Skip to main content


(as "Final Fantasy Type-0")

Final Fantasy Type-0

ไฟนอลแฟนตาซี ไทป์-0

Platform:   

Final Fantasy Type-0 HD [By Sylphine Sylphgale]




General Data

 In-depth Data 

 Walkthrough

  • วิชา STRY-601: Story Chapter 6 (The Clash on the Big Bridge)
  • วิชา NGST-601: Story Chapter 6 (The Last Line of Defense)
  • วิชา ST 801: Story Chapter 8 (Invasion of the Rursus) 

 

  • วิชา SDUN-999: Tower of Agito (Tower of Judecca)

 

  • วิชา ET 301-4: Chapter 3 Expert Trials
    • The Keziah Diversion
    • United Front
    • Expelling the Empire
    • The Clash in the Caverns

 

  • วิชา ET 501-4: Chapter 5 Expert Trials
    • Covering the Cadets
    • A Charge on the Border
    • The Battle on the Beach
    • Colonet Faith's Revolt

 

  • วิชา ET 701-4: Chapter 7 Expert Trials (Part1)
    • The Retreat from Roshana
    • Operation Sticky Fingers
    • Secret Agent Zero
    • Operation Dragon Slayer

 

  • วิชา ET 705-8: Chapter 7 Expert Trials (Part 2)
    • Thwarting the Royal Ambush
    • Wyverns in the Woods
    • The Climactic Clash at Azurr
    • Operation Homecoming

 

  • วิชา ET 709-12: Chapter 7 Expert Trials (Part 3)
    • Protecting the Defector
    • The Armiter Resistance
    • Dominating the Dragon's Nest
    • Colonel Faith's Last Stand

 

วิชา CHAR-101
แนะนำตัวละครเบื้องต้น

 

เอนทรี่นี้เป็นเอนทรี่แรกในซีรีย์ข้อมูล Final Fantasy Type-0 HD ที่เจ้าของบล็อคทำ ฝากข้อมูลส่วนนี้ด้วยนะคะ

เราเชื่อว่า... ไม่มีใครที่ถอย Final Fantasy Type-0 หรือ ไฟนอลแฟนตาซี เรย์ชิกิ (零式 - Reishiki) แล้วไม่เคยเห็นภาพนี้แน่ๆ... 

ทั้งภาพนี่ล่ะค่ะ ตัวละครที่เราได้ใช้แน่... ยกทีม Class Zero (Reishiki) เลย ในภาพมี 12 แต่เอาเข้าจริงๆ ตัวละครที่เราจะสามารถใช้ได้ มี 14 ค่ะ ดูตามภาพข้างล่างนี่ประกอบด้วย 

สองคนตรงกลางจะเพิ่มเข้ามาตามสตอรี่ และ ทั้งหมดนี้เราจะเลือกจัดปาร์ตี้ 3 คน ได้ตามใจค่ะ

 

ชื่อ: Ace (เอซ)
อาวุธ: ไพ่
อายุ: 16

รีวิวโดยเจ้าของบล็อค:

  • ในบรรดา 14 คน เอซเป็นตัวที่เราจะต้องใช้เป็นอันดับแรกสุดตามเนื้อเรื่อง
  • เอซเป็นตัวละครที่ค่อนข้างไว และใช้ได้ง่าย พารามิเตอร์โดยรวมกลางๆ แต่เป็นตัวที่เก่งการหลบที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไรค้างอยู่ จะสามารถกดหลบแล้วหลบแทบทันทีได้ (เฉพาะถ้าไม่มีโมชั่นอะไรค้างอยู่ เช่น เพิ่งร่ายเวทย์ไปแล้วมือยังค้างเป็นร่ายเวทย์ และสามารถกดหลบรัวได้ง่ายกว่าตัวอื่นมาก เพราะคนอื่นจะกลิ้ง หรือ สไลด์หลบ ซึ่งจะมีดีเลย์นิดๆหลังจากกลิ้ง ต่างจากเอซที่วาร์ปหลบเลย)
  • การโจมตีระยะไกลปกติของเอซนั้นจะใช้ไพ่ซัดเป็นวิถีโค้ง อาจมีปัญหาได้เวลาจะต้องซัดเป้าเคลื่อนที่ เพราะไพ่ของเอซพุ่งช้ากว่ากระสุนปืนหรือธนูเยอะ
  • ท่าโจมตีระยะประชิดของเอซหลายฮิตและเร็วมาก สามารถทำศัตรูร่วงได้ง่ายๆ แต่ก็แลกกับการเสี่ยงตายเหมือนกัน เพราะ อย่างที่บอกว่า เอซตัวค่อนข้างเปราะ(มาก) เพราะเป็นตัวละครชายที่เปราะเกือบที่สุดในเกม
  • ท่าตัดไพ่ของเอซ (Cut Cards) จะสุ่มเอฟเฟค ทำให้เอซสามารถฮีลตัวเอง เติมเวทย์ตัวเอง ยิงเวทย์เผาศัตรู 1 เป้า รวมถึงใช้เวทย์หยุดศัตรูเป็นระยะเวลาสั้นๆได้ด้วย แต่ทั้งนี้ ขึ้นกับดวง และ อบิลิตี้ที่ติดตั้งให้เอฟเฟคไหนออกบ่อย (จะเป็น Ability สายการ์ดที่ลงชื่อด้วย Hand ว่าอะไรจะสุ่มบ่อย)
  • เอซมีนิสัยที่ค่อนข้างสุขุม แต่ก็ไม่ได้เยือกเย็นนัก และรักพวกพ้องพอที่จะเข้าช่วยทันทีด้วย โดยส่วนตัว เจ้าของบล็อคโปรดปรานการใช้เอซมาก แม้พารามิเตอร์ของเอซจะกลางๆ และ ตัวเปราะเพราะเป็นสายระยะไกล แต่นิสัยตัวละครและความสามารถพิเศษที่ทำให้เอาตัวรอดได้แทบทุกสถานการณ์ทำให้เจ้าของบล็อคอัดเลเวลเอซเต็มไปก่อนใครเพื่อนซะยังงั้นเลย...
  • ชื่อของ Ace มาจากไพ่ Ace หรือ 1 ในสำรับไพ่ที่หลายๆคนคงคุ้นเคย  ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศสยุคเก่าที่จะเรียก 1 ว่า เอซ

 

ชื่อ: Deuce (ดิวซ์)
อาวุธ: ขลุ่ย (ฟลู้ท)
อายุ: 16

รีวิวโดยเจ้าของบล็อค:

  • ดิวซ์เป็นตัวละครที่บางครั้งก็จัดว่าใช้ยาก แต่บางสถานการณ์กลับเจ๋งอย่างไม่น่าเชื่อ (จะกล่าวถึงในเอนทรี่หลังจากนี้ว่าทำไม)
  • ดิวซ์เป็นตัวละครสายนักเวทย์ มี HP น้อยที่สุดใน 14 คน และ MP สูงมาก(สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของตัวละครทั้งหมดในตี้)
  • โดยพื้นฐานขลุ่ยของดิวซ์มีดีเลย์ในการโจมตีปกติอย่างร้ายแรง เพราะต้องเป่าสักพักเลยถึงจะมีกระสุนออกไปซัดศัตรู หรือ บอลแสงที่ออกมาเพราะเสียงเพลงจะไปซัดศัตรู แต่สามารถกดค้างยาวๆให้ตีศัตรูต่อเนื่องระหว่างเดินหลบอย่างช้าๆได้
  • ท่าโจมตีประชิดของดิวซ์กินรัศมีรอบตัว ไม่แนะนำให้ใช้ถ้าไม่มีอะไรไว้ป้องกันตัวระดับนึงก่อน เช่น บอลแสงที่เกิดจากการเป่าขลุ่ย หรือ Tone Cluster ที่วางดักไว้ แต่ถ้าใช้จนชินแล้ว จัดไปเลยค่ะ เป็นท่าเปิดของ Quick Draw เพื่อทำเดเมจต่อเลย
  • อบิลิตี้สายเพลงของดิวซ์จะเป็นการบัฟเพิ่มพลังให้เพื่อนๆซะมาก แต่ก็มีเพลงประเภทโจมตีด้วย แต่รวมๆแล้วเจ้าของบล็อคใช้บ่อยสุดแค่ 2 เพลง คือ Concerto และ Concerto ff เท่านั้นเอง ที่เหลือ... ยิงเวทย์...
  • ดิวซ์เป็นเด็กสาวนิสัยอ่อนโยนและน่ารักน่าถนอม แต่ก็เด็ดเดี่ยวในบางครั้ง เอาจริงๆเจ้าของบล็อคก็ใช้หนูดิวซ์บ่อยนะ แต่สถานการณ์ค่อนข้างจำกัด จนกว่าจะได้ของที่จำเป็นครบ
  • ชื่อของ Deuce มาจากชื่อเรียกไพ่หมายเลข 2 ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสยุคเก่าเช่นกัน

 

ชื่อ: Trey (เทรย์)
อาวุธ: ธนู
อายุ: 17

รีวิวโดยเจ้าของบล็อค:

  • เทรย์เป็นตัวละครสู้ระยะไกลเป็นหลัก ใช้ง่ายและยิงหนักที่สุดในสายระยะไกล (ไม่ว่าจะยิงธรรมดา หรือ ชาร์จยิง) แต่ก็มีปัญหากับการยิงศัตรูที่บุกมาถึงระยะประชิดพอตัวอยู่ เพราะเป็นสายระยะไกลเพียวๆ แบบไม่มีท่าตีระยะประชิดเลย ระยะไหนก็ต้องง้างธนูยิง (ทำไมเฮียไม่เอาคันธนูฟาดหน้าฟะ...)
  • ถึงจะเป็นนักธนู แต่เอาจริงๆก็ยังถึกกว่าเอซ (ถึงจะไม่มากก็เถอะ)
  • ท่าธนูของเทรย์มีท่าหมู่อยู่เยอะ แต่เอาจริงๆที่ใช้ประจำมีไม่เยอะนัก เพราะจบด้วยการใช้ท่าชาร์จยิงกับท่าหากินบางท่าเท่านั้นเอง...
  • เทรย์มีท่าที่ทำให้ติด Breaksight / Killsight ด้วย อาจเป็นประโยชน์ในบางสถานการณ์ แต่รวมๆ เจ้าของบล็อคไม่ค่อยใช้ส่วนนี้ของเทรย์เท่าไหร่
  • เทรย์เป็นคนสุขุม รักษามาด และ มีความรู้รอบตัวเยอะที่สุดในกลุ่ม แต่บางครั้งก็ปากสว่างพูดไม่หยุดจนต้องปรามให้เฮียหยุดพูดก่อนจะยาวกว่านี้...
  • เจ้าของบล็อคใช้เทรย์เป็นบางครั้ง แต่หลังจากฝึกเอซไปสักพัก เทรย์ก็โดนเก็บเข้าคลัง ไว้ใช้ในด่านที่ต้องโจมตีระยะไกลเท่านั้นแทน เนื่องจากความคล่องตัวไม่เท่าเอซและความสามารถในการเอาตัวรอดน้อยกว่า
  • ชื่อของเทรย์ มาจากชื่อเรียกไพ่เลข 3 ในภาษาฝรั่งเศสยุคเก่าอีกเช่นกัน

 

 

วิชา BATT-1011
สถานะต่างๆของตัวละครในการต่อสู้

ในภาคนี้ สเตตัสจะแสดงบนจอ เหนือ ชื่อ และ แถบ HP, MP เป็นตัวหนังสือ แล้วแสดงเอฟเฟครอบตัวละครเลย เพราะงั้นแรกๆอาจยังไม่ชินกับมันเท่าไหร่ แต่สักพักก็จำได้เองค่ะ

สเตตัสไม่พึงประสงค์ (สเตตัสไม่ดีนั่นล่ะ)

 

ชื่อสเตตัส ผลลัพท์
Burn
สเตตัสไฟไหม้ HP จะลดลงเรื่อยๆเป็นระยะจนกว่าจะหมดผล (ถือเป็น Damage over Time ธาตุไฟ และ เวลาทำเดเมจ เราจะเซ และถูกแคนเซิลแอคชั่นนั้นๆด้วย)
 
ลักษณะ: ตัวเราจะออกสีส้มอ่อนๆ มีคำว่า Burn เหนือแถบสเตตัสข้างล่าง และจะเซเป็นระยะ จนกว่าจะหาย
Freeze
สเตตัสแช่แข็ง ตัวเราจะขยับไม่ได้ชั่วขณะ คล้าย Stop
 
ลักษณะ: ตัวเราจะสีขาวซีด และ ยืนทื่อนิ่งสนิทอยู่ชั่วขณะ
Shock
สเตตัสไฟช็อต HP จะลดลงเรื่อยๆเป็นระยะจนกว่าจะหมดผล (ถือเป็น Damage over Time ธาตุสายฟ้า และ เวลาทำเดเมจ เราจะเซ และถุกแคนเซิลแอคชั่นนั้นๆด้วย)
 
ลักษณะ: ตัวเราจะมีไฟฟ้าแล่นตามตัว และจะเซเพราะช็อตเป็นระยะ
Poison
สเตตัสติดพิษ HP จะลดลงเรื่อยๆจนกว่าจะใช้เวทย์รักษา ใช้ไอเทมรักษา หรือ หมดเวลาจนมันหายไปเอง
 
ลักษณะ: ตัวเราจะมีฟองอากาศเขียวๆ ลอยขึ้นมาเป็นระยะ และ HP จะลดลงเรื่อยๆ
Silence
สเตตัสใบ้ ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ และ เรียก Eidolon ได้
 
ลักษณะ: ตัวเราจะมีลูกโป่ง ... โผล่อยู่ข้างๆ และ จะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้
Stun สเตตัสมึนงง ไม่สามารถทำอะไรได้จนกว่าจะหาย
Stop
สเตตัสเวลาหยุดนิ่ง ไม่สามารถทำอะไรได้จนกว่าจะหาย นอกจากนี้ความสามารถจำพวกเกี่ยวกับเวลาจะถูกแคนเซิลชั่วขณะด้วย ไม่ว่าจะเป็นสเตตัสบัฟ หรือ ดีบัฟ
 
ลักษณะ: ตัวเราจะแข็งทื่อ อยู่ท่าไหน ท่านั้น (ไม่เหมือน Freeze ที่จะยืนตรง Stop จะอยู่สภาพไหนสภาพนั้น ถ้ากลิ้งก็ค้างโมชั่นกลิ้งเลย)
Killsight
สเตตัสโดนตีทีเดียวตาย ต้องหลบไปเรื่อยๆจนกว่าสเตตัสนี้จะหายไปเอง (ไม่นาน)
 
ลักษณะ: ตัวเราจะเป็นสีแดง และ มีสัญลักษณ์ Killsight อยู่บนหัว
Death
สเตตัส(กำลังจะ)ตาย ซึ่งถ้าใช้ไอเทม หรือ เวทย์ Raise ไม่ทันก่อนศพจะหายไป ก็จะตายจริง และ ไม่สามารถฟื้นได้จนกว่าจะใช้ไอเทมชุบชีวิต หรือ กลับเมืองเพื่อรักษา
 
ลักษณะ: (ยังต้องให้บรรยายหรอ?)

 

 

 

สเตตัสที่ให้ผลสนับสนุนตัวละคร

 

ชื่อสเตตัส ผลลัพท์
Primed
สเตตัสกำลังพร้อมสุดๆ ให้ผลเหมือนมีทั้ง Aura และ Trance ในเวลาเดียวกัน
 
ลักษณะ: ตัวละครจะมีออร่าส้มๆและแดงๆ ออกจากตัวในเวลาเดียวกัน
Aura
สเตตัสออร่าออก เพิ่มพลังโจมตีของการโจมตีทางกายภาพทุกรูปแบบ
 
ลักษณะ: ตัวละครจะมีออร่าสีแดงออกจากตัวเป็นระยะ และ มีเคลือบสีฟ้าเหลือบบนตัว
Trance
สเตตัสเปลี่ยนโหมด เพิ่มพลังโจมตีของเวทย์ทุกรูปแบบ
 
ลักษณะ: ตัวละครจะเหลือบสีแดงเป็นระยะ และ มีละอองสีออกชมพูลอยขึ้นมาจากตัวเป็นระยะ
Regen
สเตตัสฟื้นฟู HP จะค่อยๆฟื้นเองเรื่อยๆ
 
ลักษณะ: ตัวละครจะเหลือบสีเขียวเป็นระยะ (คล้าย protect แต่สีเขียว)
Haste
สเตตัสเพิ่มความเร็ว เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่เป็นสองเท่า
 
ลักษณะ: (ไม่มีลักษณะอะไรเป็นพิเศษ แต่วิ่งเร็วมาก)
Quick
สเตตัส(ว่อง)ไว ทำให้เวลาร่ายเวทย์ทุกชนิดเหลือครึ่งเดียว
 
ลักษณะ: (ไม่มีลักษณะอะไรเป็นพิเศษ)
Protect
สเตตัสมีเกราะป้องกัน เพิ่มพลังป้องกันการโจมตีทางกายภาพ
 
ลักษณะ: ตัวละครจะเงาวิ้ง เหมือนโดนเคลือบแวกซ์มา
Invisible
สเตตัสล่องหน ศัตรูที่อาศัยการมองเห็นในการโจมตีจะมองไม่เห็นเรา และ จะไม่โจมตี
 
ลักษณะ: ตัวละครจะโปร่งใส่ มองทะลุได้
Reraise
สเตตัสพร้อมชุบ ถ้าเราตาย เราจะฟื้นทันทีเหมือนถูกร่ายคาถาชุบชีวิตให้
 
ลักษณะ: (ไม่มีลักษณะอะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าถูกตีจนตายจะฟื้นเองทันที)
Endure
สเตตัสทน(มือทนตีน) ไม่มีวันเซ หรือ ถูกแคนเซิลแอคชั่น
 
ลักษณะ: ตัวละครจะมีเหลือบสีส้ม และ มีออร่าสีส้มบางๆออกมาให้เห็น
Freecast
สเตตัสร่ายฟรี เวทย์ทุกชนิดไม่ต้องใช้ MP ในการร่าย
 
ลักษณะ: (ไม่มีลักษณะอะไรเป็นพิเศษ)
Invincible
สเตตัสไร้เทียมทาน ไม่มีวันตาย ไม่มีวันโดนเดเมจทุกชนิด
 
ลักษณะ: ตัวละครจะมีสีเหลืองออกทองเคลือบแว่บนึง

 

 

สเตตัสที่ให้ผลสนับสนุนศัตรู

 

ชื่อสเตตัส ผลลัพท์
Rage
สเตตัสบ้า ศัตรูจะโจมตีแรงขึ้น วิ่งเร็วขึ้นเท่าตัว และ ไม่มีวันเซ หรือ ถูกแคนเซิล แต่ถ้าปล่อยให้อยู่สภาพนี้ไปสักพักก็จะติด Breaksight / Killsight เอง
 
ลักษณะ: ดูง่ายมาก เพราะศัตรูจะมีออร่าออกเห็นๆ วิ่งเร็ว และ ทำอะไรเร็วกว่าปกติ (ถ้าเล่นความยาก Finis ศัตรูแทบทุกตัวจะมีสเตตัสนี้ตลอดเวลาด้วย)
Barrier
สเตตัสบาเรีย (ม่านพลัง) การโจมตีด้วยเวทย์จะไม่มีผลกับศัตรู
 
ลักษณะ: ศัตรูจะออกสีชมพูๆ พร้อมมีคำว่า Barrier เหนือชื่อ
Invincible
สเตตัสไร้เทียมทาน ไม่มีวันโดนเดเมจจากการโจมตีทุกชนิด
 
ลักษณะ: ศัตรูจะออกสีเหลืองๆ พร้อมมีคำว่า Invincible เหนือชื่อ

 

 

เนื่องจากไม่มีโควต้ารูปให้ลง ขอต๊ะไว้ก่อนนะคะ ไว้จะย้อนมาอัพหลังจากได้โควต้าค่


 

วิชา MAGI-102
Altocrystarium และ Phantoma

หลังจากเล่นเกมไปจนถึง Chapter 2 ใน Free Time ครั้งที่สอง Dr. Al-Rashia จะเปิด Altocrystarium ให้เราสามารถใช้ Phantoma ที่เราเก็บมาในการอัพเกรดเวทมนตร์ที่เรามีอยู่ได้

การอัพเกรดใน Altocrystarium นี้ หลังจากอัพแล้วจะอยู่ตลอดไป (ยกเว้นคุณจะอัพพารามิเตอร์อื่นให้เลเวลมันลดลง) แม้จะขึ้น New Game+ ก็ไม่หาย ไม่ต้องห่วงค่ะ

 

 การอัพเกรดเวทย์ใน Altocrystarium

 

          แต่ละเวลาจะมีพารามิเตอร์ต่างๆกันไป แต่หลักๆจะมีดังนี้ค่ะ

 

          Power = พลังโจมตีของเวทย์ (เวลาอัพจะเพิ่มครั้งละ 4-6 แต่มักจะไปลดเลเวลของ MP Cost)

          MP Cost = อัตราการใช้ MP ในการร่าย (อัพขึ้นได้ทีละ 2-4 แต่โดนลดเยอะเหลือเกิน เวลาอัพค่าอื่นๆ น่ารำคาญมากมาย...)

          Cast Time = ความเร็วในการร่ายเวทย์ (อัพขึ้นได้ครั้งละ 8-10)

          Range = ระยะโจมตีของเวทย์ หรือ ขอบเขตของเวทย์ในการโจมตี (อัพขึ้นได้ครั้งละ 8-10)

          Speed = ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเวทย์ (มีในเวทย์สาย RF และ Death) (อัพขึ้นได้ครั้งละ 8-10)

          Homing = การนำวิถีของเวทย์ (มีในเวทย์สาย MIS) (อัพขึ้นได้ครั้งละ 10-12)

          Recovery = อัตราการฟื้นฟู HP (มีในเวทย์ Cure เท่านั้น) (อัพขึ้นได้ครั้งละ 6-8)

          Duration = ระยะเวลาที่เวทย์มีผล (มีในเวทย์ Protect, Invisible เท่านั้น) (อัพขึ้นได้ครั้งละ 10)

          Resilience = ความทนทานของเวทย์ (มีในเวทย์ Wall เท่านั้น) (อัพขึ้นได้ครั้งละ 10-15)

 

 

Phantoma ต่างๆในเกม

 

           Phantoma ในเกมจะแบ่งเป็น 6 ตระกูล ตามสีดังนี้ค่ะ

 

1. White Phantoma: Phantoma พื้นฐานที่สุดในเกม และ แทบจะไร้ค่าที่สุดในเกมในเวลาเดียวกัน

2. Red Phantoma: Phantoma ธาตุไฟ ใช้ในการอัพเกรดเวทย์ธาตุไฟ และ เวทย์ที่มีธาตุไฟมาเกี่ยวข้อง

3. Blue Phantoma: Phantoma ธาตุน้ำแข็ง ใช้ในการอัพเกรดเวทย์ธาตุน้ำแข็ง และ เวทย์ที่มีธาตุน้ำแข็งมาเกี่ยวข้อง 

4. Yellow Phantoma: Phantoma ธาตุสายฟ้า ใช้ในการอัพเกรดเวทย์ธาตุสายฟ้า และ เวทย์อื่นๆที่มีสายฟ้ามาเกี่ยวข้อง

5. Green Phantoma: Phantoma แห่งการปกปักษ์รักษา ใช้ในการอัพเกรดเวทย์รักษา และ เวทย์สายป้องกัน

6. Purple Phantoma: Phantoma พิเศษที่เกิดจากหลายธาตุผสานกัน ใช้ในการอัพเกรดเวทย์นำวิถี (พวก MIS) และ เวทย์สายพิเศษ (Unique) ทั้งหลาย

  

 

 ระดับของ Phantoma

 

ระดับ สีขาว สีแดง สีฟ้า สีเหลือง
1 White Red Blue Yellow
2 Ivory Magenta Cyan Sepia
3 Pearl Cerise Smalt Jasmine
4 Argent Rouge Cobalt Topaz
5 - Cinnabar Cerulean Golden

 

ระดับ สีเขียว สีม่วง
1 Green Purple
2 Verdent Mauve
3 Ivy Lavender
4 Jade Violet
5 Celadon Indigo

 

Ivory Phantoma ของแรร์ที่จำเป็นอย่างเหลือเชื่อ
 
          Ivory Phantoma เป็น Phantoma ระดับ 2 ของสายสีขาว แต่ก็เป็น Phantoma ที่จัดได้ว่ามีค่าที่สุดของเกม แม้จะอยู่ในสายที่ไร้ค่าที่สุด (งงไหม?)
 
          ว่าจริงๆ สาย White Phantoma เป็นสายที่ห่วยแตกที่สุดในแทบทุกระดับค่ะ
 
          - ตัว White Phantoma ธรรมดาเองก็ขายได้แค่ 10gil และไม่มีประโยชน์อะไร
          - Pearl Phantoma เองก็ดรอปจากศัตรูเลเวล 99 เท่านั้น เอาไปทำอะไรก็ไม่ได้ ยกเว้นขายได้อันละ 1000 gil
          - Argent Phantoma เองก็พอกัน ขายได้อย่างเดียว (แถมมีเบื้องหลังที่ดราม่าเกินจะขายลงอีกต่างหาก)
 
          เว้นเพียงแค่ Ivory Phantoma ทีมีโอกาสดรอปตั้งแต่ 0.2 - 11.2% ขึ้นกับสถานการณ์ที่คุณฆ่าศํตรูเท่านั้น ที่มีประโยชน์ และ ล้ำค่าที่สุด!! แม้มันจะขายได้แค่อันละ 300 gil (แต่ถ้าเอ็งมีขายอันละ 30,000 หรือ 300,000 gil เลย ตูก็ทุ่มเงินซื้อ!!!!)
 
          สาเหตุที่มันล้ำค่ำและจำเป็น เพราะนอกจากจะหายากแล้ว Phantoma ชนิดนี้ยังใช้ในการเพิ่มพลังเวทย์เวลาอัพเกรดให้ได้มากเกือบจะสองเท่า (หรือสองเท่าไปเลยในบางกรณี) ของปกติ ซ้ำยังทำให้ผลเสีย (พลังของพารามิเตอร์อื่นลดเวลาอัพเกรด) หายไปอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเจ๋งสองเด้ง แต่ก็หายากชนิดยิ่งกว่าป๊อกเก้า สามเด้งอีกค่ะ...
 
          โดยสรุปคือ... มันจำเป็นสำหรับการอัพเกรดปิดท้ายในเวทย์ทุกชนิด ถ้าคุณจะอัพเกรดให้เต็มทุกพารามิเตอร์ค่ะ ยิ่งกว่านั้น Phantoma ระดับสูงสีม่วงนั้นหายากสุดๆ จะหา Ivory อันนึงยังจะง่ายซะกว่าหา Indigo Phantoma 20 อันเลยค่ะ
 

 

 

 การล่า Phantoma

 

          หลักการดรอปของ Phantoma ขึ้นกับแค่ไม่กี่อย่างค่ะ

 

1. เลเวลของศัตรู

  • เลเวลยิ่งเยอะ Phantoma ยิ่งระดับสูงค่ะ แต่ศัตรูในแผนที่ปกติก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน ทำให้ Phantoma ระดับสูงจริงๆต้องไปฟาร์มเฉพาะที่เท่านั้น

 

2. ธาตุของศัตรู

  • ถ้าศัตรูมีธาตุอะไร ก็จะดรอป Phantoma ธาตุนั้นๆ
  • ถ้าศัตรูไม่มี ธาตุ จะดรอป White Phontoma แบบแทบจะแน่ๆ (ยกเว้นคุณฆ่ามันด้วยเวทย์ธาตุ)

 

3. ธาตุที่ใช้ฆ่าศัตรู

  • ถ้าเราฆ่าศัตรูไม่มีธาตุด้วยเวทย์ธาตุ ก็จะมีโอกาส 75% ที่จะดรอป Phantoma ตามธาตุที่เราใช้ฆ่า และ ไม่มีวันดรอป White Phantoma ธรรมดาแน่ๆ
  • ศัตรูที่มีธาตุ จะมีโอกาสประมาณ 7-10% แน่นอนที่จะดรอป Phantoma ตระกูลสีม่วง หรือ สีเขียว นอกจาก Phantoma ตามธาตุของมัน
  • ถ้าศัตรูไม่มีธาตุ จะต้องใช้การโจมตีที่เป็นธาตุในการฆ่าเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสดรอป Phantoma ตระกูลสีม่วง (โอกาส 7-8%)

 

4. Killsight

  • ศัตรูไม่มีธาตุที่เราฆ่าด้วย Killsight จะมีโอกาส 50% ขึ้นไป ที่จะดรอป Phantoma ตระกูลสีเขียว
  • ศัตรูมีธาตุที่ถูกฆ่าด้วย Killsight จะมีโอกาส 70% โดยประมาณในการดรอป Phantoma ระดับที่สูงกว่าที่มันดรอปปกติ 1 ขั้น (ถ้าไม่ดรอปแบบสูงกว่า ก็จะดรอปสีเขียว สีม่วง หรือ Ivory เท่านั้น)

 

5. ชนิดของศัตรู (ในฐานข้อมูลของเกม)

  • ศัตรูประเภทเกิดไม่จบไม่สิ้น (เช่น ในท่อของ Operation MA Demolition หรือ ทหารใน Colonel Faith's Revolt) จะดรอป White Phantoma แทบจะ 100% นานๆ(ใส่ ๆ สัก 10 ตัว) ถึงจะดรอปแบบธาตุ
  • ศัตรูใน Arena จะดรอปตามเลเวลของตัวละครที่เราใช้ และ จะดรอปสูงสุดที่ระดับ 3 เท่านั้น แม้ตัวเราจะเลเวล 99
  • ศัตรูที่จัดเป็นประเภทศัตรูระดับสูง (พวกไม่เจอง่ายๆ หรือ เจอในมิชชั่นเท่านั้น) จะดรอป Phantoma ที่ไม่ใช่สีขาว หรือ Ivory เสมอ (ไม่มี White Phantoma แน่ๆ)

 

สรุป... ตามตารางค่ะ...

 

* (สี) +1 = Phantoma ธาตุนั้นๆ แต่สูงกว่าระดับที่จะดรอปในเวลาปกติ (ฆ่าด้วยการโจมตีธรรมดา) 1 ระดับ

** ถ้าเราใส่ชื่อ Phantoma เป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช่สีในภาษาไทย แปลว่ามันดรอปชนิดนั้นๆเลยนะคะ

*** Ivory Phantoma แทนด้วยสีชมพูนะคะ เพื่อความง่ายในการหา

  

ลักษณะของศัตรู ธาตุ/วิธีที่เราฆ่าศัตรู
ไฟ น้ำแข็ง สายฟ้า Killsight
อื่นๆ
(โจมตีปกติ
หรือ
เวทย์พิเศษ)
ไม่มีธาตุ
แดง ~78%
เขียว ~10% 
ม่วง  ~10%
แดง+1 ~2%
ฟ้า ~78%
เขียว ~10%
ม่วง ~10%
ฟ้า+1 ~2%
เหลือง ~78%
เขียว ~10%
ม่วง ~10%
เหลือง+1 ~2%
เขียว ~55%
แดง ~15%
เหลือง ~15%
ฟ้า  ~15%
 White ~64%
แดง ~12%
ฟ้า ~12%
เหลือง ~12%
ไฟ
แดง ~90%
เหลือง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
แดง ~90%
เหลือง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
 แดง+1 ~78%
เขียว ~10%
ม่วง ~10%
Ivory ~2%
แดง ~90%
เหลือง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
น้ำแข็ง
ฟ้า ~90%
แดง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
ฟ้า ~90%
แดง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
 ฟ้า+1 ~78%
เขียว ~10%
ม่วง ~10%
Ivory ~2%
ฟ้า ~90%
แดง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
สายฟ้า
เหลือง ~90%
แดง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
เหลือง ~90%
แดง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5%
 -
เหลือง+1 ~78%
เขียว ~10%
ม่วง ~10%
Ivory ~2% 
เหลือง ~90%
แดง ~4.5%
เขียว ~4.5%
Ivory ~0.5% 
หายาก
แดง+1 ~75%
เขียว ~5%
ม่วง ~18%
Ivory ~2%
 ฟ้า+1 ~75%
เขียว ~5%
ม่วง ~18%
Ivory ~2%
เหลือง+1~75%
เขียว ~5%
ม่วง  ~18%
Ivory ~2%
แดง+1 ~30%
ฟ้า+1 ~30%
เหลือง+1~30%
Ivory ~10%
เขียว ~55%
แดง ~15%
ฟ้า ~15%
เหลือง ~15%
Arena
White~50%
แดง ~50%
 White~50%
ฟ้า ~50%
White ~50%
เหลือง ~50%
White ~50%
เขียว ~50%
 White 100%
เกิดไม่มีวันหมด
 White 98%
Red 2%
 White 98%
Blue 2%
 White 98%
Yellow 2%
 White 98%
Purple 2%
White 98%
Green 2% 

 

 

 

โดยรวม เรื่อง Phantoma ก็แค่นี้ล่ะค่ะ

(อย่าลืมกลับเข้าเมืองไปอัพบ่อยๆนะคะ ไม่งั้นเต็ม 99 เขาไม่มีทบไว้ให้นะคะ เสียฟรี... เสียใจและเสียดายยิ่งกว่าพลาดโอกาสผสมโจโกโบะอีกค่ะ) 

 


 

 

วิชา CHOC-101
ว่าด้วย Chocobo

 

 คงไม่มีใครไม่รู้จักเจ้านกสีเหลืองตัวใหญ่ๆที่เราคุ้นเคยกันดีในซีรีย์ Final Fantasy บางภาคมันก็หน้าเอ๋อ บางภาคมันก็เป็นสัตว์ขี่คู่ใจ บางภาคก็เป็นซัมม่อน แต่ไม่ใช่กับภาคนี้ค่ะ...
 
