชั้นเอง
Arkham - แมรี่…….
LADY - อย่าเรียกชั้นแบบนั้น ที่เรียกได้มีแม่แค่คนเดียว
Arkham - อย่า..ได้โปรด นี่เธอจะยิงชั้นหรอ ชั้นเป็นพ่อเธอน๊ะ ผิดหรอที่ชั้นอยากเป็นพระเจ้า…
LADY - ชั้น..ต้อง..จัดการแก..!!!
Arkham - แมรี่…ไม่มมม…!!!!
LADY - แมรี่ตายไปนานแล้ว…กรุณาเรียกชั้นว่า LADY ลาก่อน พ่อ นี่คือการหลั่งน้ำตาครั้งสุดท้ายของชั้น
-กลับมาที่สถานการณ์ระหว่างดันเต้กับเวอร์จิล
Vergil – ส่งมันมาให้ชั้น!
Dante - ไม่อ่ะ..แกก็มีของแกแล้วนี่
Vergil - ชั้นต้องการของแกด้วย ชั้นต้องการพลังนั่น
Dante – นายจะเอาพลังมากมายไปทำไมกัน?
Vergil - แล้วแกไม่อยากเป็นแบบพ่อหรอ?
Dante -เราทั้ง 2 เป็นลูกของสปาร์ด้าน๊ะเลือดของท่านอยู่ในร่างเรา และวิญญาณของท่านก็อยู่กับเรา เราเป็นฝาแฝดกันน๊ะพี่แต่ชั้นจะหยุดนาย แม้ว่าต้องฆ่านายก็ตาม
Vergil - ใช่สิน๊ะ..ฝาแฝด..
- พบ Boss Vergil
Vergil - ชั้นจะฆ่านาย..!!!
Dante - เป็นไรไปพี่ชาย..ลุกขึ้นมาสินายทำได้น่า
Vergil - ดันเต้..ส่งเครื่องรางมาให้ชั้น…!!!
Dante - งั้นเรามาจบเรื่องนี้กันซะทีเถอะ
Vergil - ไม่มีทางทีใครจะได้ไปหรอก มันเป็นของบุตรของสปาร์ด้าปล่อยชั้น..!!! ถ้าแกไม่อยากอยู่กับชั้นที่นี่ชั้นจะไปอยู่ที่บ้านเกิดของท่านพ่อ….
Vergil เฉือนมือดันเต้ด้วยดาบเหมือนจะตัดขาดความเป็นพี่น้องกันที่ตรงนี้ ก่อนที่เขาจะตกลงไปในโลกปีศาจในที่สุด
…..ทางฝ่ายดันเต้ที่รอดชีวิตกลับลงมาพบ Lady ได้อีกครั้ง …..
Dante -ไง..เราตกลงกันว่าไง
LADY -เอาคืนมามันของชั้น แคให้ยืมน๊ะ
Dante – คงไม่คิดค่าเช่าน๊ะ
LADY – ก็อยากอยู่
Dante - ชั้นว่า..พวกมันคงกลับมาอีก ในไม่ช้านี้ด้วย…
LADY - แล้วนายจะไงต่อไป..เอ๊ะ.!! นี่นายร้องไห้หรอ ?
Dante – บ้าน่า ใครบอก ..ฝนมันตกน่ะ
LADY - ฝนหรอ..ไม่เห็นมีเลย
Dante – ปีศาจไม่มีวันหลั่งน้ำตาหรอก
LADY - บางทีน๊ะ..ปีศาจอาจจะหลั่งน้ำตาได้ ถ้าต้องสูญเสียสิง่ที่รักไป
Dante - ใช่….บางทีน๊ะ…
LADY - แต่ชั้นคิดว่าเรามีเรื่องยุ่งอีกแล้วแล้วแหละ
Dante - ชั้นว่าชั้นชอบมันน๊ะ..มันทำให้ชีวิตมีรสชาติดี
Epilogue
Dante - อืมม..พังแล้วซ่อมใหม่แถมเจ๋งกว่าเดิมอีก เฮ้อ..มีอะไรต้องทำอีกเยอะเลย…
LADY -หลังจากที่กำจัดปีศาจตัวสุดท้ายไปจากโลกแล้วก็รู้สึกว่าจะสงบสุขขึ้น และชั้นก็ดีใจที่เขามาช่วยชั้นจัดการปีศาจ ทำไมชั้นไว้ใจเขาน่ะหรอ..เพราะเขาให้สัญญาณกับชั้นไว้ว่า ถ้าเขาเองไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ก็ให้ฆ่าเขาซะ เท่านี้ชั้นก็ไว้ใจเขาแล้ว…อืมม..ว่าแล้วเกือบลืม….
( เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ) LADY - ไงได้ชื่อร้านเจ๋งๆหรือยัง ?
Dante - DEVIL MAY CRY ..!!
ณ. โลกปีศาจที่ Vergil ตกลงมาเขาได้พบกับดวงตาสีแดงขนาดใหญ่ซึ่งแน่นอนมันเป็นจอมปีศาจ มุนดัส Vergil ตรงเข้าไปสู้กับมุนดัสอย่างไม่ลังเลด้วยความมั่นใจในพลังของเขา…. และสุดท้ายก็ถูกมุนดัสฆ่าตายและนำวิญญาณมาใช้ในร่างของขุนพลปีศาจนาม Nero Angero !!
----------------------------------------- THE END ------------------------------------------
Devil may Cry (PS2 / 23 Aug 2001)
ดันเต้ในวัยหนุ่มยังคงใช้ชีวิตที่แสนเรื่อยเปื่อยของเขาด้วยการรับจ้างปราบปีศาจที่หลุดออกมารังแกมนุษย์ในนามของร้าน DEVIL MAY CRY เพื่อแลกกับค่าจ้างที่ได้บ้างไม่ได้บ้างเพียงเพื่อหวังที่จะได้พบกับจอมปีศาจที่สังหารแม่ของเขาอีกครั้ง จนโชคชะตานำพาให้ดันเต้พบกับ Trish สาวลึกลับที่หน้าตาคล้ายแม่ของเขาอย่างมาก ที่ได้เข้ามานำพาเขาเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์พลังที่ยิ่งใหญ่ที่เอาไว้ใช้ปกป้องมนุษย์เหมือนที่พ่อเขาได้เคยทำมา ซึ่งจะนำพาเขาไปสู่การแก้แค้นกับจอมปีศาจในท้ายที่สุด…
บทสรุป - Devil may Cry
สาวปริศนาปรากฏตัวมาจากท้องฟ้าภายใต้การเชิดฉายของพระจันทร์สีเลือดในคืนที่เงียบสงัดของซอยเปลี่ยวหน้าร้านรับปราบปีศาจที่ชื่อ DEVIL MAY CRY
... (เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น) ...
Dante – เดวิล เมย์ คราย ครับ โทษทีร้านปิดแล้ว ! …บ้าฉิบ ไม่มีรหัสอีกแล้ว พวกนี้มันไม่รู้กฎกันเลยรึไงนะ !
… (โครม !! เสียงรถทะลุประตูหน้าเข้ามา)
Dante – โว้ๆๆ ใจเย็นที่รัก ธรรมชาติเรียกร้องหรอ งั้นไปข้างหลังร้านกันมั๊ย
Trish – นายคือมือดีที่รับจ้างทำงานสกปรกที่เขาร่ำลือกันรึเปล่า ชั้นเข้าใจถูกมั๊ย ?
Dante – ก็เกือบนะ เพราะผมรับเฉพาะงานพิเศษ หวังว่าคงเข้าใจนะ
Trish – นายคือ คนที่เสียแม่และพี่ชายไปเมื่อ 20 ปีก่อน ลูกชายของนักรบปีศาจใจตำนาน สปาร์ด้า คุณ ดันเต้
Dante – แหม่ รู้สึกว่าลูกค้าคนนี้คงจะทำการบ้านดีเป็นพิเศษเลยนะ ปกติปากดีอย่างนี้โดนแจ็คพ็อตไปนานแล้ว
Trish – แต่เคสนี้คงยากนะ ชั้นว่า
ก่อนที่ทริชจะจับดาบของดันเต้ขว้างไปแทงเข้ากลางอก ช็อตด้วยพลังไฟฟ้าแล้วตามด้วยทุ่มรถมอไซด์เข้าใส่แบบจัดหนักเพื่อทดสอบความเก่งกาจของลูกชายสปาร์ด้าที่เขาร่ำลือ ก่อนที่ดันเต้จะยิงรถจนระเบิดแล้วดึงดาบออกจากอกหน้าเฉย
Dante – แหม่ ก็เพราะเลือดพ่อในตัวผมมันทำให้คุณฆ่าผมไม่ได้ไง จริงๆคุณก็รู้เรื่องผมเยอะนะแต่มันยังรู้ไม่พอ
Trish – ก็จริงชั้นรู้ไม่หมด แต่ชั้นก็ไม่ได้มาในฐานะศัตรู แต่มาขอให้ช่วย ชั้นชื่อ ทริช อยากให้ช่วยพาไปที่สุดทางนรกหน่อย
Dante – อะไรนะ !
Trish – เมื่อเกือบ 20 ปีก่อนจอมปีศาจ มุมดัส จ้าวแห่งโลกปีศาจมันฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง มันหนีการกักขังที่พ่อของคุณได้เคยขังมันไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อนได้แล้ว และสิ่งแรกที่มันทำค้างเอาไว้และอยากจะทำต่อก็คือนำทัพปีศาจบุกยึดโลกของเรา โดยที่ประตูนรกนั้นถูกซ่อนอยู่ลับๆที่เกาะร้างใกล้ผู้คนที่ชื่อ เกาะ มัลเลย์ และเราต้องหยุดมันก่อนที่มันจะหลุดออกมาบนโลกนี้ได้ ...
เรื่องมุนดัสคืนชีพนั้นไม่ได้ทำให้ดันเต้ตกใจมากไปกว่าการที่เห็นหน้าตาของ Trish ที่เหมือนแม่เขาเป็นอย่างมาก นั่นทำให้เขาตกลงรับงานอย่างไม่ลังเลที่จะเข้าไปจัดการกับเจ้ามุนดัส ทั้ง 2 จึงมุ่งหน้าไปที่ มัลเลย์ ทันที ….
