The DioField Chronicle : บทที่ 1-5 ใกล้ชิดการสืบตำแหน่ง
ศาสนจักรของเกาะดิโอฟิลด์เป็นศาสนจักรเอกเทศที่ไม่ขึ้นตรงต่อแผ่นดินใหญ่ ที่นี่ได้เผยแพร่คำสอนในการศรัทธาต่อเทพเจ้าเนย์ธาล เทพโบราณที่แท้จริง และมีความเชื่อว่าชาวเกาะดีโอฟิลด์คือลูกหลานของเทพเจ้า ผู้นำสูงสุดของศาสนจักรในขณะนี้คือ "อาร์คบิชอปโจชัวร์" แห่งโบสถ์กรันเวล ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกสภาสูง มีอิทธิพลทางการเมืองไม่น้อยโดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเรดดิทช์ของวัลตาควิน และตระกูลยอร์เดนของผู้บัญชาการยุลซิม
กลุ่มตัวเอกที่มีผลงานโดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้รับภารกิจให้คุ้มกันอาร์คบิชอปโจชัวร์ในการออกจาริกแสวงบุญ ท่ามกลางความคลางแคลงว่าเหตุใดคนระดับอาร์คบิชอปถึงต้องขอความช่วยเหลือจากกลุ่มทหารรับจ้าง ผู้บัญชาการยุลซิมวิเคราะห์ว่านี่อาจเป็นการทดสอบดยุคเฮลเดทางหนึ่ง
กลุ่มตัวเอกได้รับการนำทางจากริคเคนแบค หญิงสาวท้องถิ่นผู้มีทักษะทางธนู ในภารกิจนี้ทั้งหมดได้ทำความรู้จักกับแคทเธอรีน หนึ่งในอัศวินศักดิ์สิทธิ์ผู้ติดตามของอาร์คบิชอป กลุ่มตัวเอกพาคณะอาร์คบิชอปสังหารกลุ่มโจรตามรายทาง แต่ถูกขัดขวางโดยจ้าวหมาป่ายักษ์เฟนเรีย หลังจากสังหารหม่าป่าเฟนเรียได้ กลุ่มก็ได้รับข่าวด่วนว่า ผู้บัญชาการยุลซิมถูกโจรยิงเสียชีวิตจากภารกิจ ข่าวนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนสู่กองทหารรับจ้างโดยถ้วนทั่ว อันดริอัส เฟเดรท อิสคาเรียน และวัลตาควิน ก้าวออกมาเป็นผู้นำเหล่าทหารรับจ้างเพื่อควบคุมสถานการณ์ และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากดยุคเฮนเด ทั้งสี่จึงสถาปณาชื่อกลุ่มว่า "บลูฟ็อกส์" นามจากจิ้งจอกสีฟ้าในตำนานผู้ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ และภายหลังจากนี้ บลูฟ็อกส์จะกลายมาเป็นผู้สั่นสะเทือนขุมอำนาจทั้งหมดของเกาะดิโอฟิลด์ และเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเกาะไปตลอดกาล
-- จบบทที่ 1 --
บทที่ 1 เส้นทางของชีวิต
บทที่ 2 ทลายปราการ
บทที่ 3 เถ้าธุลีและเกียรติยศ
บทที่ 4 ความลับที่เก็บไว้อย่างใกล้ชิด
บทที่ 5 ดาราร่วงหล่น เมื่อบลูฟ็อกส์กำจัดดยุคเฮนเด อดีตเจ้านายซึ่งแท้จริงแล้วเป็นกบฏ บลูฟ็อกส์ก็กลายเป็นทัพอิสระที่เข้มแข้งขึ้น แต่ก็ไม่วายต้องเข้าไปพัวพันกับศึกชิงบัลลังค์ระหว่างองค์ชายสองกับองค์ชายสาม เฟเดรทที่ทนไม่ไหวจึงประกาศความจริงที่น่าตกตะลึงให้กับชาวบลูฟ็อกส์ทุกคน ความจริงนี้จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเกาะดิโอฟิลด์ไปตลอดกาล
บทที่ 7 จุดจบและจุดเริ่มต้น (บทสุดท้าย) เฟเดรทโกหกคนทั้งโลกจนได้ขึ้นเป็นราชาสมใจ ทว่าอัลเลเทนที่แตกแยกขัดแย้งรบกันเองมาอย่างยาวนาน ประกอบกับราชาคนใหม่ที่เมื่อขึ้นมามีอำนาจก็ดูจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ด้วยสภาพเช่นนี้จะต้านทานจักรวรรดิอันเกรียงไกรและแม่ทัพใหญ่ผู้ไม่เคยรู้จักความพ่ายแพ้งั้นหรือ? เฟเดรทโกหกคนทั้งโลก แต่ไม่ใช่มีแค่เขาที่โกหก คนที่อยู่กับเรามาตลอดตั้งแต่เริ่ม แต่เรากลับไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย... และเมื่อความจริงทั้งหมดถูกเผยออก ชะตากรรมของโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พบกับปัจฉิมบทพงศาวดารแห่งเกาะดิโอฟิลด์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน (จริงๆนานเพราะแปลๆ หยุดๆ) เป็นหนึ่งในฉากจบที่คนรับชมถึงกับต้องสบถออกมา ถ้าไม่ชอบก็เกลียดไปเลย (แต่ผมชอบมากๆ ยกขึ้นหิ้งเลยครับ) ปล. ถ้าใครงงกับฉากจบก็ทักมาครับเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง ตอนผมเล่นครั้งแรกก็ถึงกับเหวอ จนต้องไปอ่าน lore เพิ่มถึงได้เข้าใจแบบกระจ่าง |