          ในภาคนี้ Chocobo จะมีสภาพใกล้เคียงกับไอเทมที่กดใช้แล้วจะมีผลชั่วคราว พอถึงเวลามันก็จะสะบัดเราร่วงแล้ววิ่งหายไป (เป็นทุกตัว ไม่เว้นแม้ตัวที่เราผสมพันธุ์เอง) ซึ่งถามว่าจำเป็นต้องขี่ไหม เจ้าของบล็อคบอกเลยว่า จำเป็นมากๆ เพราะในภาคนี้จะมีศัตรูเลเวล 99 เดินเล่นในแผนที่แทบทุกแมพ ซึ่งการขี่โจโกโบะจะทำให้เราสามารถพอวิ่งหนีพวกนี้ได้บ้าง ระหว่างที่ถ้าเราวิ่งเดินเท้า จะโดนพวกนี้วิ่งชนแล้วกระทืบตายแทบจะแน่ๆค่ะ ยิ่งกว่านั้น ในฉากต่อสู้ประเภท RTS หลังๆ คุณแทบจะต้องโดดขี่โบะเพื่อวิ่งไปช่วยป้องกันฐานให้ทันกันประจำเลยล่ะค่ะ

 

การจับโจโกโบะ

          โจโกโบะสามารถหาจับได้ทั่วไปตามแผนที่ (ถ้ามี) โดยแค่วิ่งชน เราก็จับมันได้แล้ว แต่ปัญหาคงไม่พ้นความจริงว่า มันวิ่งเร็ว มากกว่า หรือ เท่ากับ เรา เวลาจะจับเลยต้องวิ่งต้อนให้มันไปจนมุมแล้วค่อยจับเอา (ตัวละครวิ่งเร็วอย่าง Cater จะช่วยให้วิ่งเข้าหาได้ง่ายขึ้นด้วยนะคะ)

 

 

โจโกโบะชนิดต่างๆในแผนที่ (ที่สามารถจับได้)

 

 โจโกโบะธรรมดา

พื้นที่: Togoreth, North Togoreth, Iscah, Meroe, Eibon

 

Fleetfoot Chocobo

พื้นที่: Old Lorica, Jubanla, Roshana, Rilochy

 

Combat Chocobo

พื้นที่: Meroe (สุ่มเกิด), Cetme, Azurr

 

Evasive Chocobo

พื้นที่: Innsmouth, West Nesher

 

Sidestepping Chocobo

พื้นที่: Berith Dessert

 

Sneaky Chocobo

พื้นที่: Northern Valley

 

  

การผสม(พันธุ์)โจโกโบะ 

          โจโกโบะในภาคนี้จะมีเพศด้วย ซึ่งเราจะต้องใช้เพศผู้ 1 ตัว กับ เพศเมีย 1 ตัว (+ ผักปลุกเซ็กส์ เอ๊ย ผักบำรุง 1 ชิ้น) ในการผสมพันธุ์ โดยเราจะสามารถเริ่มผสมโจโกโบะได้ในตั้งแต่ Free Time ครั้งที่ 2 ของ Chapter 2 ค่ะ

 

          พอพร้อมจะผสมก็ไปคุยกับ Hishow ที่ยืนอยู่ตรงคอก ข้างๆรางไม้เปล่าๆ เขาจะถามเราเป็นตัวเลือกให้ตอบดังนี้

 

 

          ให้เลือก "Yes" เพื่อเลือกว่าจะผสมอะไรกับอะไร โดยเราจะเจอจอแบบนี้

 

 

โจโกโบะที่เรามีในสต๊อกจะอยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายจะเป็น

 

Sire คือ โจโกโบะตัวผู้ (พ่อโจโกโบะ)

Dam คือ โจโกโบะตัวเมีย (แม่โจโกโบะ) 

Greens คือ ผักที่เราเลือกเพื่อบำรุงโจโกโบะ และ คุมว่าจะได้ลูกโจโกโบะแบบไหน

 

          หลังจากเรื่อง Sire กับ Dam แล้ว เราจะต้องเลือกผักที่ใช้ผสม โดยผักแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปดังนี้

 

ชื่อผัก คุณสมบัติ
Gysahl Greens
ผักเบสิคที่ใครๆก็รู้จัก... เพิ่มโอกาสที่จะทำให้ผสมแล้วได้ลูกโจโกโบะที่ต่างจากพ่อแม่
 
หาได้จาก: ซื้อที่เมือง Keziah
Krakkra Greens
ผักอัพเกรด(?) เพิ่มโอกาสที่จะผสมแล้วได้ลูกโจโกโบะที่ต่างจากพ่อแม่มากกว่าผักกีซาลปกติ
 
หาได้จาก: ซื้อได้ที่เมือง Meroe
Tantal Greens
ผัก GMO เอ๊ย ไม่ใช่ ผักพิเศษที่ทำให้ลูกโจโกโบะที่ออกมาเป็นชนิดของทางพ่อ มากกว่าทางแม่
 
หาได้จาก: ซื้อได้ที่เมือง Mi-Go
Pahsana Greens
ผัก GMO อีกชนิด ผักพิเศษที่ทำให้ลูกโจโกโบะที่ออกมาเป็นชนิดของทางแม่ มากกว่าทางพ่อ
 
หาได้จาก: ซื้อได้ที่เมือง Mi-Go
Curiel Greens
ผักพิเศษ ทำให้ฟักไข่ได้โจโกโบะเยอะขึ้น (นิดหน่อย)
 
หาได้จาก: ถ้ำ Corsi Cave (หีบที่ห้องที่มีน้ำตกทางขวาของแมพ)
Mimette Greens
ผักพิเศษ เพิ่มโอกาสได้ลูกโจโกโบะที่ดีกว่าพ่อแม่
 
หาได้จาก: ถ้ำ Corsi Cave (หีบที่ห้องที่มีน้ำตกทางขวาของแมพ)
Reagan Greens
ผักพิเศษ เพิ่มโอกาสที่จะได้ลูกโจโกโบะที่ดีกว่าพ่อแม่ขึ้นไปอีก
 
หาได้จาก: ถ้ำ Bethnel Cavern, หีบใน Innsmouth Coast
Sylkis Greens
ผักพิเศษ เพิ่มโอกาสที่จะได้ลูกโจโกโบะที่ดีกว่าพ่อแม่แบบสุดๆ
 
หาได้จาก: ถ้ำ Valley of Monster, หีบใน Innsmouth Coast (แนะนำแมพหลัง)
Gyzahl Greens
ผักพิเศษ เพิ่มจำนวนลูกโจโกโบะที่จะได้จากการผสมพันธุ์แบบถึงขีดสุด
 
หาได้จาก: หีบใน Innsmouth Coast และ Special Bounty (ฆ่าศัตรู 200 ตัว ด้วยตัวละครที่กำหนด)

 

          หลังจากเลือกผัก Hishow จะบอกว่า โจโกโบะคู่นี้ หลังกินผักแล้วจะมีแนวโน้มได้ลูกโจโกโบะชนิดไหนดังภาพ

 

 

          ถ้าไม่พอใจ (เพราะสุ่มได้แบบที่ไม่อยากได้) ก็สามารถกดออกไปจอเลือกผัก แล้วเข้ามาใหม่ (เลือกผักชนิดเดิมได้) เพื่อสุ่มใหม่จนกว่าจะได้ตัวที่อยากได้ ได้ค่ะ

 

ในที่นี้เราใช้ Reagan Greens แต่เราอยากได้ Knight หรือ Ninja Chocobo ก็ กดสุ่มมันจนกว่าจะได้ไปเลย...
(ก็ผัก Sylkis มันหายากอะ)

 

 

ตารางผสมโจโกโบะ

 

           เนื่องจากเวลามีจำกัด แถมผสมทีก็... รอไข่ฟัก 4 ชั่วโมง รอลูกโจโกโบะโต 2 ชั่วโมง (เดี๋ยวนะ โจโกโบะฉีดฮอร์โมนเรอะ!? โตไวปานจรวด!?) รวมทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ได้ลูกโจโกโบะ 4-8 ตัว (แล้วแต่ว่าคุณเอาผักอะไรโด๊ป และ ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณต้องเสีย พ่อโบะ กะ แม่โบะ ด้วย หักลบเบ็ดเสร็จ คุณจะได้ลูกโบะมา 2-6 ตัว) เพราะงั้น จะผสมมั่วก็คงจะรู้สึกเสียดายเวลาจริงๆนั่นล่ะ...

 

(อนึ่ง... โจโกโบะในเกมนี้จะมีแบ่งระดับเป็น Bronze, Silver, Gold ด้วย โดยสังเกตได้จากสีของไอค่อนโจโกโบะใน Inventory แต่รวมๆแล้ว ระดับมันก็ไม่ได้มีผลอะไรหรอก)

 

สูตรไหนได้ชัวร์ เราจะทำ อักษรเขียว ไว้ให้นะคะ ถ้าไม่เขียว ก็ สุ่มกันหน่อยค่ะ

 

ชนิด สรรพคุณ และ สูตรผสม
 Chocobo
โจโกโบะเหลืองๆทั่วไป จับมาก็ได้สเปคนี้แหละ 
 
(ไม่ต้องผสมหรอก จับจากแผนที่เถอะ)
 War Chocobo
โจโกโบะแบบฝึกมาระดับนึง HP เยอะกว่าโจโกโบะธรรมดา
 
Chocobo + Chocobo + (ผักอะไรก็ใส่ไปเถอะ)
 Combat Chocobo
โจโกโบะแบบเก่งต่อสู้ มี ATK สูงกว่าปกติ และมี HP ระดับมาตรฐาน
 
War Chocobo + Chocobo + Gysahl Greens
War Chocobo + War Chocobo + Gysahl Greens
 
*สามารถจับจากพื้นที่ Meroe, Cetme, Azurr ได้ด้วย แต่หายาก
 Assault Chocobo
โจโกโบะแบบเก่งต่อสู้ ATK สูงกว่าปกติมาก และมี HP มากกว่าปกติด้วย
 
Combat Chocobo + Combat Chocobo + Gysahl Greens
 Swiftwind Chocobo
โจโกโบะแบบเน้น ATK สุดๆ และมี HP มากกว่าปกติ
 
Combat Chocobo + Combat Chocobo + Mimette Greens
 Fleetfoot Chocobo
โจโกโบะวิ่งเร็ว แต่ตัวเปราะ
 
(ต้องจับจากพื้นที่ Jubanla, Old Lorica, Roshana, Rilochy เท่านั้น) 
 Turbo Chocobo
โจโกโบะที่วิ่งเร็วมาก แต่ตัวเปราะ
 
Fleetfoot Chocobo + Chocobo + (ผักอะไรก็ใส่ไปเหอะ)
Fleetfoot Chocobo + Fleetfoot Chocobo + (ผักอะไรก็ใส่ไปเหอะ)
 Sonic Chocobo
โจโกโบะที่วิ่งเร็วมาก(ๆ) แต่ตัวเปราะ
 
Turbo Chocobo + Turbo Chocobo + Gysahl Greens
 Supersonic Chocobo
โจโกโบที่วิ่งเร็วสุดๆ และ มี HP มากกว่าปกติ
 
Sonic Chocobo + Sonic Chocobo + Mimette Greens
 Sidestepping Chocobo
โจโบโบะที่วิ่งเร็วที่สุดแล้ว รวมถึงมี HP มากกว่าปกติด้วย
 
Supersonic Chocobo + Supersonic Chocobo + Mimette Greens
 
*สามารถจับได้จากพื้นที่ Berith Desert ได้ด้วย (แต่ต้องมีเรือเหาะไป)
 Evasive Chocobo
โจโกโบะที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่เก่งการหลบหลีก สามารถหลบหลีกการโจมตีของศัตรูได้ระดับนึง
 
Supersonic Chocobo + Supersonic Chocobo + Reagan Greens
 
(แนะว่าจับจากพื้นที่ Innsmouth หรือ West Nesher ดีกว่า ถึงจะมีสูตรผสมได้ แต่ไม่คุ้ม)
 Sneaky Chocobo
โจโกโบะที่มี HP มากขึ้น และ สามารถหลบการโจมตีของศัตรูได้ด้วย
 
Evasive Chocobo + Evasive Chocobo + (ผักอะไรก็ใส่ไปเหอะ น่าจะได้แทบแน่ๆ)
 
*สามารถจับได้จากพื้นที่ Northern Valley ด้วย (แต่ต้องมีเรือเหาะไป)
 Stealth Chocobo
โจโกโบะที่ HP มากขึ้น สามารถหลบการโจมตีได้ และ โจมตีแรงด้วย
 
Evasive Chocobo + Evasive Chocobo + Reagan Greens
Sneaky Chocobo + Sneaky Chocobo + Mimette Greens
 Knight Chocobo
โจโกโบะที่ HP และ ATK เยอะ (แต่วิ่งไม่เร็วมาก)
 
Supersonic Chocobo + Swiftwind Chocobo + Reagan Greens
Swiftwind Chocobo + Swiftwind Chocobo + Sylkis Greens
Swiftwind Chocobo + Stealth Chocobo + Sylkis Green (50/50 กับ Ninja Chocobo)
 Ninja Chocobo
โจโกโบะที่วิ่งเร็ว ATK เยอะ และสามารถหลบการโจมตีของศัตรูได้ (แต่ไม่ค่อยทนทาน เพราะ HP เท่ามาตรฐาน)
 
Stealth Chocobo + Stealth Chocobo + Sylkis Greens
Stealth Chocobo + Swiftwind Chocobo + Reagan Greens
Stealth Chocobo + Swiftwind Chocobo + Sylkis Greens (50/50 กับ Knight Chocobo)
 Master Chocobo
โจโกโบะที่เป็นที่สุดแล้วในทุกด้าน ไม่ว่าโจมตี ป้องกัน ความเร็ว และ การหลบหลีก
 
Knight Chocobo + Knight Chocobo + Sylkis Greens
Ninja Chocobo + Ninja Chocobo + Sylkis Greens
Knight Chocobo + Ninja Chocobo + Sylkis Greens

 

 

โดยรวม เรื่องโจโกโบะก็ราวๆนี้ แฮปปี้จับคู่ เลี้ยงๆ ผสมพันธุ์โจโกโบะนะคะ

(อย่าลืมไปเช็คทุก 6 ชั่วโมง หลังจากผสมนะคะ เสียเวลาเกินแล้วระวังจะเสียดาย) 

 


 

วิชา EIDO-101
ว่าด้วย Eidolon

Eidolon ว่าจริงๆก็คือมนต์อสูรของภาคนี้ โดยมนต์อสูรจะโผล่มาให้เราได้ลองใช้ในมิชชั่นแรกสุดที่สอนระบบของเกม แต่ถ้าเราอยากลองใช้จริงๆต้องรอจนถึง Chapter 2 ท้ายๆเลยค่ะ ถึงจะได้ลองเรียกเองครั้งแรกในภารกิจ "The Capture of Togoreth Stronghold" (ถ้าจะเรียก) ค่ะ
 
          โดยส่วนตัว เจ้าของบล็อคขอแนะนำให้เล่นโดยไม่ใช้ Eidolon ให้ชินนะคะ เพราะ Eidolon สำหรับเจ้าของบล็อค เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่มากับความซวยใหญ่ยิ่ง คือ
  • คุณจะแทบไม่มีวันได้ S จากภารกิจนั้นๆเลย เพราะตัวละครของคุณจะตายและทำให้เกรดตรง Casualties ไม่ดี 
  • การเรียก Eidolon ก็ขึ้นกับพื้นที่รอบๆตัวเราด้วย เพราะบางครั้ง ถ้า Eidolon ตัวใหญ่ ก็จะต้องใช้พื้นที่อัญเชิญที่ใหญ่ด้วย ไม่งั้นเรียกมาจะติดฉากจนทำอะไรไม่ได้
  • ถ้า Eidolon โดนตีตายขึ้นมา คุณจะเรียกมันไม่ได้อีกเลยจนกว่าจะจบภารกิจ
 

 การเลเวลอัพ Eidolon 

          Eidolon ใช้ระบบเดียวกับตัวละครเราค่ะ แต่ใช้ exp ในการเก็บเลเวลน้อยกว่ามากๆ เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่า Eidolon อยู่ได้แป๊บเดียวหลังบูชายัญสละชีพตัวละครของเราไป (กระทั่งการอัพอบิลิตี้ด้วย AP ก็เหมือนเรา)

          Eidolon เองก็มี Skill Tree นะคะ ซึ่งอบิลิตี้หลักๆแล้วจะแบ่งตามนี้ค่ะ

  • Intel = แสดงข้อมูลของศัตรูที่เรากำลังสู้ด้วย
  • Automaton = สู้เองโดยไม่ต้องสั่ง (ว่าง่ายๆคือ เราคุมมันไม่ได้)
  • Auto-(ชื่อสเตตัส) = มีผลของสเตตัสนั้นตลอดเวลา
  • (ชื่อธาตุ) proof = การโจมตีด้วยธาตุนั้นๆไม่มีผลกับ Eidolon
  • HP↑= เพิ่ม Max HP ของ Eidolon
  • MP↑= เพิ่ม Max MP ของ Eidolon
  • Summon Extention = เพิ่มระยะเวลาที่ Eidolon จะอยู่สู้ได้
  • Accelerate = เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ของ Eidolon
  • Mobile Strike = ทำให้โจมตีระหว่างเคลื่อนที่ได้
  • (ชื่อ Skill): (ชื่อสเตตัส)↑= เพิ่มสเตตัสนั้นของสกิล
  • (ชื่อ Skill): (ชื่อสเตตัส)↓= ลดอัดตราใช้ทรัพยากร (อย่าง MP เป็นต้น) ของสกิลนั้นๆ

 

 
          สำหรับคนที่อยากเก็บเลเวล Eidolon ขอแนะนำให้ใช้ Rem และติดตั้ง Undying Wish ค่ะ โดยให้ใช้ Undying Wish ทุกครั้งก่อนจะเรียก Eidolon พอเรียกแล้วก็ตีศัตรูไปจนกระทั่ง Eidolon หมดเวลา พอหมดเวลา Eidolon หายไป ตัวเราก็จะฟื้นเพราะผล Reraise จาก Undying Wish แล้วก็... เรียกใหม่ เก็บเลเวลต่อจนพอใจไปเลยค่ะ

 Eidolon ต่างๆ และ การปลดล็อค

          Eidolon ในเกมจะแบ่งตาม Class ได้ 6 Class ดังนี้ค่ะ
 
         ** เจ้าของบล็อคจะพูดถึงเฉพาะตัวที่เราเรียกใช้ได้ตามปกตินะคะ ตัวที่มาด้วยเงื่อนไขพิเศษอย่าง โอดินใน Chapter 1 กับ Bahamut Zero จะไม่พูดถึงนักเพราะไม่ใช่ตัวที่เรียกใช้ได้ทุกเมื่อค่ะ **
 
 
1. Ifrit Class
 
 
          ซัมม่อนแห่งไฟที่เราคุ้นเคยกันดีสำหรับคนที่เคยเล่น Final Fantasy ซึ่ง Ifrit Class เด่นที่ธาตุไฟ และ ความสามารถที่เน้นการโจมตีเป็นหลัก นอกจากนี้ถ้าเลเวลอัพไปถึงระดับนึงจะมีอบิลิตี้ป้องกันการโจมตีจากธาตุไฟให้ด้วย
 
 
ชื่อ Eidolon ระยะเวลา (วินาที) การปลดล็อค เลเวลเริ่มต้น
Ifrit 75-95 ภารกิจ The Capture of Togoreth Stronghold (คุยกับ Koharu) 23
Firebrand 45-75 เคลียร์ Expert Trial "United Front" ความยาก Officer ขึ้นไป 56
Rubicante 75 เคลียร์ S.O. "Destroy Brionac as quickly as possible using your active leader" ในภารกิจ Operation MA Demolition 29
Vulcan 50-80 เคลียร์ S.O. "Take down Mikazuchi using your active leader" ในภารกิจ The Battle of Judecca 47
Calamity 90 เคลียร์ Expert Trial "A Charge on the Border" ความยาก Officer ขึ้นไป 58
Ignis 50-70 เคลียร์ภารกิจ The Clash on Big Bridge ความยาก Agito 71
 
 
 
สกิลของ Ifrit Class
 
ชื่อท่า Ifrit Firebrand Rubicante Vulcan Calamity Ignis
 Blazing Strike
(พุ่งเข้าไปโจมตีเป้าหมายเป็นธาตุไฟ) 
             
 Meteor Strike
(เสกอุกกาบาตไฟใส่เป้าหมาย) 
             
 Eruption
(เสกเสาไฟรอบตัวเพื่อโจมตีศัตรู) 
             
 Flaming Fist
(พุ่งเข้าไปโจมตีเป้าหมายเป็นธาตุไฟ - แรงกว่าท่า Blazing Strike) 
             
Meteor Mash
(เสกอุกกาบาตไฟใส่ศัตรู - แรงกว่า Meteor Strike) 
             
Hellfire
(เสกเสาไฟรอบตัวเพื่อโจมตีศัตรู - แรงกว่า Eruption) 
             
 
 
 
2. Golem Class
 
          ซัมม่อนธาตุดิน(มั้ง) แต่เด่นที่พลังป้องกัน และ HP ระดับมหาศาล แถมยังมีความสามารถอมตะชั่วคราวด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเอาไปใช้แทงค์ได้สบายๆ และระยะเวลาซัมม่อนจะอยู่ค่อนข้างนานด้วย ติดที่ค่อนข้างจะอึดอาด(มาก)นี่ล่ะ
 
ชื่อ Eidolon ระยะเวลา (วินาที) การปลดล็อค เลเวลเริ่มต้น
Golem 120-130 เคลียร์ภารกิจ "The Infiltration of Iscah" 24
Gigas 160-200 เคลียร์ Expert Trial "Expelling the Empire" ความยาก Officer ขึ้นไป 27
Troll 70-90 เคลียร์ Expert Trial "Colonel Faith's Revolt" ความยาก Officer ขึ้นไป 64
Ogre 70-80 เคลียร์ ภารกิจ Code Crimsom "A Fog-Laden Foray" ความยาก Officer ขึ้นไป 59
Titan 90 เคลียร์ S.O. "The crystal wills you to take down the golem." ในภารกิจ Code Crimson "Machina's Struggle" 66
Dwarf Golem 50-70 เคลียร์ Expert Trial "The Climactic Clas at Azurr" ความยาก Officer ขึ้นไป 82
 
 
สกิลของ Golem Class
 
ชื่อท่า Golem Gigas Troll Ogre Titan Dwarf Golem
Megaton Punch
(ยิงหมัดจรวดคู่ใส
           

 

วิชา COLL-101
ว่าด้วยการสะสมแล้วแลกของ
(เวลา, Knowing Tag, S.O., SPP)

 

เอนทรี่นี้เป็นเอนทรี่คั่นเวลานะคะ
 
เกมนี้มีอะไรให้สะสมแล้วแลกเต็มไปหมด ซึ่งเอนทรี่นี้จะรวมตารางของที่แลกได้ค่ะ
 

 

 เวลา

สะสมแลกไอเทมโบนัสได้จาก First Class Moogle ซึ่งจะอยู่ที่ตรงลานน้ำพุ หน้าประตูทางเข้าตึก

เวลาที่เล่น (ชั่วโมง) ของที่จะได้
10  เวทย์ Avoid 
30 
Ribbon
(ป้องกันสเตตัสผิดปกติทุกชนิด ยกเว้น Killsight) 
50 
Growth Egg
(ตัวละครที่ใส่ได้ Exp 2 เท่า) 
70 
Regal Crown
(All Magic +40, MP +100%) 
100 
Warlocke Headdress
(All Magic +60) 
200 
 Soul of Thamasa
(All Magic +100)
500 
Super Ribbon
(ป้องกันสเตตัสผิดปกติทุกชนิดในเกม) 

 

 

Knowing Tag 

แลกได้จาก Class Eighth Moogle ที่จะอยู่ที่โถง Entrance ใกล้ๆกับจุดวาร์ปตรงกลาง

** ระวังด้วย เพราะกดคุยปุ๊บเราจะเอา Knowing Tag ทั้งหมดที่มีตอนนั้นแลกเลย มีเท่าไหร่ ได้ไอเทมตามนั้น

จำนวน Knowing Tag ของที่จะได้
1-9 Potion
10-19 X-Potion
20-39 Turbo Ether
40-59 Dominion Helmet
60-79 Megalixir
80-98 Phoenix Down
99 Phoenix Pinion

 

 

Special Order (S.O.) 

 อันนี้ไม่เชิงแลก... เราจะได้มาเลยตามจำนวน S.O. ที่เราทำสำเร็จในด่านนั้นๆ เหมือนโบนัส

จำนวน S.O. ของที่จะได้
1-3
Ether หรือ Hi-Potion
4-7
Mega-Potion x2 หรือ Ether x2
10+
X-Potion x3 หรือ Mega-Potion x3

 

 

SPP 

 ใช้แลกกับ NPC ใน Central Command (จะเป็นคนแรกทางซ้ายมือ หลังเข้าห้องไป)

 

ไอเทมธรรมดา

ชื่อไอเทม วิธีปลดล็อค
SPP
ที่ใช้แลก
Hi-Potion  (มีแต่แรก)  160 
Ether  (มีแต่แรก)  400 
X-Potion  เก็บ SPP รวมถึง 15,000  1000 
Mega-Remedy  เก็บ SPP รวมถึง 1,000  400 
X-Ether  เก็บ SPP รวมถึง 20,000  2000 
Phoenix Pinion  เคลียร์ Expert Trial "The Climactic Clash at Azurr" ความยาก Agito 4000 
Megalixir  เคลียร์ Expert Trial "Operation Dragon Slayer" ความยาก Finis 4000 

 

 อาวุธ

ชื่อไอเทม วิธีปลดล็อค
SPP
ที่ใช้แลก
 Akademeia Deck ใช้ Ace ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Reaper's Tarot ใช้ Ace ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Hanafuda ใช้ Ace ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
 Baroque Flute ใช้ Deuce ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
 Hoarfrost Flute ใช้ Deuce ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Angel Flute  ใช้ Deuce ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Hunter's Bow  ใช้ Trey ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
 Thanatos's Bow ใช้ Trey ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
 Blessed Bow ใช้ Trey ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Magicite Blaster  ใช้ Cater ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
M Tek-II Prime ใช้ Cater ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Tanegashima ใช้ Cater ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
 Shock Hammer ใช้ Cinque ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Hoarfrost Mace ใช้ Cinque ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
 Lucky Mallet ใช้ Cinque ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
War Scythe ใช้ Sice ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Toxic Scythe ใช้ Sice ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Pixie's Scythe ใช้ Sice ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Knight's Whipblade ใช้ Seven ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Hoarfrost Whipblade ใช้ Seven ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Reginleif ใช้ Seven ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Heavy Knuckle ใช้ Eight ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Adamant Knuckle ใช้ Eight ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Golden Hands ใช้ Eight ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Javelin ใช้ Nine ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
 Hoarfrost Spear ใช้ Nine ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
 Highwind ใช้ Nine ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Nagamitsu  ใช้ Jack ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Rapture ใช้ Jack ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Bushido Blade ใช้ Jack ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Claymore ใช้ Queen ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Hoarfrost Saber ใช้ Queen ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Save the Queen ใช้ Queen ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Outsiders ใช้ King ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
 Death Penalties ใช้ King ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Peacemakers ใช้ King ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Clockwork Blades ใช้ Machina ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Flametongues ใช้ Machina ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Twin Durandals ใช้ Machina ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000
Dancing Daggers ใช้ Rem ฆ่าศัตรู 30 ตัว 200
Hoarfrost Daggers ใช้ Rem ฆ่าศัตรู 700 ตัว  2500
Zwillblades ใช้ Rem ทำ Killsight 300 ครั้ง 5000

 

 เครื่องประดับ

ชื่อไอเทม วิธีปลดล็อค
SPP
ที่ใช้แลก
Feathered Cap  (มีตั้งแต่แรก) 200
Wizard's Hat เคลียร์ภารกิจ "The Cadet's First Deployment"  2000
Dominion Helmet เก็บ SPP รวมถึง 2,000  4000
Red Cap เก็บ SPP รวมถึง 10,000  8000
Red Beret เก็บ SPP รวมถึง 30,000  12000
Black Belt (มีตั้งแต่แรก)  400
Mythril Helmet เก็บ SPP รวมถึง 5,000  800
Power Sash เก็บ SPP รวมถึง 40,000  2000
Luminous Robe เก็บ SPP รวมถึง 80,000  6000
Mythril Armor (ขอสารภาพผิดว่าจำไม่ได้จริงๆค่ะ ว่าได้มาตอนเคลียร์ภารกิจไหน แต่รู้ว่ามาจากเคลียร์ภารกิจแน่นอน เพราะ เจ้าของบล็อคได้ Ultima ก่อนปลดล็อคเจ้านี่นานมาก และได้มาก่อนทำภารกิจสุดท้ายของเกมด้วย...)  10000
Lilith Rod เคลียร์ Expert Trial "A Charge on the Border" ความยาก Agito  20000
Reed Cloak เคลียร์ Expert Trial "Operation Dragon Slayer" ความยาก Finis  20000
Crystal Mail เคลียร์ Expert Trial "A Charge on the Border" ความยาก Finis  20000
Onion Armor เคลียร์ Expert Trial "A Climactic Clash at Azurr" ความยาก Finis  20000

 

 

รวมๆ ประเภทสะสมแล้วแลกของได้ก็มีแค่นี้

 

ปล. จริงๆมันมีไอเทมที่จะปลดล็อคจาก Killsight 200 ครั้งด้วย แต่มันอยู่ที่ Armory และ ไม่ได้ใช้การสะสมแต้มแลก เลยไม่ได้ใส่ลงมาในหมวดนี้

 


 

 วิชา COLL-102
ข้อมูล L'Cie Crystal ทั้งหมด

 

    เวลาเราทำภารกิจยึดเมืองเสร็จแล้ว บางเมืองจะมีเควสย่อย (เรียกว่าเควสลับ หรือ มินิเควสก็ยังได้) ให้คุณทำต่อ โดยพอทำเสร็จแล้ว คุณจะได้ L'Cie Crystal (ภาคญี่ปุ่นจะเรียกว่า คิเซกิ - 輝石) มาเป็นรางวัล

            L'Cie Crystal พวกนี้ เป็นเหมือนเควสลับที่จะช่วยอธิบายประวัติศาสตร์ของโลก Orience ใน Final Fantasy Type-0 นี้ค่ะ ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร และ เกิดอะไรขึ้นในประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ โดยผ่านความทรงจำสุดท้ายของ L'Cie คนนั้นๆที่เราจะอ่านได้จากเศษผลึกนี้ค่ะ

            เศษผลึกพวกนี้ ได้มาเราก็ยังอ่านไม่ได้นะคะ ต้องเอาไปให้ Atra ซึ่งเขาจะอยู่ที่เมือง Iscah หลังจากเรายึดคืนมาได้ โดยพอเราคุยกับ Atra เราจะเลือกเอาผลึกพวกนี้ให้เขาได้ แล้วเขาจะดึงความทรงจำของ L'Cie คนนั้นๆออกมาให้เรารับรู้ค่ะ

            ในเอนทรี่นี้จะรวมข้อมูลของ L'Cie Crystal ทุกชิ้นในเกม ทั้งหมด 43 ชิ้นค่ะ

 

             ** ใครเล่นรอบสอง NG+ ก็จะยังมีเควส หรือ ไอเทมให้เก็บนะคะ แต่จะได้ Megalixir x1 มาแทน L'Cie Crystal ค่ะ

  

** เราขออนุญาตสปอยล์นิดๆนะคะ ว่าใครเป็น L'Cie สังกัดฝ่ายไหน โดยใช้สีแทนตัวบอก
 
          ฝ่ายเรา Dominion of Rubrum (Vermillion Bird / 朱雀領ルブルム) = สีแดง
          ฝ่าย Imperial Militesi (White Tiger / ミリテス皇国) = สีเขียว
          ฝ่าย Kingdom of Concordia (Azure Dragon / コンコルディア王国) = สีฟ้า
          ฝ่าย Lorican Alliance (Black Tortoise / ロリカ同盟) = สีดำ 

 

 

L'Cie Crystal ที่จะได้จากในเมือง

 

ชื่อ L'Cie Crystal เมือง เควสที่ต้องทำ (ถ้ามี)
Mizu'a's Crystal McTighe

เควสรวบรวมคนไปฟังเทศมนตรีปราศรัย  

  • คุยกับเทศมนตรีที่นั่งหงอยอยู่ตรงที่ยกพื้นในเมือง
  • ไปคุยกับทุกคนในเมือง สำรวจประตูรอบๆให้ครบด้วย
  • พอคุยครบ กลับไปคุยกับเทศมนตรีอีกครั้ง (ตอนนี้เขาจะยืนแล้ว) จะได้ Mizu'a's Crystal  มา
Kayahara's Crystal Corsi ไม่มีเควส... ตกอยู่บนพื้นทางซ้ายมือ (มีจะตึกพังอยู่ใกล้ๆ)
Yu'u's Crystal Aqvi

เควสจดหมายถึง Nazuna  

  • คุยกับ Nazuna (เป็นเด็กผู้หญิงยืนหลบมุมอยู่ใต้ต้นไม้)
  • รอสักพักจะมีเด็กๆคนอื่นมาชวน Nazuna ไปเล่น ให้คุยกับเด็กคนอื่นทีละคนจนครบ Nazuna จะวิ่งหนีไป
  • วิ่งตามไปคุยกับ Nazuna
  • เดินย้อนไปทางประตูเข้าเมือง จะเจอทหารฝ่ายเราเดินเข้าประตูมา คุยกับเขา เขาจะพูดถึงจดหมายที่จ่าหน้าถึง Nazuna ให้ตอบข้อแรกเพื่อเอาจดหมายมา
  • กลับไปคุยกับ Nazuna เราจะเอาจดหมายให้เขา แล้วเขาจะให้ Yu'u's Crystal มา
Lazuline's Crystal Keziah

เควสส่งจดหมายให้ครบทุกบ้าน  

  • คุยกับ Dominion Quaestor ตรงหน้าประตู เขาจะขอให้เราช่วยส่งจดหมาย ให้ตอบข้อแรกตกลง โดยเราจะได้จดหมายมาทีละฉบับ และ ต้องเอาไปใส่ให้ถูกบ้าน   แผนที่เมือง  
  • หลังจากส่งไป 9 บ้าน พอถึงบ้านสุดท้ายจะพบว่า ลายมือมันยิ่งกว่าโจโกโบะเขี่ย อ่านไม่ออก ต้องให้คนช่วย - วิ่งลงไปทางล่างขวาของเมือง จะมี NPC ผู้ชายตัวนึงที่คุยแล้วเขาจะอ่านให้ ว่าจริงๆมันน่าจะเป็นของบ้านไหน (จะอ่านได้ว่า Dorothea)
  • วิ่งไปส่งลงกล่องบ้านสุดท้ายแล้วกลับไปคุยกับ Dominion Quaestor เราจะได้ Lazuline's Crystal ตอบแทน
Yuka's Crystal Mi-Go

เควสแนะนำหนุ่มจีบสาว  

เควสนี้เป็นเควสตอบคำถามสั้นๆง่ายๆ เราจะต้องคุยกับชายหนุ่ม 4 คนที่ล้อมวงกันอยู่ แล้วตอบคำถามเรื่องสไตล์ที่เขาควรจะแต่งตัว เพื่อให้จับสาวได้อยู่หมัดค่ะ 4 คน 4 คำตอบ

"Just be casual with her"

"With a friendly 'Heya!'"