Mission 1 : Curse of The Bloody Pupets
เดินเข้าไปในปราสาทเก็บไอเทมให้หมดเก็บ Orb แดงให้ครบ 45 อันแล้วเข้าประตูไปเดินขึ้นด้านบนเก็บกุญแจในมือหุ่นกำจัดศัตรูลงมาชั้นล่างไขเข้าประตูฟ้าไปฟันตราสัญญาลักษณ์เพื่อลงไปด้านล่างกำจัดศัตรูแล้วขึ้นมากำจัดให้หมดแล้วเข้าประตูไปต่อ
Mission 2 : Judge of Death
เข้ามาด้านในจะพบดาบสายฟ้า Alastor มาใช้จากนั้นเข้าประตูไปจะพบห้องสมุดเก็บกุญแจจากรูปและปืน Shot Gun ที่โต๊ะมาออกทาไขเข้าประตูกลางไปกำจัดศัตรูแล้วเข้าประตูที่ชั้น 2 ด้านในฟันโลงศพสีทองเพื่อเปิดทางลับลงไปเก็บไอเทม Stall of Jadement กลับมาทางห้องสมุดกำจัดแม่มดแล้วแล้วออกมาใช้ Stall of Jadementกับรุปปั้นที่ด้านบนทางเดินเข้าไปด้านใน
Mission 3 : Destroyer of Ardor
เก็บไอเทมแผ่นหินที่แท่นแล้วออกไปที่ประตูด้านนอกข้ามสะพานไปสำรวจสัญญาลักษณ์แล้วกลับมาทางเดิมสะพานจะพังลงกำจัดกระโหลกแล้วกลับขึ้นมาเข้าด้านในเก็บไอเทม Pride of Lion มาแล้วพบ Boss Phantom กำจัดแล้วออกประตูทางขวา
Mission 4 : Black Knight
เมื่อออกมาที่ทางเดิน Phantom จะตามมาอีกจัดการซะแล้วเข้าประตูกลางไปใช้ Pride of Lion กับแท่นแล้วทำลายซะกำจัดศัตรูแล้วเข้าประตูด้านบนไป โดดลงไปด้านล่างฟันตราให้ลิฟท์ทำงานขึ้นด้านบนสุดเก็บดาบ Death Septepce แล้วเข้าห้องใช้ดาบกับรูปปั้นได้ไอเทม Melanchony Soulมาสำรวจกระจกจะพบกับ Boss Nero Angero ที่ด้านนอก
แม่ทัพปีศาจในชุดเกราะสีดำและมีออร่าสีน้ำเงินออกมาจากร่าง ออกมาสู้กับดันเต้ เขาสวมเครื่องรางเหมือนกับของดันเต้ และเขาสังเกตุเห็นเครื่องรางที่ทำปฎิกริยากันเขาจึงหยุดต่อสู้และหนีไป
** Nero Angero ก็คือเวอร์จิลที่ถูกมุนดัสฆ่าตายและนำเอาวิญญาณมาเปลี่ยนให้เป็นแม่ทัพปีศาจและทำการล้างความทรงจำให้กลายเป็นลูกน้องมันซึ่งเขาถูกส่งมาให้จัดการกับดันเต้และนำเครื่องรางของดันเต้กลับมา และชื่อนี้เป็นเรื่องบังเอิญที่ไปตรงกับ เนโร ตัวเอกอีกคนของภาค 4 ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใดนะครับ **
Mission 5 : Gulding of The Soul
-เวลาจะนับถอยหลังกำจัดศัตรูแล้วกลับไปที่บันไดลงมาด้านล่างใส่ Melanchony Soul ที่ประตูด้านล่างแล้วเข้าไปด้านในต่อ
Mission 6 : Evil of The Waterway
-ลงมาที่ท่อระบายน้ำเข้าประตูทางขวาเก็บกุญแจแล้วกำจักฝูงแมลงวันแล้วออกมาขึ้นด้านบนใช้กุยแจเปิดเข้าไปจนพบ Sin Scissors จัดการแล้วเข้าไปเก็บไอเทมกุญแจ Guilding Light ที่ด้านใน
Mission 7 : Holding The Key of Ardor
-กลับขึ้นมาด้านบนขึ้นลิฟท์เข้าห้องด้านบนใช้ Guilding Light กับรูปพระอาทิตย์ในห้องทางลับจะเปิดออกเข้าไปด้านใน
Mission 8 : The Legendary Knight Returns
-เข้าไปจะพบกับ Phantom อีกครั้งกำจัดแล้วลงมาเก็บหอก Trident แล้วกระโดดลงรูไปฟันโซ่เพื่อเปิดสะพานแล้วเก็บปืน Grenede Gun มาแล้วลงทางลับที่เปิดออก ใช้ หอก Trident กับเครื่องจักรทำให้ประตูลูกกรงในชั้นล่างเปิดออก เดินลงมาชั้นล่างแล้วเข้าไปที่ประตูนั่น
Mission 9 : New Strenoth
-เดินข้ามสะพานมาเรื่อยๆแล้วเดินเข้าอุโมงค์ใหญ่เก็บ หมัด Ifrit แล้วกลับออกมาพบ Boss Giffon กำจัดแล้ว ต่อยโคมไฟที่ข้างประตูให้ติดไฟเข้าประตูไปตามทางจนถึงประตู
Mission 10 : Canyon of Mist
-เดินทางขึ้นเขาไปสำรวจป้ายศิลาจะมีลูกแก้วลอยออกมาตามมันไปเรื่อยๆ ขวา – ซ้าย – ซ้าย จนถึงด้านในพบแมงมุม Kylclops กำจัดแล้วเข้าไปในโดมที่เปิดออก
Mission 11 : Guardian of The Greenhouse
-เข้ามากำจัด Death Scythe ประตูเปิดลงทางใต้ดินเก็บไอเทม Sigh of Chastity แล้วเข้าประตูไปใช้ Sigh of Chastity กับแท่นได้ไอเทมถ้วย Chalice มาแล้วพบ Boss Nero Angero อีกครั้งจัดการแล้วนำ ถ้วย Chalice ไปใส่แท่นด้านบนประตูเปิดออก
Mission 12 : Ghost Ship
-เดินไปจนพบซากเรือดำน้ำลงไปเก็บปืนฉมวกแล้วเข้าไปด้านบนเรือเข้าห้องกัปตันกำจัดแม่มดแล้วเรือจะทำงานได้ เรือแล่นออกไปซักพักจะพบ Boss Giffon อีกครั้ง จัดการแล้วเข้าประตูไป
Mission 13 : Abyss
-ภายในห้องกัปตันเก็บไอเทม คฑา Staff of Hermes มาแล้วเรือจะค่อยๆจมลงรีบว่ายหนีออกมาด้านนอก
Mission 14 : Deep Darkness & Towering Monuntains
-ออกมาจากเรือแล้วเข้าอุโมงค์กับดักเก็บไอเทมโล่ Emblem Shield แล้วสับสวิตซ์เปิดประตูเดินหลบเหล็กแหลมมาที่ประตูขึ้นลิฟท์ไปจะเข้าสู่ภูเขา เดินไปตามทางจนถึงด้านในสุด
Mission 15 : Wheel of Destiny
-ออกมาที่ทางเข้าตรงที่ไปเอา Ifrit เข้าประตูโล่ทั้ง 2 ด้านโดยใช้ ไอเทมโล่ Emblem Shield ด้านซ้ายสีน้ำเงินเข้าไปเก็บไอเทม Luminite ส่วนทางด้านขวาเข้าไปเก็บปืน Nightmare แล้วนำไอเทม Luminite ใส่ประตูกลางเข้าไปพบ Boss Giffon จัดการแล้วลงลิฟท์ไปด้านล่างเก็บไอเทม Wheel of Destiny มา
Mission 16 : Nightmare of Darkness
-กลับไปที่สะพานเข้าปราสาทโดยใช้ Wheel of Destiny เชื่อมสะพานจะพบว่าอยู่ในความมืดที่ชั้นล่างฟันตราสัญญาลักษณ์ พลาสม่า จะออกมากำจัดแล้วประตูจะเปิดไปต่อจนถึงห้องที่เคยสู้กับ Phantom สำรวจที่น้ำที่พื้นจะพบ Boss Nightmare จัดการแล้วออกมาที่สะพานด้านนอกสำรวจรูปไม้เท้าประตูทั้ง 2 ด้านจะเปิดออกเข้าทางขวาเก็บไอเทมแล้วออกมาเข้าทางซ้ายต่อ
Mission 17 : Parted Momento
-เดินขึ้นหอคอยจนถึงกระจกวาร์ปเข้าทางซ้ายแล้วเข้าห้องด้านในจะพบโครงกระดูกไดโนเสาร์มันจะพ่นไฟใส่ตลอดให้ขึ้นไปด้านบนแล้วรอจังหวะที่มันพ่นไฟมาฟันลูกไฟกลับไปโดนมัน 3 ครั้งก็กำจัดได้จากนั้นหมุนไฟจนไปโดนกระจกด้านบนแล้วเดินขึ้นพื้นแสงไปเก็บไอเทม QuickSilver มานำไปใส่ประตูตรงทางออกด้านนอกเข้าไปพบ Boss Nero Angelo
Mission 18 : Spirit Stone Elixer
-เครื่องรางของแม่กับที่ได้มาจาก Nero Angelo จะรวมกันเป็นดาบ Spada เข้าทางวาร์ปกลางห้องกลับมาที่กระจกวาร์ปแล้วเข้าอันทางขวาไปจะมาอยู่ในน้ำกำจัดแม่มดให้หมดประตูจะเปิดเข้ามาในหอคอยฟันตราวงกลมน้ำจะเข้ามาท่วมว่ายขึ้นไปด่นบนเก็บไอเทม Philospher Egg แล้วเข้าประตูกลางระหว่างบันไดจะออกมาที่ห้องสำรวจที่ไฟสีฟ้าใช้ Philospher Egg แล้วพบ Boss Nightmare กำจัดแล้วจุดวาร์ปจะออกมา
Mission 19 : Enter The Corrubted World
-กลับมาที่กระจกวาร์ปที่สะพานพังเข้าประตูทางขวาแล้วเข้าไปในกระจกในห้องนั่นจะมาอยู่ในมิตินึงลงมาเก็บไอเทม Philospher Stone กำจัดศัตรูแล้วกลับเข้ากระจกกลับไปที่ห้องที่สู้กับ Phantom แล้วลงไปที่หลุมดำ
Mission 20 : Showdown Whit Nightmare
-ลงไปในหลุมมิติแล้วไปตามทางด้านในกำจัด Boss Nightmare ในขณะที่กำลังสู้กับ Nightmare อยู่ Trish จะลอบเช้าโจมตีใส่ดันเต้ซึ่งเธอเปิดเผยว่าจริงๆแล้วเธอถูกมุนดัสส่งมาให้ล่อดันเต้ออกมาให้มุนดัสกำจัด ในขณะที่ Nightmare โจมตีจนห้องพลังทลายทำให้หินตกลงมาใส่ Trish ดันเต้จะพุ่งเข้าไปช่วยเธอเอาไว้ และบอกว่าที่เขาช่วย Trish เพราะหน้าเหมือนแม่เขานั่นเอง ทำให้ Trish เริ่มสำนึกผิด จากนั้นดันเต้จะเข้าไจไปจัดการ Nightmare ได้สำเร็จ
Mission 21 : Living Cave
-เข้าประตูเหล็กใหญ่ไปตามทางทำลายลูกกลมๆสีแดงประตูจะเปิดออกเข้าไปฟันตราสัญญาลักษณ์แล้วประตูใหญ่จะเปิดออก
Mission 22 : Legendary Battle
-เข้าไปจนถึงห้องของราชาปีศาจ Mundus .....
Mundus - อีกแล้ว ข้าเจอสปาร์ด้าที่แปลกหน้ามาอีกแล้ว
Dante - หน้าไม่เหมือนกันแต่อุดมการณ์เดียวกันเว้ย
Mundus - ชอบประชดประชันทั้งตระกูลด้วยสิ งั้นจงดูนี่
Mundus จะชี้ให้ดันเต้เห็น Trish ที่ถูกตรึงร่างไว้บนกำแพง ในขณะที่ดันเต้กำลังมองไปที่ Trish มุนดัสได้ยิงลำแสงเข้ามาใส่จนดันเต้บาดเจ็บ ในขณะที่มันกำลังเข้าจู่โจมใส่ดันเต้ แต่ Trish ดิ้นหลุดออกมาแล้วใช้ร่างของเธอปกป้องดันเต้เอาไว้
ในขณะที่เธอกำลังจะตาย ดันเต้จะได้รู้ความจริงว่า Trish ถูกมันดัสสร้างขึ้นมาจาก อีวา แม่ของดันเต้ที่เป็นต้นแบบเพื่อล่อให้ดันเต้ออกมา ซึ่งมุนดัสยังต่อรองดันเต้อีกด้วยว่ามันสามารถแม่ของดันเต้ขึ้นมาได้มากเท่าที่ดันเต้ต้องการให้ได้เลย ดันเต้แค้นมากจึงเข้าไปต่อสู้กับมุนดัสทันที
Mundus - ดวงตานั่นของเจ้า ข้ามองลึกเข้าไปยังเห็นสปาร์ด้าอยู่ข้างใน
Dante - ทำไมต้องเป็นแม่ของข้า ?
Mundus - ถ้าเจ้าอยากได่้แม่ข้าสร้างให้เจ้าได้อีกเยอะจะเอามั๊ยละ เหมือนกับสร้าง Trish นั่นแหละ
Dante - หุบปากกกกก !!!
ท้ายสุดดันเต้แปลงร่างด้วยพลังของสปาร์ด้าเข้าไปจัดการมุนดัสไดสำเร็จ ปราสาททั้งหมดจะเริ่มถล่มแต่ก่อนที่ดันเต้จะหนีออกมาเขาแวะเข้าไปหาร่างของ Trish เพื่อมอบเครื่องรางอีกครึ่งหนึ่งให้ไว้พร้อมกับดาบสปาร์ด้าปักไว้ข้างๆร่างของเธอก่อนเขาจะวิ่งหนีออกจากปราสาทที่กำลังถล่ม
Dante - ตอนนั้นแม่ก็ยอมสละชีวิตช่วยผมไว้ ที่นี่้ก็เป็นคุณอีกที่ต้องตายเพราะผม ผมน่าจะช่วยคุณไว้ได้ แล้วจะมีพลังบ้าน่ี่ไว้ทำไม่ !!!