"Smart colors, like a suave navy."

"Get a wild and sexy tan."  

พอตอบครบ ทุกหนุ่มก็จะมีสาวมาประกบ ตอนนี้ก็คุยซะแล้วเราจะได้ Yuka's Crystal เป็นของตอบแทนค่ะ

Maona's Crystal Rokol

เควสรวบรวมข่าวลือ  

คุยกับ Dominion Citizen ชุดสีน้ำเงินทางซ้ายจากนั้นเขาจะให้เราหาข่าวลือให้เขา ซึ่งทำได้ไม่ยากด้วยการคุยกับตัวละครทหารฝ่ายเราในเมืองให้ครบทุกคน จากนั้นกลับไปคุยกับหมอนี่อีกครั้ง เราจะได้ Maona's Crystal มาค่ะ

Kanna's Crystal Toguagh

เควสช่วยศิลปินวาดรูป  

พอเราเดินเข้าเมืองมา จะมีกลุ่มศิลปินแข่งวาดรูปอนุสาวรีย์กลางเมืองอยู่ แต่จะมีคนนึงที่มีลูกยืนมองอยู่ข้างๆ พอเราไปคุยด้วยเขาจะบอกว่าเขาทำแว่นพัง และ ตอนนี้เขามองไม่เห็น แต่อยากวาดให้ลูกดู และจะขอให้เราช่วยบอกลักษณะของอนุสาวรีย์ค่ะ

ข้อแรก: it is hexagonal.

ข้อสอง: it is thirty feet high.

ข้อสาม: it is granite gray.

พอตอบครบหมด เราก็จะได้ Kanna's Crystal มาค่ะ

Suzusu's Crystal Meroe ไม่มีค่ะ กองอยู่บนพื้นทางฝั่งขวาของเมือง
Shamhat's Crystal Iscah

เควสอัญมณีที่หายไป  

เควสนี้ต้องรอถึง Chapter 7 แล้วกลับไปที่ Iscah อีกครั้ง พอเข้ามาแล้วคุยกับ Mayor Aoba (จะยืนอยู่ข้างหีบ) พอเราคุยเสร็จ เด็กที่อยู่ข้างๆหีบจะเปิดหีบแล้วเอาของข้างในไป

ให้คุยกับ Aoba แล้ววิ่งตามเด็กไป (เด็กจะวิ่งเข้าไปด้านในของเมือง เกือบถึงทางไปโซนถัดไป) พอคุยจะพบว่าเด็กทำของหล่นไปแล้ว (เดือดร้อนเราต้องหาอีก) ตอนนี้เราจะหมดธุระกับเด็กแล้ว

ให้เราเดินไปคุยกับ Atra (คนตัวใหญ่ๆที่ใส่ชุดผิดชาวบ้าน) เขาจะบอกว่าเขาเห็นอยู่ แต่มันไม่ใช่ L'Cie Stone เขาเลยโยนมันไปแล้ว แล้วมันก็โดนสัตว์ตัวสีทองกินไป...

เดินย้อนไปนิดนึง คุยกับทหารฝ่ายเราที่ยืนอยู่ข้างๆโจโกโบะ เขาจะบ่นว่าโจโกโบะเขาดูหงุดเงี้ยวแปลกๆ แล้วเลือกข้อ 1 เราจะขอตามเขาเข้าคอกโจโกโบะไปด้วย แล้วเราจะได้ Jewel of Iscah มา กลับไปคุยกับ Mayor Aoba เป็นอันจบเควสค่ะ ได้ Shamhat's Crystal เป็นของตอบแทน

Ehm's Crystal Cetme ไม่มีค่ะ แต่ต้องปีนบันไดขึ้นข้างบนกันหน่อย จะอยู่บนพื้นชั้นบน
Augusta's Crystal Roshana

ยุ่งยากนิดนะคะ

  • ทำ Task ของ Subaru ให้เรียบร้อย (ฆ่า Mandragora 15 ตัว)
  • พอเข้าเมืองไปให้คุยกับ Dominion Quaestor ชุดเขียวในเมือง เขาจะบอกให้เราไปเรียกทหาร Dominion Legionary คนที่อยู่ตรงทางยกระดับใกล้ๆ (จะเป็นคนที่ยืนเหยียบไอเทมอยู่) มาหาเขาที
  • ไปคุยกับทหารเขาจะเดินไปหาผู้บังคับบัญชา ส่วนเราก็เก็บ Augusta's Crystal ได้ค่ะ
Caelan's Crystal Rama

ยุ่ง และ กวนโอ๊ยค่ะ (เจ้าของบล็อคหมั่นไส้มากมาย)  

- จัดการทำ Task ของ Yukisato ให้เรียบร้อย (ฆ่า Marduk ในป่า 2 ตัว)

- รอสักพักจนประตูเมืองเปิด พอเข้าไปได้ จะเห็นตัวละครตัวนึงที่ยืนขวางประตูข้างในไว้ คุยกับเขา เขาจะให้เราตอบ password ที่ถูกต้อง ซึ่งจะมีตัวเลือก 3 ตัว คือ "Haal", "Ratelo" และ "Rhit" สุ่มสลับไปสลับมา ซึ่งเราจะต้องตอบให้ถูกให้ได้ 5 ครั้งซ้อน เขาถึงจะเปิดประตูฝั่งขวาลงให้ด้วย เพื่อจะได้ไปหยิบ Caelan's Crystal บนพื้นทางขวาได้ค่ะ อนึ่ง... คุณต้องออกเมืองแล้วเข้ามาใหม่เพื่อตอบใหม่ทุกครั้งด้วย ไม่เกี่ยวว่าคุณตอบถูกหรือผิด

** คำใบ้ password จะอยู่ที่ตัวละครหญิงที่ยืนมองวิวอยู่ทางขวาตรงใกล้ๆกับ Relic Terminal ตรงทางเข้าเมือง (เข้ามา หมุนจอปุ๊บจะเจออยู่ทางขวาเลย) พอเราคุย เขาจะพูดถึงลูกหลานเขา แต่นั่นไม่ใช่อะไรค่ะ ดูประโยคเขาดีๆ จะมีคำว่า "first" / "second" / "third" อยู่ ซึ่งนั่นล่ะ คือข้อ password ของยามประตูตัวแสบ... โดย first = ข้อแรก / second = ข้อสอง / third = ข้อสาม ตามลำดับค่ะ  

Jögge's Crystal Bazz ไม่มีค่ะ อยู่บนพื้นตรงซอกทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง
Anatidus's Crystal Shakara

คุยกับตัวละครหญิงที่ยืนอยู่ตรงพื้นที่ยกสูงในเมือง จะมีคนนึงที่คุยแล้วจะมีตัวเลือกว่าจะฟังเขาเมาท์เรื่องลูกชายเขาไหม ให้ตอบข้อแรกเพื่อฟัง ทำแบบนี้ 5 รอบ

ในรอบสุดท้ายเขาจะบอกเรื่องอัญมณีที่ลูกชายเขาได้มา   เดินไปคุยกับตัวละครชายที่เดินไปมาในเมืองอีกตัว จะพบว่าเขาคือลูกของผู้หญิงคนก่อนนี้แหละ แต่เขาขายให้คนอื่นไปแล้ว และ จำไม่ได้ว่าใคร   เดินไปคุยกับตัวละครชายบนพื้นยกสูงใกล้ๆ จะมีคนนึงที่บอกว่าเขาได้อัญมณีมา แต่ตอนนี้ของขายกำลังขาดร้าน และจะยอมแลกอัญมณีกับ Hi-Potion 20 อัน จัดการแลกซะ เราก็จะได้ Anatidus's Crystal มาค่ะ

Daphnia's Crystal Rilochy คุยกับตัวละครที่อยู่หน้าทางเข้าด้านในของ Rilochy แล้วเลือกบริจาคเงิน (มากสุดรอบละ 100 gil) จนครบ 1000 gil เราจะได้ Daphnia's Crystal มา (ต้องออกเมืองแล้วเข้าใหม่ทุกครั้งเวลาจะบริจาคเพิ่มนะคะ)
Albus's Crystal Amiter

ทำ Task ของ Otokusa (ฆ่า Lesser Lopros 99 ตัว) ให้เรียบร้อย

ออกมาเดินเล่นนอกเมือง รอจนกระทั่งหมอกลง แล้วเข้าไปในเมืองอีกครั้ง ตรงข้างๆ Otokusa จะมี Tonberry อยู่ 1 ตัว คุยกับมัน จะได้ Albus's Crystal เป็นของตอบแทนที่ช่วย

Alöe's Crystal Azurr

ทำ Task ของ Okita (ฆ่า Floating Eye ในป่าของพื้นที่ Azurr 8 ตัว) จากนั้นเราจะได้กุญแจรถมา  

คุยกับ Dominion Citizen แถวๆนั้น จะมีคนนึงที่ทำกุญแจรถหาย พอเราคุยด้วยเขาจะเดินไปเปิดรถ รอจนจบคัทซีน แล้วเข้าไปในรถ หยิบ Alöe's Crystal ได้

 

 

L'Cie Crystal ที่อยู่นอกเมือง หรือ ในดันเจี้ยน

 

ชื่อ L'Cie Crystal สถานที่ ตำแหน่ง
Erragal's Crystal Ultima Ground Zero อยู่บนพื้นในห้องรองสุดท้ายของดันเจี้ยน
Kaimanu's Crystal Mount Jubanla อยู่บนพื้นในห้องขวาบนสุดของดันเจี้ยน (ในแมพจะชื่อ Eastern Smaughead)
Urshanabi's Crystal Bethnel Caverns อยู่บนพื้นในห้องสุดท้าย (Bed of the Behemoths)
Satori's Crystal Silent Key อยู่บนพื้นในห้องสุดท้ายของดันเจี้ยน (ต้องเก็บก่อนจะกดสำรวจสวิทช์ให้เรือเหาะบินเท่านั้น)
Yugino's Crystal Akademeia ดรอปจาก Rubrum Cactuar ที่วิ่งไปวิ่งมาในโรงเรียนใน Chapter 3
Siduri's Crystal Berith Desert อยู่ที่มุมขวาล่างของพื้นที่
Nimrud's Crystal Valley of Monster อยู่บนพื้นในห้องรองสุดท้าย
Clareus's Crystal Innsmouth Coast อยู่บนพื้นทางขวา หลังจากเข้าไป
Anshar's Crystal Deserted House อยู่ข้างๆ Relic Terminal (จะโผล่หลังจากที่ใช้เวลา Free Time จนหมดแล้วนอนค้างคืนแล้ว)
Tagisu's Crystal Tower of Agito อยู่บนทางเดินระหว่างชั้น 3 กับ 4 (หลังจากสู้กับ Glasya Labolas 100 ตัว)
Enlil's Crystal Northern Valley อยู่ตรงสุดทางร่องตะวันตกเฉียงใต้สุดของหุบเขา (ต้องฝ่า Behemoth Level 99 กันด้วย ระวังนะคะ)
Ziusudra's Crystal Jubanla อยู่ตรงใกล้ๆสะพานที่ไปทาง Mount Jubanla (วิธีไปที่ง่ายที่สุดคือ ออกมาจาก Northern Corridor ปุ๊บก็วิ่งชิดขวาไปเลยค่ะ เดี๋ยวก็เจอ)
Vesta's Crystal Mahamayuri อยู่ตรงสุดทางตรงหน้าประตูทางเข้าเมือง Mahamayuri
Wehrer's Crystal Azurr อยู่ตรงหน้าทางเข้าเมือง Ingram ของจักรวรรดิเลยค่ะ (จะโผล่หลังจากเราทำ Expert Trial: A Climactic Clash at Azurr เท่านั้น)
Theo's Crystal Cetme อยู่ตรงปลายสุดของร่องบนพื้นที่เกิดจากการยิงแสงของอเล็กซานเดอร์
Rino'i's Crystal Iscah อยู่บนหลังคาของซากโบราณสถาน (เป็นตึกที่มีลานกว้างอยู่ข้างบน แทบอยู่ทางใต้ของเมือง Rokol เป๊ะๆ) ระวังมอนสเตอร์เลเวล 99 วิ่งชนด้วย)
Argenia's Crystal Rilochy อยู่ไม่ไกลจากเมือง Rilochy วิ่งลงใต้จากเมืองให้เลียบน้ำจะเจอได้ไม่ยาก (อยู่ตรงติ่ง และ ติดกับน้ำ)
Rhiane's Crystal West Nesher อยู่บนหิมะตรงใกล้ๆชายฝั่งตะวันตก ติดภูเขาทางเหนือ (** ดูยากมาก ต้องเพ่งกันพอตัว)
Jorug's Crystal East Nesher อยู่ตรงข้างสะพาน ไม่ไกลจากฐาน Gewehr
Kiyosaki's Crystal Eibon อยู่ทางเหนือสุดของพื้นที่ ตรงติ่งเล็กๆที่เป็นหญ้าข้างๆป่า
Tenebra's Crystal Roshana อยู่ปลายสุดของเขตหญ้าทางเหนือของภูเขา (ต้องขี่โจโกโบะอ้อมไป)
Aarmad's Crystal Innsmouth อยู่บนทรายตรงเกือบสุดทาง ไม่ไกลจาก Innsmouth Coast
Caetuna's Crystal Meroë อยู่ตรงหน้าผาทางตะวันตกของเมือง Meroë ตรงจุดที่มองเห็นสะพานได้ (ต้องรอจบ Chapter 6 ถึงจะโผล่)
Qun'mi's Crystal Old Lorica อยู่ทางซีกตะวันตกของหลุม (ถ้าวิ่งจาก Deserted House ไปทาง Blacktortoise Crevasse ยังไงก็เจอ)
Rem's Crystal Pandæmonium ตรงหน้าร่างคริสตัลของ Rem กับ Machina
Machina's Crystal Pandæmonium ตรงหน้าร่างคริสตัลของ Rem กับ Machina

 

หมดแล้วค่ะ

 

ถ้ารวบรวมครบแล้ว เอาไปส่งให้ Atra เขาจะบอกความลับของเขาให้เรารู้ด้วย (แต่บางคนอาจรู้อยู่แล้วล่ะมั้ง...)

 


 

วิชา EXCH-103
เควสซีรีย์เหตุการณ์ของนักเรียนคนอื่นในโรงเรียน
(ภาคตัวรองสำคัญๆ)

 

ถ้ายังไม่รี เราก็ทำข้อมูลส่วนอื่นไปก่อนเรื่อยๆแล้วกัน...
 
ใช่ว่าเกมจะไม่เรื่องมาก เอาจริงๆมีเควสยุ่งยาก(มาก) ที่ห้ามพลาดเหตุการณ์ด้วย ถึงจะผ่านอีกเควสได้ และ เจ้าของบล็อคร้องไห้มาแล้วเพราะตอนเล่นรอบแรกทำไม่ครบ และต้องอัดไปเล่นรอบสามเลยค่ะ...
 

นักเรียนที่จัดว่าสำคัญ และ พลาดไม่ได้เลยจริงๆมี 5 คน คือ

 

  1. Naghi Minatsuchi (นางิ)
  2. Carla Ayatsugi (คาร์ล่า)
  3. Mutsuki Chiharano (มุทสึกิ)
  4. Quon Yobatz (คูออน)
  5. Ryid Uruk (ริด)

 

เนื่องจากทั้งห้าคนนี้ จำเป็นต่อเควสของ Celestia ที่จะทำได้ในการเล่นรอบที่สองเท่านั้น ถ้ารอบแรกพลาดไป ก็ต้องไปเล่นรอบสามแบบเจ้าของบล็อคค่ะ...

 

 

Naghi Minatsuchi

 

 (จองที่ไว้ลงรูป)

 

นางิเป็นนักเรียนจากคลาส 9 ซึ่งเป็นคลาสที่เป็นฝ่ายสายลับและข่าวกรอง และทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างคลาส 0 กับฝ่ายข่าวกรองด้วย นางิดูเป็นนายเซอร์ ไอดอลของใครๆ แต่เอาจริงๆเนื่องจากเขาอยู่คลาส 9 ซึ่งต้องทำภารกิจลับ เลยค่อนข้างจะชัดเลยว่านางิเก่ง (แต่เสียดายที่ไม่ได้ใช้) ดังจะเห็นได้จากความสามารถการเอาตัวรอดในมิชชั่นที่นางิเข้าร่วมด้วยนั่นแหละ

 

เหตุการณ์ของนางิ

 

#1. Hero to Boys and Girls Alike (คุยที่ Lounge ใน Chapter 2, Free Time รอบ 3)

#2. TASK: Secret Agent Agito IV (คุยที่ Crystarium ใน Chapter 5, Free Time รอบแรก)

          * ต้องวิ่งหา Cactuar ที่วิ่งไปวิ่งมาใน Akademeia พอเจอมันจะดรอปไอเทม (Cactuar Blossom) บนพื้น ให้เก็บไปให้นางิ Cactuar จะเจอแบบสุ่ม ในฉาก Airship Landing / Chocobo Rance / Terrace / Back Garden

#3. A Conflict of Interest (คุยที่ Hallway ใน Chapter 7, Free Time รอบแรก และ ต้องผ่าน Task ส่งไอเทมให้ Kazusa แล้ว)

 

จบค่ะ สั้นดี ระวังพลาดข้อ 2,3 ก็พอ

 

 

Carla Ayatsugi

 

 (จองที่ไว้ลงรูป)

 

คาร์ล่าเป็นนักเรียนจากคลาส 2 ซึ่งเป็นคลาสที่เน้นการลุยในแนวหน้า เธอก็ลุยแนวหน้าเหมือนกัน แต่คนละหน้ากะเพื่อนร่วมชั้นเธอนะ... (ส่วนตัว เจ้าของบล็อครู้สึกว่าเธอช่างยุ่งยากและเยอะตัวแม่... เพราะเธอนี่ล่ะ ทำให้เจ้าของบล็อคต้องเล่นสามรอบ...)

 

 เหตุการณ์ของคาร์ล่า

 

#1 Carla's Self-Improvement Seminar (คุยที่ Ready Room ใน Chapter 2, Free Time รอบ 2)

#2 ยืมตังค์หน่อย... (คุยที่ Lounge ใน Chapter 3, Free Time รอบแรก)   

          *คาร์ล่าจะขอเงินเราไป 1,000g (ต้องให้)

#3 Carla the Behavior Modifier (คุยที่ Ready Room ใน Chapter 3, Free Time รอบ 2)

#4 That Gil-Grubbing Carla (คุยที่ Ready Room ใน Chapter 5, Free Time รอบ 1)

#5 ยืมตังค์หน่อย... ภาค 2 (คุยที่ Lounge ใน Chapter 5, Free Time รอบ 2)

         *คาร์ล่าจะขอเงินเราไป 10,000g (ต้องให้)

#6 ยืมตังค์หน่อย... ภาค 3 (คุยที่ Lounge ใน Chapter 7, Free Time รอบ 1)

          *คาร์ล่าจะขอเงินเราไป 100,000g (ต้องให้)

#7 คืนตังค์แล้วจ้า! (คุยที่ Ready Room ใน Chapter 7, Free Time รอบ 2)

          **จำนวนเงินที่คืนขึ้นกับว่าเราคุยกับคาร์ล่าครบไหม ถ้าครบจะได้ 222,000g ถ้าไม่ก็... 10,000g...

#8 ???? (คุยที่ Ready Room ใน Chapter 7, Free Time รอบ 2 หลังเหตุการณ์ข้างบน)

 

เยอะนะ... พลาดง่ายด้วย... ขอเศร้าแป๊บ... T.T

 

 

Mutsuki Chiharano

 

 (จองที่ไว้ลงรูป)

 

มุทสึกิเป็นเด็กสาวมืดมน (คิดถึงเรื่องยัยมืดมนอลวนหารักขึ้นมาทันใด) ที่ค่อนข้างจะนอยด์เอามากๆ และ เป็นเด็กนักเรียนของคลาส 12 ที่จัดว่าบ๊วย แต่มีเอกลักษณ์สุดๆ ซึ่งมุทสึกินั้นหาคนซ้ำไม่ได้จริงๆเพราะเธอหาเรื่องหลอนได้ตลอดเวลาว่าจะมีคนรังแกเธอ...

 

เหตุการณ์ของมุทสึกิ

 

#1 Picking on Poor, Paranoid Mutsuki (คุยที่ Armory ใน Chapter 3, Free Time แรก)

#2 เสียงบ่นจากช่างฝีมือ (คุยที่ Airship Landing ใน Chapter 5, Free Time รอบ 2)

#3 TASK: Hazardous Material (คุยที่ Armory ใน Chapter 7, Free Time 1)

          *ต้องตี Marlboro เลเวล 50 ในเขต Roshana ซึ่งต้องทำ Expert Trial หรือ รอจน Roshana เป็นของ Dominion

          ** สู้ไม่ยาก และ มันจะดรอป Dark Matter ที่ต้องให้มุทสึกิโดยอัตโนมัติตอนเราเก็บ Phantoma

#4 Simple Explosive Science (คุยกับ Seven ที่ Central Command ใน Chapter 7, Free Time 1 หลังจากทำ TASK แล้ว)

 

จบแล้ว... ไม่ยาก แต่ระวังตายเพราะตีกะ Marlboro ค่ะ

 

 

Quon Yobatz

 

 (จองที่ไว้ใส่รูป)

 

คูออนเป็นนักเรียนของคลาส 3 ที่เก่งเวทย์โจมตีที่สุดใน Akademeia และ คูออนเองก็ชอบศึกษาเรื่องเวทย์อย่างสุดๆให้ลงลึกไปถึงแก่น โดยปกติคูออนจะจมโลกหนังสือสุดๆ ไม่พูดกับใคร แต่ลองมีใครถามคำถามที่ถูกละก็ คูออนจะกลายเป็นหนุ่มอัธยาศัยดีขึ้นมาทันตา...

 

เหตุการณ์ของคูออน

 

#1 Quiet inside the Crystarium! (คุยที่ Crystarium ใน Chapter 3, Free Time รอบแรก)

#2 ยุ่มย่ามจังนะนาย... (คุยที่ Sorcery ใน Chapter 3, Free Time รอบ 2)

#3 Friendless: A Foregone Conclusion (คุยที่ Crystarium ใน Chapter 5, Free Time รอบแรก)

#4 TASK: An Innocent Favor (คุยที่ Sorcery ใน Chapter 7, Free Time รอบแรก)

          * Quon จะขอ Jeweled Ring (ได้จาก TASK ของ Al-Racia ใน Chapter 5 ที่ต้องใช้เวทย์ Blizzard BOM ฆ่าศัตรู 30 ตัว) 1 อัน ซึ่งต้องเอาให้เขาเท่านั้นถึงจะผ่าน

#5 Quon the Blackmailer (คุยที่ Hallway ใน Chapter 7, Free Time รอบ 2)

 

ไม่ยาก แต่คงขัดใจมาดเฮียเอาการน่ะค่ะ...

 

 

Ryid Uruk

 

 (จองที่ไว้ลงรูป)

 

ริดเป็นนักเรียนคลาส 5 (ประเภทสมดุลทั้งโจมตีและป้องกัน) ร่างใหญ่ที่มักพบได้แถว Armory แม้จะร่างใหญ่น่ากลัวแต่ก็ใจดีเหลือเชื่อ ซึ่งสาเหตุที่เขามีร่างกายใหญ่โตก็เพราะสายเลือดลูกครึ่งชาวลอริก้า (ประเทศเกมบุ) ในร่างเขานั่นเอง...

 

เหตุการณ์ของริด

 

#1 A Real Big Dude (คุยที่ Armory ใน Chapter 3, Free Time รอบ 2)

#2 เรื่องมันแย่... เราเข้าใจ... (คุยที่ Airship Landing ใน Chapter 5, Free Time รอบแรก)

#3 TASK: Last Days of Lorica (คุยที่ Armory ใน Chapter 7, Free Time รอบแรก)

          * เราจะต้องไปเอา Lorican Diary มาให้ริด โดยไอเทมชิ้นนี้จะอยู่ใน Ultima Ground Zero (ดันเจี้ยนเลเวล 72) ซึ่งต้องวิ่งทะลุไปจาก Black Tortoise Crevases ซึ่งเป็นดันเจี้ยนเลเวล 72 เหมือนกัน

          ** อนึ่ง... ไดอารี่ไม่ได้อยู่ในหีบค่ะ... ตกอยู่บนพื้นใน Ultima Ground Zero

#4 Changing One's Way of Life (คุยที่ Armory ใน Chapter 7, Free Time รอบแรก หลังทำ Task เสร็จ)

 

จบค่ะ... ชีวิตเฮียน่าสงสารนะคะ...

 

 

ตัวละครรองสำคัญๆครบแล้ว... เอนทรี่อีกส่วนเป็นของตัวประกอบที่ถูกพูดถึงนะคะ (ถ้าโควต้ายังไม่รีเซ็ต)

 


 

 

วิชา STRY-101
Story Chapter 1 + Game Basics 1

เงื่อนไขเพื่อทำ Rank S
 
เงื่อนไข
Time 08:00
Phantoma 40
Casualties 0
 
 
 
สตอรี่ของเกมใน Chapter นี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา(มาก) โดยหลังจากดูคัทซีนจนจบ เราจะได้บังคับทีมของ Ace, Queen และ Nine เราจะคุม Ace ก่อนในตอนนี้

 

** ช่วงแรกตอนนี้จะไม่ต้องกลัวตายนัก เพราะตัวละครทั้งตี้ใส่ปลอกแขน Reraise อยู่ค่ะ ตามสตอรี่

 

Area 1: The Vermillion Bird Gate

          เกมใน Chapter นี้จะเป็น Tutorial ซะมาก เพราะงั้นก็ตามๆไปนะคะ ใครไม่อยากเจอ Tutorial ก็กด No ปฏิเสธได้ แต่เราจะพ่วงอธิบายไปด้วย เพื่อความเข้าใจสำหรับผู้เล่นใหม่

          เริ่มแรกเกมจะสอนวิธีการเดินไปมา ขวาบนจะมีแผนที่เล็กพร้อมจุดสีเหลืองระบุทิศทางเป้าหมายที่เราต้องมุ่งไป ก็ไปตามทางได้เลยค่ะ วิ่งตรงเข้าไป พอเข้าใกล้ประตู ลูกกรงจะเลื่อนขึ้น ก็ลงมือจัดการศัตรูให้หมด (ต้องจัดการให้หมด เพราะไม่งั้นสนามพลังที่กั้นทางไปต่อจะไม่ยอมหายไป)

          พอฆ่าตัวสุดท้าย ถ้าเราเปิด Tutorial เกมจะสอนเราให้เก็บ Phantoma ด้วยการกดล็อคเป้า แล้วกดปุ่มตามที่กำหนด (ถ้าไม่ปรับ Config จะเป็นปุ่มเดียวกับโจมตีปกติ หรือ บรรทัดบนสุด) แต่ถ้าเราล็อคเป้าศัตรูอยู่แต่แรก เกมจะให้เรากดเก็บได้เลย (ถ้าพร้อมเก็บหลังล็อคเป้าจะเห็นเป็นสายสีแดงๆพุ่งจากตัวศัตรูมาที่มือของตัวละคร พร้อมบรรทัดนึงที่เปลี่ยนเป็นคำว่า Harvest Phantoma ตามที่เราเซ็ตปุ่มไว้)

 

การเก็บ Phantoma

(ภาพจากรีรันบทเก่า หลังจากนึกได้ว่าลืม)

   
ศัตรูที่ตายจะมีกรอบขึ้น (สีเหลือง)
ว่าสามารถล็อคเป้าแล้วเก็บ (Harvest)
Phantoma ได้ (ภาพนี้ล็อคเป้าแล้ว)
หลังล็อคเป้าจะปรากฏสายสีแดง
ไปที่มือของตัวละคร สามารถ
กดเก็บ Phantoma ได้เลย

 

*ถ้าศัตรูตายหลายตัว แล้วศพกองอยู่ยังไม่หายไป การล็อคเป้าครั้งเดียวสามารถเก็บจากทุกศพแถวนั้นได้หมด (เกมช่วยประหยัดเวลา)

* Phantoma เวลาเก็บจะฟื้น MP ให้ตัวละครที่เก็บด้วย ถือว่าเป็นส่วนจำเป็นอยู่ และมีผลกับเกรดเวลาจบด่านด้วย เพราะงั้น หัดให้ชิน เก็บให้หมด ให้เป็นนิสัย อย่าพลาดลืม

* สีของ Phantoma จะบอกชนิดของ Phantoma ที่เก็บได้ ซึ่งส่วนนี้จะพูดถึงในบทอื่นอีกที แต่เอาเป็นว่า... เก็บไว้ก่อนเหอะ เพราะมันต้องใช้เยอะมากสุดๆ

 

          หลังจากเก็บ Phantoma สำเร็จ เกมจะให้เราไปต่อ แล้วสอนเราเรื่องการสลับตัวตัวละครที่เราใช้ (กดปุ่มซ้าย หรือ ขวา ในปุ่มทิศทาง) ตามด้วยเรื่อง Breaksight (ตีแล้วได้เดเมจแรง ศัตรูจะฟุบ หมอบชั่วขณะ) และ Killsight (ตีแล้วตายในครั้งเดียว) ซึ่งทั้งสองแบบจะปรากฏเวลาเราล็อคเป้าศัตรู และ ศัตรูเปิดช่องโหว่เท่านั้น และจะทำให้ได้เปรียบเวลาสู้มากถ้าตีมันตอนนั้น

 

ภาพประกอบ Breaksight และ Killsight 

(ภาพจากบทอื่นเพราะตอนที่ทำบทสรุปนี้ เจ้าของบล็อคเริ่ม New Game Plus แล้ว จึงไม่สามารถหาภาพ Breaksight  ได้
ต้องไปตบศัตรูที่มันโหดๆ ถึงจะมี... TAT)

   
Breaksight
 
โจมตีตอนมีสัญลักษณ์สีเหลือง
จะทำเดเมจหนักมากใส่ศัตรู
และทำให้ศัตรูชะงักหรือฟุบ
Killsight
 
โจมตีตอนมีสัญลักษณ์สีแดง
จะฆ่าศัตรูทันทีแบบ Instant Kill
 

 

จากนั้นก็จัดการศัตรู เก็บ Phantoma  แล้ววิ่งไปต่อนิดนึง เกมก็จะสอนเรื่อง Enemy Leader ที่พอฆ่าแล้ว ลูกจ๊อกอื่นๆในฉากจะหมดกำลังสู้ทันใด ซึ่งตอนนี้เราก็มีทางเลือกตามใจเราว่า

  • จะฆ่าลูกจ๊อกเก็บ Exp และ Phantoma ก่อนแล้วค่อยเชือดหัวหน้า หรือ... 
  • เชือดหัวหน้า แล้วค่อยไปริบของลูกน้อง เพราะหลังฆ่าหัวหน้ามันจะยอมแพ้ พอเราไปกดคุย (กดสำรวจนั่นล่ะ) เราก็จะได้ไอเทมสุ่มมาชิ้นนึงต่อตัวนึงที่ยอมแพ้

 

ศัตรูที่เป็น Leader จะมีสัญลักษณ์ยศบนหัว และจะปรากฎสัญลักษณ์บอกในแผนที่เล็กด้วย

 

           พอจัดการเสร็จเรียบร้อยเดินไปต่อ เกมจะขึ้นข้อความบอกเรื่อง Recovery Portal (วงเวทย์สีฟ้าบนพื้น) ที่พอไปเหยียบแล้วจะฟื้น HP, MP ของทั้งปาร์ตี้จนเต็ม ให้ไปเหยียบซะ จากนั้นก็ไปฉากต่อไปได้

 

 

Recovery Portal จะพบได้ในฉาก Mission ทั่วไป รูปร่างเหมือนวงเวทย์เกล็ดหิมะสีฟ้า

 

 

Area 2 The Terrace Square

           พอเข้ามาจะเจอศัตรู 3 ตัว แต่ถ้าเปิด Tutorial ไว้ ตอนนี้เกมจะแนะนำเรื่องวิธีการใช้เวทย์ซึ่งจะติดตั้งไว้กับตัวละครนั่นล่ะ 

  • เวทย์ไม่ว่าจะระดับปกติ ระดับ ra หรือ ระดับ ga ใช้ mp เท่ากันหมด แต่ถ้ากดแล้วปล่อย ไม่แช่ จะยิงแค่ระดับธรรมดา (สำหรับเวทย์ธาตุพวก Fire, Ice, Lightning) หรือ ไม่ยิงเลย สำหรับเวทย์ที่ต้องร่าย
  • ถ้าอยากใช้เวทย์ระดับสูงกว่าเดิม ต้องกดแช่ให้ชาร์จ จะเอาระดับไหนก็ว่าไป (ใช้ได้ถึงระดับไหนขึ้นกับสกิลเวทย์สายนั้นๆของตัวละคร)
  • ชาร์จแล้วยังวิ่งหลบไปหลบมาได้ เพราะถ้าโดนตบตอนชาร์จจะโดนแคนเซิลการร่ายเวทย์ทันที
  • สำหรับเวทย์ Cure นอกจากจะต้องกดร่ายก่อนแล้ว ถ้าอยากฮีลเพื่อน จะต้องกดให้กลายเป็น Cura หรือ Curaga เท่านั้น ถึงจะฮีลให้เพื่อนได้
  • รายละเอียดเรื่องเวทมนตร์เชิงลึกจะอธิบายเพิ่มเติมในเอนทรี่เรื่องเวทย์อีกทีค่ะ 

 

          กดให้เกมรับรู้ว่าอ่าน จากนั้นจะฆ่าศัตรูทั้ง 3 ตัวด้วยเวทย์ หรือ อาวุธก็แล้วแต่ ระหว่างนี้ เกมจะขึ้นกล่องข้อความมาสอนเราเรื่องการใช้อบิลิตี้ ที่ใช้ AG (Activity Gauge หรือ เกจสีเหลืองตรงขวาล่าง ซึ่งก็ไม่มีอะไรนัก) พอฆ่าเสร็จ จู่ๆจะมี Unidentified Target โผล่มาบนฟ้า ซึ่งเราจะโจมตีมันไม่เข้าเลย ให้หลบๆการโจมตีมันไปเรื่อยๆ สักพักมันก็จะเผ่นหายไปเอง

 

 เลเวล 99 ก็ไม่เกี่ยว อัลติม่าก็แล้วไง... ตียังไงก็เข้า 0 หลบๆไปเหอะ

  

          หลังจากมันเผ่นไปให้ขึ้นไปข้างบนตามทางทางขวา พอขึ้นมาแล้วจะวิ่งไปขึ้นต่อ ระหว่างทางจะเจอแสงแว้บๆอยู่บนพื้นหญ้า กดเก็บจะได้ไอเทม Knowing Tag มา (เก็บสะสมไว้แลกของได้ในภายหลัง) ซึ่งเวลาเราเจอไอเทม แต่ไอเทมไม่ได้อยู่ในหีบ จะเป็นแสงกระพริบบนพื้นแบบนี้แหละ

 

ลักษณะไอเทมบนพื้น จะเป็นแสงสีขาวกระพริบๆดังภาพ

  

          เก็บไอเทมจากพื้นมาจากนั้นวิ่งขึ้นไปแล้วไปที่จุดสีเหลืองในแผนที่ เราจะเจอ Recovery Portal อีกอันพร้อมสวิทช์แดงให้กด (ใช้ๆ Portal ไปเลย เพราะไงก็ไม่ได้เดินย้อนมาหรอก!) ตรงนี้เกมจะขึ้นมาอธิบายว่า ลูกศรสีเหลือง (แบบในภาพข้างล่าง) จะโผล่มาบอกว่าเราต้องกดสำรวจจุดนี้ ก็ให้กดสำรวจตามมันสั่ง ประตูจะเปิด แล้วเดินไปฉากต่อไปได้

 

 ฉากนี้ยังเป็นสวิทช์ให้เห็นง่ายๆ แต่รอบหน้าอาจไม่ใช่สวิทช์แล้ว สังเกตลูกศรเหลืองอย่างเดียว

 

 

 Area 3: Tasuki Bridge 

           พอเราเข้ามาเดินไปนิดนึง สักพักยานบินของฝ่ายศัตรูจะเอาศัตรูมาหย่อนลง 2 ตัว (แต่มีซุ่มอยู่แถวนั้นอีก 4 ตัว ฝั่งซ้าย 2 ฝั่งขวา 2 แล้วคอยยิงตอดเรา ต้องใช้เวทย์จัดการ หรือ ใช้ไพ่ของ Ace ปา) ให้จัดการศัตรูให้หมด เก็บ Phantoma เดินเหยียบ Recovery Portal ให้เรียบร้อย เพราะเกมจะตัดเข้า Cutscene เล่าสถานการณ์ละ 

  

  

 Area 4: Rubrum Square

          พอควบคุมตัวละครได้ ตัวเราจะอยู่ที่ Rubrum Square เดินตรงไป เกมจะขึ้น Tutorial แนะนำเรื่อง Relic Terminal (คริสตัลแดงรูปหยดน้ำที่มีอักษรสีฟ้าๆชี้บอก) ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดเซฟ และ จุดปรับแต่งตัวละครของเราในเกม ซึ่งมาพร้อม Recovery Portal สำหรับคนที่พลาดเหยียบตรงตะกี๊ไม่ทัน หรือ เหยียบไปแล้ว และ โดนศัตรูยิงปางตายซ้ำแล้วก่อนเปลี่ยนฉาก

 

Relic Terminal พร้อมคำอธิบายแนะนำ

 

เมนูใน Relic Terminal

(หลังจาก Chapter 2 จะมีเมนู Altocrystarium เพิ่มมาด้วย แต่ตอนนี้จะยังไม่มี)

 

อธิบายคำสั่งของ Relic Terminal (ยังไม่ครบในตอนนี้)

  •  Assignment - เลือกตัวละครที่จะบังคับ (เป็นตัวที่บังคับในการต่อสู้ และ เป็นตัวที่เราใช้คุย หรือ ปฏิสัมพันธ์ด้วยในฉากปกติด้วย)
  •  Reserves - เลือกจัดลำดับตัวละครที่จะนำมาใช้ (เวลาเข้าฉากต่อสู้แบบ Random Battle ในแผนที่โลก คนที่อยู่ 2 ชื่อบนสุดจะเป็นคนที่มาช่วยเราสู้)
  •  Armanent - เมนูปรับแต่ง ใช้เลือกใส่ Accesseries แล้วก็ Abilities
  •  Promotion - เมนูเลือกอัพสกิล เราจะสามารถใช้ AP ที่ได้จากการเลเวลอัพในการเรียนอบิลิตี้ใหม่ๆได้ตรงนี้ นอกจากนี้ยังใช้สำหรับอัพสกิลให้ Eidolon, ใช้ไอเทมเพิ่มสเตตัสตัวละคร และ ใช้ Crystal Shard อัพเกรดมหาเวทย์ Vermillion Bird ด้วย
  •  Difficulty - เมนูปรับความยากของเกม สามารถปรับได้เวลาไม่ได้อยู่ใน Mission เท่านั้น
  •  Save - เซฟเกม
  •  Load - โหลดเกมที่เซฟไว้

 

  •  Altocrystarium - เมนูอัพเกรดเวทมนตร์ จะพูดถึงในภายหลังในส่วนของ Altocrystarium โดยเฉพาะ (จะปลดล็อค Chapter 2 ช่วงกลางๆ)

 

          สำหรับตอนนี้ เราจะยังทำอะไรไม่ได้นักนอกจากเซฟ (แม้เกมจะมีคำสั่งอื่นมาให้ แต่ตอนแรกเราไม่มีอะไรจะให้ปรับแต่งนี่นา) ก็เซฟซะ แล้วเดินตรงไปตามจุดเหลืองในแผนที่ เพื่อไปฉากต่อไป

 

 

Area 5: Airship Landing

          ถ้าก่อนนี้เราเปิด Tutorial เกมจะสอนว่าเราป้องกันด้วยการกดปุ่มป้องกัน (ในที่นี้คือปุ่ม O) ค้างได้ โดยแลกกับ AG ที่จะลดลง (แต่ส่วนตัวเจ้าของบล็อคชอบหลบเทพๆแล้วตบให้ร่วงมากกว่า เลยไม่เคยกดป้องกันเลย...)

          พอกดรับรู้เรียบร้อย ก็ได้เวลาเก็บกวาดศัตรู ตอนนี้อย่าเพิ่งวิ่งไปหาหัวหน้าศัตรูเพราะยังไปไม่ได้ ให้ตบตีศัตรูทางฝั่งปีกขวาก่อน เก็บ Phantoma ด้วย เพื่อไปกดสวิทช์ทางขวาซะ เพื่อให้ทางตรงกลางมันขึ้นมา แล้วค่อยย้อนไปเก็บกวาดศัตรูอีกส่วนนึง แล้วเก็บหัวหน้าศัตรู ซึ่งจะเป็นหุ่นยนต์พลังเวทย์ รุ่น Nymurod ซึ่งสู้ไม่ยากมาก ระวังถ้าเข้าใกล้เกินไปอาจเจอมันกระทืบหนักๆ หรือ เอาปืนกลสาดหน้า และจะยิงจรวดถ้าเราอยู่ไกล ซึ่งเราจะจัดการมันโดยเอาความบ้าพลังเข้าว่า หรือ จะลองหัด Breaksight กับตัวนี้ก็ไม่เสียหาย เพราะมันมี HP เยอะเอาการเลย แต่มันแพ้สายฟ้า เพราะงั้น สลับเป็นควีนแล้วเอา Thunder SHG สอยมันเลยก็ได้

          พอจัดการเรียบร้อยก็เก็บ Phantoma มันซะ จากนั้นเดินขึ้นลิฟท์ใกล้ๆ เพื่อไปที่ฉากต่อไป

 

 

Area 6: Imperial Airship

          ลองตัวเอกขึ้นลิฟท์มันต้องไม่เคยได้ขึ้นดีๆ เราจะเจอตัวแถมที่ไม่ประสงค์ดีโดดขึ้นลิฟท์มาด้วยระหว่างทาง ให้จัดการซะ เก็บ Phantoma ให้เรียบร้อย พอลิฟท์ขึ้นมาถึงข้างบน เจอเจอทหารกลุ่มนึงพร้อมที่กำบัง ซึ่งตรงนี้สามารถจัดการได้ง่ายๆถ้าเอา Ace วิ่งเข้าไป Blizzard BOM กลางวง หรือ ถ้าอยากเก็บวิธีอื่นก็แล้วแต่ผู้เล่นจะทำ พอทางเคลียร์ก็วิ่งตามทิศสีเหลืองในแผนที่เล็กได้ (เหยียบ Recovery Portal ระหว่างทางด้วย) แล้ววิ่งเข้าทางไปฉากต่อไปได้เลย 

 

Area 7: Main Deck

         พอเข้าฉากมาจะเจอศัตรูตั้งแนวรับพร้อมรบดักระหว่างทาง (ขอแนะนำให้วิ่งเลียบทางซ้ายแล้วไปจะเอ๊พวกตรงแนวที่กำบังแล้ว Blizzard BOM มันอีกรอบ แล้วปาไพ่สอยศัตรูที่ยิงจรวดใส่เราตรงขวาบน) เคลียร์ศัตรูแล้วอ้อมขึ้นทางลาดไปต่อ เก็บกวาดศัตรูระหว่างทางไป จะเจอหัวหน้าศัตรูเป็น ประเภท Super Soldier (วิ่งไปยิงไปได้ แถมขี้กลิ้ง ขี้หลบซะเหลือเกิน) พอจัดการได้ เก็บ Phantoma เรียบร้อย ก็เดินไปสุดทาง สำรวจเครื่องจักรสีเขียวๆตรงสุดทางที่เป็นเครื่องยนตร์ของเรือบิน เราจะวางระเบิด Magicite ลงบนเครื่อง แล้วก็ *ตูม*

          ตอนนี้เกมจะบอกให้เรารีบออกจากที่นั่น ให้วิ่งผ่าน Recovery Portal (ยังใจดีมีให้เพราะมันเป็น Tutorial Chapter) แล้วศัตรูก็มาขวางอีก ให้จัดการเคลียร์ศัตรู เก็บ Phantoma ระหว่างย้อนทาง แล้วจะเจอหัวหน้าอีกตัวที่ ขับหุ่นยนตร์รุ่น Warrior มาสู้กะเรา (ระวังตัวนี้ชอบพุ่งชน หลบดีๆไม่ยาก แล้วมันก็แพ้สายฟ้า...)  พอชนะ วิ่งออกประตูไป แล้วก็จะเจอคัทซีนอีกรอบ

 

 

Area 8: Airship Landing (อีกรอบ)

        เราจะกลับมาที่ลานที่เราขึ้นลิฟท์ไปก่อนนี้ พอบังคับตัวละครได้ อย่าเพิ่งวิ่งไปตามจุดสีเหลือง ให้วิ่งไปทางแยกอีกทาง (ทางทิศเหนือของแผนที่เล็ก) จะเจอไอเทมให้เก็บ (ไอเทมประเภทฟื้นพลัง) จากนั้นค่อยวิ่งไปตามทางที่ควรไป เราจะเจอมินิคัทซีน 1 รอบ แล้วจะมาโผล่ที่ฉากต่อไป

 

 

Area 9: Rubrum Square (อีกรอบ)

         ลานเดิม มี Relic Terminal ดังเดิม รวมถึง Recovery Portal ดังเดิม ก็วิ่งผ่านซะ จากนั้น จะเซฟเกมหรือไม่ก็ได้ แต่ก่อนไป หมุนจอมองใกล้ๆ Relic Terminal สักนิด จะเห็นไอเทมอีกชิ้นบนพื้นกระพริบๆ เก็บซะ พร้อมจะไปก็เดินไปตามทางได้เลย จะเจอคัทซีน (อีกอัน)

** ตอนนี้ปลอกแขน Reraise ที่ตัวละครใส่อยู่ตอนแรกจะแตกไปแล้ว ทำให้ไม่มีเอฟเฟค Reraise อีก พลาดตายตอนนี้ ลุกไม่ขึ้นนะคะ

 

 

Area 10: Fountain Courtyard

          พอบังคับตัวละครได้ จะเห็น Nymurod 3 ตัวยืนจังก้าอยู่ตรงลานน้ำพุ ก็เก็บกวาดให้หมด ก่อนเลี้ยวซ้ายไปฉากต่อไปอย่าลืมไปเก็บไอเทมตรงหน้าประตูที่เข้าไม่ได้ด้วย (ขึ้นบันไดไป)

 

 

Area 11: Arena

          ดูคัทซีนจนจบ เกมจะสอนเรื่อง Eidolon (ด้วยการบังคับ) โดยเราจะต้องบังคับ Eidolon โอดิน (Odin) ที่โดนอัญเชิญออกมา โดยเกมจะไม่บอกอะไรเรามากเลย แค่บอกว่า ปุ่มไหนทำอะไร... แค่นั้น...

 

บอกว่าอะไรใช้ทำอะไร... แค่นั้นจริงๆ!!!!

 

          ตอนนี้เราจะต้องคุมโอดิน ตีกะ หุ่นยนตร์เวทย์ Dainsleif โดยวิธีสู้ที่เราจะแนะนำมี 2 ทาง คือ

1. กดใช้ Prance (ทะยาน) พุ่งเข้าหาเพื่อร่นระยะห่าง พอเข้าประชิดได้ กดใช้ Cavalier Charge รัวๆไปเลยจนตาย

2. ทำตามเกมสั่ง ด้วยการกดชาร์จท่า Zantetsuken (ดาบสะบั้นโลหะ) ค้างไว้ สังเกตเลข % บนหัวของโอดินไว้ (สีม่วงๆ) พอครบ 100% ก็ปล่อยปุ่ม แล้วก็ *ชวิ้ง* 

 

          พอเราตีจน Dainsleif หมอบไปได้ โอดินก็จะสลายไป แต่ก็แค่ฝันดีชั่ววูบ เพราะ Dainsleif ยังไม่หมดฤทธิ์ และ รอบนี้เราต้องใช้ปาร์ตี้คนละปาร์ตี้สู้!!!!

 

          ครั้งนี้สมาชิกในปาร์ตี้เราจะประกอบด้วย Ace, Jack  และ Seven ซึ่งจะใช้คนไหนสู้ก็แล้วแต่ ระวังพลาดตายด้วย เพราะ Dainsleif ตีหนักสมขนาดตัว ซึ่ง Dainsleif จะมีตั้งแต่ท่าตบระยะประชิด ท่ายิงห่ามิสไซล์ ไปจนถึงท่าลำแสงจากฟ้า (ระวังให้มาก) ซึ่งอันนี้ถ้าทำ Breaksight ได้จะง่ายขึ้นเยอะ พอสู้ชนะก็จะจบด่าน (ซะที!!!!) 

 

 

เอนทรี่เนื้อเรื่องส่วนแรกจบแค่นี้ ต่อเอนทรี่ต่อไปนะคะ

 

ปล. เกมสอนพื้นฐานแล้วนี่หว่า... ไปปรับปรุงโครงสร้างรายวิชาแป๊บ...


 

 

วิชา STRY-204

Story Chapter 2

(Free Time: 1D 12h)

ขอเริ่มสถานการณ์หลังกลับมาที่ Akademeia เลยนะคะ พอเดินเข้าโรงเรียนมา Moglin จะติดต่อมาทาง COMM แล้วจะบอกว่าเรามีเวลาเหลือ 1 วัน กะอีก 12 ชั่วโมง (รวมเวลาทั้งหมด 24 ชั่วโมง) ก่อนจะถึงเวลาทำมิชชั่นต่อไป

ใน Free Time รอบนี้ เกมจะยอมให้เราทำอะไรเพิ่มขึ้นซะที (เย้...) โดยสิ่งที่เกมอนุญาตเพิ่มจะมีดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ออกไปนอกโรงเรียน (เสีย 6h หรือ 6 ชั่วโมงในเกม)
  • Task : ทำตามคำขอของคนที่ช่วย โดยจะได้อะไรตอบแทนตามสมควร (มักเป็นไอเทม) โดยพอทำเสร็จจะไปโผล่ในส่วน Records of Service ของหนังสือ Rubicus และ สามารถดูย้อนได้ การทำ Task จะไม่เสียเวลาใดๆ เพราะงั้น ทำได้ก็ทำเถอะ
    ** Task จะรับได้ทีละคน โดยถ้าจะรับของคนอื่น เกมจะถามยืนยัน ถ้าตอบ Yes เกมจะ Cancel คนก่อนให้เอง (ระวังเผลอ Cancel อันที่ทำเสร็จแล้วนะคะ)
  • Altocrystarium : ระบบอัพเกรดเวทมนตร์ของเกม สามารถอัพเกรดเวทมนตร์ในด้านต่างๆได้ โดยใช้ Phantoma ที่เราเก็บจากศัตรูมาในการอัพเกรด (เราจะต้องไปที่ห้อง Altocrystarium 1 ครั้งเพื่อปลดล็อค โดยเราจะได้เวทย์ Thunder RF มาด้วยจากการสำรวจแท่น หลังจากนั้นจะไม่ไปห้องนี้อีกเลยก็ได้ เพราะเราจะสามารถอัพเกรดผ่าน Relic Terminal ได้แล้ว)
  • Arena : สนามซ้อมรบโดยใช้ซิมูเลเตอร์ ซึ่งตรงนี้เราจะเห็น NPC มีสองตัว
    • Combat Simulator (ตัวซ้าย) ซ้อมรบกับศัตรู โดยเราจะได้ exp และ phantoma ด้วย ศัตรูจะมาระลอกละ 3 ตัว เป็นจำนวน 20 ระลอก ถึงจะนับเป็น 1 รอบการซ้อม แต่ถ้าเราตาย การซ้อมจะสิ้นสุดทันที
    • Secret Training (ตัวขวา) ระบบ exp ยามปิดเกม โดยเราจะสามารถทิ้งตัวละคร 1 ตัวให้ได้รับ exp ในระหว่างที่เราปิดเครื่อง ไม่ได้เล่นเกมได้ (เกมจะให้เราเซฟ และ พอเซฟเสร็จเกมจะออกมาจอ Title โดยเซฟที่เราเซฟจะขึ้นว่า Mid-Training และ เราจะไม่สามารถโหลดไฟล์นี้ในการเล่นมิชชั่นได้ เพราะถือว่าเราฝึกอยู่)
  •  Chocobo Breeding : มันมาแล้วววว การเลี้ยงโจโกโบะที่หลายๆคนรอคอย ตรงนี้เราจะคุยกับ Hishow (คนที่ยืนอยู่ตรงคอก ข้างๆกล่องไม้เปล่า) เพื่อเลือกพ่อพันธุ์ (Sir) แม่พันธุ์ (Dam) แล้วก็ผักทีจะให้กินเพื่อผสมพันธุ์เอาลูกโจโกโบะได้ โดยพอคุยกับเขาครั้งแรก เขาจะให้ Chocobo ♂ x10 กับ Chocobo ♀ x10 พร้อมผัก Gysahl Greens มาด้วย (ฟังเหมือนเยอะนะ แต่เดี๋ยวคุณจะพบว่ามันใช้เปลืองม้ากมาก) รายละเอียดอ่านในเอนทรี่เรื่อง Chocobo นะคะ

บริหาร Task กับ Free Time Event ดีๆนะคะ (ด้วยความหวังดี ว่า เกมมันต้องเล่นอย่างน้อย 2 รอบถึงจะสมบูรณ์ อย่าเครียดมาก จุดไหนพลาดได้ เราก็จะพยายามมาร์คให้)

 

เจ้าของบล็อคจะทำ สีม่วงตัวหนา ไว้เหมือนเดิมนะคะ ว่า อันไหนห้ามพลาด ถ้าไม่อยากเล่นเยอะ

 

Task ในครั้งนี้

Task ทุกอันสามารถทำได้โดยไม่เสียเวลา (ยกเว้นอันที่ต้องออกไปนอกโรงเรียน)

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Slayer's Spoils Armory Guildsman Iron Bangle x1 หา Pretty Pelt มาให้เขา 1 อัน
 
(จะเอาของ Carla ใน Free Time ที่แล้วมาให้ หรือ จะไปล่า Coeurl ในถ้ำ Corsi Cave แล้วเอามาให้ก็ได้)
The Phantoma Menace Sorcery Sorcery Researcher Ferric Ring x1 หา Red Phantoma มาให้เขา 1 อัน
 
(มีอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดมาก ยกเว้นคุณจะใช้เพลินที่ Crystarium จนหมด ซึ่งถ้าหมดจริง วิ่งไป Arena แล้วเอาเวทย์ไฟอันไหนก็ได้ ยิงศัตรูเลยค่ะ เก็บได้ Red Phantoma แน่)
Monster Pursuit Central Command Dominion Officer Glacies Prima Vol. II x1 ฆ่า Vertigo ให้เขา 2 ตัว
 
(จะอยู่ในป่าของพื้นที่ Rubrum นี่ล่ะ)
SPP Scavenger Lounge Administrative Official Megalixir x1 เอาแต้ม SPP ให้เขา 100 แต้ม
Senative Supplier Main Gate Logistics Officer Ether x1 เอา Potion ให้เขา 3 อัน
Secret Agent Agito Crystarium Class Ninth Cadet Ignis Primus Vol. II x1
ฆ่า Striker ให้เขา 1 ตัว

 (เป็นหุ่นยนต์ศัตรู จะเจอในทุ่งของพื้นที่ Rubrum เป็นระยะ)
Mad about Ms. Tokimiya Fountain Courtyard Enra Phoenix Down x1 ใช้ Rem เป็นตัวละครหลักแล้วคุยกับ Enra
An Education in Love Ready Room Tokito Fulgur Primus Vol. II x1 เอา Sexy Swimsuit x1 ให้ Tokito
 
(บอกให้ซิ้อก่อนนี้แล้ว... ถ้ายังไม่ได้ซื้อก็ต้องยอมเสีย 6 ชั่วโมงวิ่งออกโรงเรียนไปซื้อนะคะ อย่าลืมรับ Task ล่าศัตรูไปด้วยนะคะ จะได้คุ้ม)

 

 

Free Time Event ในครั้งนี้

 
สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Classroom Zero  Moglin Magic +1 ทุกชนิด วิชา MAGC-100: Principles of Magic
Classroom Zero  Moglin Fire Magic +1 วิชา FRMG-100: Introduction to Fire Magic
Classroom Zero  Moglin Ice Magic +1 วิชา ICMG-100: Introduction to Ice Magic
Classroom Zero  Moglin Thunder Magic +1 วิชา LTMG-100: Introduction to Lightning Magic
Classroom Zero Machina หรือ Rem Ether x1 ต้องใช้ Machina หรือ Rem คุยกับอีกคน
Entrance Class Fifth Moogle Hi-Potion x1  
Central Command Sice Ether x1  
Sorcery Dr.Al-Rashia Hi-Potion x1 *ต้องใช้ Ace สำรวจประตูห้องทำงานของ Dr. Al-Rashia
Ready Room Koharu Mega-Potion x1  
Ready Room Dominion Legionary Hi-Potion x1  
Lounge Naghi Ether x1  
Fountain Courtyard Class First Moogle Hi-Potion x1  
Airship Landing Class Tenth Moogle Hi-Potion x1  

 

 ** เวลาที่เหลือทำเอาไปทำ Event ของ Kazusa หรือ Emina ก็ตามสะดวกค่ะ

*** เวลาคุณออกมานอกโรงเรียน ขอแนะนำว่าให้เก็บเลเวลที่ถ้ำ Corsi Cave สักหน่อย ซึ่งสามารถเก็บได้ถึงเลเวล 20+ เลย เพราะถ้ำนี้นอกจากจะมีไอเทมดีหน่อย โดยหีบที่ห้องลึกสุดของถ้ำจะเปิดได้ครั้งเดียว แต่จะสุ่มได้ Crystal Ball (All Magic +10, +30% MP) / Tiara (All Magic +20, +60% MP) / Megalixir ส่วนหีบที่ห้องทางขวาจะรีเซ็ตทุกครั้งที่เข้าถ้ำ และจะสุ่มได้ Amulet / Mimette Greens / Curiel Greens แทน

 

เจ้าของบล็อคขอแนะนำให้เก็บเลเวลเตรียมไว้ให้อย่างน้อยเทียบเท่ากับเลเวลของมิชชั่นไปเลยนะคะ ( Moglin จะบอกเลเวลของภารกิจต่อไปให้เรารู้ด้วยตอนเริ่มช่วง Free Time และ ทุกครั้งที่เรากลับเข้ามาในโรงเรียน) เพราะเกมนี้นอกจากจะคิดความแรงจากสเตตัสแล้ว จะคิดความแรงจากเลเวลของเราเทียบกับศัตรูด้วย และถ้าเลเวลของเราต่างจากศัตรูมาก เดเมจก็จะต่างมหาศาลเลยล่ะค่ะ

ยืนยันโดยประสบการณ์ตรงจาก Tower of Agito ที่เลเวล 92 เทียบกับ 99 โดยมีสเตตัสเวทย์ทุกชนิดเต็มที่ 255 เหมือนกัน และใช้เวทย์เดียวกัน (Ultima) พบว่าเดเมจเลเวล 92 อยู่ที่ 72xx แต่เลเวล 99 เดเมจ 12xxx ค่ะ (ศัตรูคือ Tonberry เลเวล 128)

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด ขวาล่างก็จะขึ้น Mission Day แล้วเราจะโดน Moglin ติดต่อมาให้รีบไปรายงานตัวที่ห้องเรียนสำหรับภารกิจต่อไปค่ะ

 พอไปที่ห้องเรียน คุยกับ Kurasame ที่มีไอค่อน Main อยู่บนหัว เราจะได้ภารกิจ The Capture of Togoreth Stronghold มา จากนั้นเตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปนอกโรงเรียน วิ่งไปทางเมือง Corsi แต่ครั้งนี้ เลยไปค่ะ เราจะเข้าไปที่พื้นที่ Togoreth

ศัตรูโหดในแผนที่

พอเข้ามาในฉากนี้ เราจะพบว่าในฉากพื้นที่ Togoreth นี้ นอกจากจะมีโจโกโบะวิ่งไปวิ่งมาแล้ว ยังมี Great Tauricorn ตัวเบ้อเริ่มเดินไปเดินมาด้วย เจ้าพวกนี้เลเวล 99 และ เป็นไปแทบไม่ได้ที่เราจะสู้กับมันตอนนี้ (สู้ได้ถ้าใช้ Jack แต่ไม่แนะนำ เพราะคุณต้องอัพท่าสวนกลับมาเตรียมเลย) และทำให้เราไปเป้าหมายลำบาก เพราะต้องวิ่งหลบๆเจ้าตัวแสบนี่ ซึ่งนั่นเป็นเหตุว่าทำไมเราถึงจะต้องใช้โจโกโบะค่ะ เพราะโจโกโบะวิ่งเร็วกว่าพวกนี้ และ ต่อให้โดนวิ่งไล่ก็พอจะวิ่งหนีได้บ้าง

 

หลังจากเดินเล็ดลอด หลบศัตรูโหดไปจนถึงเป้าหมาย สำหรับคนเล่นครั้งแรก เกมก็จะขึ้นภารกิจ "The Capture of Togoreth Stronghold" มาให้เลือกทำทันที และ ถามความพร้อมของผู้เล่น ว่าจะลุยเลยไหม

แต่สำหรับคนเล่นครั้งที่สองขึ้นไป... เราจะเจอจอสีแดง พร้อมตัวเลือกค่ะ


 

 

 

วิชา STRY-205

Story Chapter 2

(The Capture of Togoreth Stronghold)

 

หลังจาก Mog เรียกเราไปที่ห้องเรียน พอไปที่ห้องเรียน คุยกับ Kurasame ที่มีไอค่อน Main อยู่บนหัว เราจะได้ภารกิจ The Capture of Togoreth Stronghold มา จากนั้นเตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปนอกโรงเรียน วิ่งไปทางเมือง Corsi แต่ครั้งนี้ เลยไปค่ะ เราจะเข้าไปที่พื้นที่ Togoreth