ดันเต้ร้องตะโกนเพราะความเสียใจพร้อมร้องไห้ออกมา หยดน้ำตาของปีศาจกระเด็นไปถูกใบหน้าของ Trish โดยท่ีดันเต้ไม่รู้เลยว่าน้ำตาของเขาจะเปลีย่นแปลงชะตากรรมของทริชไปตลอดกาล
Mission 23 : Mother Guide
-เมื่อจัดการ Boss Mundus แล้วปราสาทจะถล่มและเริ่มนับถอยหลัง หนีกลับออกมาทางเดิมจนถึงห้องเก็บเครื่องบินพื้นจะถล่มลงมาด้านล่างพบ Mundus ที่ออกมาในร่างสุดท้ายของมันที่เต็มไปด้วยลาวา ทำให้ดันเต้ต้องเข้าต่อสู้อีกครั้งแต่ไม่สามารถจัดการให้มันพลังลดได้เลย
แต่จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงแม่ของเขาแว่วมา พร้อมกับร่างของ Trish ที่ออกมาและมอบพลังให้ดันเต้ทำให้เขายิงปืนใส่ มุนดัส จนมันกระเด็นกลับเข้าไปในโลกปีศาจอีกครั้งได้สำเร็จ
Trish - ดันเต้ ชั้น ชั้น
Dante - ทริช อย่าร้องไห้สิ ปีศาจไม่ร้องไห้หรอกนะ ที่เสียน้ำตานะมีแต่มนุษย์เท่านั้น
….ในขณะที่ปราสาทกำลังถล่ม ดันเต้และทริชใช้เครื่องบินที่ร่วงลงมาจากชั้นบนของปราสาทเพื่อหนีออกจากเกาะได้สำเร็จ
Trish - ท้องฟ้าหรอ สวยจังเลย
Dante - ท้องฟ้านะแฟร์ มันสวยกันทุกคนเสมอไม่เลือกที่รักมักที่ชังหรอก
Trish - มันทำให้ใจชั่นสดใสแบบไม่เคยเป็นมาก่อนเลยละ
Dante - อย่าเพิ่งสบายใจไป ไอ้พวกปีศาจพวกนั้นมันยังไม่ตายถาวรหรอกมันจะออกมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้
Trish - จะกลัวไปทำไม เพราะโลกนี้ยังอัศวินแห่งความมืดในตำนานที่ชื่อ ดันเต้ และ เพื่อนร่วมงานของเขาอยู่ทั้งคน จริงมั๊ย
แต่ราชาปีศาจมุนดัสอาจจะกลับมาเมื่อไหร่ยังไม่รู้ ดันเต้ก็ต้องทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์จากพวกปีศาจแทนพ่อของเขาต่อไป และยังได้คู่หูคนใหม่คือ Trish เป็นผู้ช่วยอีกด้วย
---------------------------------- THE END ---------------------------------------------
Devil May Cry Animation Series (การตูนอนิเมชั่น)
เวอร์ชั่นอนิเมชั่นของ Devil May Cry นี้เนื้อเรื่องกล่าวถึงช่วงเวลาหลังจาก Devil May Cry ภาคแรกและก่อนเหตุการ์ณใน Devil May Cry ภาค 4 โดยมีทั้งหมด 12 ตอน [2 แผ่น DVD]
เนื้อเรื่องโดยรวมคือการใช้ชีวิตในการเป็นนักล่าปีศาจทั่วๆไปตามงานต่างๆที่ได้รับว่าจ้างมา โดยดันเต้ยังทำงานร่วมกับ Trish และ Lady อีกด้วย แต่ละงานนั้นได้เงินบ้างไม่ได้บ้าง ดันเต้ก็ยังยากจนอยู่เหมือนเดิม สร้างความหงุดหงิดให้กับ Trish และ Lady ยิ่งนัก แถมยังมีเด็กกำพร้าที่ชื่อ แพตตี้ เข้ามาอาศัยด้วย โดยคราวนี้ดันเต้ต้องเผชิยกับปีศาจอาบิเกล
----------------------------------------------------------------------------------------
Devil may Cry 4
[ PS3 , Xbox360 / 31 Jan 2008 และ PC 24 July 2008 / Special Edition PS4, Xboxone, PC 18 June 2015]
บทสรุป Devil May Cry 4
หลายปีก่อนหน้านี้ .......
ชายลึกลับในชุดผ้าคลุมเดินทางเข้ามาถึงเมือง ฟอลทูน่า ด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครรับรู้ สายตาก็เหลือบขึ้นไปเห็นรูปปั้นราชาปีศาจสปาร์ด้าขนาดใหญ่ที่กำลังเริ่มก่อสร้าง ปากของเขาก็พาลสบถไปว่า
“ ดิ ออร์เดอร์ ออฟ ซอร์ด เรอะ พวกมันคิดว่าปีศาจเป็นพระเจ้าวะ หึ ”
ไม่ทันขาดคำพวกปีศาจฝูงใหญ่ที่แฝงตัวอยู่ในซอกหลืบของเมืองก็ปรากฏกายที่หน้าเกลียดของมันออกมา สายตาและสีหน้าของชายลึกลับไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรถึงความน่ากลัวของมัน ก่อนที่จะค่อยๆชักดาบออกจากฝัก แล้วเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วผ่านตัวปีศาจตัวแรกที่อยู่ตรงหน้าจนไม่ช้ามันก็กลายเป็นผุยผงไปในพริบตา
ก่อนที่ผ้าคลุมจะปลิวหลุดจนเห็นใบหน้าว่าคือ Vergil ลูกชายของราชาปีศาจสปาร์ด้าที่น่าเกรงขาม และเวลาก็ผ่านไปไม่นานประหนึ่งเสยผมและหนึ่งถอนหายใจ พวกปีศาจตรงหน้าก็สลายหายไปหมดด้วยคมดาบประดุจว่ามันไม่เคยอยู่ตรงหน้า
ก่อนที่เวอร์จิลจะเดินอย่างสงบเข้าเมืองเสมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น ท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินสวนทางมาไม่มีใครรู้ได้ว่า ลูกชายของจอมปีศาจสปาร์ด้าผู้พี่มีเป้าหมายอะไรคาใจอยู่ที่นี่กันแน่ ………
“ก็นะ ข้าบอกไม่ได้หรอกนะว่าที่พวกเจ้าทำมันจะเรียกว่าผิดพลาดได้หรือเปล่า ?
แต่อีกไม่นาน พวกเจ้าก็จะรู้ถึงพลังที่แท้จริงของจอมปีศาจ
สุดยอดพลังที่พวกเจ้าไม่มีทางจินตนาการได้
พลังของลูกชายของสปาร์ด้า” .............
หลายปีต่อมา .........
ณ. เมือง ฟอลทูน่า มีลัทธิดาบมาร The Order of Sword Maken Kyodan ที่ช่วยปกป้องมนุษย์จากการโจมตีของจักรพรรดิมารมาเทย์ และ
เนโร แองเจลโร่ อัศวินศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิดาบมารกำลังรีบเร่งที่จัดการพวกปีศาจตามหน้าที่ให้ทันเวลาก่อนที่การแสดงบทสวดที่แสนจะไพเราะของ ไคลี่ สาวคนรักที่ โรงละคร โอเปร่า จะจบลง แต่เนโรก็มาได้ทันเวลา
…..Nero เด็กปากเสียคนนี้เป็นใคร ? และมีความสำคัญอย่างไร ? …..
เนโร เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งเอาไว้ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในเมือง ฟอร์ทูน่า ซึ่งเบื้องหลังความเป็นมาที่แท้จริงของเขานั้นอาจทำให้คุณตะลีง เมื่อชาติกำเนิดของ เนโร คือลูกของโสเภณีคนนึงในเมืองฟอร์ทูน่า ที่เคยให้บริการสนองตัณหาความเป็นมนุษย์ที่ยังพอเหลืออยู่ของ เวอร์จิล พี่ชายฝาแฟดของดันเต้ที่เคยผ่านทางมาที่เมือง ฟอร์ทูน่า ในช่วงที่เดินทางมาเพื่อค้นหาวิธีเอาชนะพลังอันยิ่งใหญ่ของสปาร์ด้าผู้พ่อจากเมืองฟอร์ทูน่า ที่เคารพบูชาสปาร์ด้าอย่างที่สุด
Nero ไม่เคยทวงถามถึงความหลังอันเป็นความลับที่เขาไม่เคยรับรู้จากใคร แต่เขาก็ได้รับความรักและการช่วยเหลือเลี้ยงดูจากครอบครัวของเครโด้และคีรีย์ จึงทำให้เขาสนิทสนมกับ คีรีย์ มากขึ้นจนเกิดความรักขึ้นมา Nero ตัดสินใจเข้าร่วมกับภาคีแห่งดาบเพราะต้องการฝึกฝีมือการต่อสู้กับเครโด้ชายที่เขานับถือ แต่สายเลือดปีศาจในตัวเขาไม่ได้อยู่เฉย มันได้แสดงพลังออกมาในส่วนของแขนของเขาทำให้เขาได้รับมือปีศาจมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เนโรต้องหลบซ่อนความสามารถของปีศาจของเขาเอาไว้ เมื่อจบเรื่องราวทั้งหมดทำให้ดันเต้ได้รับรู้ถึงพลังปีศาจของเนโร จึงทิ้งดาบยามาโตะเอาไว้ให้เนโรใช้จัดการกับพวกปีศาจเพื่อปกป้องมนุษย์ตามแนวทางของเนโรต่อไป
ในขณะที่บทสดจบลงและเหล่าสาวกกำลังฟังคำสั่งสอนของ ศาสดา Sanctus อยู่ก็ ดันเต้ ก็บุกเข้ามาและสังหาร Sanctus ทันทีทำให้เหล่าทหารสาวกรีบเข้าไปคุ้มครองแต่ก็สายเสียแล้ว ในขณะที่ Credo หัวหน้าองค์รักษ์ได้คุ้มครองออกด้านนอกจึงสั่งให้ เนโร เข้าไปจัดการกับดันเต้ทันที
หลังจากทั้งคู่พยายามสู้กันอยู่นานแล้วด้วยฝีมือที่จัดจานทำให้ดันเต้เป็นต่อจนเนโรต้องใช้มือข้างขวาที่ฟันผ้าเอาไว้จนปรากฏให้เห็น มือปีศาจ อันพลังของเขา แน่นอนว่ามือปีศาจท่ามกลางเมืองที่คลั่งศาสานาและเกลียดปีศาจนั้นทำให้เนโรต้องปิดบังมือประหลาดของเขามาตลอด แต่ครั้งนี้คงจำต้องงัดมันมาใช้งาน ซึ่งมันสามารถต่อสู้อย่างสูสีจนถึงจัดการอัดหน้าดันเต้ได้อย่างสบาย ซึ่งนั่นดันเต้คงรู้อยู่ในใจแล้วว่ามือขวาข้างนั้นเคยเป็นของใครมาก่อน
เนื้อเรื่อง เนโร แองเจลโร่
Mission 01 : Birds of a Feather
พบ Boss Dante ตอนนี้จะเป็นการเรียนรู้การต่อสู้ให้ทำตามไปเรื่อยๆแล้วก็จัดการกับดันเต้ซะเมื่อพลังหมดเค้าก็จะหนีไปเอง
ด้วยพลังมือปีศาจของเนโร เขาสามารถจัดการจนทำให้ดันเต้โดนดาบของตัวเองพุ่งเสียบอกติดคารูปปั้นพ่อของตัวเองอย่างสบายๆ แต่นั่นอาจคงเป็นเพราะดันเต้ไม่ได้ตั้งใจจะมาสู้แต่ต้องการมาบอกอะไรกับเด็กหนุ่มที่ไม่รู้ว่าตัวเองสำคัญคนนี้มากกว่า
Nero – โดนดาบปักอกยังยืนขึ้นมาได้เฉยเลย นี่แกเป็นมนุษย์หรือเปล่าเนี้ย ?
Dante – อ่ะนะ ก็อยากจะถามกลับเหมือนกัน แล้วนายละ อ่อ พวกของนายก็ด้วย ใช่มนุษย์ป่ะ ?
Nero – นี่ แกหมายถึงอะไร !