 

ศัตรูโหดในแผนที่

พอเข้ามาในฉากนี้ เราจะพบว่าในฉากพื้นที่ Togoreth นี้ นอกจากจะมีโจโกโบะวิ่งไปวิ่งมาแล้ว ยังมี Great Tauricorn ตัวเบ้อเริ่มเดินไปเดินมาด้วย เจ้าพวกนี้เลเวล 99 และ เป็นไปแทบไม่ได้ที่เราจะสู้กับมันตอนนี้ (สู้ได้ถ้าใช้ Jack แต่ไม่แนะนำ เพราะคุณต้องอัพท่าสวนกลับมาเตรียมเลย) และทำให้เราไปเป้าหมายลำบาก เพราะต้องวิ่งหลบๆเจ้าตัวแสบนี่ ซึ่งนั่นเป็นเหตุว่าทำไมเราถึงจะต้องใช้โจโกโบะค่ะ เพราะโจโกโบะวิ่งเร็วกว่าพวกนี้ และ ต่อให้โดนวิ่งไล่ก็พอจะวิ่งหนีได้บ้าง

 

หลังจากเดินเล็ดลอด หลบศัตรูโหดไปจนถึงเป้าหมาย สำหรับคนเล่นครั้งแรก เกมก็จะขึ้นภารกิจ "The Capture of Togoreth Stronghold" มาให้เลือกทำทันที และ ถามความพร้อมของผู้เล่น ว่าจะลุยเลยไหม

แต่สำหรับคนเล่นครั้งที่สองขึ้นไป... เราจะเจอจอสีแดง พร้อมตัวเลือกค่ะ

  • Storm the Stronghold (ทำภารกิจ The Capture of Togoreth Stronghold ตามปกติ)
  • Circle around back (ทำภารกิจ Code Crimson: Operation Breakthrough)

ใครจะทำภารกิจ The Capture of Togoreth Stronghold อ่านเอนทรี่นี้ต่อนะคะ ใครจะทำ Operation Breakthrough เชิญ อีก เอนทรี่ ค่ะ

 

เงื่อนไขเพื่อทำ Rank S
 
เงื่อนไข
Time 25:00
Phantoma 90
Casualties 0

 

 ** Clear ความยาก Officer: ปลดล็อค Eidolon "Shiva"

** Clear ความยาก Agito ปลดล็อค Deflector ให้มีขายที่ Armory (+50% HP, -30% เดเมจจากกระสุน)

** Clear ความยาก Finis ปลดล็อค Master's Mail ให้มีขายที่ Armory (-48% เดเมจประเภทฟัน หรือ สับ)

 

แผนที่ด่าน

(จองที่ไว้ลงรูป)

 

การวิ่งตามเส้นทางผ่านด่านตามปกติ เจ้าของบล็อคจะใช้ชื่อฉากสีแดง แต่ถ้าเป็นการเถลไถลนอกเส้นทาง จะใช้ชื่อฉากสีน้ำตาล นะคะ

 

Area 1: Main Gate

          ฉากนี้ลุยธรรมดาได้เลย (ศัตรูเป็น Militesi Coeurl กับทหารฝ่ายศัตรู) และมีไอเทมให้เก็บ 2 ชิ้น (จะอยู่บนพื้นใกล้ๆลังสีเขียวทั้งสองชิ้น เป็นไอเทมประเภทฟื้น HP ทั้งคู่) มี S.O. "Defeat the enemy commander using your active leader" ที่ไม่ได้สำคัญมาก แต่มันง่ายก็ทำไปเถอะ (เพราะเวลาทำซ้ำมันจะได้ Elixir ด้วย) แล้วก็ไปต่อได้เลย

 

 

Area 2: Central Stairwell

          ฉากนี้พอวิ่งพ้นทางมาจะเจอทหารฝ่ายศัตรูพร้อมหุ่น Nymurod จัดการให้หมดแล้วจะมีระลอกสอง (พร้อม Leader) โผล่มาอยู่บนกำแพง ซึ่งต้องใช้ตัวละครสอยระยะไกล หรือ เวทย์สาย RF สอยเท่านั้น มี S.O. "Defeat the imperial leader at the ramparts using your active leader" ซึ่งไม่ยากมากเหมือนกัน พอจัดการศัตรูเสร็จ (หรือ เบื่อจะลุยกะศัตรู) ก็วิ่งไปทางซ้ายต่อได้

 

 

Area 3: West Stairwell ****

          ฉากนี้ไม่ได้กะให้เราสู้หรอก เพราะพอเราวิ่งไปถึง กลไกที่ประตูจะทำงานแล้วซัมม่อน Eidolon "Golem" ออกมา ซึ่งฆ่าไปก็ไม่ได้ exp หรือ phantoma แต่ฉากนี้จะมี S.O.  "Endurance Test: Allow no casualties" หรือ ว่าง่ายๆคือ "ห้ามใครตายในช่วงเวลาที่กำหนด" ซึ่งพอทำแล้ว เราจะได้เวทย์ Fire ROK II มาใช้ได้ แต่ปัญหาคือ มันยากสุดๆเพราะความโง่(ว)ของ AI ที่จะวิ่งถลาไปหาศัตรูทันที แล้วโดนโกเลมทุบตาย ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือ วิ่งไปให้เกือบถึง Area ต่อไป แล้วรอให้เวลาผ่านไป แต่ถ้าโกเลมมาหาก็รีบวิ่งย้อนผ่านไปรอที่ทางที่เราเดินเข้าฉากมาแล้วรอจนหมดเวลาค่ะ พอได้เวทย์แล้วก็วิ่งไปต่อฉากต่อไปเลย

          ** บางครั้ง S.O. อันที่เราต้องการจะไม่โผล่มาตั้งแต่แรก ให้กด Decline แล้วรอสุ่มใหม่สัก 5 วินาที จนกว่าจะได้อันที่ต้องการค่ะ (อย่าเผลอกดปฏิเสธนะคะ เพราะปฏิเสธปุ๊บ มันไม่กลับมาค่ะ)

 

 

Area 4: North Stairwell

          ฉากนี้จะไม่มีอะไรมาก คือมีศัตรูโผล่มา (พวกทหาร กะ หัวหน้า) ไม่มีอะไรมากค่ะ ฆ่าแล้วก็ไปต่อ ไม่แนะนำให้ทำ S.O. ฉากนี้นัก เพราะมันจะบอกให้เราฆ่าทหารธรรมดา 3 ตัวก่อนจะฆ่าหัวหน้า ซึ่งทำได้ยากเพราะทหารมันอ่อน (จริงๆ) จน AI เรามักจะฆ่าตายไปก่อนเราจะทันได้ทำค่ะ แต่ถ้าคุณรับมาแล้วและทำไม่สำเร็จก็วิ่งเข้าฉากต่อไปเพื่อ Cancel ได้เหมือนกัน

 

 

Area 5: Second Laboratory

         ฉากนี้เป็น Safe Zone และจะไม่มีศัตรู แต่จะมี Recovery Portal และ  Relic Terminal อยู่ ก็เดินเหยียบซะ จากนั้นจะปรับแต่งอะไรก็รีบทำ ในห้องนี้จะมี Knowing Tag ให้เก็บ 3 อัน (จะตกอยู่ข้างๆศพทหารฝ่ายเราในห้อง) และ มีไอเทมตกอยู่บนพื้นอีก 1 อัน จัดการอะไรพร้อมแล้วก็ไปต่อเลยค่ะ

 

 

Area 6: Material Storage

         ฉากนี้จะมีทหารฝ่ายเราที่จะยืนบื้อๆอยู่ กะ ทหารฝ่ายศัตรูพร้อมเสือที่จะวิ่งออกประตูฝั่งโน้นมา แถมมี S.O. "Cover Practice: protect the dominion legionary" อีก แต่ไม่ยากอะไร แค่ฆ่าศัตรูก่อนทหารฝ่ายเราตายก็พอ จากนั้นเดินไปตรงซอกก่อนถึงประตู จะมีศพทหารอีกคนพร้อม Knowing Tag บนพื้นให้เราเก็บ พอเก็บแล้วก็ไปต่อเลยค่ะ

 

 

Area 7: Inner Corridor

         ฉากทางเดินตรงๆ แต่มีศัตรูโผล่ได้สองระดับ (ทหารข้างล่าง กับทหารซุ่มข้างบนชั้นสอง) ตอนแรกเราจะเจอทหารวิ่งใส่หน้า ก็จัดการซะ แล้วเราจะเจอหุ่น Warrior พุ่งใส่ พอดีกับที่ S.O. ด่านนี้จะ จะให้ "Score Killsight strikes on two Warriors using your active leader" หรือ ตี Killsight เจ้าหุ่นพวกนี้ทั้งสองตัวภายในเวลา 1 นาที ซึ่ง... ค่อนข้างยากอีกแล้ว... (แต่สามารถเนียน กดรับตอนหลังจากที่ตีทหารธรรมดาจน Warrior ออกมาแล้วได้อยู่) ไม่ว่าจะรับไม่รับ ทำไม่ทำ พร้อมแล้วก็ไปต่อค่ะ

 

 

Area 8: Sample Depository

          พอเดินเข้ามา เราจะเจอ Koharu ยืนอยู่ คุยกับเขา เขาจะให้ใบอนุญาตในการเรียก Eidolon ในภารกิจหลังจากนี้มา (ไม่ใช่ซัมม่อนได้เฉพาะด่านนี้นะคะ ซัมม่อนได้เกือบทุกด่านแล้ว) จากนั้นจะเกิดเหตุให้กรงขังพัง แล้ว Demonicorn 2 ตัวจะหลุดออกมา  (อย่าเพิ่งตกใจนะคะ ตัวนี้ตัวเล็กกว่าตัวโหดที่เราเพิ่งเดินหลบมาเยอะ) นอกจากนี้จะมีทหารวิ่งเข้ามาในห้องด้วย ให้จัดการซะ ส่วน S.O. ช่างมัน จะทำหรือไม่ก็ได้ (ฆ่าศัตรูสองตัวโดยใช้ตัวละครที่เราคุม) จากนั้น Moglin จะบอกว่าเราได้ภารกิจอีกอย่างคือต้องไปปิดระบบความปลอดภัยของป้อม ตอนนี้ก็เดินออกห้องไปต่อได้เลยค่ะ

         ** Eidolon เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ (เพียงไม่กี่สิบวินาที) แต่มาพร้อมความซวยใหญ่ยิ่ง เรียกทีก็เหมือนเราบูชายัญการ์ดยูกิค่ะ คือ ตัวละครที่เราใช้ในขณะนั้นจะตายทันที (ถ้าไม่มี Reraise ก็ซวย) แลกกับการเรียก Eidolon ออกมาใช้แทน แถมยังไม่พอ ถ้าเราพยายามทำ Rank S อยู่ การเรียก Eidolon จะทำให้เราอด S ทันที เพราะมันจะนับ Casualties เป็น 1 ทันที แม้เราจะมี Reraise และ ฟื้นขึ้นมาหลังจากนั้นก็ตาม (แต่ถ้าไม่มี Reraise ตัวละครก็ตายแบบนั้นเลยนะคะ ไม่ฟื้น ถ้าไม่ใช้ Phoenix Down)

 

 

Area 9: Dynamo Access

          เกมยังมีหาเรื่องซวยให้เราอีกค่ะ ตรงนี้เกมจะบังคับเราให้ต้องทำใจดีสู้เสือ วิ่งหลบหมัด หลบเท้าของ Eidolon โกเลมเข้าไปตี Channel Gate ข้างหลัง ซึ่งพอตีจนพังเราก็จะไปต่อได้ ส่วนไอเทมในห้องช่างมัน ไม่ต้องเก็บค่ะ (เพราะ Target ไอเทมไม่ได้ เนื่องจากถ้ามีศัตรูเกมจะ Target ศัตรูก่อน) เพราะถ้าเราเล่นรอบแรกเราจะยังสู้โกเลมไม่ไหวชัวร์ๆ แม้จะใช้ Eidolon สู้แล้วก็ตาม

          ส่วน S.O. ห้องนี้ก็พอๆกันค่ะ... Score Killsight งี้ / Land xx hits / Survive for x minutes งี้... เลิกนึกไปเลย ถ้าคุณเลเวลยังไม่เยอะ

          หลังตี Channel Gate แตกแล้วเกมจะเปิดโซนต่างๆให้เราเดินไปที่อื่นได้ จะไปต่อเลยก็ได้ แต่ก่อนไปต่อ ขอแนะนำว่าวิ่งไปขึ้นบันไดอีกฝั่งแล้วเข้าห้องนั้น (First Laboratory) ก่อนค่ะ

          ** หลังตี Channel Gate แตก จะมี S.O. "Take down the Golem with your active leader" โผล่มาด้วย ถ้าเลเวลพอ จะทำก็ได้ จะได้ Mythril Gloves 1 อัน (+40 Def) ค่ะ

 

 

Area 10: First Laboratory

          Safe Zone ไม่มีศัตรู แต่จะมี Knowing Tag ให้เก็บอีก 2 อัน แล้วจะเจอ Inari เพื่อนของ Koharu ที่จะถามเรื่อง Koharu ว่าเป็นตายร้ายดียังไง เพราะเขาจำได้ว่า Summoning Permit อันนี้เป็นของ Koharu ซึ่งเราก็จะต้องเลือกตอบ และจะได้ของต่างกันไป (Knowing Tag หรือ ไอเทมฟื้น HP)

 

 

Area 11: Central Dynamo

          ไม่มีอะไรมากค่ะ วิ่งเข้าไปหาแกนกลาง กดสำรวจเลย เราจะปิดระบบความปลอดภัย รอจนจบคัทซีน(?) ตรงนี้ก็จะกลายเป็น Safe Zone มี Relic Terminal และ Recovery Portal ให้เราฟื้นฟู ปรับแต่งอะไรให้พร้อมก็เดินย้อนออกไปได้เลยค่ะ

 

 

Area 9: Dynamo Access (อีกรอบ)

          เราจะเจอทหารฝ่ายศัตรูอีกรอบที่วิ่งลงมาจากบันไดสองด้าน จัดการไป แล้วสักพักหัวหน้าที่ขับ Warrior จะโผล่มา จัดการซะ แล้วก็อย่าเพิ่งไปตามทางไปต่อนะคะ เถลไถลด้วยการวิ่งขึ้นบันไดฝั่งขวา (ฝั่งตรงข้ามกับที่เราเข้ามาในตอนแรก) ก่อน

 

 

Area 12 : Stronghold Core

         ห้องนี้เราจะเจอทหารฝ่ายเราที่เข้ามาได้แล้วเพราะเราปิดระบบความปลอดภัย แล้วก็จะเจอทหารฝ่ายตรงข้ามด้วย ให้จัดการซะ จากนั้นจะไปต่อ หรือ จะเก็บไอเทมก่อนก็ได้ (จะมีสองชิ้น อยู่ทางซ้ายและ ขวา ของห้องตรงชั้นสอง หน้าจุดที่ผนังถล่ม)

 

 

Area 2 : Central Stairwell (อีกรอบ)

         ไม่มีอะไรค่ะ แมพเดิม แต่มาจากคนละทิศ วิ่งไปฉากต่อไปได้เลย ศัตรูยังไม่มีเลย

 

 

Area 3 : West Stairwell (อีกรอบ)

          ตอนนี้โกเลมกับ Channel Gate จะหายไปแล้ว แต่มีทหารฝ่ายตรงข้าม กับ เครื่องบินมาอยู่แทน จัดการซะ (จะที S.O. ก็ได้ แต่ต้อง Killsight ทหาร 3 คน) จากนั้นขึ้นบันไดไปต่อค่ะ

 

 

Area 13 : West Stairwell

          ฉากชื่อเดิมแต่คนละฉาก เราจะเจอทหารฝ่ายศัตรูก่อน แล้วสักพักก็หุ่น Warrior จะตามมา ซึ่งฉากนี้จะมี S.O. "Take down three warriors using your active leader" (ฆ่า Warrior 3 ตัว ด้วยตัวละครที่เราเล่น) อยู่ จัดการทำเลยก็ได้ เพราะ Warrior มี 5 ตัว (Leader ก็ขับ Warrior) ฆ่าหมดก็ไปต่อค่ะ

 

 

Area 14:  South Concourse

          แมพทางเดินยาวข้างป้อม จะมี Militasi Coeurl วิ่งมาโจมตีฝูงนึง มีทหารธรรมดา แล้วก็ ยานบินที่ต้องยิงให้ตก ไม่งั้นไปต่อไม่ได้ พอยิงตก Leader จะโผล่

          S.O. ฉากนี้ไม่มีอะไร จัดการศัตรูให้เรียบร้อย ระวังตัวที่ซุ่มยิงบนระเบียง จัดการเสร็จ วิ่งเหยียบ Recovery Portal แล้วไปต่อได้

 

 

Area 15: East Stairwell

           แมพทางเดินยาวข้างป้อมภาคต่อ ศัตรูก็ธรรมดาๆ มีทหาร กะ หัวหน้าขี่หุ่น แต่ฉากนี้จะพิเศษนิดนึงตรงจะมี S.O. "Acquisition Challenge: search surrenderred troopers for an item that can be used in battle" ซึ่งเราจะต้องฆ่าหัวหน้า (ขี่หุ่น) จากนั้นไปค้นตัวลูกน้องค่ะ (ต้องค้นได้พวก Serum หรือ Ration ถ้าเจอเหล้าไม่นับ แต่โอกาสเจอเหล้าต่ำมาก) เสร็จเรียบร้อยก็ไปต่อได้

 

 

Area 16: North Stairwell

          ฉากทางเดินยาวข้างป้อมอีกรอบ แต่รอบสุดท้ายแล้ว แต่สังเกตดีๆ Commander Schmitz บอสของศัตรู (ชุดสีขาว) จะมากวักมือท้าเราอยู่ตรงบันได จากนั้นจะวิ่งหายเข้าป้อมไป แต่พอมันท้าเสร็จ ศัตรูลูกจ๊อกทุกตัวจะติด Rage ไม่ว่าจะเสือ คน หรือกระทั่งหุ่น พอจัดการเสร็จ (ทำ S.O. ด้วยก็ได้ ฆ่าศัตรู 3 ตัวด้วยตัวละครที่เราเล่นอยู่) ก็เลี้ยวเข้าป้อมตามไปเช็คบิลเลยค่ะ

 

 

Area 17: Upper Corridor

          ฉากนี้เป็น Safe Zone ค่ะ มี Recovery Portal พร้อม Relic Terminal พร้อมแล้ววิ่งไปต่อได้เลย

 

 

Area 18: Imperial Command

          ฉากชุลมุนหลายชั้น เราจะเจอทหารที่ติด Rage วิ่งลงมาตามบันไดและทางลาดที่เป็นทางเดียวและแคบ ให้จัดการแล้ววิ่งขึ้นไปตามทางจนเข้าไปในห้องบัญชาการ จะเจอหัวหน้าศัตรูที่ไปหมกอยู่ในนั้นพร้อมลูกน้องอีก 2-3 ตัว จัดการซะ (ระวังด้วย ศัตรูทุกตัวตีหนักมาก) จากนั้นรอฟังเหตุการณ์ผ่านวิทยุสักพัก เราก็จะเจอ Cutscene และจะตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้กับบอส

 

 

Area 19: Outskirts

          ฉากปะทะบอสค่ะ เราจะต้องสู้กับ General Qator Bashtar ซึ่งจะขี่หุ่น Gabriel ของเขาบินฉวัดเฉวียนไปมา ไวยิ่งกว่านิวไทป์ *โดนตื้บเพราะเล่นมุก แต่มันใช่มากจริงๆนะ!!* โดย Bashtar จะโจมตีเราเป็น 3-4 แบบค่ะ

  • ยิงปืนกล: อันนี้วิ่งหลบพอได้ แต่ไม่มี Breaksight
  • ยิงมิสไซล์จากหลัง: หลบไม่ยาก แถม Bashtar จะอยู่นิ่งๆแว่บนึงด้วย
  • ยิงปืนพลังงาน (เร็ว) : จะเป็นเหมือนลูกบอลใสๆ แต่นำวิถี ต้องหลบดีๆ แบบนี้จะไม่มี Breaksight
  • ยิงปืนพลังงาน (ช้า) : ยิงปืนพลังงานนั่นล่ะ แต่โมชั่นจะช้ากว่า แบบนี้จะมี Breaksight ด้วย
  • ต่อย: อันนี้จะมี Breaksight แว่บนึงตอนหลังต่อยเสร็จ
  • แปลงเป็นเครื่องบินแล้วพุ่งชน: เป็นท่าที่หวัง Breaksight ง่ายที่สุด เพราะมันจะโผล่ยาวๆเลย แต่ความที่เฮียเคลื่อนที่ด้วย ระวังวื้ดค่ะ

ร่ายซะยาว เอาจริงๆ ไม่ต้องสนหรอกค่ะ หลบแล้วโจมตีตอดๆไปนั่นล่ะ เพราะเฮียเร็วมากจนหวังแพทเทิร์นน่ะเป็นไปแทบไม่ได้ พอเรา(ฟลุ้ค) Breaksight เข้าเป้า Bashtar จะลงไปนอนแหงกให้เรารีบๆซ้ำเติมให้มากที่สุด พอ HP หมดหลอดก็จะจบภารกิจค่ะ

แล้วก็ คนสร้างเกมรู้นะคะว่า Bashtar เป็นบอสที่สู้ยาก เพราะงั้นเขาเลยวาง Recovery Portal ไว้ให้ด้วยให้ใช้ฟื้นพลังได้รอบนึง ถ้าเข้าตาจนค่ะ

เป็นอันจบ Chapter 2 นะคะ นั่งดูคัทซีน แล้วก็เซฟได้ค่ะ เริ่ม Chapter 3 แล้ว


 

 

วิชา NGST-205

Story Chapter 2

(Code Crimson: Operation Breakthrough)

 

หลังจากเดินเล็ดลอด หลบศัตรูโหดไปจนถึงเป้าหมาย สำหรับคนเล่นครั้งแรก เกมก็จะขึ้นภารกิจ "The Capture of Togoreth Stronghold" มาให้เลือกทำทันที และ ถามความพร้อมของผู้เล่น ว่าจะลุยเลยไหม

แต่สำหรับคนเล่นครั้งที่สองขึ้นไป... เราจะเจอจอสีแดง พร้อมตัวเลือกค่ะ 

  • Storm the Stronghold (ทำภารกิจ The Capture of Togoreth Stronghold ตามปกติ)
  • Circle around back (ทำภารกิจ Code Crimson: Operation Breakthrough)

ใครจะทำภารกิจ Operation Breakthrough อ่านเอนทรี่นี้ต่อนะคะ ใครจะทำ The Capture of Togoreth Stronghold เชิญอีก เอนทรี่ ค่ะ

 

เงื่อนไขเพื่อทำ Rank S
 
เงื่อนไข
Time 12:00
Phantoma 120
Casualties 0

 

** Clear ความยาก Officer: ปลดล็อค Eidolon "Shankara"
** Clear ความยาก Agito ปลดล็อค Topaz Shield ให้มีขายที่ Armory
** Clear ความยาก Finis ปลดล็อค ดาบ Mutsunokami ให้มีขายที่ Armory (อาวุธรองสุดยอดของ Jack)

 

การวิ่งตามเส้นทางผ่านด่านตามปกติ เจ้าของบล็อคจะใช้ชื่อฉากสีแดง แต่ถ้าเป็นการเถลไถลนอกเส้นทาง จะใช้ชื่อฉากสีน้ำตาล นะคะ

 

แผนที่ด่าน

 

 (จองที่ไว้ลงรูป)

 

 

Area 1: Togoreth Woods

         เราจะต้องจัดการศัตรูที่ลาดตระเวณอยู่สามกลุ่ม โดยจะมีกลุ่มละ 3 ตัว (เป็นพวกหุ่นรบ) แล้วก็ ทหารปืนกลหนัก พอจัดการหมด เกมจะตัดไปฉากต่อไปแบบไม่รอเราเก็บ Phantoma เลย (S.O. ฉากนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ทำหรือไม่ทำก็ได้)

 

 

Area 2: Stronghold Outskirts

          จะเจอหุ่นรบล้วนๆอีกรอบ จัดการซะ (S.O. ไม่มีอะไรอีกเช่นกัน) จากนั้นจะมีการติดต่อวิทยุสักพักแล้วเกมจะตัดเข้าคัทซีน รอจนจบก็จะตัดฉากไปฉากต่อไป

 

 

Area 3: Northgate

          ฉากนี้ตอนแรกจะเจอ Militesi Coeurl มากับทหาร จากนั้นเราจะพบว่า ศัตรูตรงนี้ฆ่ายังไงก็ไม่หมด แล้ว Moglin จะบอกให้ไปต่อเลย (สามารถฟาร์ม SPP ตรงนี้ได้) ส่วน S.O. จะทำหรือไม่ก็ได้ ตรงนี้เกมจะให้เราฆ่าศัตรูสองตัวด้วยเวทย์เฉยๆเท่านั้นเอง

 

 

Area 4: West Stairs

         ศัตรูตรงนี้จะเป็นทหารธรรมดา กับ ทหารร็อกเก็ตลันเชอร์ และ... เช่นเดียวกับฉากที่แล้ว ฉากนี้ศัตรูก็เกิดเรื่อยๆไม่มีวันหมด (S.O. ก็ไม่มีอะไร จะไปต่อหรือ เถลไถลตามเจ้าของบล็อคก็ได้ค่ะ)

         ถ้าจะเถลไถลตามเจ้าของบล็อคก็วิ่งขึ้นบันไดข้างๆไปที่ Area 5

         แต่ถ้าจะไปต่อก็วิ่งตรงไป แล้วข้ามไปอ่านตรง Area 9 ได้เลยค่ะ

 

 

Area 5: West Stairs (ชื่อเดียวกัน แต่คนละฉาก)

         ฉากนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ศัตรูก็เกิดไม่มีวันหมดเหมือนกัน (แต่เป็นพวกหุ่นรบ) ก็ไปต่อทางที่ไม่มีสัญลักษณ์ค่ะ

 

 

Area 6: South Passage

          ฉากนี้จะมี S.O. "Take down three enemies on high ground using your active leader" ก็จัดการสอยศัตรูที่อยู่ตรงระเบียง 3 ตัว แล้วจะได้ Ignis Essentia มาค่ะ จากนั้นไปต่อได้

 

 

Area 7: East Stairs

          ฉากนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ฆ่าศัตรูหมดก็ไปต่อได้เลยค่ะ

 

 

Area 8: North Stairs

           ฉากนี้จะมี S.O. "Eliminate the enemy commander using your active leader" หรือ ฆ่าหัวหน้าศัตรูโดยใช้ตัวละครที่เราเล่นอยู่นั่นล่ะค่ะ จะได้ Fulgur Essentia เป็นรางวัล ได้ของแล้วก็วิ่งย้อนกลับทางเดิมกลับไปที่ Area 4 แล้วไปตามสัญลักษณ์ในแผนที่ได้เลยค่ะ

 

 

Area 9: Central Stairs

           ฉากนี้เราเข้ามาจะเจอทหาร กับ ป้อมปืนอัตโนมัติ พอจัดการเสร็จก็จะมี Colossus กับ ทหารบนกำแพงที่จะเกิดไม่มีวันหมด ฉากนี้จะมี S.O. "Destroy the Colossus using your active leader" ที่จัดว่าพิเศษหน่อย พอจัดการ S.O. เสร็จก็เลี้ยวเข้าป้อมไปต่อได้เลยค่ะ

 

 

Area 10: Stronghold Core

          ฉากนี้จะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แล้วศัตรูก็เกิดไม่มีวันหมดอีกแล้ว (ขึ้นกับตำแหน่งเราในห้อง ถ้าเรายังไม่ขึ้นบันได ศัตรูก็จะวิ่งเข้ามาทางประตูที่อยู่ชั้นบนทีละ 4 ตัว) แต่ถ้าเราขึ้นบันไดไปแล้ว ศัตรูจะวิ่งมาทางประตูที่เราเพิ่งผ่านเข้ามาจาก Central Stairs แทน โดยชุดแรกก่อนที่จะเกิดไม่มีวันหมดจะมีผู้กองชุดขาวมาด้วย 1 ตัว (แต่ก็ไม่มีโบนัสอะไรพิเศษ S.O. เฉพาะยังไม่มีเลย)

 

 

Area 11:  Dynamo Access

          เข้ามาจะพบว่าทหารตั้งบังเกอร์เตรียมรับเราเต็มที่ จัดการได้เลย ทำ S.O. ตามสบาย (มี S.O. "Defeat two enemies using your active leader" หรือ ฆ่าศัตรูสองตัวโดยใช้ตัวละครที่เล่นอยู่) แล้วก็จะเข้าแพทเทิร์นเกิดไม่มีวันหมดอีก ก็วิ่งตรงเข้าประตูไปได้เลย

 

 

Area 12: Central Dynamo

           ฉากนี้ไม่มีอะไรค่ะ วิ่งไปกดสำรวจแกนกลางดื้อๆ แล้วก็ย้อนกลับไปห้องเก่าค่ะ

 

 

Area 11: Dymamo Access (อีกรอบ)

           ตอนนี้เกมจะอัพเดทเราว่าเรามีจุดหมายสองแห่งที่ต้องไป พร้อมภารกิจทวงคืน และ ทำลายเอกสารลับที่ถูกเห็นหรือขโมยไป เพราะงั้น วิ่งหลบโกเลม ขึ้นบันไดทางขวาเข้าห้องใกล้ๆไปก่อนเลยค่ะ

 

 

Area 12: First Laboratory

          ในห้องนี้จะมีเอกสาร 3 ชิ้นตามมาร์คเกอร์ ตามนี้ค่ะ

  • Manalchemy Report บนโต๊ะที่อยู่ทางซ้ายเลย พอเข้ามาในห้อง
  • Return to Anathema ในตู้กระจก
  • On SHG Manalchemy บนโต๊ะทางขวา

          เก็บครบแล้วออกจากห้องได้เลยค่ะ (S.O. ไม่มีอะไร แค่ฆ่าศัตรู 2 ตัวด้วยตัวละครที่เล่นอยู่ และ ศัตรูก็เป็นแค่หุ่นกวนโอ๊ยที่ไม่มี Phantoma ด้วย) วิ่งออกห้อง ย้อนผ่านหน้าโกเลม ไปขึ้นบันไดอีกฝั่งได้เลย

 

 

Area 13: Sample Depository ****

           ห้องนี้จะมีศัตรูธรรมดา แล้วก็ Demonicorn ที่อยู่ในกรง ซึ่งเราจะมี S.O. พิเศษ "Take down the demonicorn using your active leader" ก็จัดการฆ่า demonicorn ในกรงเลยค่ะ เราจะได้เวทย์ Earthquake มาใช้ จัดการเสร็จก็ไปต่อได้เลย

 

 

Area 14: Inner Corridor

           ศัตรูจะเกิดอยู่ชั้นบน ฉากนี้จะมี S.O. "Subdue the enemy commander using your active leader" ด้วย ถ้าจะทำก็ซัดด้วยเวทย์ RF หรือ ตัวละครที่โจมตีระยะไกลเอาค่ะ

 

 

Area 15: Material Storage

           ฉากนี้ศัตรูจะเป็น Shock Trooper ส่วน S.O. ไม่มีอะไร จัดการเสร็จไปต่อได้เลยค่ะ

 

 

Area 16: Second Laboratory

           ฉากนี้จะมีเอกสารอีก 2 ชิ้นให้เก็บตามคำสั่ง

  • On BOM Manalchemy บนชั้นหนังสือ
  • On RF Manalchemy ที่ปักอยู่บนบอร์ด

           S.O. ฉากนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ทำหรือไม่ก็แล้วแต่ เสร็จแล้ววิ่งออกประตูไปเลยค่ะ 

 

 

Area 3: North Gate (อีกรอบ)

          ฉากเดิม แต่มาจากคนละทิศ ไม่มีอะไรค่ะ วิ่งไป West Stairs ได้เลย

 

 

Area 4: West Stairs (อีกรอบ)

         ฉากเดิม แต่เพิ่มโกเลมมาป่วน ฉากนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมค่ะ สู้ไปก็ยังไม่ได้อะไร S.O. พิเศษก็ไม่มี วิ่งผ่านไปเลยค่ะ

 

 

Area 9: Central Stairs (อีกรอบ)

          พอมาถึง ฉากก็เหมือนเดิม ศัตรูเกิดไม่มีหมดอย่างเดิม แต่เพิ่มเอกสารบนพื้นให้เราเก็บ ให้เก็บซะ (On ROK Manalchemy) จากนั้นฟังการติดต่อวิทยุ แล้วเกมจะตัดฉากไปฉากสุดท้ายค่ะ

          ** ระวังเก็บเอกสารไม่ได้ถ้าศัตรูอยู่ใกล้ๆ ให้ยืนใกล้ๆเอกสารแล้วเก็บศัตรูจนหมด แล้วพอเก็บ Phantoma เกมจะ Target เอกสารบนพื้นให้เราเก็บได้

 

Last Area: Togoreth Woods (อีกรอบ)

          ตอนนี้เราจะต้องสู้กับศัตรู 3 ชุด โดยจะเป็นทหารธรรมดานี่ล่ะ พอฆ่าไปสองชุด ชุดที่สามที่มีมีหุ่น Colossus เป็น Leader จะโผล่มา จัดการฆ่าแล้วเก็บ Phantoma ก็เป็นอันจบภารกิจค่ะ นั่งดูคัทซีนได้เลย

 

จบ Chapter 2 แล้วนะคะ เซฟ แล้วก็จะขึ้น Chapter ต่อไปแล้วค่ะ 


 

 

 วิชา STRY-301

Story Chapter 3

 

(Free Time: 3D 12h)

 

Chapter จะเริ่มด้วยการที่เรากลับมาที่ Akademeia แบบเพิ่งเดินกลับเข้าประตูมาเลย Moglin จะติดต่อมาทาง COMM แล้วจะบอกว่าให้เราไปหา Kurasame ที่ Central Command

พอไปที่ Central Command แล้วคุยกับ Kurasame เขาจะอนุญาตให้เราใช้ Squad Command ได้ ซึ่งตอนนี้จะมี Triad Maneuver และ Eidolon ให้เลือกใช้ โดยจะเลือกติดตั้งได้ตอนก่อนเข้ามิชชั่น และ กด สามเหลี่ยม + วงกลม เพื่อใช้ Squad Command ได้

Squad Command

  • Triad Maneuver : ท่าโจมตีประสานสารพัดประโยชน์ ใช้ได้เลยไม่ต้องเสียอะไรยกเว้น AG (ที่ต้องเต็ม และจะหมดหลอดเลยหลังใช้ ต้องสะสมใหม่) โดยจะใช้ตัวละครทั้งสามตัวในปาร์ตี้ทำการโจมตีประสานใส่เป้าหมายที่เราเล็ง
  • Eidolon : เรียกมนต์อสูร Eidolon ออกมาใช้(หรือช่วย)สู้ โดยใช้ตัวละครที่เราเล่นอยู่ในขณะนั้นเป็นเครื่องสังเวย ตัวละครเราจะตายทันที (ฟื้นหลังจบด่าน) และ นับ Casualties +1 ทันที แม้จะมี Reraise ก็ตาม
  • Vermillion Bird (จะปลดล็อคหลังทำ Task ใน Free Time รอบ 2 ของ Chapter นี้) : เรียกใช้มหาเวทย์ Vermillion Bird โดยจะเป็นเวทย์ที่แรงมากตามจำนวน MP ที่ชาร์จเข้าไป สามารถชาร์จได้หลายเลเวลตามการอัพเกรดด้วย Crystal Shard ผ่าน Relic Terminal ส่วนตัวเจ้าของบล็อคว่าเป็นเวทย์ที่ดีเพราะมันจะทำให้ตัวละครที่เราใช้ตอนนั้นมี Reraise (เฉพาะตัวที่เราใช้) และ ทำเดเมจหนักๆใส่ศัตรูด้วย แต่ท้ายที่สุด บวกลบแล้ว เจ้าของบล็อคว่า สู้ Triad Maneuver ไม่ได้เท่าไหร่

 

คุยกับ Kurasame เสร็จ พอเดินออกนอกห้อง Central Command มา Moglin จะติดต่อมาเรื่อง Expert Trial ว่า เปิดให้เราไปทำได้แล้วนะ

 

Expert Trial

ว่าง่ายๆคือ ภารกิจพิเศษ ที่สามารถทำได้เพื่อเปิดพื้นที่ก่อนเวลาในเนื้อเรื่อง โดยสามารถรับได้ที่ NPC ตรง Main Gate ที่มีอักษรบนหัวว่า Trial ค่ะ

การทำ Expert Trial แต่ละครั้ง ใช้เวลา 12 ชั่วโมง โดยใช้ 6 ชั่วโมงในการออกไปนอกโรงเรียน และ อีก 6 ชั่วโมงในการทำภารกิจ ดังนั้น NPC จะให้ภารกิจเฉพาะเมื่อเราเหลือเวลามากกว่า 12 ชั่วโมงเท่านั้น

Expert-Trial มีเลเวลขั้นต่ำที่ 35 ซึ่ง ถ้าคุณเก็บเลวลบ้าเลือดมาก่อนนี้ คุณสามารถทำได้เลยแม้จะเป็นการเล่นรอบแรก แต่เจ้าของบล็อคขอแนะนำให้เก็บไว้ตอนเล่นรอบ 2 ค่ะ (ยกเว้นถ้าคุณว่างเหลือเฟือจริงๆ)

 

แล้วเราก็ว่าง ไปทำอะไรก็ได้ ในช่วงเวลา 3 วัน 12 ชั่วโมง (รวมเวลาว่างทั้งสิ้น 48 ชั่วโมง) นี่ และเช่นเคย...

 

บริหาร Task, Trial และ Free Time Event ดีๆนะคะ (ด้วยความหวังดี ว่า เกมมันต้องเล่นอย่างน้อย 2 รอบถึงจะสมบูรณ์ อย่าเครียดมาก จุดไหนพลาดได้ เราก็จะพยายามมาร์คให้)

 

เจ้าของบล็อคจะทำ สีม่วงตัวหนา ไว้เหมือนเดิมนะคะ ว่า อันไหนห้ามพลาด ถ้าไม่อยากเล่นเยอะ

 

Task ในครั้งนี้

Task ทุกอันสามารถทำได้โดยไม่เสียเวลา (ยกเว้นอันที่ต้องออกไปนอกโรงเรียน)

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Slayer's Spoils II Armory Guildsman Shock Shield x1 หา Tree Sap มาให้เขา 3 อัน
 
(จะได้จากศัตรูประเภทพืช ซึ่งเราน่าจะมีอยู่แล้วถ้าฆ่าพวก Capparwire ที่จะเจอเป็นศัตรูในแผนที่ของพื้นที่ Togoreth)
The Phantoma Menace II Sorcery Sorcery Researcher Argentic Ring x1 หา Green Phantoma มาให้เขา 3 อัน
 
(ไม่น่ามีปัญหา แต่อาจมีไม่พอถ้าอัพเกรดเวทย์เพลิน ซึ่งอันนี้หาง่ายสุดคือ ไปทำ Killsight ใน Arena เลยค่ะ)
Monster Pursuit II Central Command Dominion Officer Aegis Veritas x1 ฆ่า Perkunas ให้เขา 6 ตัว
 
(จะอยู่ในพื้นที่ North Togoreth  ซึ่งตอนนี้อาจจะยังทำไม่ได้ เพราะต้องรับ Expert Trial "United Front" ก่อน)
SPP Scavenger II Lounge Administrative Official Fulgur Secundus Vol. II x1 เอาแต้ม SPP ให้เขา 300 แต้ม
Senative Supplier II Main Gate Logistics Officer X-Potion x5 เอา Ether ให้เขา 3 อัน
Secret Agent Agito II Crystarium Class Ninth Cadet Ballistics Shield x1
จับ Imperial Soldier 1 ตัวให้เขา

(ต้องไปที่พื้นที่ North Togoreth ในขณะที่ยังไม่เป็นของฝ่ายเรา *ว่าง่ายๆคือ ต้องรับ Task นี้ จากนั้นไปรับ Expert-Trial "United Front" เพื่อให้เข้าพื้นที่ได้ และจับศัตรูก่อนจะทำภารกิจด้วย* การจับให้วิ่งในฉากแผนที่จนเจอศัตรูเป็นกลุ่มทหารที่มี Leader ด้วย จากนั้นก็เชือด Leader ซะ เพื่อจับลูกน้องตามเควส)
Commander's Orders  Central Command Kurasame 10,000 exp
ทำ Breaksight หรือ Killsight ใส่ศัตรู 10 ครั้ง
 
(ไปทำใน Arena เลยค่ะ เพื่อให้ไม่เสียเวลา)
Mother Says Sorcery Dr.Al-Rashia พลังเวทย์ทุกชนิด +3 ใช้เวทย์ Fire RF ฆ่าศัตรู 3 ตัว
 
(ไปทำใน Arena เลยค่ะ เพื่อให้ไม่เสียเวลา)
Probing into the Past Crystarium Provost Wizard's Hat ไปเอา Rubrum Analects มาให้เขา
 
(บอกในบทสรุปรอบก่อนนี้ไปแล้วว่าให้ไปถ้ำ Corsi Cave แล้วหยิบมา เพราะอยู่ฉากแรกเลย แต่ถ้าลืมก็ วิ่งไปได้เลยค่ะ)

 

 

Free Time Event ในครั้งนี้

 
สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Classroom Zero  Moglin 10,000 exp วิชา FGHT-101: Survey of Battle Basics
Classroom Zero  Moglin Magic ทุกชนิด +1 วิชา MAGC-101: Survey of Basic Magic
Classroom Zero  Moglin Defense Magic +2 วิชา DFMG-101: Elementary Defense Magic I
Classroom Zero  Moglin HP สูงสุด +20 วิชา HPUP-100: Introduction to Health
Back Garden ม้านั่ง Elixir x1 * ต้องใช้ Ace สำรวจ
Back Garden Cater Ether x1  
Central Command Trey Mega-Potion x1  
Central Command Dominion Legionary Hi-Potion x1  
Crystarium Quon Turbo Ether x1  
Crystarium Tachibana Hi-Potion x1  
Sorcery Dr.Al-Rashia X-Ether x1 *ต้องใช้ Rem สำรวจประตูห้องทำงานของ Dr. Al-Rashia
Armory Mutsuki Mega-Remedy x1  
Ready Room Koharu Mega-Potion x1  
Lounge Carla -  * Carla จะขอยืมเงินเรา 1000g
Lounge Akagi Hi-Potion x1  
Fountain Courtyard Orderly Glass Pendant x1  * ต้องใช้ในเหตุการณ์ของ Aria ใน Chapter 4
Airship Landing Class Fourth Moogle Hi-Potion x1  
Main Gate Class Sixth Moogle Hi-Potion x1  

 

 Expert Trial ที่ทำได้

อย่าลืมว่า Expert Trial ทุกอันทำครั้งนึง เสียเวลา 12 ชั่วโมง ขอแนะว่าควรทำตอน NG+ แล้ว

ชื่อ Trial สถานที่ เลเวล จำนวนคนที่เข้าได้
เงื่อนไข
(ถ้ามี)
The Keziah Diversion
Keziah 35 4 -
United Front
Mi-Go 36 14 -
Expelling the Empire พื้นที่ Iscah 36 14 -
The Clash in the Caverns Rokol Caverns 37 4 -

 

** เวลาที่เหลือทำเอาไปทำ Event ของ Kazusa หรือ Emina ก็ตามสะดวกค่ะ

*** หลังจากนี้ บางทีเวลาเราไปที่ Airship Landing / Chocobo Ranch / Terrace / Back Garden เราจะเห็นตะบองเพชร Cactuar (ซาโบเทนเดอร์ที่คุ้นเคย) วิ่งดุ๊กดิ๊กๆหายไป แล้วจะมีกรอบข้อความขึ้นมาว่า "The wild cactuar has fled" ซึ่งอันนี้ เราอย่าเพิ่งวิ่งตามตะบองเพชรค่ะ สังเกตบนพื้นดีๆ จะมีไอเทมส่องแสงวิ้งๆที่เจ้าตะบองเพชรทำหล่นไว้กองอยู่ ซึ่งอาจเป็น L'Cie Crystal (Yugino's Crystal) หรือ ถ้าเจอครั้งต่อๆไปจะเจอ Crystal Shard ที่ใช้สำหรับอัพเกรด Vermillion Bird หรือ ไอเทมอื่นๆด้วย

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด ขวาล่างก็จะขึ้น Mission Day แล้วเราจะโดน Moglin ติดต่อมาให้รีบไปรายงานตัวที่ห้องเรียนสำหรับภารกิจต่อไปค่ะ

พอไปที่ห้องเรียน คุยกับ Kurasame ที่มีไอค่อน Main อยู่บนหัว เราจะได้ภารกิจ The Infiltration of Iscah มา พร้อมระเบิด Magicite 3 อันสำหรับมิชชั่น จากนั้นเตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปนอกโรงเรียน วิ่งผ่านไปทาง Togoreth แล้ววิ่งเลยไปทางตะวันตก เข้าสู่พื้นที่ Iscah ได้เลย พอไปถึงเมือง เกมจะขึ้นภารกิจให้ทำได้เลย


 

 

วิชา STRY-302

Story Chapter 3

 

(The Infiltration of Iscah)

 

หลังจาก Mog เรียกเราไปที่ห้องเรียน พอไปที่ห้องเรียน คุยกับ Kurasame ที่มีไอค่อน Main อยู่บนหัว เราจะได้ภารกิจ The Infiltration of Iscah มา พร้อมระเบิด Magicite 3 อัน และ เวทย์ Protect จากนั้นเตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไปนอกโรงเรียน วิ่งไปทางพื้นที่ Togoreth แล้วเลยไปทางตะวันตก เข้าสู่พื้นที่ Iscah จากนั้นเดินเล็ดลอดหลบศัตรูโหดไปจนถึงเป้าหมาย เกมก็จะขึ้นภารกิจ The Infiltration of Iscah มาให้เราทำค่ะ

คำเตือน:

  • ฉากนี้มีหมอกหนา การมองเห็นของเราจะถูกจำกัด ลำบากหน่อยโดยเฉพาะตัวละครระยะไกลที่จะล็อคเป้าไม่ได้ถ้าไม่เข้าใกล้พอค่ะ
  • พยายามอย่าติดตั้งเวทย์ไฟมานะคะ เพราะหมอกก็ทำเวทย์ไฟเบาลงเป็นทุนแล้ว ยังมีศัตรูธาตุไฟด้วย
  • ให้ตัวละครตัวนึงติด Esuna มาก็ดี เพราะ Ankheg ในฉากนี้สามารถทำให้ติดพิษได้ หรือจะยอมติดแล้วใช้เวทย์ Cure แทน รอหายเองก็แล้วแต่ค่ะ

 

เงื่อนไขเพื่อทำ Rank S
 
เงื่อนไข
Time 15:00
Phantoma 90
Casualties 0

 

** Clear ความยาก Officer: ปลดล็อค Eidolon "Golem"
** Clear ความยาก Agito ปลดล็อค เวทย์ Raise (เวทย์ชุบชีวิต)
** Clear ความยาก Finis ปลดล็อค Kaiser Knuckle ให้มีขายที่ Armory (อาวุธรองสุดยอดของ Eight)

 

 

  การวิ่งตามเส้นทางผ่านด่านตามปกติ เจ้าของบล็อคจะใช้ชื่อฉากสีแดง แต่ถ้าเป็นการเถลไถลนอกเส้นทาง จะใช้ชื่อฉากสีน้ำตาล นะคะ

Area 1: Iscah Aqueduct UG-91

          ฉากนี้ไม่มีอะไรค่ะ ศัตรูก็ไม่มี วิ่งไปต่อตามทางเลย

 

 

Area 2: Iscah Aqueduct UG-92

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          วิ่งไปทางซ้ายตามทาง จะเจอวาล์วน้ำดังภาพ กดสำรวจเพื่อหมุนวาล์วให้น้ำลดลง เพื่อเปิดทางไปต่อ จากนั้นก็วิ่งข้ามไป จะเจอศัตรูเป็นลูกตาบิน 3 ตัว จัดการซะ แล้วไปต่อ

 

 

Area 3: Iscah Aqueduct UG-93

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ฉากนี้พอเข้ามาจะเจอศัตรูเป็นฝูง มีลูกตาบินจ้าวเก่า แถมมี Fire Flan ที่ดูดธาตุไฟมาด้วย ตีปกติก็ไม่ค่อยเข้า แต่ใช้เวทย์ธาตุอื่นปราบได้อยู่ค่ะ เสร็จแล้ววิ่งไปทางขวาได้เลย

 

 

Area 4: Eastern Dynamo

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ฉากนี้เข้ามาเราจะเจอ Ankheg 1 ฝูง ระวังติดพิษด้วย พอจัดการเสร็จก็ไปสำรวจกลไกเพื่อวางระเบิด Magicite จากนั้นวิ่งตาม Marker ย้อนทางกลับไป Area 3 แล้วเลยไปต่ออีกทางได้เลยค่ะ (แต่ถ้าอยากงก ในห้องนี้มีไอเทมให้เก็บด้วย 1 ชิ้นบนพื้น อยู่ทิศตะวันออกของห้อง)

 

 

Area 5: Iscah Aqueduct UG-94

S.O. พิเศษ: ไม่มี

         เกมยังไม่ให้ไปอีกทางค่ะ ต้องไปปิดวาล์วอีกห้องนึงก่อน จัดการลูกตาบินแล้ววิ่งเข้าห้องทางซ้ายไปเลยค่ะ

 

 

Area 6: Iscah Aqueduct UG-95

S.O. พิเศษ: ไม่มี

         วิ่งตรงไปสำรวจวาล์วตรงสุดทางก่อน จากนั้นค่อยวิ่งย้อนไปเข้าประตู (ทิศตะวันตก) ไปต่อค่ะ จัดการศัตรูเอา Phantoma ด้วย

 

 

Area 7: Southern Dynamo

S.O. พิเศษ: ไม่มี

         ไม่มีอะไรมากค่ะ ในห้องจะมีลูกตาบิน 1 ตัว วิ่งตรงขึ้นไปสำรวจเพื่อวาง Magicite จากนั้นจะมีลูกตาบินโผล่มาเพิ่ม จัดการซะ แล้ววิ่งย้อนทางตาม Marker กลับไป Area 5 ได้เลย

 

 

Area 5: Iscah Aqueduct UG-94 (อีกรอบ)

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          พอเรากลับมาจะพบว่าน้ำลดลงแล้ว ให้ข้ามไปอีกฝั่ง จัดการศัตรูให้หมดแล้วไปต่อได้เลยค่ะ

 

 

Area 8: Iscah Aqueducy UG-96

S.O. พิเศษ: "Combat Trial: Refrom from using magic so as not to alert the enemy to your presence"

ว่าง่ายๆคือ... ห้ามตัวละครที่เราเล่นใช้เวทย์ 1 นาที โดยห้ามออกจากพื้นที่ด้วย

 

           จะทำ S.O. หรือไม่ก็แล้วแต่นะคะ (ทำก็ได้ Ignis Tertius Vol. I x1) ยังไงก็จัดการศัตรูให้เรียบร้อย แล้ววิ่งไปทางขวาเพื่อไปต่อเลย

 

 

Area 9: Iscah Aqueduct UG-97

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ไม่มีอะไรค่ะ จัดการศัตรูแล้วไปต่อเลย

 

 

Area 10: Northern Dynamo

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ไม่มีอะไรนักค่ะ จะมี Fire Flan ในห้อง 3-4 ตัว จัดการซะ วาง Magicite แล้ววิ่งย้อนทางกลับไป Area 8 ได้เลย

 

 

Area 8 : Iscah Aqueduct UG-96 (อีกรอบ)

S.O. พิเศษ: ไม่มี

         ตอนนี้น่าจะไม่มีอะไรแล้ว แต่ก่อนจะเข้าประตูไป วิ่งเลยไปทางซ้ายนิดนึงค่ะ จะมีไอเทมบนพื้นให้เก็บ หรือจะเข้าประตูไปเลยก็ตามสะดวกค่ะ พร้อมแล้วก็กดสำรวจประตูให้เลื่อนออก แล้ววิ่งเข้าไปได้เลย

 

 

Area 11 : Iscah Aqueduct UG-139

         ฉากนี้เป็น Safe Zone ค่ะ มี Recovery Portal พร้อม Relic Terminal เช่นเคย พร้อมแล้วก็ไปต่อได้ค่ะ

 

 

Area 12 : Iscah Aqueduct UG-142

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ฉากนี้จะเริ่มมีศัตรูที่เป็นทหาร Imperial โผล่มาเล่นงานเรา หลังจากจัดการเสร็จ รอนิดนึงให้วิทยุ (ทางซ้ายบน) คุยกันเสร็จ แล้วจะมี Timer นับถอยหลัง 25 นาทีโผล่มาที่ขวาบน พร้อมกับทหารคนสุดท้ายที่จะโผล่มาให้ทางไปต่อเปิด จัดการแล้ววิ่งไปต่อได้เลยค่ะ

 

 

Area 13 : Iscah Aqueduct UG-143

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          วิ่งตรงไปกดสำรวจวาล์วน้ำเลยค่ะ จากนั้นลุยกับทหาร แล้วก็ Flan ตรงนั้น ให้เรียบร้อย จะเจอฝูง Ankheg ที่จะโผล่มาเรื่อยๆ ระหว่างที่เรารอน้ำลด พอน้ำลดแล้ว ก็เลือกเอาค่ะว่าจะเถลไถลก่อน หรือ จะไปตามเป้าหมายเลย

          - ถ้าเถลไถล ก็ วิ่งลงบันได อ้อมไปทางซ้าย จะเจอรูท่อที่เราเข้าไปได้ (และไม่มีมาร์คเกอร์)

          - ถ้าไปตามเป้าหมายก็วิ่งไปตามทางข้างล่าง ไม่ต้องขึ้นบันได จะเจอรูท่อที่ผนังที่เป็นทางไปต่อค่ะ

ส่วนไอเทมที่เก็บได้ในห้องนี้จะอยู่ตรงสุดทางที่ต้องขึ้นบันไดอีกฝั่งไปนะคะ จะได้ไอเทมฟื้นพลังประเภท Ration 1 อัน

 

 

Area 14: Iscah Aqueduct UG-144

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          จัดการ Fire Flan แล้ววิ่งไปตามทางต่อเลยค่ะ

 

 

Area 15: Iscah Aqueduct UG-145

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ห้องนี้จะมีแต่ศัตรู (แถมมี Diceratops วิ่งไปมาด้วย) ในแมพไม่มีอะไรบอก แต่ห้องน้ำมี Knowing Tag ให้เก็บ 1 อัน อยู่กับศพทหารฝ่ายเราในห้องค่ะ เรียบร้อยก็วิ่งย้อนตาม Marker กลับไป Area 13 แล้วไปอีกทางได้เลย

 

 

Area 16:  Iscah Aqueduct UG-146

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          พอเราเข้ามา จะพบว่าฉากบางส่วนถล่มมาขวางทางเราจนไปได้ลำบาก ตอนแรกเราจะเจอ Fire Flan 1 ตัว พอจัดการแล้ว ให้เราวิ่งตีโค้งอ้อมซ้ายไปจากจุดที่เจอ Fire Flan ไปค่ะ จะเจอ Fire Flan ตัวที่ 2 ตามด้วยทหาร Imperial อีก 3 ตัว จัดการซะเพื่อให้ม่านพลังหายไป ตรงไปต่อนิดนึงแล้วเลี้ยวซ้าย จะเจอทหารร็อกเก็ตลันเชอร์อีก 2 ตัว จากนั้นเลี้ยวขวาไปต่อ จะเจอ Imperial Super Soldier (ศัตรูตัวสุดท้ายของฉากนี้) มาตีเรา จัดการแล้ววิ่งไปต่อตาม Marker ได้ค่ะ ส่วนศพทหารฝ่ายเราที่นอนอยู่ใกล้ๆทางไปต่อจะมี Knowing Tag อีก 1 อันด้วย

 

 

Area 17: Iscah Aqueduct UG-147

S.O. พิเศษ: ไม่มี

           ฉากทางตรง (แต่ไม่ตรง) ศัตรูมีทหาร Imperial กับ Militesi Coeurl ไม่มีอะไรมากค่ะ จัดการแล้วไปต่อเลย

 

 

Area 18: Iscah Aqueduct UG-148

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ฉากทางแบบฉากที่แล้วค่ะ แต่ศัตรูเป็นทหาร Imperial กับ หุ่นโดรน Martinet

 

 

Area 19: Iscah Aqueduct UG-149

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ฉากยาว แต่ตรง จุดแรกสุดของฉากจะมี Recovery Portal ให้เหยียบ จากนั้นจะต้องจัดการทหาร Imperial ซึ่งจะมี Leader มาด้วย จัดการซะ แล้วไปต่อค่ะ

 

 

Area 20: Iscah Aqueduct UG-151

S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ฉากตรงๆ แต่ตรงนี้ นอกจาก Martinet กับทหารปกติ เราจะเจอศัตรูเป็นทหาร Imperial ถือปืนกลด้วย ระวังสักหน่อย จัดการแล้ววิ่งไปต่อค่ะ

 

 

Area 21: Iscah Aqueduct UG-26

S.O. พิเศษ: "Search the fallen for personal effects using your active leader" ก็คือ... หาไอเทมในฉากให้เจอนั่นเอง ให้วิ่งตามพื้น อ้อมเสาไปนิดนึงนะคะ มองบนพื้น จะเจอไอเทมตกอยู่แบบนี้แหละ กดเก็บจะเป็นไอเทม Sullied Ring (มันเป็นไอเทมมิชชั่น ไม่ใช่ไอเทมสวมใส่นะคะ ตอนแรกเจ้าของบล็อคงงตั้งนานค่ะ ว่ามันหายไปไหน)

 

จะทำ S.O. หรือไม่ก็ตามใจ ศัตรูเป็นทหารฝ่ายตรงข้าม (มี Shock Trooper ด้วย ระวังเสียเวลา) จัดการศัตรูเสร็จแล้วไปต่อเลยค่ะ

 

Area 22: Iscah Aqueduct UG-27

          S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ทางตรง มี Martinet มาตอดนิดหน่อย แต่ฉากนี้มีหัวหน้าศัตรูเป็น Shock Trooper ระวังเสียเวลาค่ะ

 

 

Area 23: Iscah Aqueduct UG-28

         S.O. พิเศษ: ไม่มี

          พอเดินเข้ามา เราจะเจอศัตรูชนิดใหม่คือ โดรน Panjadrum ที่จะมาพร้อมกับถังน้ำมันแบบพร้อมระเบิดตัวตาย ส่วนศัตรูอื่นก็มี Militesi Coeurl กับ ทหาร Super Soldier ค่ะ จัดการเสร็จก็ไปต่อเลย

 

 

Area 24: Aqueduct Exit

          S.O. พิเศษ: ไม่มี

          ฉากนี้ไม่มีอะไรค่ะ ยกเว้นต้องจัดการศัตรู และ ฆ่าหัวหน้าศัตรูที่เป็นทหารร็อกเก็ตลันเชอร์เพื่อไปต่อ ส่วนไอเทมให้เก็บ อยู่ตรงทางที่มีถังแก๊สทางซ้าย

 

 

Area 25: Downtown Iscah

          S.O. พิเศษ: ไม่มี

           ฉากนี้เป็น Safe Zone ค่ะ มี Recovery Portal ให้ แต่ไม่มี Relic Terminal เหยียบแล้วไปต่อเลยค่ะ

 

 

Area 26: Imperial Command

          S.O. พิเศษ: มี 2 อันนะคะ

          1. "Take out all imperial troopers on high ground using you active leader" (ใช้ตัวละครที่เราเล่นสอยศัตรูที่อยู่บนระเบียงให้หมดทั้งสองตัว)

          2. "Find the Colossus's weakness using your active leader" (หาจุดอ่อนของหุ่นหัวหน้าศัตรู อันนี้ง่ายๆ เอาเวทย์สายฟ้ายิงเลยค่ะ)

 

           ฉากนี้เบสิคเลยค่ะ... ฆ่าให้หมดก็จบด่าน แต่ระวังโดนรุมหนักหน่อยเท่านั้นเอง บอสเป็นทหารขับ MA Colossus ซึ่งตีหนักหน่อยๆ แต่พอหลบได้อยู่

 

ฆ่าเสร็จ เก็บ Phantoma ก็เรียบร้อย เป็นอันจบ ภารกิจค่ะ 


 

 

วิชา STRY-303

Story Chapter 3

 

(Free Time: 3D 12h)

 

ตอนนี้เราจะยังอยู่นอกเมือง Iscah และ พื้นที่จะยังเป็นของทาง Imperial Millitesi อยู่ อย่าเพิ่งกลับ Akademeia นะคะ


ตรงนี้ เจ้าของบล็อคขอแนะนำให้เข้าไปในเมือง Iscah แล้วคุยกับ Mayor Aoba (มีคำว่า Task บนหัว) ก่อนค่ะ เขาจะขอให้เราช่วยจัดการ Imperial Commander (พวกทหารที่มีสัญลักษณ์หัวหน้านั่นล่ะ) ให้เขาสองตัว ตอนนี้เดินออกมานอกเมือง วิ่งหาศัตรูแล้วตีจนครบ กลับไปคุยกับ Mayor Aoba เราจะได้ Sentinel Emblem มาค่ะ
** เนื่องจาก Enemy Commander จะเป็นศัตรูปกติในเวลาที่พื้นที่นั่นยังเป็นของฝ่ายอื่นอยู่เท่านั้น เจ้าของบล็อคเลยขอแนะนำให้ทำก่อนนะคะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกจะทำตอนนี้ หรือ เผลอเลือกกลับโรงเรียนแล้ว สามารถดองไว้ทำทีหลังได้ตราบที่ Dominion of Rubrum (ฝ่ายเรา) ยังไม่ครองพื้นที่ Iscah โดยสมบูรณ์ค่ะ (ว่าง่ายๆคือ ถ้ายังไม่ทำภารกิจต่อไปนั่นล่ะ)

 

จากตรงนี้ เจ้าของบล็อคขอแนะนำให้เถลไถลเพิ่มสักหน่อย คือ แวะไปที่เมืองอื่นๆด้วย เพื่อหา L'Cie Crystal ค่ะ เพราะเราจะเอาให้ Atra (คนที่ตัวใหญ่ๆ ใส่เกราะของประเทศ Lorica) เขาจะเอาคริสตัลไปดูความทรงจำสุดท้ายของ L'Cie แล้วมันก็จะอยู่ในบันทึก Rubicus ให้เราดูได้ค่ะ (หมวด Historical Personae) ซึงอันนี้ เจ้าของบล็อคจะแยกไว้ที่เอนทรี่เรื่อง L'Cie Crystal อีกทีนึงค่ะ

  •  Mc Tighe: เควสเทศมนตรีขาดความมั่นใจ (Mizu'a's Crystal)

     

  •  Aqvi: เควสของ Nazuna (Yu'u's Crystal)

     

  •  Corsi: ไม่มีเควส เพราะมันตกอยู่บนพื้นเลย... (Kayahara's Crystal)

     

  •  Mi-Go: เควสหนุ่มๆจีบสาวๆ (Yuka's Crystal)

     

  •  Keziah: เควสส่งจดหมาย (Lazuline's Crystal)

พอจะกลับจริงๆ เปิดช่องเก็บของเช็คหน่อยค่ะ คุณมีของต่อไปนี้รึยัง? เพื่อไม่ให้เสียเวลา เพราะสองอย่างนี้หาทีหลังไม่ได้ค่ะ ออกมาอีก อาจเสีย 6 ชั่วโมงใช่เหตุ

Light Feather x5
Purple Phantoma x1

 

กลับโรงเรียนแล้วเราก็ว่าง ไปทำอะไรก็ได้ ในช่วงเวลา 3 วัน 12 ชั่วโมง (รวมเวลาว่างทั้งสิ้น 48 ชั่วโมง) นี่ และเช่นเคย... 