Dante – เอาน่าคงต้องได้เจอกันอีกหลายครั้งแหละ แต่ตอนนี้ต้องลากันก่อนนะ ไอ้หนู
ท่ามกลางความงุนงงที่เห็นดันเต้นักล่าปีศาจบุกเข้ามาฆ่าสังฆราช Sanctus ไปต่อหน้าต่อตาแถมยังพูดจาแปลกๆอีกว่า ตัวเขาหรือพวกคนของลัทธินั้นไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งเนโรต้องหาคำตอบจากความคาใจนี้แน่นอน และทันทีที่คีรีย์เอากล่องอาวุธประจำตัวของเนโรมาให้ เมื่อดาบ Red Queen และ Blue Rose ปืนคู่ใจพร้อมแล้ว เนโรก็จะได้รับอำนาจเต็มจาก Credo หัวหน้าองค์รักษ์ที่เป็นทั้งหัวหน้าและอาจารย์ให้ตามไล่ล่า นักล่าปีศาจดันเต้ ทันที โดยเนโรไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายผมสีเงินชุดแดงมาดกวนคนนี้เป็นใครด้วยซ้ำ
ขณะนั้นเองก็เกิดแรงสั้นสะเทือนขึ้นในเมื่องอย่างน่ากลัวและเมื่อทุกคนออกมาดูที่ถนนก็พบว่ามีปีศาจมากมายบุกเข้ามาทร้ายผู้คนในเมืองจนวุ่นวายไปหมด เนโร จึงต้องเรื่มภารกิจแรกด้วยการหยุดเรื่องวุ่นวายตรงหน้านี้ให้ได้เสียก่อน
Mission 02 : L’ A PORTE DE L’ ENTER
-ออกมาจากโรงละครโอเปร่าแล้วจัดการศัตรูให้หมดเข้าประตูไปตามทางในห้องด้านในห้องโถงเก็บไอเทม Evil Legacy ที่เสาแล้วจะทำให้เดวิล แฮนด์สามารถเกาะไปตามที่ให้เกาะได้ ไปยืนที่แท่นฟ้าแล้วกด R1 + O ก็จะทำให้เกาะขึ้นไปบนที่สูงได้ จากนั้นกลับออกมาด้านนอกแล้วเกาะไปอีกด้านจนถึงทางเข้าตึกอีกตึกอีกตึกนึง จากนั้นวิ่งผ่านตัวเมืองไปจนถึงท่าเรือ Caerula ไปอีกด้านของเรือเข้าไปในอาคารแล้วฟันสวิตซ์แล้วขึ้นไปด้านบนออกไปเปิดสวิตซ์สะพานให้มันลงมาแล้วกลับมาที่สะพานที่เปิดออกข้ามไปอีกด้านในเข้าไปด้านในจะเป็นเส้นทางเหมืองผ่านไปด้านบนจะออกมาที่ชานเมือง Freeum เดินเข้าไปพบ Boss Berial
Berial – เฮ้ย แกสะบัดลมจากดาบใส่ข้าทำไมวะ ?
Nero – ก็ให้ตายเถอะ ก็มันร้อนจนจะไหม้อยู่แล้วอะ
Berial – ข้ามาที่โลกนี้ 2 พันปีแล้วยังไม่เคยเจอคนอย่างแกเลย
Nero – อยากกระเด็นกลับไป 2 พันปีทีแล้วปะละ ?
Mission 03 : The White Wing
-เดินทางผ่านเหมืองจนมาถึงเส้นทางหิมะจัดการศัตรูที่ออกมาแล้วไปที่ปราสาท Fortuna Castle ด้านในจะพบกับ กลอเรีย กำลังสู้กับพวกปีศาจอยู่ เนโรเลยเข้าไปช่วยเธอ
Gloria - เป็นหนี้คุณครั้งนึงนะ
Nero - คนของ The Order รึเปล่าผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย
Gloria - ชั้น กลอเลีย คุณคือ เนโร ป่ะ เคยได้ยินขื่อเสียงอยู่
Nero - คนดังก็เงี้ย รู้จักผมกันทุกคนแหละ
Gloria - โม้รึเปล่าน้า
Nero - แล้วสรุปว่าคุณรู้รึเปล่าว่าพวกมันมาจากไหน ?
Gloria - ไม่รู้อ่ะ แต่รู้วาจะมีมาให้ฆ่าอีกเพียบ
Nero - งั้นผมต้องขอตัวแล้วกัน มีคนต้องจัดการ
Gloria - เดี่ยวไว้เจอกันอีก แล้วชั้นจะช่วยตอบแล้วกันนะ
คุยแล้วเธอก็จะเดินจากไปเข้าไปในชั้นล่าง Grand Hall แล้วเข้าประตูทางขวาไปส่วนในแล้วไปที่ส่วน Torture Chamber ไปตามทางบันไดขึ้นด้านบนแล้วดึงตัวขึ้นไปตามทางแล้วเข้าไปที่ซอกขวาของกำแพงจะออกมาที่ส่วน Grand Hall ด้านบนฝั่งซ้ายแต่จะมีบาเรียกั้นอยู่ จากนั้นเข้าไปตูทางซ้ายไปต่อไปตามทางจนถึงน้ำตก ฟอร์ริส แล้วอ้อมไปเข้าทางประตูอีกด้านแล้วจะสามารถมาออกที่ Grand Hall ด้านบนฝั่งขวาได้ จากนั้นฟันสวิตซ์จะทำให้บาเรียหายไปก่อนแล้วเข้าประตูเขียวฝั่งขวาไปที่ห้องแสดงภาพแล้วทะลุออกมาอีกด้สนจนมาถึงห้องสมุดจัดการพวก White Knight ที่ออกมาให้หมดแล้วเข้าไปเก็บไอเทม Anima Mercury มาและพบ Boss White Knight
Mission 04 : Cold Blooded
-ไอเทม Anima Mercury ที่ได้มาจะทำให้เมื่อสำรวจกระถางเหล็ก Gyro Blade จะทำให้มีใบมีดออกมาแล้วจะสามารถกระแทกมันไปทำลายสิ่งที่แข็งๆได้ จากนั้นกลับลงมาที่ Grand Hall จะพบกล่องฟ้าๆอยู่กลางห้องให้ใช้ Gyro Blade ตรงบันไดกระแทกทำลายมันซะจะมีแท่นกระโดดอยู่แต่มันยังไม่ทำงาน จากนั้นเข้าไปที่ห้องด้านในใช้ Gyro Blade ทำลายกล่องจะได้ Gyro Blade มาอีกอันนึงเป้นสามอันแล้วไปที่ห้องดินเนอร์จะพบลุกไฟพุ่งออกมาตลอดให้ใช้ Gyro Blade ในนั้นบังไฟแล้วกระแทกไปทำลายที่ยิงไฟจนพังแล้วออกไปที่ทางออกจัดการศัตรูในห้องให้หมดแล้วเปิดสวิตซ์ประตูออกเอา Gyro Blade ในนั้นกระแทกออกมาด้านนอกแล้วเอามันไปรวมกันที่หน้าประตูทางเหนือให้ครบ 4 อันเพื่อเปิดประตู เข้าไปจนถึง Central Courtyard จะพบ Boss Bael จัดการมันแล้วจะได้ Rusalka Corpse มา
Mission 05 : TRISAGION
-เริ่มต้นที่สุสานทหารเข้าไปด้านในตามทางจนถึงห้องด้านในผ่านไปยังห้องโถงกลางเปิดสวิตซ์ทางเชื่อมแล้วใช้ Gyro Blade ทำลายแท่นจนตกลงไปด้านล่างจัดการศัตรูให้หมดแล้วเก็บไอเทม Wing Talisman มาจะทำให้แท่นกระโดดสามารถทำงานได้แล้ว จากนั้นโดดกลับมาด้านบนแล้วกลับไปที่ Grand Hall แล้วเหยียบแท่นกระโดดไปบนโคมไฟเนโรจะฟันให้มันไปกระแทกรุปจนพังทำให้เห็นทางลับออกมา เข้าไปด้านในตามทางจนถึงประตูทางเข้าห้องทดลองใต้ดิน
ด้านในประมุข Sanctus นั้นยังไม่ตายและกำลังฟิื้นขึ้นมาอีกครั้งแถม Credo หัวหน้าองค์รักษ์ และ Agnus หัวหน้าคณะวิจัย ยังรู้เห็นเรื่องนี้อีกด้วย Credo รีบรายงานถึงศัตรูที่เข้ามาลอบฆ่าที่ชื่อว่าดันเต้ ส่วน Sanctus จะรีบให้แจ้งไปที่ทุกคนว่าเขาปลอดภัยแล้วเพื่ออ้างว่าเป็นอำนาจของพระเจ้า
Mission 06 : Resurrection
-โดดลงไปตามทางด้านล่างจนถึง R & D Access จะพบท่อขนาดใหญ่และศัตรูชนิดใหม่เริ่มออกมาจากนั้นไปตามทางจนถึงห้องเกม ที่ต้องทอยเต๋าให้ตุ๊กตาเนโรไปถึงที่หมาย โดยถ้าตกสีแดงจะเจอศัตรูออกมา จากนั้นเข้าไปด้านในต่อจนถึงห้อง Containment Room พบ Boss Agnus ที่สั่งพวกคมดาบจักรกลเข้าโจมตีเนโร พยายามทำลายที่กระจกด้วยการจับศัตรูป้าเข้าไปใส่จนมันแตกก็จะเข้าไปถึงตัว Agnus ได้
Nero - เอาะละพูดออกมา มันเกิดอะไรขึ้น
Agnus - โอ้ แขนปีศาจนั้นมันสุดยอดดดด จริงๆว่ามั๊ย พวกเขามอบมันให้กับคุณเมื่อหลายปีก่อน เพื่อทดลองเกี่ยวการใช้พลัง Demonic Power และๆ พลังปีศาจนี่และจะทำให้เรากลายเป็นพระเจ้า ฮ่าๆ
แต่ในขณะคุยกันเนโรจะเสียท่าให้กับ Agnus จนโดนแทงทะลุอก และถูกตรึงไว้้ในห้องทดลองด้านใน ขณะที่ Agnus กำลังจะเอาร่างของเนโรมาทดลอง แต่โขคดีท่ีแขนปีศาจของเนโรกลับเข้ากันได้กับพลังของ ดาบยามาโตะ ที่หักอยู่ในหลอดทดลองในห้อง จนทำให้เขาได้พลัง Devil Ticker ( D.T ) มาใช้จากดาบ Yamato (ซึ่งมันก็คือ ดาบของเวอร์จิล นั่นเอง)
พลังนี่ พลัง มันสุดยอด !! ข้าต้องการอีก ข้าต้องการพลังอีก
ไม่ว่าจะของปีศาจตนไหนข้าก็ไม่สน ข้าจะใช้มันเพื่อปกป้อง ปกป้อง ...
Agnus รีบแปลงเป็นร่างแมลงแล้วบินหนีไปทันที ก่อนที่เนโรจะหมดแรงคืนสภาพเดิม สิ่งแรกที่เขาต้องทำคิอกลับไปที่ฐานของ The Order เพื่อถามความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้กับ Credo หัวหน้าของเขา
- จากนั้นทะลุห้องทดลองมาจนถึงน้ำตก เฟอร์ริส ฟันสวิตซ์เขื่อนกั้นน้ำและทำให้สะพานยื่นออกมา จากนั้นขึ้นไปด้านบนแล้วไปที่ทางเข้าตรงรูปภาพใน Grand Hall แล้วเข้าประตูทางขวาหรือซ้ายก็ได้เพื่อมาที่น้ำตก เฟอร์ริส แล้วข้ามสะพานไปเข้าทางลับหลังน้ำตกแล้วจะออกมาที่ป่าแห่งนึง
ที่นี่เนโรจะได้เจอกับดันเต้อีกครั้ง เหมือนเขากำลังพึมพัมถึงเรื่องประตูอะไรบางอย่างก่อนที่โดดลงหน้าผาไปโดยทิ้งไว้แค่คำอำลาแค่นั้น
ทางด้านห้องประชุมใหญ่ของ The Order
Agnus - เป็นไงละ เจ้าเด็กหนุ่มนั่นมันใช่พลัง Demonic ได้เฉยเลย เพราะๆเจ้านั่่นแหละ เครโด้
Credo - สงบสติอารมณ์หน่อย
Agnus - สงบบ้าอะไรมันเกือบทำข้าตายแนะ พลังมันหมาศาลมากนะ
Sanctus - เอาละๆๆ เครโด เจ้าไปเอาตัวเด็กนั่นมาให้ข้าไ่ด้มั๊ย ?
Credo - สุดแล้วแต่นายท่านครับ แล้้วจะให้ใครจัดการเจ้าดันเต้ละ
Gloria - ข้าจัดการมันเอง
Sanctus - เจ้าจะเอาอะไรมารับระกันละ
Gloria - แน่เสียยิ่งกว่าแน่คะนายท่าน
Sanctus - แผนคืนชีพองค์เทพ Savior ของเราต้องดำเนินต่อไป แต่ต้องรีบทำก่อนที่เขาจพรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาเองนะ ฉะนั้นรีบไปเอาตัวเนโร และดาบยามาโตะกลับมาให้ข้าโดยเร็วที่สุด
Credo - ตามคำบัญชา นายท่าน
Agnus - นายท่าน ข้ามีอะไรจะบอก เนโรนะสนิทสนมใกล้ชิดกับคีรีย์น้องสาวของเจ้าเครโด้อย่างมากด้วยละ เธอต้องสำคัญกับมันมากๆแน่นอนนายท่าน ฮึๆๆ
Mission 07 : The She - Viper
-ที่ป่าจะพบกับดันเต้ก่อนแล้วเข้าไปด้านในต่อจนถึงวิหารร้างแล้วขึ้นไปด้านบนฟันสวิตซ์เพื่อทำทางไปด้านบนต่อแล้วฟันสวิตซ์ทำทางวาร์ปไปจนถึงประตูอีกฟากนึง เข้ามาจะเป็นเขตแม่น้ำ Lapis แล้วไปตามทางจนพบที่ที่มี Gyro Blade เอามันไทำลายที่กั้นแล้วไปต่อจนถึงประตูโดยระหว่างทางจะพบงูยักษ์ตามมาทำร้ายให้รีบหนีมาจนถึงอีกฝั่งนึงแล้วเดินทางเข้าไปจนถึงส่วน She – Viper จะพบ Boss Echidna
จัดการมันได้แล้วจะได้ไอเทม Sephirothic Fruit ที่สามารถเอาไว้ทำลายซากตั้นไม้เพื่อเปิดทางไปต่อได้
Mission 08 : Profession of Faith
-เริ่มแล้วไปตามทางที่สามารถทำลายต้นไม้ทำทางไปใหม่ได้จนถึงวิหารร้างแล้วทำลายต้นไม้ที่ชั้นล่างเพื่อไปต่อจนมาถึงป่าต้องห้ามและทางวนให้เดินดังนี้ ( ทิศทางดูตามแผนที่ด้านขวาล่างของจอน๊ะคับ ขวา – ล่าง – บน ) เมื่อผ่านไปได้แล้วเดินทางมาจนถึงสะพาน Album ข้ามไปจะพบเครโด้ที่ออกมาขวางทาง
Nero - มาก็ดีแล้ว ผมอยากรู้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้น แล้วคีรีย์ไปไหน แล้วดันเต้มันเป็นใครกันแน่ ?
Credo - รู้มากไปแล้ว !! แกใช้พลังของปีศาจ
Nero - ถอยไป ผมไม่อยากทำร้ายคุณนะ คุณจับคีรีย์ไปไว้ไหน ?
Credo - นี่แกยังไม่เข้าใจรึไง
Nero - ท่านก็เป็นแบบพวกมันหรอนี่
Angelo Credo - ร่างให้ของข้า พลังที่ทำให้มนุษย์เทียบได้กับเทวดา !!
Nero - ปีศาจมากกว่ามั้ง
Boss Angelo Credo จัดการมันแล้วจะได้ไอเทม Aegis Shield มา
Mission 09 : For You
-เข้าไปจนถึงทางเข้าวิหารจะพบทหารชุดเกราะอมาต้อนรับจัดการแล้วเข้าไปด้านในหลบแสงเลเซอร์เพื่อขึ้นบันไดทางขวาไปจัดการศัตรูให้หมดเก็บไอเทม Key of Cronus มาไอเทมนี้จะสามารถทำให้ใช้แท่นสโลว์เวลาให้ช้าลงได้จากนั้นหลบเลเซอร์เข้ามาฟันสวิตซ์ให้ลิฟต์ลงมาแล้วขึ้นด้านบนเรื่อยๆจนถึงห้องของ Agnus เข้าไปพบมันจับตัวคีรีย์เอาไว้ เนโรจึงต้องรีบไปช่วยเธอทันที พบ Boss Angelo Agnus
แต่ด้วยพลังทั้งหมดที่เนโรมีจะเอาชนะ Angelo Agnus ลงได้แต่ก็สุดเอื้อมสำหรับแน่โรที่จะช่วย คีรย์ เอาไว้ได้ทันจนถึงพวกมันพาตัวหนีไปเสียก่อน
Mission 10 : Wrapped in Glory
-ลงลิฟต์มาชั้นล่างสุดเพื่อข้ามสะพานที่ทอดออกมาใหม่ข้ามไปที่ตึกรักษาความปลอดภัยโดนหลบเลเชอร์ไปจนถึงห้องใบพัดมีดโดดลงไปด้านล่างจัดการศัตรูแล้วใช้สโลว์โดดบนใบพัดกลับขึ้นมาด้านบนสุดเข้าประตูไปจนถึงด้านบนจะพบกับ Dante อีกครั้ง
ท่ามกลางความขุ่นเคืองของเนโรที่กำลังพยายามจะตามไปช่วยคีรีย์ให้เร็วที่สุดแต่ก็ต้องมาเจอดันเต้ที่เข้ามาขวางทางเพราะเขาก็จำเป็นต้องใช้ดาบยามาโตะด้วยเช่นกันเพื่อนำไปทำลายประตูนรกเช่นกัน ทั้งคู่จึงต้องสู้กันอีกครั้ง แต่หลังการต่อสู้ความโกรธและมุทะลุของเนโรไม่อาจเหนือชั้นเชิงของดันเต้้ได้แม้แต่นิดเดียว แต่สุดท้ายดันเต้ก็บอกเหตุผลที่เนโรสมควรได้รับรู้
Dante - ไง เย็นขึ้นยังไอ้หนู ดาบนั่นนะมันสำคัญมากเพราะมันสามารถปิดผนึกประตูนรกได้ เเพราะลำพังตัวพี่เองก็คงไม่มีพลังจะทำแบบนั้นคนเดียวได้หรอก คือมันเป็นเรื่องปัญหาครอบครัวนะ
Nero - ผมก็ต้องการดาบเล่มนี้เหมือนกัน ผมต้องการพลังของมันไปช่วยผู้หญิงของผม
Dante - อืม งัน เก็บไว้้ แล้วไปซะ ... เฮ้ นายชืออะไรเจ้าหนู
Nero - เนโร คุณ ดันเต้ละสิ ชื่อเจ๋งไม่ใช่่เล่นนะ
Dante - เนโร แองเจลโร่ ก็เจ๋ง
ฺหลังจากเนโรเดินไปแล้วบั้นท้ายงามของ Gloria ก็จะเข้ามาขวางทาง แต่ก็ทำเอาดันเต้ที่กับขำก๊ากกับชุดที่ ทริซ ใส่เพื่อปลอมตัว
Dante - ฮ่าๆๆ ชุดเจ๋งอ่ะ
Trish - แน่ใจหรอว่าจะปล่อยเขาไปนะ
Dante - เอาน่าเดี๋ยวหาทางแก้ไขเอง
Trish - รู้นะว่าไม่ใช่เรื่องของชั้นนะ แต่ถ้ามันเกิดปัญหาขึ้นมาจะทำยังไง
Dante - เด็กมันกำลังโต มีปัญหาก้เตะซักป๊่าบก็ดีเองแหละ
Mission 11 : Ninth Circle
-เริ่มต้นที่ Advent Chamber ที่มีรูปปั้นเทพ Savior ขนาดใหญ่อยู่ เข้าไปฟันสวิตซ์แล้วดึงตัวขึ้นไปด้านบนจัดการศัตรูแล้วกดสวิตซ์ลงมาแล้วขึ้นไปด้านบนจัดการดึงศัตรูที่อยู่อีกด้านของประตูให้มากระแทกประตูเพื่อเปิดมันออกแล้วใช้แขนดึงตัวเพื่อข้ามกำแพงไปเรื่อยๆเพื่อขึ้นไปเปิดสวิตซ์ลิฟต์ที่ด้านบนเปิดแล้วย้อนกลับมาที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปด้านบนพบ Boss Sanctus กับ Savior
เมื่อสู้ไปได้ซักพักเนโรจะรู้ไม่มีทางทำลายมันได้เพราะ Sanctus มันจับตัวคีรีย์เอาไว้ในตัวของ Savior และเอาเธอมาเป็นโล่กำบังจนเนโรไม่สามารถเข้าไปโจมตีมันไ้้ด้เลนย สุดท้ายเนโรก็พลาดท่าโดนจับตัวไว้ได้ ก่อนที่ Sanctus จะชิงเอาดาบยามาโตะมาจากเนโรสำเร็จ แต่ Credo จะเข้ามาพยายามช่วยเนโรจนโดนแทงบาดเจ็บ ซึ่งโชคดีที่ดันเต้้ช่วยรับเอาไว้ได้ แผนง่ายๆของSanctus ที่จะจับตัวสายเลือดของสปาร์ด้าที่แสนง่ายดายก็คือใช้ คีรีย์ เป็นตัวล่อให้เนโรมาติดกับเพราะ เนโรนั้นจับตัวง่ายกว่าดันเต้มากนัก
เนโรไม่เคยรู้ว่าในตัวเขามีสายเลือดสปาร์ด้าไหลเวียนอยู่เหมือนกับกันเต้ แต่สุดท้ายเนโรถูกผนึกแขนปีศาจด้วยดาบยามาโตะก่อนที่จะถูกดูดเอาไปขังเอาไว้ในรูปปั้น Savior พร้อมกับ Kyrie และเลือดสปาร์ด้าในกายของเนโรก็ทำให้ร่างของ The Savior กำเนิดอย่างสมบูรณ์ในที่สุด ......
บัดนี้ร่างทรงของมหาเทพ Savior ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว แถมตาบยามาโตะอาวุ๊สำคัญที่จะสามารถเปิดหรือปิดประตูนรกได้ก็อยู่ในมือของสังฆราช Sanctus เป็นที่เรียบร้อย แผนชั้วทั่มันจะเปิดประตูมิติแล้วเรียกปีศาจมากมายเข้ามาบนโลกก่อนจะใช้รุปปั้นมหาเทพ Sanctus จัดการพวกมันให้หมดเพื่อสร้างพระเจ้าที่เขาคุมได้ในสายตาคนทั้งอณาจักร์ ถูกบอกมาจากปากของ Credo ก่อนเขาจะตายและสลายไปพร้อมคำขอสุดท้ายให้ดันเต้ช่วยคีรีย์น้องสาวเขาให้ได้ด้วย และคนที่จะจัดการ Sanctus ก็คงมีแต่ลูกของสปาร์ด้าที่ชื่อ ดันเต่ คนนี้เท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งแผนชั่วของมันได้
ท่ามกลางวิกฤติของ ฟอลทูน่า ที่เต็มไปด้วยปีศาจบุกออกมาจากประตูนรก (ที่ Sanctus มันเปิดออก) Sanctus ก็เริ่มใช้ Savior เป็นตัวแทนของเทพเจ้าองค์ใหม่ออกมาแสดงพลังอำนาจทำลายพวกปีศาจ (ที่มันปล่อยออกมาเอง) เพื่อซื้อ ศรัทธราจากชาวเมืองผู้ที่เชื่อในพระเจ้า จนทำให้ตัวมันเองกลายเป็นพระเจ้าของชาวเมืองได้สำเร็จ
เนื้อเรื่อง ดันเต้
ที่ร้าน Devil may Cry Shop ก่อนหน้านี้ ...