บริหาร Task, Trial และ Free Time Event ดีๆนะคะ (ด้วยความหวังดี ว่า เกมมันต้องเล่นอย่างน้อย 2 รอบถึงจะสมบูรณ์ อย่าเครียดมาก จุดไหนพลาดได้ เราก็จะพยายามมาร์คให้) 

เจ้าของบล็อคจะทำ สีม่วงตัวหนา ไว้เหมือนเดิมนะคะ ว่า อันไหนห้ามพลาด ถ้าไม่อยากเล่นเยอะ

 

Task ในครั้งนี้

Task ทุกอันสามารถทำได้โดยไม่เสียเวลา (ยกเว้นอันที่ต้องออกไปนอกโรงเรียน)

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Slayer's Spoils III Armory Guildsman Shock Shield x1 หา Light Feather มาให้เขา 5 อัน
 
(จะได้จากศัตรูประเภทลูกตาบิน ซึงหาไม่ยาก และ น่าจะมีเหลือเฟืออยู่แล้ว)
The Phantoma Menace III Sorcery Sorcery Researcher เวทย์ Vermillion Bird หา Purple Phantoma มาให้เขา 1 อัน
 
(หายากนิดนึง แต่คิดว่าน่าจะมีอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีจริงๆ หาศัตรูธรรมดาแบบไม่มีธาตุ แล้วฆ่ามันด้วยเวทย์ธาตุค่ะ โอกาสดรอปราวๆ 10% และต้องเป็นศัตรูที่เจอข้างนอก หรือ ในภารกิจ ไม่ใช่ Arena หรือ พวกโผล่ไม่จบไม่สิ้น)
Monster Pursuit III Central Command Commandant Protector Ring x1 ฆ่า Imperial Troopr ให้เขา 15 ตัว
 
(ไปฆ่าที่ไหนก็ได้ที่เราครองค่ะ วิ่งๆหา หรือ ไปทำมิชชั่นย้อนก็ได้ นับเหมือนกัน)
SPP Scavenger III Lounge Administration Official Auric Ring x1 เอาแต้ม SPP ให้เขา 500 แต้ม
Senative Supplier III Main Gate Commissar Megalixir x5
เอา Elixir ให้เขา 10 อัน
 
(อันนี้บางคนอาจจะไม่มี แต่วิธีหาไม่ยากค่ะ คือ เล่นมิชชั่นย้อน แล้วทำ S.O. ประเภทได้ไอเทมที่เราเคยทำสำเร็จไปแล้วซ้ำ จะได้ 1 อัน ต่อ 1 S.O. ค่ะ)
Secret Agent Agito III Crystarium Class Ninth Cadet Ballistics Shield x1
จับ Imperial Soldier 3 ตัวให้เขา

(ไปจับที่พื้นที่ Iscah นะคะ ฆ่า Leader เหมือนเดิม)
Mad About Ms. Tokimiya II
Ready Room Enra Crystal Shard ใช้ Rem คุยกับ Enra โดยมี Potion อยู่ในช่องเก็บของอย่างน้อย 1 อัน
The People's Hero
Iscah Mayor Aoba Sentinel Emblem
ไปฆ่า Imperial Commander ให้ Aoba 2 ตัว
 
(หาได้ทั่วไปในพื้นที่ Iscah)

 

Free Time Event ในครั้งนี้

 
สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Classroom Zero  Moglin เวทย์ Esuna วิชา DFMG-102: Elementary Defense Magic II
Classroom Zero  Moglin เวทย์ Fire BOM
วิชา FRMG-101: Elementary Fire Magic I
Classroom Zero  Moglin เวทย์ Blizzard RF
วิชา ICMG-101: Elementary Ice Magic I
Classroom Zero  Moglin เวทย์ Thunder BOM
วิชา LTMG-101: Elementary Lightning Magic I
Back Garden ม้านั่ง Elixir x1 * ต้องใช้ Ace สำรวจ
Back Garden Nine Mega-Potion x1  
Central Command Queen X-Potion x1  
Sorcery Quon Ether x1  
Armory Cinque X-Potion x1  
Ready Room Jack Mega-Potion x1  
Ready Room
Carla X-Ether x1  
Lounge Class Seventh Moogle Ether x1  
Terrace Machina หรือ Rem Hi-Potion x1 * ต้องใช้ Machina หรือ Rem คุยกับอีกคน และต้องมีจำนวนชั่วโมงของวันนั้นเหลือเกิน 6 ด้วย
Fountain Courtyard Nadeshiko Ether x1  
Airship Landing Kiyo Elixir x1  
Main Gate Asato Hi-Potion x1  

 

 Expert Trial ที่ทำได้

ชื่อ Trial สถานที่ เลเวล จำนวนคนที่เข้าได้
เงื่อนไข
(ถ้ามี)
The Keziah Diversion
Keziah 35 4 -
United Front
Mi-Go 36 14 -
Expelling the Empire พื้นที่ Iscah 36 14 -
The Clash in the Caverns Rokol Caverns 37 4 -

 ** เวลาที่เหลือทำเอาไปทำ Event ของ Kazusa หรือ Emina ก็ตามสะดวกค่ะ หรือ จะไปทำ Task นอกเมืองก็ได้

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด ขวาล่างก็จะขึ้น Mission Day แล้วเราจะโดน Moglin ติดต่อมาให้รีบไปรายงานตัวที่ห้องเรียนสำหรับภารกิจต่อไปค่ะ 

พอไปที่ห้องเรียน คุยกับ Kurasame ที่มีไอค่อน Main อยู่บนหัว เราจะได้ภารกิจ Operation MA Demolition มาและจะบอกให้เราไปที่ Rokol เพื่อทำภารกิจ


 

 

วิชา STRY-401

Story Chapter 4

 

(Free Time 12h)

 

เริ่ม Chapter มา ทุกคนจะอยู่ในห้องเดียวกันหมด ในโรงแรมแห่งนึงในเมืองหลวง Imgram ของประเทศ White Tiger Milites รอจนคัทซีนจบ จากนั้นเราจะมีเวลา 12 ชั่วโมงที่จะเดินเล่นในเมืองค่ะ

คุยกับ NPC ทหารตรงประตู เราจะออกไปข้างนอกได้ พอออกมาเราจะเจอ Relic Terminal พร้อม Aria และ Tokito ที่ติดมากับฝ่ายเราด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกเรา ซึ่ง Aria จะขายของเหมือนเดิม ส่วน Tokito จะช่วยจัดการเรื่อง Battle Simulation ให้ (เหมือน Arena แต่ไม่มี Secret Training)

 

เนื่องจากเวลานิดเดียว แต่ Event ท่วม ทำรอบเดียวไม่หมดหรอก... ทำใจเถอะ... เลือกเฉพาะอันที่อยากคุยแล้วเก็บไว้ NG+ เลยค่ะ

Task ในครั้งนี้

Task ทุกอันสามารถทำได้โดยไม่เสียเวลา (แต่ของ Chapter นี้มันโหดเวอร์จน... ตัดใจดองไว้รอบสองเหอะ...)

 

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Flex for Her Majesty
District 0714 Clemente Draconic Gemstone x1 เอาตัวละครเลเวล 99 ที่มี ATK 255 คุยกับ Clemente
 
(เล่นรอบแรกเป็นไปแทบไม่ได้ค่ะ ยกเว้นคุณจะปั๊มเลเวลบ้าเลือดมาก เจ้าของบล็อคขอเสนอให้ดองไว้รอบสองค่ะ)
The Power of Friendship
District 0714 Celestia Akatoki Amethyst x1 ทำ Free Time Event ปลดล็อคตัวละครรองใน Class Zero ครบ 5 ตัว (Naghi, Carla, Quon, Mutsuki, Ryid)
 
(NG+ สถานเดียวค่ะ ไม่ต้องคิดมาก)

 

  Free Time Event ในครั้งนี้

สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
VIP Suite Trey X-Potion x1  
VIP Suite Sice Hi-Potion x1  
VIP Suite Rem Elixir x1  
Hotel Armada Aria Hi-Potion x1  
District 0709 Piett Hi-Potion x1  
District 0709 Imperial Trooper Ether x1  
District 0709 Imperial Trooper Hi-Potion x1  
District 0711 Jack Hi-Potion x1  
District 0711 Cater Hi-Potion x1  
District 0711 Imperial Trooper Ether x1  
District 0714 Imperial Trooper Hi-Potion x1  
District 0714 Eight Mega-Potion x1  

 

หลังจากเผาเวลาจนหมด เราจะต้องกลับไปที่โรงแรม ซึ่งตอนนี้เราขอแนะนำให้คุณเซฟก่อน แล้วค่อยวิ่งไปที่จุดที่เกมสั่งค่ะ โดยปกติ เราจะต้องเจอมิชชั่นต่อไป คือ Escaping the Imperial Capital เลย

 แต่สำหรับคนที่เล่น NG+ แล้ว... ตรงนี้เกมมีทางเลือกให้คุณอีกแล้วค่ะ

  • Rest up at the hotel (ทำภารกิจ Escaping the Imperial Capital ตามปกติ)
  • Explore the outskirts (ทำภารกิจ Code Crimsom: Mission Under Ceasefire)

 

 

วิชา STRY-403

Story Chapter 3

 

(Free Time: 8h + หลังจากนั้น)

 

ช่วงนี้จะเป็น Free Time แบบเนื้อเรื่องบังคับ มีเวลาให้แค่ 8 ชั่วโมงนะคะ

เริ่มเบรคมา เราจะเจอคัทซีนยาวสักหน่อย พอคุมตัวละครได้ เราก็จะมีเวลา 8 ชั่วโมง กะการคุย หรือ เดินเล่น...

เบรคนี้ไม่มี Task แต่จะมี Free Time Event ให้คุยได้ 4 เหตุการณ์เป๊ะๆ ขอแนะนำให้คุยให้หมดในครั้งแรก ส่วน NG+ จะไปเดินเล่นข้างนอกก็ตามสะดวกค่ะ (ใช้เวลา 6 ชั่วโมงถ้าออกไปเหมือนกัน) แต่ถ้าเวลาเหลือ แล้วขี้เกียจจะทำอะไรก็คุยกับ Eight ตรงหน้าบ้านเพื่อข้ามเวลาไปได้เลย

 

Free Time Event ในครั้งนี้

สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Deserted House  Cater Mega-Potion x1
 
Deserted House
 Cinque Turbo Ether x1
 
Deserted House
 Deuce Hi-Potion x1
 
Deserted House
 Queen Hi-Potion x1
 

 

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด นั่งดูคัทซีนอีกครั้ง แต่พอคุมตัวละครได้ก็อย่าเพิ่งวิ่งออกนะคะ วิ่งย้อนกลับไปที่ชานหน้าบ้านที่มี Relic Terminal แล้วเช็คใกล้ๆ แถวๆนั้นก่อน จะมี L'Cie Anshar's Crystal อยู่ เก็บซะ เซฟ แล้วค่อยเดินออกจากบ้านค่ะ

พอออกมาที่ฉากแผนที่ เราจะอยู่ที่ Old Lorica (อดีตประเทศลอริก้า) ซึ่งเป็นรูโบ๋ไปแล้วเพราะโดนระเบิดนิวเคลียร์ยี่ห้อ Ultima (Ultima Bomb) ของทาง Imperial Militesi บึ้มใส่ไปเต็มๆ ซึ่งพอออกมา เกมจะบอกให้เราไปที่ Jubanla เพราะทาง Dominion (ฝ่ายเรา) จะส่งเรือเหาะมารับเราที่นั่น แต่ตอนนี้เราจะลำบากเอาการ เพราะเกมจะบังคับเราให้ใช้โจโกโบะไม่ได้ในช่วงนี้ (เพราะจะเตะตาศัตรูมากเกินไป) เราเลยต้องเดินเท้าไปนะคะ

** คำเตือน พื้นที่แถบนี้มีสภาพอากาศ Heatwave ด้วย นอกจากสภาพอากาศปกติ ซึ่งจะทำ HP เราลดลงเรื่อยๆ ถ้าเราวิ่ง แต่เราสามารถยืนเฉยๆเพื่อให้ HP ฟื้นกลับมาได้

** ตรง Old Lorica นี่จะมี L'Cie Qunmi's Crystal อยู่ด้วย จะตกอยู่แถวๆใกล้ๆขอบหลุม (เดินจากบ้านไปทางตะวันตกนิดๆ ถ้าเก็บตอนนี้ได้ก็ดีค่ะ เพราะกลับมารอบหน้า มีศัตรูเลเวล 99 วิ่งไปวิ่งมาเพียบเลย ฉากนี้

พอเราวิ่งไปถึง Jubanla เราจะเห็นมาร์คเกอร์ว่าเรือเหาะจะมาตรงไหน ก็วิ่งไปทางนั้นแล้วขึ้นเรือเหาะกลับได้เลยค่ะ จบแล้ว ต่อไปขึ้น Chapter 5


 

 

วิชา STRY-501

Story Chapter 5

 

(Free Time: 4D 12h)

 

เราจะกลับมาที่ Akademeia แต่บรรยากาศรอบๆตัวเราไม่ดีเท่าไหร่ เพราะนักเรียนคนอื่นๆจะค่อนข้างเชื่อข่าวลือกันมากว่าเราเป็นต้นเหตุเรื่องก่อนนี้ แต่นั่นคงไม่ใช่ปัญหานัก

ช่วงนี้เราจะเริ่มมีเวลาเยอะขึ้น แน่นอนว่า อะไรที่ต้องทำก็เยอะขึ้นเป็นเงาตามตัวค่ะ

แนะนำสถานที่เก็บเลเวล: Northern Corridor

ตั้งแต่ Free Time รอบนี้เป็นต้นไป เกมจะปลดล็อคถ้ำ Northern Corridor ตรง North Togoreth ให้ ซึ่งเราสามารถไปเก็บเลเวล และ ปั๊มของได้ โดยถ้ำนี้จะสามารถวิ่งลุย ฆ่าศัตรู ทะลุออกอีกทาง แล้วกลับเข้ามา ลุย ฆ่าศัตรู กลับมาอีกฝั่ง แล้วกลับเข้าไปลุยใหม่ได้เรื่อยๆ เป็นสถานที่ปั๊มเลเวลที่สะดวกทีสุดแห่งนึงในเกม และ สามารถเก็บเลเวลได้ยาวๆยัน 50+ เลยค่ะ

** ถ้ำนี้จะมี Megalixir ให้เก็บในหีบตรงห้องซึ่งมี Lavaball 3 ตัวด้วย (โอกาสได้ราวๆ 75%) ซึ่งหีบนี้จะโผล่มาเรื่อยๆทุกครั้งที่เราเข้าออกถ้ำ สามารถปั๊มเก็บไว้ใช้ได้ระหว่างเก็บเลเวลเลย

 

บริหาร Task, Trial และ Free Time Event ดีๆนะคะ (ด้วยความหวังดี ว่า เกมมันต้องเล่นอย่างน้อย 2 รอบถึงจะสมบูรณ์ อย่าเครียดมาก จุดไหนพลาดได้ เราก็จะพยายามมาร์คให้)

 เจ้าของบล็อคจะทำ สีม่วงตัวหนา ไว้เหมือนเดิมนะคะ ว่า อันไหนห้ามพลาด ถ้าไม่อยากเล่นเยอะ

 

Task ในครั้งนี้

 

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Slayer's Spoils IV Armory Guildsman Thunderbolt Armlet x1 หา Fire Shards มาให้เขา 5 อัน
 
(จะได้จากศัตรูประเภทลูกระเบิด ซึ่งหาไม่ยากค่ะ น่าจะมีอยู่แต่แรกแล้ว)
The Phantoma Menace IV Sorcery Sorcery Researcher Crystal Shard x1 หา Cyan Phantoma มาให้เขา 7 อัน
 
(ไม่ยากค่ะ ฆ่าศัตรูไร้ธาตุที่มีเลเวลปานกลางด้วยเวทย์น้ำแข็งก็ดรอปแล้ว ไป Arena เลยก็ได้)
Monster Pursuit IV Central Command Dominion Officer X-Potion x5 ฆ่า Bomb ในพื้นที่ Jubanla ให้เขา 6 ตัว
 
(เราสามารถย้อนไป Jubanla ได้โดนเดินทะลุถ้ำ Northern Corridor ตรงใกล้ๆเมือง Mi-Go ไปค่ะ)
SPP Scavenger IV Lounge Administration Official Megalixir x3 เอาแต้ม SPP ให้เขา 800 แต้ม
Senative Supplier III Main Gate Logistics Officer Mythril Gloves x1
เอา Phoenix Down ให้เขา 1 อัน
 
(ของหายากเลยค่ะ เท่าที่เจอคือได้จากการทำ S.O. และง่ายที่สุดเลยคือ ไปที่ภารกิจ Operation MA Demolition แล้วทำ S.O. แมพแรกสุดค่ะ จะได้ Phoenix Down 1 อัน **แต่ถ้าทำซ้ำจะได้ Elixir แทนละ ได้แค่ครั้งเดียว)
Secret Agent Agito IV Crystarium Naghi Ballistics Shield x1
เอาไอเทมที่พิสูจน์ว่า Rubrum Cactuar มีจริง มาให้นางิ

(ไม่ยากค่ะ เจ้า Cactuar จะวิ่งไปวิ่งมาใน Back Garden / Terrace / Chocobo Ranch / Airship Landing ซึ่งเจ้าของบล็อคแนะนำว่าไปที่ Airship Landing แล้ววิ่งเข้าออกจนกว่าจะเจอค่ะ พอเจอก็รอจนข้อความขึ้นแล้วไปเก็บไอเทมที่ตกอยู่บนพื้นมาได้เลย (ไอเทม Cactuar Blossom) แล้วเอาไปให้นางิก็จบ)
Mad About Ms. Tokimiya III
Fountain Courtyard Enra Gold Bangle
ใช้ Rem คนเดียว ลุย Expert Trial "Covering the Cadets" และต้องได้ S Rank
 
(แนะนำให้ไปเก็บเลเวลก่อนเลยค่ะ เอาให้เลเวลสูงพอแล้วค่อยทำ มันไม่ยาก ถ้าคุณมีไอเทม SPP ระดับสูง และ อัพเกรดเวทย์ไว้เยอะพอ แต่คุณต้องลง Rem คนเดียวเลยโดยไม่มีตัวสำรองคนอื่นใดมาช่วย และ ขอแนะนำให้ปิด SP Support ด้วย เพราะมันจะตายแล้วเราจะอด S ค่ะ)
Mother Says II
Sorcery Dr. Al-Rashia Jeweled Ring x12
ใช้เวทย์ Blizzard BOM ฆ่าศัตรู 30 ตัว
 
(ไปทำใน Arena เลยค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา)

 

Free Time Event ในครั้งนี้

 

สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Classroom Zero  Moglin 40,000 exp
วิชา FGHT-201: Applied Intro to Battle Basics
Classroom Zero  Moglin เวทย์ทุกชนิด +1
วิชา MAGC-201: Applied Intro to Basic Magic
Classroom Zero  Moglin Max HP +50
วิชา HPUP-101: Fundamentals of Health I
Classroom Zero  Moglin Max MP +10
วิชา MPUP-101: Fundamentals of Magic Enhancement I
Back Garden Cinque Mega-Potion x1  
Central Command Cadetmaster Elixir x1 ** ต้องใช้ Machina คุย
Crystarium Quon Ether x1  
Ready Room Carla Hi-Potion x1  
Ready Room Enra Ether x1 **บทพูดเปลี่ยนตามตัวละคร ว่าใช้ตัวละครรหัสไพ่ มาคิน่า หรือ เรม คุย
Ready Room Class Twelfth Moogle Hi-Potion x1  
Lounge Deuce Mega-Potion x1  
Terrace Orderly Mega-Potion x1 ** คุยไว้หน่อยก็ดี เราจะได้คัทซีนเกี่ยวกับ Aria มาด้วย
Airship Landing Ryo Elixir x1  
Airship Landing Ryid Ether x1  

 

 Expert Trial ที่ทำได้

อย่าลืมว่า Expert Trial ทุกอันทำครั้งนึง เสียเวลา 12 ชั่วโมง ขอแนะว่าควรทำตอน NG+ แล้ว

 

ชื่อ Trial สถานที่ เลเวล จำนวนคนที่เข้าได้
เงื่อนไข
(ถ้ามี)
Covering the Cadets
Meroe 38 6 -
A Charge on the Border
พื้นที่ Meroe 38 14 อย่าเพิ่งทำจนกว่าจะ Free Time ครั้งหน้า เพราะมี Task นึงที่ต้องใช้ Expert Trial อันนี้
The Battle on the Beach พื้นที่ Iscah 40 4 -

 

 ** เวลาที่เหลือทำเอาไปทำ Event ของ Kazusa หรือ Emina ก็ตามสะดวกค่ะ หรือ จะไปทำ Task นอกเมืองก็ได้

 

 

แนะนำสถานที่ฟาร์มของ: Bethnel Cavern

ถ้าคุณทำ Expert Trial "Covering the Cadets" ก่อน คุณจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ Meroe ได้ก่อนเวลาเยอะ ซึ่งหลังคุณเข้าสู่พื้นที่ได้ ซึ่งพอเราทำภารกิจเสร็จ เราก็จะเข้าเมือง Meroe ได้ รวมถึง สามารถเข้าถ้ำ Bethnel Cavern ข้างๆได้ด้วย ซึ่งถ้ำนี้ จัดเป็นสถานที่ฟาร์มของที่ดีที่สุดในเกมค่ะ แต่คุณควรมีเลเวลสัก 50+ เพื่อให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับบรรดา Behemoth เจ้าของถ้ำซะก่อน

** ถ้ำนี้จะมีหีบทั้งหมด 10 หีบด้วยกัน ซึ่งจะมี 8 หีบที่รีเซ็ตทุกครั้งที่เราเข้าออกถ้ำ โดยของจะสุ่มแบบนี้ค่ะ

หีบที่ 1 (ห้องที่มีน้ำตกทางตะวันออก): Accessories ที่ +All Magic x1 (สุ่มตั้งแต่ Dominion Helmet ถึง Mage's Miter)

หีบที่ 2-6 (ห้องที่มี King Behemoth 1 ตัว ทางตะวันตก): สุ่มระหว่าง Elixir, Reagan Greens, อาวุธแรกเริ่มของตัวละคร, อาวุธดีสุดอันดับ 5 ของเกม และ ไอเทมป้องกันผลจากสภาพอากาศ

หีบที่ 7 (ห้องที่มี King Behemoth 1 ตัว): สุ่มเหมือน 2-6

หีบที่ 8 (ห้องลึกสุดข้างใน): สุ่มเหมือน 2-6

 

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด ขวาล่างก็จะขึ้น Mission Day แล้วเราจะโดน Moglin ติดต่อมาให้รีบไปรายงานตัวที่ห้องเรียนสำหรับภารกิจต่อไปค่ะ

 พอไปที่ห้องเรียน คุยกับ Kurasame ที่มีไอค่อน Main อยู่บนหัว เราจะได้ภารกิจ The Reclaimation of Eibon มา มาและจะบอกให้เราไปที่พื้นที่ Eibon เพื่อทำภารกิจ


 

 

 

วิชา STRY-503

Story Chapter 5

 

(Free Time: 4D 12h)

 

หลังจบภารกิจก่อน ตัวเราจะยังอยู่ที่พื้นที่ Eibon ตอนนี้เราขอแนะนำว่าให้วิ่งไป Toguagh ค่ะ ในเมืองจะมีคนขายของขวัญของ Emina แล้วก็ Task ย่อย (ฆ่าทหาร Concordia ที่ Innsmouth Coast แต่ควรมีเลเวล 50+ ขึ้นไป และ คุณต้องขี่โจโกโบะลุยน้ำตื้นไป) แล้วก็เควสนอกเรื่องช่วยศิลปินตาสั้นวาดรูปอนุสาวรีย์ที่จะได้ L'Cie Kanna's Crystal ด้วย

หลังจากนี้ คุณจะเถลไถลก่อนกลับโรงเรียนก็ยังได้ (โดยเฉพาะการย้อนไปทำเควสเอา L'Cie Stone ในเมืองก่อนๆ) แต่ก่อนกลับ เรามี Check list ไอเทมที่ใช้ใน Task ให้ เพื่อความสบายใจ และไม่เสียเวลาค่ะ

Beast Flesh x2 (หาได้จาก Behemoth ใน Bethnel Cavern)
Sepia Phantoma x10 (น่าจะมีอยู่แล้ว)
Diamond Ore x1 (** อยู่ในหีบที่ Bethnel Cavern ห้องสุดท้าย)

 

แนะนำสถานที่ฟาร์ม: Innsmouth Coast
(Phantoma, ผัก Sylkis Greens และ ผัก Gyzahl Greens)

ถ้าคุณเลเวลถึง 50 เราขอแนะนำให้คุณทำ Task "Buzzkill on the Beach" ในเมือง Toguagh เลยค่ะ

 

เตรียมโจโกโบะให้พร้อม วิ่งไปที่ Innsmouth โดดขี่โจโกโบะ วิ่งลุยไปตามทางน้ำตื้นแล้วไปที่ก้อนหินตรงสุดทางค่ะ เพราะตรงนั้นแหละคือ Innsmouth Coast

ทางนี้ตื้นแบบที่ใช้โจโกโบะวิ่งลุยได้

Innsmouth Coast

ทหาร Concordia ที่เป็นศัตรูใน Task

หลังคุณฆ่าทหาร Concordia ตามในงานเสร็จ พอคุณกลับเข้าไปใน Innsmouth Coast อีกครั้ง คุณจะเจอเต่า Adamantoise 1 ตัว (ซึ่งฆ่าไม่ยากเลย) ซ้ำเจ้านี่ยังดรอป Phantoma ขั้นสูงด้วย (ถ้าปรับความยากเป็น Agito มันจะดรอปขั้นสูงสุดเลย ไม่ว่าจะ Cinnabar, Cerulean, Golden, Celadon, Indigo หรือ Ivory เหมาะมากถ้าคุณจำเป็นต้องใช้ Phantoma ระดับสูง แต่ไม่สะดวกจะไปลุย Tower of Agito)

Adamantoise นะคะ ไม่ใช่ Adamantortoise... (ตัวหลังนี่โหดกว่าร้อยเท่าค่ะ)

ซึ่งหลังคุณฆ่าเต่าแล้ว คุณจะสามารถวิ่งไปเปิดหีบใกล้ๆได้ด้วย Win-Win (หีบจะสุ่มด้วยว่าจะโผล่ไหม และถ้าโผล่ ก็ลุ้นของกันค่ะ มีของที่เจ๋งอยู่หลายชิ้นอยู่) สรุปภาคนี้ก็ตีเต่ากระจายเหมือนภาคก่อนโน้นสินะ

** หีบของ Innsmouth Coast จะสุ่มไอเทมตามนี้ค่ะ

Elixir, Phoenix Pinion, Guardian Ring, Shock Shield, Sentinel Emblem, Pahsana Greens, Sylkis Greens และ Gyzahl Greens

**** จริงๆผัก Sylkis มีที่ Valley of Monsters อีกแห่งนึง แต่เนื่องจากศัตรูทั้งถ้ำเป็น Marlboro เลเวล 93 แถมหีบก็ใช่ว่าจะสุ่มผักบ่อย เราเลยขอแนะนำให้ฟาร์มผัก Sylkis ที่นี่ เพราะมันฆ่าได้เร็ว แม้หีบอาจไม่โผล่ค่ะ (แถมฟาร์ม Phantoma ระดับสูงได้ด้วย)

 

 

พร้อมแล้วก็กลับโรงเรียนได้เลยค่ะ Free Time รอบนี้ก็เช่นเคย มีทั้ง Task, Event และ Expert Trial ให้เลือกสรร

บริหาร Task, Trial และ Free Time Event ดีๆนะคะ (ด้วยความหวังดี ว่า เกมมันต้องเล่นอย่างน้อย 2 รอบถึงจะสมบูรณ์ อย่าเครียดมาก จุดไหนพลาดได้ เราก็จะพยายามมาร์คให้)

เจ้าของบล็อคจะทำ สีม่วงตัวหนา ไว้เหมือนเดิมนะคะ ว่า อันไหนห้ามพลาด ถ้าไม่อยากเล่นเยอะ

 

Task ในครั้งนี้

Task ทุกอันสามารถทำได้โดยไม่เสียเวลา (ยกเว้นอันที่ต้องออกไปนอกโรงเรียน)

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Slayer's Spoils V Armory Guildsman Gold Bangle x1 หา Beast Flesh มาให้เขา 2 อัน
 
(ถ้าคุณทำ Covering the Cadets ตอน Free Time ก่อนนี้ คุณไปลุย Bethnel Caverns ได้เลยค่ะ แต่ถ้าไม่ได้ทำก็ไปทำได้ ยังไม่สายเกินไป)
The Phantoma Menace V Sorcery Sorcery Researcher Crystal Shard x1 หา Sepia Phantoma มาให้เขา 10 อัน
 
(ไม่ยากค่ะ ฆ่าศัตรูไร้ธาตุที่มีเลเวลปานกลางด้วยเวทย์สายฟ้าก็ดรอปแล้ว ไป Arena เลยก็ได้)
Monster Pursuit V Central Command Dominion Officer Elixir x10 ฆ่า Striker ในป่าของพื้นที่ Eibon ให้เขา 1 ตัว
 
(หายากหน่อยนะคะ อาจต้องวนหากันนาน)
SPP Scavenger V Lounge Administration Official Phoenix Down x5 เอาแต้ม SPP ให้เขา 1000 แต้ม
Senative Supplier V Main Gate Logistics Officer Platinum Gloves x1
เอา Mega-Potion ให้เขา 3 อัน
 
(ถ้าคุณทำเหตุการณ์ของ Kazusa มา คุณมีเหลือเฟือแน่ๆค่ะ ไม่น่าต้องห่วง)
Secret Agent Agito IV Crystarium Class Ninth Cadet Protector Ring x1
ไปพื้นที่ Meroe (ตอน Imperial ยังครองอยู่) แล้วฆ่า Imperial Commander จับลูกน้องมาให้เขา 3 คน
 
(อันนี้ต้องเคยทำ หรือ รับ Expert Trial ที่เกี่ยวกับพื้นที่ Meroe อันไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ A Charge on the Border เพราะทันทีที่คุณเลือกทำ A Charge on the Border พื้นที่ Meroe จะเป็นของฝ่ายเราทันที และ ทำให้ทำงานนี้ไม่ได้ค่ะ)
Commander's Orders II
Terrace Kurasame Shock Shield x1
ทำ Breaksight / Killsight 20 ครั้ง
 
(ไปทำใน Arena เลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา)
An Education in Love II
Fountain Courtyard Tokito Good-Luck Charm x1
เอา Diamond Ore ให้ Tokito
 
(อยู่ใน Bethnel Caverns ชั้นลึกสุดเลยค่ะ... ถ้าไม่ไหวก็ไว้รอบหน้าได้ค่ะ)

 

  Free Time Event ในครั้งนี้

สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Classroom Zero  Moglin Fire Magic +1
วิชา FRMG-102: Elementary Fire Magic II
Classroom Zero  Moglin Ice Magic +1
วิชา ICMG-102: Elementary Ice Magic II
Classroom Zero  Moglin Lightning Magic +1
วิชา LTMG-102: Elementary Lightning Magic II
Classroom Zero  Moglin Defense Magic +2
วิชา DFMG-201: Intermediate Defense Magic I
Back Garden ประตูไป Cemetery Phoenix Pinion x1  
Central Command Class Second Moogle Hi-Potion x1  
Crystarium Hiiragi Ether x1  
Ready Room Orderly X-Potion x1 ** คุยไว้หน่อยก็ดี จะได้คัทซีน "On Second Thought" ที่ดูได้ใน Rubicus
Lounge Carla - ** คาร์ล่าจะขอยืมเงินเรา 10,000 gil
Terrace Kurasame X-Potion x1 ** ต้องมีหลักชั่วโมงเหลือมากกว่า 6h
Fountain Courtyard Yano Hi-Potion x1  
Fountain Courtyard Dominion Legionary Ether x1  
Airship Landing Mutsuki Hi-Potion x1  
Main Gate Caetuna X-Potion x1  

 

 Expert Trial ที่ทำได้

อย่าลืมว่า Expert Trial ทุกอันทำครั้งนึง เสียเวลา 12 ชั่วโมง ขอแนะว่าควรทำตอน NG+ แล้ว

 

ชื่อ Trial สถานที่ เลเวล จำนวนคนที่เข้าได้
เงื่อนไข
(ถ้ามี)
Covering the Cadets
Meroe 38 6 -
A Charge on the Border
พื้นที่ Meroe 38 14 อย่าเพิ่งทำจนกว่าจะ ทำ Task "Secret Agent Agito V" เสร็จ
The Battle on the Beach พื้นที่ Iscah 40 4 -
Colonel Faith's Revolt เมือง Toguagh 41 6 -

 ** เวลาที่เหลือทำเอาไปทำ Event ของ Kazusa หรือ Emina ก็ตามสะดวกค่ะ หรือ จะไปทำ Task นอกเมืองก็ได้

 

 

แนะนำสถานที่ฟาร์มของ: Bethnel Cavern

ถ้าคุณทำ Expert Trial "Covering the Cadets" ก่อน คุณจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ Meroe ได้ก่อนเวลาเยอะ (ถ้ารอปกติ จะต้องรอถึง Chapter 7 และ คุณจะพลาดการทำ Task ใน Chapter นี้ไป) ซึ่งหลังคุณเข้าสู่พื้นที่ได้ ซึ่งพอเราทำภารกิจเสร็จ เราก็จะเข้าเมือง Meroe ได้ รวมถึง สามารถเข้าถ้ำ Bethnel Cavern ข้างๆได้ด้วย ซึ่งถ้ำนี้ จัดเป็นสถานที่ฟาร์มของที่ดีที่สุดในเกมค่ะ แต่คุณควรมีเลเวลสัก 50+ เพื่อให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับบรรดา Behemoth เจ้าของถ้ำซะก่อน