ดันเต้รับรู้เรื่องลัทธิ The Order of the Sword จากการหาข้อมูลของ Lady ว่าเขาสมควรต้องสนใจมันหน่อยเพราะ เมืองฟอลทูน่าที่เป็นฐานที่ตั้งของลัทธินั้นเกี่ยวของกับเรื่องราวของ สปาร์ด้า อย่างมาก เพราะผู้คนในเมืองต่างยึดถือในตำนานเก่าแก่ของเมืองที่พูดถึงสปาร์ด้าที่เคยช่วยเมืองนี้เอาไว้จากกองทัพของปีศาจ ใช่แล้ว คนทั้งเมืองต่างบูชาสปาร์ด้าประดุจดังเทพเจ้าโดยไม่รู้เลยว่าเขาก็เป็นปีศาจตนนึงเหมือนกัน แถมที่นั่นยังกำลังถูกพวกปีศาจบุกเข้ามาโดยไม่รู้สาเหตุด้วย และในฐานะร้านรับปราบปีศาจ มันจึงเป็นทั้งรายได้และข้อมูลชั้นดีที่ดันเต้ควรจะสนใจ เพราะที่นั่นมีห้องสมุดเก่าแก่ที่มีข้อมูลของสปาร์ด้าในอดีตมากมายที่ดันเต้ต้องการจะรู้ แต่ในขณะที่ดันเต้เริ่มจะสนใจเขาจึงเรียก ทริชเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง แต่ที่ไหนได้ ทริช ได้คว้าดาบ Sparda ของดันเต้ที่แขวนอยู่บนพนังแล้วเดินทางไปตั้งแต่ที่ดันเต้กำลังผล่ามอยู่นานแล้ว
Mission 12 : New Beginning
-ดันเต้จะเริ่มที่ Ascension Chamber จัดการศัตรูแล้วเข้ามาด้านในเก็บไอเทม Wing Talisman จากนั้นจะมีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นให้รีบหนีออกมาจากปราสาทก่อนเวลาจะหมด ให้รับหนีออกมาโดดลงมาด้านล่างฟันสวิตซ์ลิฟท์ให้ลงมาแล้วขึ้นไปด้านบนแล้วจะมาที่ห้องที่มีใบพัดมีดให้จัดการศัตรูให้หมดแล้วกดสวิตซ์หยุดใบมีด จะได้ไอเทม Key of Cronus แล้วโดนขึ้นไปด้านบนตามใบมีดจากนั้นหนีจนออกมานอกตึกให้ทันก่อนมันจะระเบิดจากนั้นวิ่งตามทางข้ามสะพานไปก็จะจบ Misson ออกมาแล้วตึกก็จะระเบิดทันที
Mission 13 : The Devil Returns
-ตอนนี้ที่ป่าจะมีฝนตกและจะมีหมอกดำที่ทางเข้าบางทางวึ่งมันจะเป็นที่วาร์ปกลับมาที่เดิมให้พยายามหาทางไปที่เขต Ancient Plaza แล้วมายังแม่น้ำ Lapis แล้วเข้าไปที่หมอกวาร์ปใต้สะพานแล้วเข้าไปในวิหารร้างทะลุผ่านชั้นล่างมาจนมาถึง Lost Wood ซึ่งจะเป็นทางวนเหมือนเดิม ( ดูทิศตามแผนที่คับ ขวา – ซ้าย – ล่าง – ล่าง ) ก็จะผ่านมาได้ เดินไปต่อพบ Boss Echidna อีกครั้งจัดการมันแล้วจะได้ หมัด Gilgamesh อาวุธของดันเต้มา ก่อนที่จะใช้มันทำลายประตูนรกบานแรกที่ป่าแห่งนี้ด้วย
Mission 14 : Forest of Run
-เดินออกมาจากป่าแล้วกลับมาที่น้ำตก เฟอร์ริส อีกครั้ง
Mission 15 : Fortuna Castle
-เมื่อกลับมาที่ Fortuna Castle อีกครั้งจะพบว่ามีน้ำแข็งออกมามากมายใน Grand hall จากนั้นเข้าประตูเขียวทางขวาแล้วโดดลงที่ทางลงห้องทดลองใต้ดินแล้วไปตามทางจะออกมาที่กระจกแตกด้านในของ Grand hall ไปตามทางจนถึงหลุมโดดลงไปด้านล่างฟันสวิตซ์ในคุกแล้วโดดขึ้นมาชั้นบนสุดมาที่ห้อง Master Room แล้วออกมาที่สุสานทหาร ออกมาจะพบ Boss Dagon จัดการมันแล้วจะได้ กล่อง Pandora อาวุธปืนอีกอันของดันเต้มา แล้วใช้ป้อมปืนยิงทำลายฝูงกบปีศาจไปพร้อมกับประตูนรกบานที่ 2
Mission 16 : Inferno
-เมื่อลงมาที่ทางไปห้องทกลองใต้ดินแล้วจะพบว่ามีก๊าซพิษมากมายซึ่งจะทำให้ HP ลดที่ละนิดเข้าไปด้านในจนถึงห้องที่เคยเก็บดาบ Yamato จัดการศัตรูใหเหมดแล้วโดดขึ้นบนกระจกออกมาที่ด้านหลังจะเป็นน้ำตกแล้วขึ้นบันไดไปไปตามทางจนถึงทางโดดขึ้นมาบนชั้น Grand Hall จนออกมานอกปราสาทได้จัดการกับหมาไฟแล้วไปต่อตามเส้นทางหิมะจนกลับมาที่ชานเมือง Freeum เดินเข้าไปพบ Boss Berial
จัดการมันแล้วจะได้ Lucifer อาวุธของดันเต้มา แล้วใช้มันทำลายประตูนรกที่อยู่ที่นี่อีกบาน
Dante – ถ้ามองจากตรงนี้แกก็ไม่ได้ดูตัวใหญ่อะไรเท่าไหร่เลยนี่หว่า ? เดี่ยวเจอกันคุณ Savior
Mission 17 : Adagio For Strings
-เดินทางกลับมาที่เมืองจนเข้าไปด้านในโรงละครโอเปร่าจะพบ Boss Angelo Agnus
Agnus – ทำไม พลังมันถึงใช้ไม่ได้ผลกับข้าเหมือนกันเจ้า
Dante – คำตอบง่ายๆ ก็แกเป็นมนุษย์ธรรมดาไง
Agnus – แกเองก็ไม่ใช่ปีศาจนี่หว่า
Dante – ฟังนะไอ้โง่ การเป็นปีศาจน่ะไม่ได้ทำให้มีพลังเหนือคนอื่นทั่วไปหรอกนะ แกชอบคิดไปเองว่ามนุษย์อ่อนแอ ไอ้ที่มนุษย์ไม่มีมันก็แค่รูปลักษณ์และความสามารถของปีศาจเท่านั้น แต่มนุษย์ยังมีสิ่งอื่นอีกมากที่ปีศาจไม่มี
Agnus – อะไร ? มันคืออะไรบอกข้ามา ข้าจำเป็นต้องเอามันไปทำการวัจัย นะๆๆ
Dante – เองงี้ ถ้าแกอยากจะวิจัยต่อก็เชิญไปทำต่อในนรกก็แล้วกันนะ ... ปังงงงง !!
จากนั้นดันเต้จะเข้าไปเอาดาบ ยามาโตะ ที่ด้านล่างของห้องทดลองมาแล้วเอามาใช้ฟันทำลายแผ่นจารึกที่เป็นเสมือนประตูนรกบานสุดท้ายที่กลางเมืองจนถูกทำลายไปจนหมดสิ้น จากนั้นทริชก็จะเดินเข้ามาหาในขณะที่ดันเต้กำลังจ้องเป้าหมายสุดท้ายคือเจ้า Savior ที่ลอยอยู่บนฟ้าอย่างจดจ่อ
Trish – ไง ได้คืนมาจนได้นะ
Dante – ก็แค่ดาบเล่มนึง
Trish – แต่ก็ยังเหลืออีก 1 ให้ช่วยอะไรมั๊ย
Dante – จริงถ้ามองๆแล้วมันก็ยังห่างไกลกับความเป็นไปได้ที่จะชนะอยู่เยอะนะ แต่ อ่า เอาไว้ช่วยเรื่องอื่นดีกว่า
Trish – ได้เลย
Mission 18 : Destroyer
-พบ Boss Savior โดยต้องโดดที่จุดโดดไปมาเพื่อหาโอกาศจัดการทำลายจุดสีฟ้าๆบนตัวมันให้มหดจนแทบพลังชีวิตมันขึ้นมาแล้วค่อยทำลายที่จุดกลางหน้าอกมันเป็นอันสุดท้ายคือจุดอ่อนที่ต้องทำลาย
จากนั้นดันเต้จะขว้างดาบยามาโตะไปปักอยู่ที่กลางอกของ Savior เพื่อให้เนโรใช้พลังที่เหลือหยิบดาบเข้าไปใช้ได้
Dante - “เฮ้ย ไอ้หนู มัวทำอะไรอยู่ โอกาสจะช่วยโลกแบบนี้มีไม่บ่อยนะเว้ย !!” ทำที่สำควรทำนะไอ้หนู แต่งานนี้อาจมีตั๋วทัวร์นรกแบบไปไม่มีกลับเน้อบอกไว้ก่อน
Nero – ไม่ต้องห่วงพี่ชาย ผมจัดหนักแน่
เนโรใช้พลังเฮือกสุดท้ายจนสามารถเก็บดาบยามาโตะมาอยู่ในมือได้อีกครั้ง ในขณะที่ดันเต้ต้องโรมรันกับ Savior อยู่ด้านนอก เนโรก็รีบลุยเข้าไปด้านในเพื่อไปให้ถึงหัวใจของ Savior ที่มีคีรีย์ถูกจับขังเอาไว้โดยเร็วที่สุด
เนื้อเรื่อง เนโร แองเจลโร่
Mission 19 : The Successor
-เข้ามาจะพบเกมทอยเต๋า เพื่อเลื่อนไปตามชั้นต่างๆและระหว่างชั้นก็จะพบ บอส ทุกตัวที่เคยผ่านมาแล้วซึ่งก็คือ สเตท รวมบอสนั่นเอง
Level 1: white knights and a gold knight.
Level 2: Berial
Level 3: Dagon
Level 4: Echidna
Level 5: Angelo
Mission 20 : La Vita Nuova
ด้านในใจกลางร่างของ Savior จะพบ Sanctus ดูดพลังปีศาจมาใช้จนเป็น Sanctus Diabolica ร่างสมบรูณ์ของมัน และมันยังใช้คีรีย์ฝังอยู่ในหัวใจของ Savior เป็นตัวประกัน เพื่อไม่ให้เนโรกล้าทำลายมันได้ ซึ่งถ้าเนโรช่วยคีรีย์ไม่ได้ ดันเต้ที่สู้อยู่ด้านนอกก็จะไม่สามารถทำลายร่างกายของ Savior ได้เช่นกัน
- เข้าไปพบ Big Boss Sanctus Diabolica แล้วจัดการมันซะ
Sanctus – ทำไม ? ทำไมพลังของสปาร์ด้าผู้ยิ่งใหญ่ถึงไม่ช่วยข้า !!
Nero – แล้วจะมีคำว่าตำนานไว้ทำไมวะ ถ้าตัวกระจอกอย่างแกก็เป็นได้นะ ห๊า !
-เมื่อจัดการมันได้แล้วออกมาจะพบกับ The Savior อีกครั้งแค่กดปัดมือมันให้ถูกจังหวะก็พอ
Nero – ก็อยากจะมาขอบคุณซะหน่อย
Dante – หะ อย่าพยายามทำอะไรที่ตัวเองไม่ถนัดเลยน่าไอ้น้อง ยังไงพี่ก็ได้ประโยคอยู่ด้วยแหละงานนี้
Nero – ยังไงผมก็ยังเป็นหนี้คุณอยู่ดี
Dante – อะนะ ช่วยๆกันน่า ไปละ ดูแลตัวเองด้วยไอ้หนู
Nero – เดี๋ยว คุณลืมของ ดาบของคุณไง
Dante – เก็บไว้เถอะ
Nero – ทำไมละ มันสำคัญสำหรับคุณไม่ใช่หรอ ?
Dante – บอกให้ก็ให้ไง จริงๆน้องต้องการมันมากกว่าพี่อีกนะ ใช้มันให้เกิดประโยขน์แล้วกัน
Nero – เฮ้ ดันเต้ เราจะได้เจอกันอีกมั๊ย ?
Kyrie – มันจบแล้วใช่มั๊ยคะ ?