** ถ้ำนี้จะมีหีบทั้งหมด 10 หีบด้วยกัน ซึ่งจะมี 8 หีบที่รีเซ็ตทุกครั้งที่เราเข้าออกถ้ำ นอกจากนี้ แมพนี้ยังเป็นสถานที่ฟาร์ม Elixir, Beast Flesh และ Beast Horn ได้อย่างเหลือเฟือด้วย เหมาะสำหรับทำเงินไป พร้อมกับล่า Phantoma ระดับกลาง ไปด้วย (Elixir อันละ 1000, Beast Flesh อันละ 700, Beast Horn อันละ 1000)

หีบในถ้ำจะสุ่มแบบนี้ค่ะ

หีบที่ 1 (ห้องที่มีน้ำตกทางตะวันออก): Accessories ที่ +All Magic x1 (สุ่มตั้งแต่ Dominion Helmet ถึง Mage's Miter)

หีบที่ 2-6 (ห้องที่มี King Behemoth 1 ตัว ทางตะวันตก): สุ่มระหว่าง Elixir, Reagan Greens, อาวุธแรกเริ่มของตัวละคร, อาวุธดีสุดอันดับ 5 ของเกม และ ไอเทมป้องกันผลจากสภาพอากาศ

หีบที่ 7 (ห้องที่มี King Behemoth 1 ตัว): สุ่มเหมือน 2-6

หีบที่ 8 (ห้องลึกสุดข้างใน): สุ่มเหมือน 2-6

 

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด ขวาล่างก็จะขึ้น Mission Day แล้วเราจะโดน Moglin ติดต่อมาให้รีบไปรายงานตัวที่สำหรับภารกิจต่อไปค่ะ (รอบนี้จะแปลกหน่อย คือ ต้องไป Airship Landing)

 

พอไปที่ Airship Landing เซฟ แล้วคุยให้เรียบร้อย เราจะต้องแบ่งทีม เพราะครั้งนี้เราจะต้องส่งทีมไป 2 แห่ง โดยเราจะต้องส่ง 3 คนไปที่ Big Bridge (จะสลับไปใน Chapter หน้า) และ ทีมหลักไปกับเรือเหาะค่ะ 

** เจ้าของบล็อคขอแนะนำให้ใส่ Rem ลงทีม 3 คน เพื่อโกงค่ะ กรณีที่เราอยากใช้ตัวละครตัวโปรดซ้ำ 

หลังจัดทีมเรียบร้อย เราจะขึ้นเรือเหาะไปภารกิจ The Battle of Judecca ตามเนื้อเรื่องค่ะ 

แต่ถ้าใครเล่น NG+ คุณจะเจอตัวเลือก (อีกแล้ว)

 

  • Take to the skies (ทำภารกิจ The Battle of Judecca ตามปกติ)
  • Travel to the border (ทำภารกิจ Code Crimson "Operation Vulturnus")

 

 

 

วิชา STRY-701

Story Chapter 7

 

(Free Time: 7D 12h)

 

เริ่ม Chapter มา เราก็น่าจะมีหลายๆอย่างที่ต้องคิด เพราะอะไรๆก็ดูขัดแย้งไปหมด แต่ยังไงก็ใกล้จบแล้ว ดราม่าย่อมบังเกิดค่ะ

Free Time ครั้งนี้ ยาวนานที่สุดในเกม แต่ก็มีอะไรให้ทำเยอะด้วยเหมือนกัน เพราะหลายๆอย่างเกิดขึ้นพร้อมๆกัน (โดยเฉพาะเวลาเล่นรอบแรก จะตัดสินใจอะไรยากมากมาย เพราะอะไรๆก็โผล่เยอะเป็นดอกเห็ดเลย)


บริหาร Task, Trial และ Free Time Event ดีๆนะคะ (ด้วยความหวังดี ว่า เกมมันต้องเล่นอย่างน้อย 2 รอบถึงจะสมบูรณ์ อย่าเครียดมาก จุดไหนพลาดได้ เราก็จะพยายามมาร์คให้)

 

เจ้าของบล็อคจะทำ สีม่วงตัวหนา ไว้เหมือนเดิมนะคะ ว่า อันไหนห้ามพลาด ถ้าไม่อยากเล่นเยอะ

 

หมายเหตุ:

บทสรุปเวอร์ชั่นเจ้าของบล็อคจะแนะนำให้ไปเอาเรือเหาะใน Free Time ครั้งหน้านะคะ แต่ถ้าคุณจะเอาก่อนก็เอาได้ ด้วยการทำ Expert Trial "Operation Sticky Fingers" เพื่อปลดล็อค Cetme ต่อด้วย "Operation Homecoming" เพื่อปลดล็อค West Nesher จากนั้นวิ่งลงใต้ไปต่อที่ Veill Desolands (อย่าลืมรับ Task จากเมือง Bazz มาด้วย จะมี Task ฆ่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนอยู่) วิ่งหลบ Behemoth แถวๆนั้นลงใต้สุดเข้าไปที่ดันเจี้ยน Silent Key (ดันเจี้ยนเลเวล 44 และ เข้าได้ครั้งเดียวในเกม) พอเข้าไปก็ วิ่งสำรวจให้ทั่ว เก็บไอเทมในห้องทุกห้องให้หมด รวมถึงสับสวิทช์เดินเครื่องให้ครบด้วย พอไปถึงห้องสุดท้ายจะมี L'Cie Satori's Crystal แล้วพอกดเดินเครื่องจะได้ไอเทม Lost Tome ที่ใช้สำหรับอีก Task นึงมาด้วย

** เหตุที่เข้าได้ครั้งเดียวในเกม เพราะหลังจากขับเรือเหาะออกมาแล้ว ถ้ำจะถล่มค่ะ แล้วจะเข้าไปไม่ได้อีก

 

Task ในครั้งนี้

Task ทุกอันสามารถทำได้โดยไม่เสียเวลา (ยกเว้นอันที่ต้องออกไปนอกโรงเรียน)

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Slayer's Spoils VI Armory Guildsman Diamond Gloves x1 หา Turtle Shell มาให้เขา 10 อัน
 
(ถ้าคุณทำ Task ที่ Toguagh มาก่อนนี้ใน Free Time ครั้งก่อน คุณคงเดาได้เลยว่าต้องไปที่ไหน และถ้าคุณตีเต่ามาเยอะพอ คุณเอาของให้เขาได้เลยค่ะ ไม่ต้องออกไปล่า)
The Phantoma Menace VI Sorcery Sorcery Researcher เวทย์ Thunder MIS หา Mauve Phantoma มาให้เขา 15 อัน
 
(ไม่ยากค่ะ ฆ่าศัตรูไร้ธาตุด้วยเวทย์ธาตุก็ดรอปง่ายอยู่)
Monster Pursuit VI Central Command Dominion Officer Megalixir x3 ฆ่า Ankheg ในพื้นที่ Old Lorica ให้เขา 10 ตัว
 
(หายากหน่อยนะคะ อาจต้องวนหากันนาน)
SPP Scavenger VI Lounge Administration Official Phoenix Pinion x5 เอาแต้ม SPP ให้เขา 1500 แต้ม
Senative Supplier VI Main Gate Logistics Officer X-Potion x10
เอา Mega-Remedy ให้เขา 3 อัน
 
(หายากนิดนะคะ ร้านของห้องเราก็ไม่มีขายตอนนี้ แนะนำว่าเอาแต้ม SPP แลกที่ Central Command เลยค่ะ)
Secret Agent Agito VI Crystarium Naghi X-Potion x1
เอา Knowing Tag ของ Kurasame มาให้นางิ
 
(ไม่ยากเพราะของอยู่ตรงหน้าผาทางตะวันตกของเมือง Meroe แต่ Task โผล่ยากค่ะ... คุณต้องทำเหตุการณ์ส่งไอเทมของ Kazusa ก่อน นางิถึงจะโผล่มาที่ห้องสมุดแล้วเราถึงจะรับ Task แล้วทำได้)
Lost in Translation
Classroom Zero Tonberry Shock Armor x1
ทำ Breaksight / Killsight 30 ครั้ง
 
(ไปทำใน Arena เลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา)
Last Days of Lorica
Armory Ryid Crystal Gloves x1
เอา Lorican Diary มาให้ Ryid
 
(ฟังดูง่ายแต่ยากค่ะ... เพราะคุณต้องวิ่งไป Old Lorica แล้วฝ่ามอนสเตอร์เลเวล 99 ในแผนที่เข้าไปที่ Black Tortoise Crevasse (ดันเจี้ยนเลเวล 72) แล้ววิ่งทะลุถ้ำไปโผล่อีกทาง จากนั้นวิ่งไปเข้าถ้ำ Ultima Ground Zero (ดันเจี้ยนเลเวล 72 เช่นกัน) ที่อยู่ถัดไป แล้วเข้าไปให้ถึงทางแยกที่ 2 ถึงจะเจอเจ้านี่เป็นไอเทมตกอยู่บนพื้นค่ะ)
Hazardous Material
Armory Mutsuki Diamond Ring x1
เอา Dark Matter 1 อัน มาให้ Mutsuki
 
(ทำไม่ยากค่ะ แต่ควรมีเลเวล 50+ เพราะคุณจะต้องทำ Expert Trial "Retreat from Roshana" แล้วตี Marlboro ในพื้นที่นั้น (ตัวที่เดินไปเดินมาในแผนที่ชัดๆนั่นล่ะค่ะ) เพื่อเอาไอเทมค่ะ ดรอป 100% เมื่อคุณเก็บ Phantoma มัน)
An Innocent Favor
Sorcery Quon Dominion Helmet x1
เอา Jeweled Ring x1 ให้ Quon
 
(เป็นไอเทมจาก Dr. Al-Rashia ที่จะได้จาก Task ก่อนนี้... หวังว่าคุณคงยังไม่เผลอขายมันหมดนะคะ...)

 

  Free Time Event ในครั้งนี้

 

สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Classroom Zero  Moglin 100,000 exp
วิชา FGHT-301: Advanced Battle Basics
Classroom Zero  Moglin เวทย์ทุกชนิด  +1
วิชา MAGC-301: Topics in Basic Magic
Classroom Zero  Moglin Max HP +50
วิชา HPUP-102: Fundamentals of Health II
Classroom Zero  Moglin Max MP +20
วิชา MPUP-102: Fundamentals of Magic Enhancement II
Classroom Zero Trey หรือ Rem Phoenix Pinion x1  
Back Garden ประตูไป Cemetery Phoenix Pinion x1  
Hallway Naghi AP 10 แต้ม ** ต้องทำเหตุการณ์ของนางิมาครบทั้งหมดก่อนนี้ ส่วน AP ไม่แน่ใจว่าจะได้เฉพาะตัวละครที่ใช้คุยหรือไม่
Back Garden Machina Mega-Potion x1  
Altocrystarium Queen Mega-Potion x1  
Central Command Seven เวทย์สาย BOM พลังเพิ่ม 10 เลเวล ** ต้องทำเหตุการณ์ของ Mutsuki ทั้งหมดมาก่อนนี้ รวมถึง Task ของ Mutsuki ใน Free Time ครั้งนี้ด้วย
Central Command Shijima Elixir x1  
Crystarium Class Ninth Moogle X-Potion x1  
Armory Ryid Atk +3 ** ต้องทำเหตุการณ์ของ Ryid ทั้งหมดก่อนนี้ รวมถึง Task ของ Ryid ด้วย
Kazusa's Lab Kazusa X-Potion x1
** คัทซีนที่ 1 หลังจากคุยแล้ว เราจะต้องไปเอาของจากนางิแล้วกลับมาให้ Kazusa
 
(ใน Rubicus จะเขียนว่า Crestfallen Kazusa)
Kazusa's Lab Kazusa (ลืมจด... ขอโทษค่ะ orz)
** คัทซีนที่ 2 จะได้หลังจากไปเอาของจากนางิมาส่งให้
 
(ใน Rubicus จะเขียนอันนี้ว่า Delivery for Kazusa)
Kazusa's Lab Kazusa (ลืมจด... ขอโทษค่ะ orz)
** คัทซีนที่ 3 จะได้หลังจากไปเอา Tag ของ Kurasame ให้นางิ แล้วกลับมาคุย
 
(ใน Rubicus จะเขียนอันนี้ว่า Kazusa Experiments Again)
Kazusa's Lab Kazusa (ลืมจด... ขอโทษค่ะ orz) ** คัทซีนที่ 4 จะได้หลังจากเอาตัวละครอื่นๆคุยกับ Kazusa จนได้ Kazusa's Mutterings ครบแล้ว
Lounge Carla - ** คาร์ล่าจะขอยืมเงินเรา 100,000 gil
Terrace Tokito X-Potion x1 ** ต้องมีหลักชั่วโมงเหลือมากกว่า 6h
Terrace Emina (ลืมจด ขอโทษค่ะ orz)
** ต้องมีหลักชั่วโมงเหลือน้อยกว่า 6h และ ทำเหตุการณ์ของ Emina จนเห็นตราข้างหลังแล้ว (เลือกถามเรื่องตรา แล้วตอบตัวเลขว่า 9716)
 
(ใน Rubicus จะขึ้นว่า The Real Emina)
Terrace Emina (ลืมจด ขอโทษค่ะ orz)
** ต้องมีหลักชั่วโมงเหลือน้อยกว่า 6h และ คุยกับ NPC ที่ Sorcery แล้ว
 
(ใน Rubicus จะขึ้นว่า Emina's Future)
Airship Landing Izumo Elixir x1  
Main Gate Yamato Elixir x1  

 

 Expert Trial ที่ทำได้

อย่าลืมว่า Expert Trial ทุกอันทำครั้งนึง เสียเวลา 12 ชั่วโมง ขอแนะว่าควรทำตอน NG+ แล้ว ยกเว้น Operation Homecoming ที่หัวเด็ดตีนขาด คุณก็ควรทำในการเล่นรอบแรกค่ะ (เพราะคุณจะได้ไปเอาเรือเหาะมาใช้ด้วย)

** Expert Trial ของ Chapter นี้ จะมี NPC 2 ตัวนะคะ ตัวทางซ้ายตัวเดิมจะเป็นของฝั่ง Imperial Militesi ส่วนตัวทางขวาจะเป็นของ Kingdom of Concordia ค่ะ

 

Expert Trial ฝั่ง Imperial Militesi

ชื่อ Trial สถานที่ เลเวล จำนวนคนที่เข้าได้
เงื่อนไข
(ถ้ามี)
Operation Sticky Fingers
เมือง Cetme 46 4 -
Secret Agents Zero
Mt. Climov
พื้นที่ Cetme
46 14 -
Operation Homecoming
เมือง Bazz
พื้นที่ West Nesher
37 4 -
Protecting the Defector
Mt. Acrid
พื้นที่ West Nesher
49 4 -
The Climactic Clash at Azurr พื้นที่ Azurr 48 14 -
Colonel Faith's Last Stand
ฐานทัพ Gewehr
พื้นที่ East Nesher
49 14 อย่าเพิ่งทำจนกว่าจะถึง Free Time ครั้งหน้า เพราะมี Task นึงต้องทำพร้อมอันนี้

 

 

** เวลาที่เหลือทำเอาไปทำ Event ของ Kazusa หรือ Emina ก็ตามสะดวกค่ะ หรือ จะไปทำ Task นอกเมืองก็ได้

 

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด ขวาล่างก็จะขึ้น Mission Day แล้วเราจะโดน Moglin ติดต่อมาให้รีบไปรายงานตัวที่สำหรับภารกิจต่อไปค่ะ ที่ Classroom Zero

 

คุยกับ Moglin เราจะได้ภารกิจ The Kingdom's Final Hours มาทำ และเนื่องจากมันเป็น RTS เราจะเลือกเข้า หรือ ไม่เข้าก็ได้ (แต่ขอแนะนำให้เข้า อย่างน้อยคือ เพื่อเอามิชชั่นไปเล่นทีหลังในมิชชั่นโหมด)


เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเดินทางไปทิศตะวันออกได้เลยค่ะ รอบนี้เราจะต้องไปที่พื้นที่ Rilochy ซึ่งเป็นทางไปสู่เมืองหลวงของประเทศ Concordia


 

 

 

วิชา STRY-703

Story Chapter 7

 

(Free Time: 5D 12h)

เริ่ม Chapter มา เราก็จะยังอยู่ที่ Rilochy (ออกมาจากการบุกเมืองหลวงหมาดๆ) ตอนนี้จะไปเตร็ดเตร่ทำอะไรก่อนกลับ Akademeia ก็ตามสะดวกค่ะ แต่อย่าลืมหาของพวกนี้ไว้หน่อย เพื่อประหยัดเวลา

Ivory Phantoma x1
Megalixir x5

บริหาร Task, Trial และ Free Time Event ดีๆนะคะ (ด้วยความหวังดี ว่า เกมมันต้องเล่นอย่างน้อย 2 รอบถึงจะสมบูรณ์ อย่าเครียดมาก จุดไหนพลาดได้ เราก็จะพยายามมาร์คให้)

เจ้าของบล็อคจะทำ สีม่วงตัวหนา ไว้เหมือนเดิมนะคะ ว่า อันไหนห้ามพลาด ถ้าไม่อยากเล่นเยอะ

 

หมายเหตุ:

ใน Chapter นี้ เมือง Cetme จะปลดล็อคให้เราเรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณอยากได้เรือเหาะ ให้ไปรับ Expert Trial "Operation Homecoming" เพื่อปลดล็อค West Nesher จากนั้นวิ่งลงใต้ไปต่อที่ Veill Desolands (อย่าลืมรับ Task จากเมือง Bazz มาด้วย จะมี Task ฆ่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนอยู่) วิ่งหลบ Behemoth แถวๆนั้นลงใต้สุดเข้าไปที่ดันเจี้ยน Silent Key (ดันเจี้ยนเลเวล 44 และ เข้าได้ครั้งเดียวในเกม) พอเข้าไปก็ วิ่งสำรวจให้ทั่ว เก็บไอเทมในห้องทุกห้องให้หมด รวมถึงสับสวิทช์เดินเครื่องให้ครบด้วย พอไปถึงห้องสุดท้ายจะมี L'Cie Satori's Crystal แล้วพอกดเดินเครื่องจะได้ไอเทม Lost Tome ที่ใช้สำหรับอีก Task นึงมาด้วย

** เหตุที่เข้าได้ครั้งเดียวในเกม เพราะหลังจากขับเรือเหาะออกมาแล้ว ถ้ำจะถล่มค่ะ แล้วจะเข้าไปไม่ได้อีก

 

Task ในครั้งนี้

Task ทุกอันสามารถทำได้โดยไม่เสียเวลา (ยกเว้นอันที่ต้องออกไปนอกโรงเรียน)

 

ชื่อ Task สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ งานที่ต้องทำ
Slayer's Spoils VII Armory Armory Guildmaster Soul of Thamasa x1 เอา Darksoul Swarm มาให้เขา 1 อัน 
 
(มีอันเดียวในเกม และ อยู่ใน Tower of Agito ชั้นรองสุดท้ายค่ะ... ถ้าคุณเล่นรอบแรก จะจงใจไม่ทำก็ได้ แต่ถ้าคุณห่ามเหมือนเราก็เอาเลย!!)
The Phantoma Menace VII Sorcery Sorcery Researcher Crystal Shard x1 หา Ivory Phantoma มาให้เขา 1 อัน
 
(เล่นมาทั้งเกมน่าจะมีค่ะ ยกเว้นคุณจะเผลอใช้เพลิน อัพเวทย์จนเกลี้ยง วิธีล่า เปิด เอนทรี่ Phantoma เลยค่ะ)
Monster Pursuit VII Central Command Commandant Diamond Bangle x1 ฆ่า Sandworm ในพื้นที่ Berith Desert ให้เขา 6 ตัว
 
(ไม่ยากเกินไป ศัตรูเลเวล 50 หน่อยๆ แต่คุณต้องมีเรือเหาะก่อนนะคะ ถึงจะไปได้)
SPP Scavenger VII Lounge Cadetmaster Crystal Ball x1 เอาแต้ม SPP ให้เขา 2000 แต้ม
Sanative Supplier VII Main Gate Logistics Officer Stalwart Ring x1
เอา Megalixir ให้เขา 5 อัน
 
(หาไม่ยากค่ะ ไปฟาร์มที่ Northern Corridor เลย)
Secret Agent Agito VII Crystarium Class Ninth Cadet Ballistic Shield x1
ไปจับ Imperial Trooper 10 คนมาให้เขา
 
(วุ่นวายค่ะ... คุณต้องทำพร้อมกับ Expert Trial "Colonel Faith's Last Stand" เท่านั้น และ ต้องทำก่อนที่จะวิ่งเข้าฐาน Gewehr ด้วย เพราะถ้าคุณไปที่ East Nesher แล้วรีบวิ่งไปทำมิชชั่นก่อน คุณจะทำ Task นี้ไม่ได้ทันที เพราะพอจบมิชชั่น ออกจากฐานมา ก็จะไม่มีตัวหัวหน้าให้ฆ่าเพื่อเอาลูกน้องแล้ว)
The Chancellor's Challenge
Central Command Chancellor Chival VI Formal Attire
คุยกับ Chancellor แล้วไปอัพ SP Rank ให้ถึงระดับ Commander หรือ มากกว่านั้น
 
(ใครใช้ทริคปั๊ม SPP ก็ไม่ต้องกลัวข้อนี้แล้วค่ะ)
Probing into the Past II
Crystarium Provost Gold Anklet x1
เอาไอเทม Lost Tome ให้เขา
 
(ไปเอาเรือเหาะเลยค่ะ มันจะอยู่ในนั้นแหละ อย่าลืมหยิบก่อนที่จะกดสำรวจเพื่อขับเรือเหาะออกมาก็พอ!!)

 

 Free Time Event ในครั้งนี้

สถานที่ ตัวละครที่ต้องคุย ของที่ได้ หมายเหตุ
Classroom Zero  Moglin Defense Magic +2
วิชา DFMG-202: Intermediate Defense Magic II
Classroom Zero  Moglin Fire Magic +2
วิชา FRMG-201: Intermediate Fire Magic I
Classroom Zero  Moglin Ice Magic +2
วิชา ICMG-201: Intermediate Ice Magic I
Classroom Zero  Moglin Lightning Magic +2
วิชา LTMG-201: Intermediate Lightning Magic I
Classroom Zero Tonberry Ether x1  
Classroom Zero Deuce X-Potion x1  
Back Garden Ace Mega-Potion x1  
Back Garden ประตูไป Cemetery Megalixir x1  
Hallway Quon พลังเวทย์ทุกแบบ +5  
Altocrystarium Queen Mega-Potion x1  
Armory Class Eleventh Moogle Mega-Ether x1  
Ready Room Carla 220,000 gil (คืนเงินแล้วค่าาา)
Ready Room Carla Sublimation Ring x1  
Lounge Seven Mega-Potion x1  
Airship Landing Hiruhata Mega-Ether  x1  

 

 Expert Trial ที่ทำได้

อย่าลืมว่า Expert Trial ทุกอันทำครั้งนึง เสียเวลา 12 ชั่วโมง ขอแนะว่าควรทำตอน NG+ แล้ว ยกเว้น Operation Homecoming ที่หัวเด็ดตีนขาด คุณก็ควรทำในการเล่นรอบแรกค่ะ (เพราะคุณจะได้ไปเอาเรือเหาะมาใช้ด้วย)

 

** Expert Trial ของ Chapter นี้ จะมี NPC 2 ตัวนะคะ ตัวทางซ้ายตัวเดิมจะเป็นของฝั่ง Imperial Militesi ส่วนตัวทางขวาจะเป็นของ Kingdom of Concordia ค่ะ

 

Expert Trial ฝั่ง Imperial Militesi

ชื่อ Trial สถานที่ เลเวล จำนวนคนที่เข้าได้
เงื่อนไข
(ถ้ามี)
Operation Sticky Fingers
เมือง Cetme 46 4 -
Secret Agents Zero
Mt. Climov
พื้นที่ Cetme
46 14 -
Operation Homecoming
เมือง Bazz
พื้นที่ West Nesher
37 4 -
Protecting the Defector
Mt. Acrid
พื้นที่ West Nesher
49 4 -
The Climactic Clash at Azurr พื้นที่ Azurr 48 14 -
Colonel Faith's Last Stand
ฐานทัพ Gewehr
พื้นที่ East Nesher
49 14 -

 

Expert Trial ฝั่ง Kingdom of Concordia

ชื่อ Trial สถานที่ เลเวล จำนวนคนที่เข้าได้
เงื่อนไข
(ถ้ามี)
The Retreat from Roshana
เมือง Roshana 45 14 -
Operation Dragon Slayer
พื้นที่ Roshana
45 14 -
Twarting the Royal Ambush ทางเหนือของเมือง Mi-Go 46 6 -
Wywerns in the Woods ป่าของพื้นที่ Roshana 47 6 -
The Armiter Resistance เมือง Armiter 51 6 -
Dominating the Dragon's Nest
Dragon's Nest 51 14 -

 

* เวลาที่เหลือทำเอาไปทำ Event ของ Kazusa หรือ Emina ก็ตามสะดวกค่ะ หรือ จะไปทำ Task นอกเมืองก็ได้

หลังจากเผาเวลาว่างจนหมด ขวาล่างก็จะขึ้น Mission Day แล้วเราจะโดน Moglin ติดต่อมาให้รีบไปรายงานตัวที่สำหรับภารกิจต่อไปค่ะ

 

เกมจะให้เราไปคุยกุบ Chalcellor Chival ที่ Central Command ก่อน แล้วจะต้องไปคุยกับ Moglin ที่ Classroom Zero ครั้งนี้เป็นภารกิจสงครามครั้งสุดท้ายค่ะ จากนั้นวิ่งไป Airship Landing ได้เลย


เตรียมตัวให้พร้อม ใครเล่นรอบแรก คุณจะเจอภารกิจ "Capturing the Imperial Capital" แน่นอนที่สุด แต่ใครเล่น NG+ แล้ว คุณจะเจอทางเลือกอีกแล้วค่ะ

  • Deliver Qator his reprisal (ทำภารกิจ Capturing the Imperial Capital ตามปกติ)
  • Check in with Machina (ทำภารกิจ Code Crimson: Machina's Struggle)

 

 

 

วิชา EBOS-666

ว่าด้วยการสู้กับ Nox Suzaku

 

(NG+ เท่านั้น)

 

Nox Suzaku หรือ Suzaku no Yami (朱雀の闇) ในภาคญี่ปุ่น เป็นบอสพิเศษที่จะปรากฎตัวหลังจากขึ้นการเล่นรอบ 2 ขึ้นไป โดยจะต้องเล่นผ่านภารกิจ Code Crimson "The Last Line of Defense" แล้วค่ะ

ซูซาคุมืด (จริงๆคือ ความมืดของซูซาคุ) จะสุ่มปรากฎตัวในระหว่างทำมิชชั่น หรือ กำลังต่อสู้และเก็บ Phantoma อยู่ โดยทันทีที่มันปรากฎตัว Moglin จะบอก (ทางซ้ายบนจอ) ทันที ว่า Nox Suzaku โผล่ และ เราจะโดนมันแย่งเก็บ Phantoma ทันทีค่ะ ฆ่าเท่าไหร่ พอจะเก็บ มันลอยหายขึ้นฟ้าหมดเลย...

 

 ถ้าเปิดจอเมนูดู จะมีข้อความบอกเรื่องผลของซูซาคุมืดที่ทางซ้ายด้วย

 

          Nox Suzaku เป็นบอสเลเวล 200 ซึ่งไม่ได้สู้ง่ายแน่นอน แต่เนื่องจากมันจะโผล่ใน NG+ เท่านั้น ถ้าคุณบ้าบิ่นแบบเจ้าของบล็อค คุณคงมีตัวละครเลเวล 99 จากการลุย Tower of Agito จากรอบแรกมาแล้ว ซึ่งมาสู้อันนี้ก็ไม่ได้ยากอะไรมากค่ะ

 

 

 การเตรียมสู้ Nox Suzaku

           ใช้อะไรน้อยกว่าตอนลุย Tower of Agito เยอะค่ะ...

  • ตัวละครเลเวล 99 ตัวไหนก็ได้
  • เวทย์ Avoid และ เวทย์สาย RF
  • ไอเทม Reraise (เยอะหน่อยก็ดี)

 

           พร้อมแล้วก็ ขึ้นเรือเหาะได้เลย Moglin จะบอกว่าจับสัญญาณ Nox Suzaku ได้ และพอบินไปใกล้มากพอ จะบอกให้เราขับยานชนมันเลย แล้วจัดการมันซะ (ดังรูป)

 

 มืดมากไปไหม... มืดมัวยกฉากเลย

 

           พอชนแล้ว เกมจะขึ้นจอเป็นมิชชั่นพิเศษ "Vanquishing the Nox Suzaku"

 

 

           จากนั้นจะเข้าสู่การจัดตัวละครตามปกติ ครั้งนี้เจ้าของบล็อคลงตัวละครสองตัว คือ ดิวซ์ เป็นตัวหลัก และ เอซ (เจ้าเก่า) กันพลาดตายก่อนกด Reraise

 

 

           พอเข้ามา จะพบว่าสภาพพื้นที่เป็นมิติมืดๆ บิดๆ เบี้ยวๆ ซึ่งศัตรูในนี้จะเป็นตัวโปร่งใส และ ฆ่าไปก็ไม่ได้ Phantoma (แต่ต้องฆ่าอยู่ดี)

 

 

           ว่ากันตามตรง... เราโดน Nox Suzaku กินเข้ามาค่ะ... ในนี้จะมี 3 ห้อง โดยถ้าเรามันมือเกินไป ฆ่าหมด 3 ห้อง จะกลายเป็นว่าเราทำภารกิจ fail เพราะ Nox Suzaku จะหายไปเฉยๆ และเราไม่ได้จัดการมัน... (จะได้ Megalixir x1 แทน และ จะไม่มีจอจบภารกิจ)

 

          การปราบ Nox Suzaku ขั้นแรกเลยคือ "ต้องยอมตาย" ค่ะ ซึ่งวิธีตายของเจ้าของบล็อคก็ไม่ยาก กดรับ S.O. ที่ให้เวลาสั้นๆหน่อยซะ

 

          รอจนหมดเวลา S.O. หรือ จงใจให้ตัวเราโดนศัตรูในนั้นตบตายก็ตามแต่ (แต่ใส่เวทย์ Avoid ไว้ คงยากหน่อย) พอตัวเราตายทันใด Nox Suzaku จะโผล่มารีบกิน Phantoma ที่ออกมาจากตัวเราทันควัน

 

          พอตัวเราลุกขึ้นมาเพราะ Reraise เราจะมีเวลาแว่บนึงในการลงมือยิง Nox Suzaku ด้วยเวทย์ที่เรามีอยู่ (ในที่นี้ เจ้าของบล็อคใช้เวทย์ Fire RF II) ซึ่งยิงโดนครั้งละ 4000-5000 ซึ่ง Nox Suzaku จะอยู่ให้เรายิงแค่แว่บเดียว ซึ่งตรงนี้ให้คุณกด Reraise ใหม่ แล้วลงมือรัวเวทย์ใส่ Nox Suzaku ให้มากที่สุดจนมันหายไปค่ะ

 

 

           ตรงนี้เราก็จะต้องทำซ้ำซากสักหน่อย เพราะเราตายครั้งนึง เราจะมีโอกาสยิงมันได้ 2-4 ครั้ง ขึ้นกับโอกาส และ ความไวในการล็อคเป้าของคุณ ซึ่งสำหรับเจ้าของบล็อค... ยอมตาย 4 รอบเลยค่ะ กว่าจะเอามันลง

 

          หลังจากยิงชุดสุดท้าย เจ้า Nox Suzaku ก็จะตาย (แล้วกลับจุดเซฟ) แล้วเราก็จะจบภารกิจนี้ค่ะ

 

 

          ส่วนทำไมเจ้าของบล็อคถึงบอกว่าเจ้า Nox Suzaku แค่ "กลับจุดเซฟ" นี่ เพราะว่า มันโผล่มาได้อีกค่ะ... เล่นๆไปสักพัก เดี๋ยวมันก็โผล่มาให้ฆ่าอีก... ดื้อด้านดีเนอะ...

 

          ส่วนรางวัลภารกิจ... ไม่มากอะไร แต่ที่น่าสนใจคือ Special Bounty ของ S Rank ที่จะสุ่มได้

  • Soul of Thamasa (เวทย์ทุกชนิด +100) x1
  • Crystal Shard x1
  • Megalixir x1

 

 

          เกรดของเจ้าของบล็อคก็... ตามนี้แหละ

 

 

 

 

          ส่วนอันนี้ของแถม... ยืมแอคเคาท์คนอื่นอัพโหลดนะคะ

 







CREDIT:

แนวทางการเล่น
WALKTHROUGH/GUIDES

ตัวละคร
Character

ข้อมูลเบื้องต้น
Basic information

ข้อมูลที่น่าสนใจ
ARRTICLE INTERESTING

ความลับ, โกงเกม
Secrets, Cheat Game

เว็บไซต์:ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
RELATED WEBSITES

ดาวน์โหลดเกม
GAME DOWNLOAD