Nero – อาจจะ อาจจะนะ
Kyrie – ชั้นยังไม่ตายใช่มั๊ย
Nero – ใช่เราทั้งคู่ยังไม่ตาย ฟังนะคีรีย์ ร่างกายของผมครึ่งนึงเป็นปีศาจ มันเป็นสิ่งที่คุณรังเกลียดมาตลอด
Kyrie – เนโร คุณเป็นฮีโร่ของชั้นนะ และชั้นอยากจะอยู่กับคุณเหมือนเดิมไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรก็ตาม
เนโรช่วยคีรีย์คนรักเอาไว้ได้สำเร็จดังคำสัญญาที่ให้ไว้ รวมถึงเมืองและผู้คนในเมืองที่เกลียดชังปีศาจด้วยพลังปีศาจในตัวเขา และถึงแม้เนโรจะไม่มีหลักฐานใดๆที่จะยืนยันตัวตนของตัวเองว่าเป็นใครมาจากไหน เป็นมนุษย์หรือปีศาจ แต่ที่เขารู้แน่ๆว่าพลังปีศาจในร่างกายเขานั่นมีพลังอำนาจมากพอที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ ซึ่งนั่นคงมากพอแล้วสำหรับเป้าหมายแรกของเด็กหนุ่มที่ชื่อเนโรคนนี้ แม้ดันเต้เองที่จากไปโดยไม่กล่าวลาก็เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเนโรว่า ไม่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะมีความเป็นมายังไงแต่เขารู้ดีว่า เนโรมีจิตใจที่ต้องการจะจัดการพวกปีศาจและช่วยเหลือมนุษย์เหมือนกันนั่นก็เพียงพอแล้ว
สุดท้าย เนโร เปิดร้านรับจ้างปราบพวกปีศาจอยู่ที่เมืองฟอร์ทูน่า โดยที่ดันเต้ได้มอบป้ายร้าน Devil May Cry (สาขา 2) ให้และเนโรกับคีรีย์ต่างก็ใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อช่วยผู้คนอย่างมีความสุขอย่างน้อยๆก็ตอนนี้
ที่ร้าน Devil may Cry Shop ...... ไม่กี่วันต่อมา
(ฮัลโหล .. เดวิล เมย์ คราย ค่ะ )
Trish – นี่ดันเต้ งานเข้านะ ลูกค้ามีรหัสถูกต้องนะ รับมั๊ย ว่าไง
Dante – เหลือหรอ ไปดิ
LADY – ไปไหนไปด้วย
Dante – ก็แล้วแต่ แต่ไม่แบ่งค่าจ้างให้หรอกนะ
LADY – แค่ได้เร้าใจก็เกินพอแล้วละ
Dante – เอาละพร้อมยัง ไปกันที่รัก ... Let’s Rock !!!
--------------------------------- THE END ----------------------------------
Devil may Cry 2
[PS2 / 30 Jan 2003]
เมื่อนานมาแล้ว มีกลุ่มคนที่มีพลังพิเศษเหนือคนธรรมดาพวกเขาได้ถูกมนุษย์ทั่วไปหวาดกลัวในพลังอำนาจของพวกเขาจนถูกขับไล่ออกไปอยู่อาศัยรวมกันที่เกาะ วี ดู มาร์ลี และได้อาศัยอยู่ที่นี่ต่อมาหลายชั่วอายุจนทำให้เหล่าทายาทที่เกิดขึ้นมาในรุ่นหลังไดเลืมเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาจนหมดสิ้นและคนส่วนใหญ่ก็แทบไม่เหลือพลังพิเศษติดตัวยกเว้นคนในตระกลู Mamoritoe ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องเกาะแห่งนี้มาตลอดซึ่งในปัจจุบันเกาะนี้มีชื่อว่า Vidu Mali และในวันนึงชายชื่อ Arius ซึ่งเป็นผู้บริหารชั้นสูงของบริษัท Auroboros ได้ปรากฎตัวขึ้นแต่ Matie หญิงชราเชื้อสาย Mamoritoe ได้ล่วงรู้ถึงการมาถึงของ Arius และรู้ว่าตัวจริงของเขาคือพ่อมดที่มีพลังแข็งแกร่งมากซึ่งเป้าหมายของเขาคือครบอครองพลังพิเศษที่มีอยู่ใน Acarna ซึ่ง Arius ได้เข่นฆ่าคนบนเกาะนี้ไปมากมาย Arius จึงสั่งให้ Lucia หลานสาวออกไปตามหา Acarna ก่อนที่ Arius จะได้มันไปและในขณะเดียวกันนางก็ได้ว่าจ้างนักล่าปีศาจผู้สืบสายเลือดของ Sparda ที่ชื่อ Dante มาจัดการเจ้าพ่อมดชั่ว Arius อีกทางนึงด้วย…
บทสรุป Devil May Cry 2
..ลูเซีย ลูกบุญธรรมของเมาเทียร์สมาชิกกลุ่มพิทักษ์เกาะ วี ดู มาร์ลี ที่เคยต่อสู้ร่วมกับสปาร์ด้าเมื่อในอดีต เธอนัดพบกับ ดันเต้ เพื่อว่าจ้างให้ไปจัดการ อาเรียส พ่อมดประจำเกาะที่ทะเยอทะยานที่จะเอาพลังของสปาร์ด้ามาใช้ ซึ่งลูเซียเองก็เป็นปีศาจที่ถูกอาเรียสสร้างขึ้นมา จนทำให้เธอต้องหาความจริงให้ได้ ลูเซียจึงนำทางดันเต้เดินทางไปที่เกาะ วี ดู มาร์ลี ทันที
DISC 1 - Dante Mission
Mission 01
-ที่ลานกว้างหน้าปราสาท วิ่งไปตามทางทางขวาผ่านรูปปั้นไปจัดการศัตรูที่ออกมาแล้วไปจนสุดทางแล้วไปทางซ้ายโดดขึ้นไปบนหลังคาไปเรื่อยๆผ่าสะพานแล้วไปทางซ้ายจนถูกกั้นทางเอาไว้จัดการ Agonofinis แล้ววิ่งไปต่อตามทางจนถึงรูปปั้นสีทองจากนั้นวิ่งไปทางขวาจะพบช่องเปิดอยู่ด้านบนโดดเข้าไปด้านในจัดการพวก Mistra ให้หมดแล้วจะได้กุญแจมาเก็บมาไขประตูออกด้านนอกแล้วไปตามทางจนเจอประตูหินขนาดใหญ่ เข้าไปด้านในไปตามทางทางเดินหรือบนหลังคาก็ได้แล้ววิ่งไปจนพบทางเข้าปราสาท.
Mission 02
-ที่บันได ลงไปตามทางทำลายพนังที่กั้นทางเพื่อไปต่อจนถึงทางน้ำใต้ดินแล้ววิ่งไปทางขวาจะพบพนังรุปใบหน้า 3 จุดให้ทำลายที่จุดที่ 3 ผนังทางขวาจะเลื่อนออกสามารถไปต่อได้แล้วไปตามทางจนเข้าประตูไปเมื่อเข้ามาในห้องนี้ต้องแก้ปริศนาโดยให้ไปยืนที่พื้นที่เรืองแสงกลางห้องแล้วจะมีลูกแก้วออกมา 4 ลูกทำลายมันให้หมดก่อนที่มันจะเปลี่ยนตำเหน่งแล้วประตูจะเปิดออกจะออกมาที่ทางน้ำใต้ดินอีกชั้นนึงวิ่งไปตามทางจะพบผนังหน้าคน 2 จุดซ้ายขวาให้ทำลายทางซ้ายแล้วพนังทางซ้ายจะเลื่อนออกด้านในจะมีรุปปั้นใบหน้าอีกอันนึงเข้าไปทำลายลูกแก้วเวทมนต์ซะก็จะทำลายมนต์สะกดประตูได้ จากนั้นเข้าปรตูไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วทำลายรุปปั้น Goatling ทั้ง 2 ตัวจะได้ Aerial Heart ที่ใช้ช่วยเพิ่มความสามารถในการบินในขณะที่ใช้ Devil Trigger เก็บมาแล้วใช้บินขึ้นด้านบนเข้าไประตูไป
Mission 03
-เข้าไปตามทางจัดการ Blood Goat แล้วเข้าประตูทางซ้ายไปเข้าไปพบ Boss Orangguerra จัดการมันได้จะได้กุญแจมาแล้ววิ่งย้อนกลับมาด้านนอกแล้วมาที่ประตูที่แกะสลักรูปนางฟ้า
Mission 04
-วิ่งไปตามทางจนพบทางแยกแล้ววิ่งขึ้นไปด้านบนสุดทางจะพบทางตันทำลายผนังแล้วไปต่อจนถึงท่าเรือเข้าไปด้านในสุดฟันแท่นศิลาแล้วประตูจะเปิดออกแล้วรีบวิ่งเข้าไปก่อนมันจะปิดเข้าไปพบ Boss Jokatgulm เมื่อจัดการมันได้แล้วประตูทางขวาจะเปิดออกในนี้จะพบมอเตอร์ไซด์สุดเท่อยู่
Mission 05
-ที่อุโมงค์ วิ่งตรงไปจนถึงสี่แยกจัดการศัตรูให้หมดแล้ววิ่งตรงไปแล้วไปทางขวาจะมาโผล่อีกด้านนึงของถนนจะพบ Orangguerra อีกครั้งจัดการแล้วไปต่อโดนข้ามรถบรรทุกจะพบ Boss Inferted Tank 3 คันจัดการหมดแล้ววิ่งขึ้นบนถนนตามทางจะพบ Boss Inferted Chopper ต้องสู้กับมันแล้วโดดไปต่อตามทางจนถึงลานจอด ฮ ด้านบนแล้วโดดไปต่อจนถึงดาดฟ้าตึกที่สูงที่สุด
Mission 06
-เริ่มต้นที่จุดเริ่มใกล้ๆกับ Mission 05 ให้วิ่งไปทางขวาไปที่สี่แยกพบ Boss Nefasturris
Mission 07
-ที่แท่นขุดน้ำมัน วิ่งลงมาด้านล่างจัดการศัตรูแล้วโดดขึ้นด้านบนแล้วสไลด์ไปตามท่อจนออกมาด้านนอกแล้ววิ่งลงมาตามทางเข้าประตุไปวิ่งตามบันไดวนแล้วเข้าประตูทางซ้ายแล้วเข้ามาที่ห้องเครื่องแล้วโดดข้ามลาวาไปทางขวาขึ้นบันไดแล้วเข้าประตูไปจะพบลิฟท์ลงลิฟท์ไปด้านล่างแล้วขึ้นลิฟท์ไปด้านบนต่อแล้วออกไปทางประตูบานสีแดง
Mission 08
-เริ่มต้นที่ลานจอด ฮ. เข้ามาจะพบ Boss Furia Taurus
Mission 09
-เมื่อจัดการ Furia Taurus แล้วย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นของ Mission 07 โดยเมื่อกลับเข้ามาจะมีเสียงเตือนการนับถอยหลังของการระเบิดแค่ 12 นาที ให้โดดลงมาทางปล่องลิฟท์จะเจออุโมงค์แล้วไปทางขวาเข้าประตูไปจนถึงห้องทรงกลมผ่านออกมาที่แท่นกลางลาวาแล้วโดดไปทางว้ายขึ้นไปออกประตูด้านบนแล้วจะออกมาด้านนอกจัดการศัตรูให้หมดแล้วออกมาที่จุดเริ่มต้นของ Mission 07 ให้โดดขึ้นบนท่อที่สไลด์ออกไปในตอนแรกจะพบประตูอยู่ ออกประตูนี้ไปจะออกมาที่ทางเชื่อมอุโมงค์ลมพยายามวิ่งทวนลมมาที่เครื่องบินพอขึ้นมาได้เครื่องบินจะผุ่งไปชนพัดลมจนพังจากนั้นออกมาแล้วเข้าไปที่ช่องตรงที่พัดลมที่พังไป
Mission 10
-ที่วิหารโบราณ วิ่งไปที่ลานตรงกลางแล้วไปทางซ้ายจัดการลูกแก้วเวทย์มนต์ทางซ้ายแล้วรีบไปจัดการอีกอันทางขวาโดยอย่าให้ทางซ้ายดับลงไปจะสามารถเปิดประตูตรงกลางได้เมื่อเข้ามาจะถูกดูดไปอีกมิตินึงจะพบ Savage Golem และ Demonochorus จัดการมันให้หมดแล้วจะพบ Boss Noctpteran เมื่อจัดการมันได้จะมีจุดวาร์ปให้กลับไปแล้ววิ่งไปลงตรงลานกว้างที่เปิดเอาไว้.
Mission 11
-ลงบันไดมาเรื่อยๆจนสุดทางเข้าประตูไปจะพบทางเข้าทางใต้ดินแล้วลงไปต่อจนถึงห้องโถงใหญ่ฟันลูกแก้วเวททย์มนต์ที่อยู่ตรงกลางแล้วกลับออกมาทางเดิมแล้ววิ่งไปตามทางลาดจะพบลุกแก้วกลิ้งตามหลังมาอย่าให้โดนมันทับแล้ววิ่งมาจนถึงอีกห้องโถงนึงแล้วค่อยๆโดดไปนถึงชั้นบนสุดแลเวจัดการฟันลูกแก้วเวทย์มนต์แล้วพื้นตรงกลางห้องจะกล่ยเป้นลิฟท์แล้วขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนแล้วเข้าประตูไปจะมีช่องที่พื้นทางขวาให้โดดลงไปพบ Boss Bolverk และ Freki & Geri
Mission 12
-จากหน้าประตูวิ่งลงมาจนพบห้องโถงใหญ่ในนี้จะพบลูกแก้วเวทย์มนต์ที่มีลูกบาศก์ล้อมรอบให้ทำลาย ลูกบาศก์ให้หมดแล้วจะมีทางไปต่อที่พื้นตรงกลางลงไปตามทางเข้าประตูซ้ายพบ Boss Plutonian เมื่อจัดการได้แล้วทางลับจะเปิดออกแล้วเข้าไปด้านในต่อไป
Mission 13
-เมื่อเข้ามาจะพบกับ Boss Arius ทันที
Mission 14
-ในเมืองนี้จะมีลูกแก้วเวทย์มนต์กระจายอยู่ 4 ลูกในเมืองนี้ซึ่งเส้นทางของเมืองจะวกวนและสามารถกลับมาที่จุดเดิมได้ โดยจากจุดที่ยืนตอนแรกให้วิ่งไปทางรูปปั้นสีทองไปตาทางจนถึงตรงที่ต้องเลี้ยวขวาให้โดดขึ้นบนหลังคาจะพบลูกแรกลอยอยู่กลางอากาศ จากนั้นวิ่งไปตามทางลูกที่สองจะอยู่ใลานประลองจากตรงนี้ออกมาแล้วไปทางขวาต่อลุกที่สามจะอยู่ที่สุดทางโดยมี Savage Golem เฝ้าอยู่จากนั้นวนกลับมาจุดเริ่มต้นก่อนถึงจะมีทางแยกจะพบลุกแก้วลุกที่ 4 ลอยอยู่เมื่อจัดการหมดประตูจะเปิดออก เข้าไปจะเป็นลานกว้างและลูกตาที่โผล่ออกมาพร้อมกับศัตรูจัดการแล้วจะพบ Boss Phantom
Mission 15
-ยังคงอยู่ที่ลานกว้างให้จัดการฟันที่ลูกตาดวงกลางแล้วจะมีศัตรูออกมาซึ่งต้องจัดการให้หมดภายใน 3 นาทีจากนั้นโดดไปที่หลุมตรงกลาง
Mission 16
-ที่ห้องโถงในตัวตึก วิ่งไปที่ประตูแล้วจัการศัตรูให้หมดแล้วเข้าประตูไปจะมอยู่ในลิฟท์เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบนไปตามทางผ่านรุปปั้นสีทองไปทางซ้ายตามทางจนถึงห้องโถงใหญ่ที่ท้ายห้องบนระเบียงจะมี Sacrilege เก็บแล้วย้อนออกไปใส่ประตูที่เข้ามาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเมื่อออกมาที่ทางเดินให้วิ่งไปตามทางผ่านห้องโถงไปสุดทางจะพบ Bolverk และ Freki & Geri อีกครั้งจัดการแล้วจะได้ Sacrilege มาแล้วเก็บมาใส่ประตูอีกครั้งจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีก ไปตามทางต่อจนพบทางแยกวิ่งไปตามทางแยกต่อจนเข้าประตุไปสุดทางจะพบลิฟท์เมื่อออกมาจากลิฟท์จะพบ Boss Trismagia
Mission 17
-เมื่อเข้ามาจะพบ Boss Arius ทันที
Mission 18
-ทันใดที่โลกปีศาจถูกเปิดออก ลูเซียเองก็ต้องการเข้าไปด้านในเพื่อจัดการกับอาร์โกแซ็กด้วยตัวของเธอเอง แต่มนุษย์ที่เข้าไปในโลกปีศาจแล้วไม่เคยมีใครได้กลับมาอีก ดันเต้จึงได้ออกอุบายใช้เหรียญโยนหัวก้อยซึ่งถ้าเหรียญออกหัวดันเต้จะได้เข้าไป และถ้าออกก้อยลูเซียถึงจะได้เข้าไป ..แต่เหรียญออกหัว ทำให้ดันเต้ได้เข้าไปในโลกปีศาจแทน ลูเซีย เพื่อเข้าไปพบ Boss Argosax The Chaos ซึ่งมันคือบอสตัวต่างๆที่เคยพบมาแล้วเมื่อจัดการมันได้แล้วจะพบกับ Big Boss The Despair embodied
DISC 2 - Lucia Mission
Mission 01
- หน้าหมูบ้านเก็บ Red Orb ให้ครบ 45 ชิ้นเพื่อคลายสะกดประตูแล้ววิ่งย้อนกลับไปทางเดิมเส้นทางของ dante
Mission 02
-หน้าปราสาทวิ่งขึ้นบนไดไปฟันลูกแก้วเวทย์มนต์แล้วจัดการรุปปั้น Blood Goat แล้วจะได้ Aerial Heart มาเก็บมาแล้วใส่เพื่อบินขึ้นด้านบนที่นี่ต้องบินขึ้นไปจัดการกัลูกแก้วเวทย์มนต์แล้วกลไปจะทำงานมีทางไปต่อด้านบนขึ้นไปด้านบนจะพบ Boss Tartarussian เมื่อจัดการแล้วประตุด้านช้างจะเปิดออกเข้าไปจะมาออกที่ชั้นบนสุดแล้วโดดลงไป
Mission 03
-ที่ทางเข้าเมื่อวิ่งไปตามทางจัดการศัตรุแล้วเข้าไปที่ประตูทางขวาของชานชลาด้านในสุดเก็บ Klyamoor แล้วกลับออกมาย้อนกลับมาเข้าประตูแกสลักรุปนางฟ้าจัดการศัตรูให้หมดแล้วพังประตูไปจนถึงท่าเรือจะพบ Boss Jukogulm เมื่อจัดการได้แล้วออกประตูทางซ้ายไป
Mission 04
-ในอุโมงค์วิ่งออกมาที่สี่แยกจัดการศัตรูที่ไฟแดงแล้ววิ่งไปทะลุอุโมงค์ด้านในทะลุมาอีกด้านจะพบ Boss infersted Tank
Mission 05
-แท่นขุดน้ำมันโดดขึ้นไปตามท่อไปที่ประตูทางเชื่อมอุโมงค์ลมออกมาที่อุโมงค์ลมวิ่งไปที่ท้ายเครื่องบินแล้ววิ่งเข้าประตูตรงมุมไปจะเป้นห้องพลังงานจัดการลูกแก้วเวทย์มนต์แล้วประตูทุกบานจะสามารถใช้งานได้แล้วย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นไปที่ประตูม้วนแล้วออกมาที่ด้านนอกจะพบ evil Heart เก็บแล้ววิ่งไปตามบันไดสุดทางเข้าประตูแล้วโดดลงมาด้านล่างแล้วใช้ evil Heart กับประตูเข้าไปด้านในจะเป็นอุโมงค์รถไฟวิ่งลงมาด้านล่างแล้วเข้าประตูไป
Mission 06
หลังจากถูกดูดมาอีกมิตินึงแล้วจะพบ Boss Noctpteran เมื่อจัดการได้แล้วจามีจุดวาร์ปออกมาจะมาโผล่ที่ถ่ำใต้ดินเก็บ Bow Gun แล้วโดดลงน้ำไปก็จะพบทางเข้า
Mission 07
-ที่อุโมงค์ใต้น้ำว่ายขึ้นบนไปเรื่อยๆจะขึ้นมาที่ถ้ำใต้น้ำจัดการศัตรูให้หมดแล้วไปทางซ้ายต่อแล้วจะพบทางลงบ่อน้ำอีกโดดลงไปดำน้ำไปตามทางจนถึงห้อวโถงใหญ่และจะพบกับน้ำเชี่ยวให้ว่ายขึ้นไปด้านบนจะมีทางไปต่อ จะพบแท่นหิน 9 แท่นฟันให้หมดครบทุกอันจะมีพื้นเวทย์มนต์ออกมาโดดขึ้นไปด้านบนสุดฟันลูกแก้วเวทย์มนต์แล้วจะมีผนังหินลงมาปิดบางส่วนของโถงด้านล่างทำให้กระแสน้ำเชี่ยวหายไปแล้วย้อนกลับลงไปที่ที่น้ำเคยเชี่ยวผ่านไม่ได้เข้าไปจะพบ Boss Tateobesu
Mission 08
-ว่ายน้ำขึ้นบนมาเรื่อยๆแล้วโดดขึ้นมาด้านบนจะพบแท่นหินขนาดใหญ่กดที่แท่นหินมันจะปล่อยลูกไฟออกมาให้โต้ลูกไฟกลับไปที่แท่นหินทั้ง 3 ลูกแท่นหินจะพังลงจนน้ำเข้ามาท่วมที่นี่จะทำให้ว่ายน้ำขึ้นไปด้านบนพบทางออกได้แล้ววิ่งไปลงที่ช่องด้านบนจะพบทางลงน้ำอีกว่ายไปตามทางจนพบสุสานใต้ทะเลแล้วว่ายไปจนถึงโถงกว้างๆโดดขึ้นไปด้านบนจะพบลูกแก้วเวทย์มนต์ 9 ลูกแล้วจะมีเสาน้ำพุ่งขึ้นมาแล้วโดดขึ้นไปตามยอดของเสาแล้วเข้าประตูไปพบ Boss Plutonian
Mission 09
-เริ่มต้นจะเข้ามาพบ Boss Arius ทันที
Mission 10
-ในเมืองที่นี่ต้องจัดการทำลายลูกแก้วเวทย์มนต์ 4 ลูกที่กระจายตามส่วนต่างๆของเมืองให้หมด จากจุดที่อยู่วิ่งไปทางซ้ายจะพบลูกแรกอยู่ที่มุมทางซ้ายแล้ววิ่งไปตามทางด้านในจะพบลูกที่สองอยู่บนหลังคาทางซ้ายและจะพบลูกที่สามที่ตรอกเล็กๆเลยลานประลองไปจากนั้นวิ่งมาจุดเริ่มต้นจะพบทางแยกไปตามทางแยกจะพบลูกสุดท้ายบนหน้าผาทางขวาเมื่อครบแล้วประตุจะเปิดออก เข้าไปจะเป็นลานแล้วมีดวงตาปีศาจอยู่ตรงกลางและจะมีฝูงปีศาจออกมาจัดการให้หมดจะพบ Boss Phantom
Mission 11
-ยังคงอยู่ในลานกว้างที่เดิมจากนี้จะต้องจัดการปีศาจที่ออกมาให้หมดภายใน 3 นาทีแล้วโดดลงไปในช่องตรงกลางลาน
Mission 12
-ที่ห้องโถงชั้นแรกเข้ามาจัดการ Blood Goat ให้หดมแล้วเข้าประตูไป เข้าไปในลิฟทืจัดการศัตรูจนถึงชั้นบนแล้ววิ่งไปตามทางจนถึงห้องโถงชั้นในจัดการพวก Mistra ให้หมดจะได้ Sacrilege เก็บมาแล้วย้อนกลับออกไปโดยไม่ต้องสนใจทางแยกจนพบห้องโถงอีกด้านด้านในสุดบนระเบียงจะพบ Sacrilege อีกอันเก็บมาแล้วย้อนกลับมาวิ่งผ่านห้องโถงแรกก่อนถึงห้องที่สองจะมีทางแยกเล็กๆอยู่ไปตามทางนี้จะพบ Boss Trismagia
Mission 13
-เมื่อเข้าจะพบกับ Arius เมื่อจัดการมันได้มันจะกลายร่างเป็น Possessed Arius ที่มีความเร็วค่อนข้างสูงขึ้นเมื่อจัดการมันได้มันจะกลายร่างเป็น Big Boss Arius Agosax ร่างสุดท้าย.
หลังจากที่จัดการกับ Arius ลงได้ เธอก็ไม่พบดันเต้กลับออกมาจากโลกปีศาจอีกเลย ลูเซีย กลับมารอที่ร้าน Devil May cry ของดันเต้ เพื่อรอพบเขา ในขณะที่เธอกำลังสิ้นหวังเธอก้ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซด์จากด้านนอก ลูเซียทิ้งเหรียญที่เป็นหัว 2 ด้านที่ดันเต้หลอกเธอเอาไว้ แล้วเดินออกไปด้านนอกโดนหวังว่าคนที่เธอจะได้เห็นคือ ดันเต้ นักล่าปีศาจเพื่อนของเธอ
------------------------------ THE END ------------------------------------------------------
CREDIT:
แนวทางการเล่น
WALKTHROUGH/GUIDES
-
Devil May Cry HD Collection [By Decibel per Oxide]
-
Devil May Cry : สรุปจักรวาล ภาค1-5 [By Danny TH]
-
Devil May Cry [By Decibel per Oxide]